รีวิว HUAWEI FreeBuds 4i หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดจากทางหัวเว่ย ที่เปิดราคาเพียง 2,799 บาท แต่ได้ฟีเจอร์เด่นอย่างการตัดเสียงรบกวน ในดีไซน์ที่สวยงาม มีสีสันให้เลือกทั้งหมด 3 สี ส่วนเรื่องเสียงนี่ก็ถือว่าเกินค่าตัวไปไกล และหลาย ๆ ด้านถูกพัฒนาจากเมื่อตอน HUAWEI FreeBuds 3i ไปพอสมควร
สเปค HUAWEI FreeBuds 4i
- ขนาดหูฟังต่อข้าง
- สูง: 37.5 มม.
- กว้าง: 21 มม.
- ลึก: 23.9 มม.
- น้ำหนัก: ประมาณ 5.5 กรัม
- เคสชาร์จ
- สูง: 48.0 มม.
- กว้าง: 61.8 มม.
- ลึก: 27.5 มม.
- น้ำหนัก: ประมาณ 36.5 กรัม
- เซ็นเซอร์ระบบสัมผัสหูฟังทั้งสองข้าง
- ไดร์เวอร์ไดนามิคขนาด 10 มม.
- Bluetooth 5.2, Pop-up pair, Wear detection
- ความจุแบตเตอรี่
- ต่อหูฟังหนึ่งข้าง: 55 mAh
- เคสชาร์จ: 215 mAh
- ระยะเวลาการเล่น
- เล่นเพลงต่อเนื่อง: 10 ชั่วโมง (เมื่อปิดระบบตัดเสียงรบกวน)
- เล่นเพลงต่อเนื่อง: 7.5 ชั่วโมง (เมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน)
- โทรสนทนา: 6.5 ชั่วโมง (เมื่อปิดระบบตัดเสียงรบกวน)
- โทรสนทนา: 5.5 ชั่วโมง (เมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน)
- Lithium-ion polymer แบตเตอรี่
- ระบบตัดเสียงรบกวน และระบบตัดเสียงรบกวนขณะโทรสนทนา
- ราคา 2,799 บาท
สำหรับหูฟังไร้สาย TWS รุ่นนี้ เป็นหูฟังประเภท In-Ear ที่โดยตัวมันเองก็มีคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวนแบบ Passive noise cancellation ด้วยจุกยางซิลิโคนอยู่แล้ว และปกติ หูฟังไร้สายในราคาไม่เกิน 3,000 บาท ส่วนมากก็มักจะไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active noise cancellation แต่ไม่ใช่กับ HUAWEI FreeBuds 4i ที่ให้ฟังก์ชั่นนี้มาด้วย
โดยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active noise cancellation เป็นการใช้คลื่นเสียงหักล้าง เพื่อให้เสียงรบกวนเข้ามาน้อยที่สุด เมื่อรวมกับรูปแบบของหูฟังที่เป็น In-Ear ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เวลาฟังเพลงนอกสถานที่ หรือฟังเพลงระหว่างเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สามารถรับฟังเสียงดนตรีได้อย่างเต็มที่ เสียงลม เสียง Ambient ต่าง ๆ ไม่สามารถลอดเข้ามาได้เลย
อุปกรณ์ในกล่องของ HUAWEI FreeBuds 4i ประกอบไปด้วยหูฟัง, เคสชาร์จ, จุกซิลิโคนไซส์ S/ L, คู่มือ และสายชาร์จแบบ USB Type-A to USB Type-C โดยตัวเคสเป็นสัมผัสแบบมันเงา อาจจะต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดสักหน่อย เช่นเดียวกับตัวหูฟัง ที่เป็นผิวสัมผัสแบบมันเงาเช่นเดียวกัน
การชาร์จไฟหูฟัง จะเป็นการชาร์จไฟผ่านเคสชาร์จด้วยพอร์ต USB Type-C บริเวณด้านล่าง โดยระหว่างชาร์จไฟจะมีไฟ LED ด้านหน้าคอยบอกสถานะการชาร์จไฟ ส่วนปุ่มที่อยู่ด้านข้างขวาของเคสชาร์จ เป็นปุ่มกดสำหรับการเชื่อมต่อครั้งแรก (Function Key)
ในการรีวิว HUAWEI FreeBuds 4i ผมทดสอบร่วมกับ HUAWEI Mate40 Pro 5G ที่เป็นสมาร์ตโฟนแบรนด์เดียวกัน เพราะฉะนั้นในการเชื่อมต่อจะง่ายกว่า สะดวกกว่า เพราะแค่เปิดฝาเคสชาร์จ HUAWEI FreeBuds 4i ใกล้ ๆ กับ HUAWEI Mate40 Pro 5G ก็จะมีหน้าต่าง pop-up เด้งขึ้นมา จากนั้นแค่กด Connect ก็เชื่อมต่อกันเรียบร้อย แต่ถ้าเป็นสมาร์ตโฟนยี่ห้ออื่น รวมถึงการใช้งานร่วมกับ Notebook หรือ iPhone จะต้องเชื่อมต่อแบบเดียวกับหูฟังบลูทูธปกติ คือกดปุ่ม Function แล้วไปเลือกเชื่อมต่อในหน้า Bluetooth นั่นเอง
ส่วนการตั้งค่าต่าง ๆ ของ HUAWEI FreeBuds 4i หากใช้งานสมาร์ตโฟน HUAWEI ที่เป็น EMUI 10 ขึ้นไป จะสามารถตั้งค่าได้ในหัวข้อการเชื่อมต่อ Bluetooth บนโทรศัพท์ได้เลย แต่ถ้าเป็นสมาร์ตโฟนยี่ห้ออื่น จำเป็นจะต้องใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น AI Life และไม่ใช่เวอร์ชั่นที่อยู่บน Play Store จะต้องโหลด AI Life ผ่านทางเว็บไซต์ของทาง HUAWEI เท่านั้น แน่นอนว่าในตอนนี้ ไม่มีเวอร์ชั่นสำหรับ iOS ครับ
ดาวน์โหลด AI Life อัพเดตล่าสุดได้ที่นี่
HUAWEI FreeBuds 4i สามารถตั้งค่าระบบตัดเสียงรบกวนได้ 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย
- Noise cancelling – ตัดเสียงรบกวน ให้ความเงียบมากที่สุด
- Off – ปิดระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation
- Awareness – ปล่อยให้เสียงรอบข้างเข้ามาในหูฟังได้ เหมาะสำหรับใช้เมื่อพูดคุยกับคนอื่น หรือต้องการฟังเสียงภายนอกขณะใส่หูฟัง
ส่วน Shortcuts หรือทางลัดที่ตัวหูฟัง จะเป็นการแตะที่บริเวณก้านหูฟังด้านข้าง แยกอิสระ ซ้าย – ขวา รองรับคำสั่งเพียง 2 รูปแบบ ได้แก่
- แตะค้าง
- แตะสองครั้ง
โดยค่าพื้นฐาน แตะค้างจะเป็นการเปิด – ปิดระบบตัดเสียงรบกวน ส่วนการแตะ 2 ครั้ง จะเป็นการสั่งเล่น – หยุดเพลง แต่สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเพลง, ย้อนกลับเพลงก่อนหน้า และเรียกใช้งาน Assistant
นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds 4i ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Wear detection หรือตรวจจับการสวมใส่อัตโนมัติ หากเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ เมื่อถอดหูฟัง เพลง หรือมีเดียที่กำลังเล่นอยู่ จะหยุดเล่นทันที สามารถเลือกเปิด หรือปิดได้ในการตั้งค่าหูฟัง
รีวิว HUAWEI FreeBuds 4i เสียง และไมโครโฟน
มาถึงส่วนสำคัญที่สุดสำหรับหูฟัง ก็คือเรื่องเสียง โดยคาแรกเตอร์เสียงของ HUAWEI FreeBuds 4i ผมมองว่ามันเป็นหูฟัง TWS ที่ปรับแต่งมาเพื่อเอาใจคนส่วนมาก ที่ชื่นชอบเสียงย่านต่ำ หรือเสียงเบสที่น่าจะถูกใจหลายคนเลยทีเดียว Bass Impact มาไวไปไว แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นมากในส่วนของ Deep Bass เพราะฉะนั้นเพลงที่เหมาะกับหูฟังรุ่นนี้ น่าจะเป็นเพลง Pop หรือเพลงที่มีดนตรีสังเคราะห์ Hip-hop, Trap Trap มากกว่าเพลงแนว Rock ที่มีชิ้นดนตรีเยอะ ๆ
เสียงกลางที่หูฟังรุ่นนี้ให้มานั้น มาใกล้ ๆ กับเสียงเบส รวมถึงตำแหน่งของเสียงที่กระจุกกันค่อนข้างแน่น ด้วยเวทีเสียงค่อนข้างแคบ การแยกชิ้นดนตรีทำได้ในระดับกลาง ๆ ส่วนเสียงแหลม หรือย่านสูงไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่นัก
ไมโครโฟนในการสนทนาโทรศัพท์ รุ่นนี้มีระบบตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ช่วยให้เสียงสนทนาที่คมชัดในระดับหนึ่ง ใช้โทรศัพท์แล้วปลายสายจับใจความรู้เรื่อง แม้จะเป็นการคุยโทรศัพท์ริมถนนก็ตาม แต่ก็มีบ้างที่เสียงลม หรือเสียงเครื่องยนต์แทรกเข้ามาได้ครับ
ส่วนการเล่นเกม ผมมองว่า HUAWEI FreeBuds 4i ใส่เล่นเกมได้ แต่ไม่ใช่เกมที่ต้องการความแม่นยำในการฟังเสียงมาก ๆ อย่างพวกเกม Shooting เพราะเท่าที่ทดสอบ จะมีดีเลย์เล็กน้อย (เล็กน้อยจริง ๆ) แต่ถ้าใครที่ซีเรียสมาก ๆ อาจไม่ค่อยตอบโจทย์สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเกมแนวอื่น หรือใส่รับชมภาพยนตร์ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ถือว่ามีดีเลย์ที่น้อยมากแล้วครับ
สรุปภาพรวม HUAWEI FreeBuds 4i
โดยรวมสำหรับ HUAWEI FreeBuds 4i กับค่าตัว 2,799 บาท ก็ถือว่าให้หลายอย่างมาเกินราคา และเหนือกว่าคู่แข่งหลายเจ้าเหมือนกัน โดยเฉพาะการมีระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation และไมโครโฟนที่ทำงานได้ดี ให้เสียงสนทนาที่คมชัด เรื่องเสียงเพลงก็ถือว่าปรับแต่งมาค่อนข้างดี แนวเสียงเหมาะกับการฟังเพลงทั่วไป โดยเฉพาะเพลง Pop หรือจะใส่รับชมภาพยนตร์ก็เสียงตรงปาก ด้วยระบบเชื่อมต่อที่เป็น Bluetooth 5.2
ข้อสังเกตของ HUAWEI FreeBuds 4i จากที่ได้ลองใช้งานมา ก็จะเป็นเรื่อง Shortcuts ที่มีให้เลือกใช้แค่การแตะค้าง กับแตะสองครั้ง เลยทำให้การควบคุมระหว่างเล่นเพลงมีรูปแบบจำกัดไปสักหน่อย รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ หากไม่ได้ใช้สมาร์ตโฟน HUAWEI จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น AI Life เพิ่มเติม ที่สำคัญคือต้องดาวน์โหลด apk จากเว็บไซต์ของทางหัวเว่ยเอง ไม่สามารถใช้เวอร์ชั่นใน Play Store ได้ เนื่องจากไม่ได้มีการอัพเดตเวอร์ชั่นมาเป็นเวลานานแล้ว