ถ้าจะให้พูดถึงแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ตดีไวซ์ที่ค่อนข้างครบถ้วน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้ดี ชื่อของ HUAWEI น่าจะเป็นหนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกถึง ด้วยดีไวซ์ที่หลากหลายนับตั้งแต่มือถือ แท็บเล็ต สมาร์ตวอทช์ คอมพิวเตอร์ เราเตอร์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ด้านเสียง อาทิ หูฟังไร้สาย ซึ่งจุดเด่นที่ HUAWEI พัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ก็คือเรื่องความสะดวกในการเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ใน ecosystem ของ HUAWEI เอง นอกจากนี้ฝั่งผลิตภัณฑ์เสียงก็ยังมีการจับมือกับแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้วย เช่น Devialet และออกมาเป็นลำโพงกับหูฟังหลาย ๆ รุ่น อย่างหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดในรีวิวนี้นั่นคือ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ที่ออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ ด้วยฟังก์ชันระดับโปรได้อย่างครบถ้วน ในราคาที่น่าจับจองเป็นเจ้าของมาก ๆ
HUAWEI FreeBuds Pro 2 เป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาเป็นรุ่นเรือธง มีจุดเด่นในด้านของคุณภาพเสียงซึ่งได้จากการจับมือร่วมกับ Devialet มาพร้อมกับระบบช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกแบบ Active นอกจากนี้ยังกันน้ำกันฝุ่นได้ และรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำให้สามารถใช้งานได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้งานมือถือ HUAWEI ก็ตาม
สเปค HUAWEI FreeBuds Pro 2
หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อมกับสเปคที่น่าสนใจ อาทิ
- ไดรเวอร์เสียงแบบไดนามิก ที่มีแม่เหล็กขนาด 11 มม. 4 ชุด ให้เสียงในแบบลำโพงคู่ (Dual-Speaker) ครอบคลุมความถี่เสียงในช่วง 14Hz – 48 kHz
- รองรับการเล่นเสียงระดับ Hi-Res และผ่านการรับรอง HWA (Hi-Res Wireless Audio) รองรับ LDAC
- ไมโครโฟน 3 ตัว รองรับการตัดเสียงรบกวนแบบ Active (Active noise cancellation)
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2
- ตัวหูฟัง กันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP52 (ไม่รวมเคส)
- น้ำหนักเฉพาะหูฟัง ข้างละประมาณ 5.9 กรัม เคสหนักประมาณ 52.1 กรัม
- สามารถควบคุมการทำงานได้โดยใช้การสัมผัสที่ก้านหูฟังแต่ละข้าง
- แบตเตอรี่ที่หูฟัง 55 mAh ที่เคสชาร์จ 580 mAh ใช้ฟังเพลงได้นานสุดรวม 30 ชั่วโมง สแตนด์บายนาน 200 วัน
- รองรับการชาร์จแบบใช้สาย USB-C (5W) ใช้เวลาชาร์จเคสจนเต็มประมาณ 60 นาที
- รองรับการชาร์จไร้สาย ใช้เวลาชาร์จเคสจนเต็มประมาณ 120 นาที
- มีให้เลือก 3 สีคือสีฟ้า สีเงิน และสีขาว
- ราคา 6,499 บาท
ถ้าพูดถึงสเปคและราคา HUAWEI FreeBuds Pro 2 ก็ต้องบอกว่าออกมาชนกับ AirPods Pro เต็ม ๆ แต่มาในราคาที่ย่อมเยากว่าหลักพันบาทเลยทีเดียว โดยที่ได้ฟังก์ชันหลักที่คล้ายกัน แต่มีบางจุดที่เสริมเข้ามาทำให้น่าสนใจกว่า เช่น ความสามารถในการปรับแต่งการควบคุมที่หลากหลายกว่า รวมถึงยังรองรับการชาร์จกับมือถือแบบ reverse charging อีกด้วย
ดีไซน์ แกะกล่อง HUAWEI FreeBuds Pro 2
กล่องของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาในรูปแบบของกล่องแข็ง พร้อมกับโลโก้รับรองทั้ง HWA และ Hi-Res Audio รวมถึงยังการันตีด้วยว่าผ่านการพัฒนาโดยการร่วมมือกับ Devialet แบรนด์ลำโพงระดับไฮเอนด์จากฝรั่งเศส เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพเสียงว่าจะยอดเยี่ยมทั้งพลังและรายละเอียด
ด้านหลังก็จะระบุฟีเจอร์เด่นไว้ 6 ข้อ ได้แก่
- คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ด้วยระบบลำโพงคู่
- มีระบบช่วยปรับ equalizer ให้เหมาะสมกับรูปแบบการฟังโดยอัตโนมัติ
- ให้เสียงระหว่างโทรที่คมชัด ทั้งการฟังและการส่งเสียงพูดไปหาปลายสาย
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Dynamic ANC 2.0
- รองรับการเชื่อมต่อได้ 2 ดีไวซ์พร้อมกัน
- กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 (เฉพาะหูฟังเท่านั้น ไม่รวมเคส)
ของที่ให้มาในกล่องก็จะมีตัวหูฟังพร้อมเคสชาร์จ สายชาร์จแบบ USB-C to USB-A 1 เส้น จุกยางสำหรับหูฟัง 2 คู่ แบ่งเป็นขนาดเล็ก (S) และขนาดใหญ่ (L) อย่างละคู่ ส่วนจุกที่ติดตั้งมาพร้อมหูฟังจะเป็นจุกขนาดกลาง
นอกจากนี้ยังมีเอกสารการรับประกัน และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นมาให้อีกนิดหน่อย
ทีนี้มาดูตัวเคสชาร์จของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 กันก่อน ในการรีวิวครั้งนี้ ทางเราได้รับเป็นสีฟ้ามาครับ ซึ่งจะเป็นสีฟ้าโทนอ่อน ๆ ออกคล้ายโทนสีฟ้าเหลือบไข่มุกอยู่นิดนึง วัสดุเป็นพลาสติกมีความแข็งแรง จับแล้วแน่นหนาดี ถ้าเทียบกับ AirPods Pro แล้ว น้ำหนักโดยรวมจะพอ ๆ กัน แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่ากันนิดนึง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์พกสะดวกอยู่
บริเวณบานพับจะเป็นโลหะ มีความแวววาว การเปิด/ปิดดูเฟิร์มดี พร้อมกับมีชื่อของทั้ง HUAWEI และ Devialet อยู่ด้วย
ทางฝั่งขวาของเคส มีปุ่มสำหรับรีเซ็ตการจับคู่ Bluetooth อยู่ สามารถทำได้โดยการกดปุ่มค้างไว้จนไฟแสดงสถานะที่อยู่ด้านในเปลี่ยนเป็นสีขาวกระพริบ จากนั้นก็กดจับคู่จากในมือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้เลย
ส่วนด้านล่างมีช่อง USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ของเคส ข้าง ๆ กันก็มีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จอยู่ด้วย สำหรับการชาร์จแบบไร้สาย ก็สามารถใช้กับแท่นชาร์จ Qi ได้ตามปกติเลย โดยให้หงายด้านที่เป็นข้อพับ (ที่มีชื่อ HUAWEI กับ Devialet) ขึ้นมา
การเปิดฝาก็ทำได้ง่าย แม้ว่าจะไม่มีการบากร่องไว้ก็ตาม เมื่อเปิดขึ้นมาก็จะพบกับไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่ออยู่ ถ้ามีการเชื่อมต่อแล้วก็จะเป็นสีเขียว ส่วนตัวหูฟังก็จะถูกยึดไว้ด้วยแม่เหล็ก ลองคว่ำแล้วเขย่าก็ไม่หลุดลงมา แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถหยิบขึ้นมาได้ไม่ยากนักด้วย ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย
ตัวหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 เอง เลือกใช้การออกแบบในแบบที่มีก้านลงมาด้วย ทำให้ทั้งการสวมใส่และการควบคุมนั้นทำได้ถนัดมือดี ตัวก้านมีการชุบสีฟ้าอ่อนให้มีความแวววาว ดูหรูหรา ส่วนการสวมใส่จะเป็นแบบอินเอียร์ที่ต้องสอดจุกยางหูฟังเข้าไปในช่องหู
ตรงส่วนที่เป็นวงกลมสีดำทั้งจุดเล็กและจุดใหญ่ ภายในจะมีไมค์รับเสียงจากภายนอกอยู่ ซึ่งจะนำไปใช้ในการประมวลผลของระบบช่วยตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างของก้านหูฟังก็จะมีสัญลักษณ์ L กับ R สำหรับระบุข้างของหูฟัง นอกจากนี้ยังมีจุดไมค์รับเสียงสำหรับการสนทนาและช่วยตัดเสียงรบกวนในทั้ง 2 ด้าน และก็มีหน้าสัมผัสสำหรับชาร์จไฟจากเคสชาร์จด้วย
จุกหูฟังสามารถถอดได้ง่าย แต่ก็ไม่ถึงขั้นหลุดง่ายจนเกินไป ตัวเบ้าใช้เป็นแบบวงรีคล้ายกับลู่วิ่งในสนามกีฬา ซึ่งก็น่าจะพอหาจุกหูฟังจากแบรนด์ 3rd party มาใช้เสริมได้ แต่อาจจะหายากซักนิดนึง
เริ่มใช้งาน HUAWEI FreeBuds Pro 2
ถ้าหากคุณใช้งาน HUAWEI FreeBuds Pro 2 ร่วมกับมือถือหรือสมาร์ตดีไวซ์ของ HUAWEI เอง ก็จะสามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้ง่ายมาก เพราะจะมีหน้าต่างป๊อปอัพขึ้นมาให้เลือกเชื่อมต่อได้ทันที เมื่อมีหูฟังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย หลังจากที่จับคู่กันเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ไอคอนของหูฟังเอง จะไปขึ้นบนหน้าจอ Super Device ในสมาร์ตดีไวซ์ของ HUAWEI ด้วย ทำให้สามารถเลือกเชื่อมต่อได้สะดวกมาก ๆ
ส่วนถ้าต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทาง Bluetooth ก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android, iOS ไปจนถึงฝั่งคอมพิวเตอร์พีซี แต่ถ้าจะให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด และปรับแต่งการทำงานได้มากที่สุด ก็แน่นอนว่าต้องใช้คู่กับสมาร์ตดีไวซ์ของ HUAWEI เอง เพราะเท่าที่ผมทดสอบดูกับ HUAWEI P50 รู้สึกว่าเสียงออกมาดีกว่า รายละเอียดครบกว่าเมื่อใช้ร่วมกับ iPhone พอสมควร
ในการปรับแต่งการทำงานของหูฟัง ก็สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ไอคอนรูปเฟือง ที่ต่อท้ายชื่อหูฟังในเมนู Bluetooth ซึ่งก็จะมีตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อเรียกอุปกรณ์ ไปจนถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์เลย โดยในขณะที่ทดสอบนี้ เฟิร์มแวร์ของหูฟังจะเป็น HarmonyOS รุ่น 2.1.0.130
ไล่ตั้งแต่เมนูบนสุด ที่เป็นชื่อเรียกของหูฟังเอง โดยผู้ใช้สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ ถัดมาคือหัวข้อเกี่ยวกับการตั้งค่าคุณภาพเสียงขณะที่ใช้ codec LDAC ซึ่งเป็นรูปแบบการเข้าและถอดรหัสไฟล์เสียงคุณภาพสูงผ่านการสตรีมด้วย Bluetooth ทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพกว่า codec ที่ใช้ร่วมกับหูฟัง Bluetooth ทั่ว ๆ ไป ซึ่งก็พอจะเทียบกันได้กับ aptX ของฝั่ง Qualcomm โดยในส่วนนี้จะสามารถปรับได้ว่า เมื่อตอนที่ใช้ LDAC จะเน้นไปที่คุณภาพเสียง ซึ่งต้องใช้แบนด์วิธรับส่งสัญญาณที่กว้าง ยิ่งมีสิ่งรบกวนน้อยยิ่งดี หรือจะให้มีความสมดุลกันระหว่างคุณภาพเสียง ที่อาจลดลงเล็กน้อย แต่ได้การเชื่อมต่อที่เสถียรกว่า
จากที่ผมลองใช้แบบเน้นคุณภาพเสียง ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป นั่งฟังอยู่กับที่ อันนี้สามารถใช้งานได้แบบสบาย ๆ แต่ถ้าใครต้องไปใช้ระหว่างเดินในห้าง เดินในบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน หรืออยู่ในบริเวณที่น่าจะมีคลื่นรบกวนสูง การเลือกแบบสมดุลน่าจะเหมาะสมกว่า แต่ที่สำคัญเลยคือแหล่งที่มาของเสียง/เพลงครับ ถ้าเป็นเพลง MP3 ในเครื่อง หรือผ่านแอปสตรีมมิ่งที่ไม่ได้ปล่อยไฟล์มาแบบ Hi-Res ก็เลือกตัวเลือกที่สองที่เป็นแบบสมดุลก็ได้ แค่นั้นก็ได้คุณภาพเสียงที่ดีแล้ว
อีกเมนูคือ General Settings ที่เป็นการตั้งค่าทั่วไปของหูฟัง Bluetooth ว่าจะให้เชื่อมต่อเสียงจากการโทร เสียงจากไฟล์มีเดียหรือไม่ เป็นต้น
ต่อมาคืออีกฟีเจอร์สำคัญ นั่นคือตัวเลือกการปรับระดับของระบบตัดเสียงรบกวน ที่ใช้เทคโนโลยี Intelligent Dynamic ANC 2.0 ซึ่งสามารถปรับระดับอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมได้ โดยอาศัยการประมวลผลในตัวหูฟังเอง จากไมค์ถึง 4 ตัวในแต่ละข้าง ประกอบกับอัลกอริธึมที่ทาง HUAWEI ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่นำระบบ Deep Neural Network มาใช้ในการเรียนรู้ เพื่อสร้างฐานข้อมูลเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบข้างมากกว่า 500 สถานการณ์ จึงทำให้ระบบสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนแบบอัตโนมัติ (โหมด Dynamic) ได้อย่างแม่นยำ
ส่วนถ้าต้องการเลือกระดับเอง ก็จะมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ระดับน้อยสุดอย่าง Cozy ที่เหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่เสียงรบกวนไม่มากนัก เช่น ในบ้าน ไล่มาที่ระดับกลางอย่าง General และระดับสูงสุดอย่าง Ultra ที่สามารถใช้งานได้แม้กระทั่งนั่งอยู่ในเครื่องบิน (เฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับมือถือ HUAWEI ที่ใช้ EMUI 12 ขึ้นไป)
หัวข้อ Sound Quality จะเป็นการตั้งค่าระดับคุณภาพเสียง ว่าจะเปิดโหมดคมชัดระดับ HD หรือเปล่า โดยถ้าเปิด Smart HD ไว้ ระบบจะเลือกใช้ codec LDAC เป็นหลัก แต่ถ้าปิดก็จะเป็นการใช้ AAC แทน
Ear tip fit test เป็นหัวข้อสำหรับให้ระบบช่วยตรวจสอบว่าจุกหูฟังที่ใช้อยู่ มีขนาดที่เหมาะสมกับช่องหูหรือไม่ นอกจากนี้จะมีหัวข้อ Find Earphones ที่ใช้ในการค้นหาหูฟังได้ด้วย อีกข้อที่น่าสนใจคือ More settings ที่ภายในจะมีอีกสองระบบให้เปิดและปิดการทำงานได้ นั่นคือ Wear detection ที่เป็นระบบตรวจจับการสวมใส่หูฟัง เช่น จะให้เพลงหยุดเล่นเมื่อถอดหูฟังออก เป็นต้น อีกข้อคือ Dynamic latency ที่เป็นระบบช่วยปรับลดค่าความหน่วง (latency) อัตโนมัติ เมื่อต้องใช้งานในรูปแบบที่เน้นการซิงค์เสียงกับภาพให้ตรงกัน เช่น การเล่นเกม ทำให้เหมือนว่าใช้หูฟังมีสายตามปกติเลย
ย้อนกลับมาที่อีกหนึ่งเมนูการตั้งค่าที่สำคัญ คือรูปแบบการสั่งงานด้วยท่าทาง (gesture) ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุม สั่งงานการเล่นเพลง กดรับสายได้จากตัวหูฟังเลย โดยจะแบ่งเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่
1) การบีบหูฟังแล้วปล่อย (ทำงานเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง)
หลัก ๆ แล้วจะมี 3 แบบย่อยคือ บีบ 1 ครั้ง 2 ครั้งและ 3 ครั้ง โดยจะสามารถตั้งค่าได้ตามภาพซ้ายบนเท่านั้น หรือไม่ก็ปิดการทำงานของแต่ละรูปแบบย่อยไปเลย
2) การบีบหูฟังค้างไว้ (ตั้งค่าแยกแต่ละข้างได้)
จะสามารถเลือกได้ระหว่างบีบเพื่อเรียกระบบผู้ช่วยสำหรับสั่งการด้วยเสียง กับบีบเพื่อปรับการทำงานของระบบช่วยตัดเสียงรบกวน ที่สามารถปรับเวียนกันได้ระหว่าง
- ใช้โหมดช่วยตัดเสียงรบกวน
- ใช้โหมด Awareness ที่เปิดรับเสียงรอบข้างทั้งหมดเข้ามาด้วย
- ปิดการทำงาน
3) ปาดนิ้วที่ก้านหูฟัง (ทำงานเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง)
ใช้การปาดนิ้วขึ้นสำหรับเพิ่ม และปาดนิ้วลงเพื่อลดเสียง
การสวมใส่ และการสั่งงานแบบ gesture
HUAWEI FreeBuds Pro 2 เป็นหูฟังที่ใส่ได้ง่าย ใส่แล้วกระชับช่องหูได้พอดีเมื่อใช้จุกหูฟังที่เหมาะสม ซึ่งสามารถใช้เมนู Ear tip fit test ในการช่วยตรวจสอบได้ สามารถใส่เพื่อใช้งานได้แบบไม่ล้าหูมากนัก
การควบคุมโดยใช้การบีบก้านหูฟังก็สามารถทำได้สะดวก โดยจะใช้เป็นการบีบตรงส่วนสัน ฝั่งที่หันหน้าออกด้านหน้าและหลังของผู้ใช้ ส่วนการปาดนิ้ว จะเป็นการปาดที่ฝั่งด้านหน้า แต่ด้วยหน้าสัมผัสที่แคบนิดนึง ทำให้อาจจะต้องใช้อีกนิ้วช่วยดันด้านหลังของหูฟังด้วยขณะที่ปาดนิ้ว เพื่อให้หูฟังไม่ลื่นหลุดลงมา
คุณภาพเสียง และการตัดเสียงรบกวนของ HUAWEI FreeBuds Pro 2
คุณภาพเสียง
สำหรับการฟังเพลง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเสียงที่ได้จาก HUAWEI FreeBuds Pro 2 เมื่อใช้งานร่วมกับมือถือ HUAWEI จะเป็นเสียงที่มีความเป็นธรรมชาติ คือไม่จัดเกินไป แต่มีพลัง มีความหนักแน่นในตัว สามารถใช้ฟังเพลงนาน ๆ ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด เหมาะกับเพลงหลากหลายแนว ฟังป๊อปสบายหู ร็อคสนุก แจ๊สก็ลื่น หรือจะเป็นแนว drum & bass ก็หนึบพอตัว สเตจจัดว่ากว้างสำหรับหูฟังอินเอียร์ การแยกชิ้นเครื่องดนตรีถือว่าทำได้ค่อนข้างเคลียร์ ไม่นัวติดกันเกินไป
ส่วนการใช้คุยโทรศัพท์ เสียงที่ได้ก็มีความคมชัดดี ทั้งฝั่งปลายทางและฝั่งผู้ใช้เอง
ระบบตัดเสียงรบกวน
ในหัวข้อนี้อาจจะยาวกว่านิดนึงครับ เพราะเป็นระบบที่จัดเป็นไฮไลท์ของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 เลย เนื่องจากมีการผสานการทำงานของหลายเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างลงได้มากสุดถึง 47 เดซิเบล โดยในฝั่งฮาร์ดแวร์ จะใช้ไมค์ถึง 4 ตัวในการรับเสียงรอบตัว แบ่งเป็น 2 ตัวหันออกรับเสียงด้านนอก โดยใช้เทคโนโลยี beamforming ในการตรวจจับและระบุทิศทางเสียง ไมค์ 1 ตัวหันเข้าด้านในเพื่อจับเสียงพูดของผู้ใช้ และไมค์อีกตัวเป็นแบบ Bone conduction ที่ช่วยแยกแยะเสียงผู้พูดออกจากเสียงรอบข้าง โดยอาศัยการสัมผัสการสั่นของกระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณช่องหู
ส่วนด้านซอฟต์แวร์ก็อย่างที่พูดถึงไปแล้วในช่วงต้น คือมีการประมวลผลข้อมูลทั้งจากไมค์เอง ร่วมกับฐานข้อมูลในตัว ทำให้ระบบสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้แม่นยำ
ในการใช้งานจริง ผมลองทั้งตอนนั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะคอมที่บ้าน ร้านกาแฟ เดินริมถนน พบว่าระบบตัดเสียงรบกวนในโหมด Dynamic ที่ปล่อยให้ระบบปรับอัตโนมัติให้นั้นทำงานได้ดี สามารถฟังเพลงได้โดยมีเสียงรบกวนลอดเข้ามาน้อยมาก เว้นแต่ว่าถ้าแหล่งกำเนิดเสียงนั้นอยู่ใกล้หูมากจริง ๆ หรือเป็นตอนที่หยุดเพลง ถึงจะพอได้ยินแบบเบา ๆ อยู่บ้าง อย่างถ้าเป็นการดีดนิ้วระหว่างฟังเพลง ตัวผมเองจะเริ่มได้ยินเสียงแบบชัดเจนที่ระยะห่างจากหูประมาณ 1 ช่วงแขน
อีกจุดที่ผมมองว่าระบบตัดเสียงรบกวนของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ทำได้ดีคือ มันไม่มีเสียงวิ้งช่วยตัดคลื่นความถี่ของเสียงรบกวนเลย ทำให้ใช้งานได้โดยไม่ปวดหูแต่อย่างใด ถ้าให้เทียบความสบายในการใช้งาน ก็บอกได้เลยว่าแทบไม่ต่างจาก AirPods Pro
ส่วนถ้าใช้โหมด Awareness ที่เปิดให้เสียงรอบตัวเข้ามาด้วย ตัวหูฟังก็ปล่อยเสียงเข้ามาในระดับที่กำลังพอดี ๆ โดยที่ยังได้ยินเสียงเพลงชัดอยู่ คุณภาพของเสียงแทบไม่ลดลงจากปกติเท่าไหร่เลยด้วย
สรุปท้ายรีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 2
การจะเลือกหูฟังซักคู่มาใช้งานในยุคนี้ นอกจากเรื่องคุณภาพเสียงแล้ว ความสะดวกในการใช้งานก็นับเป็นปัจจัยสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหูฟังประเภทไร้สายแบบ true wireless ที่มักจะต้องอยู่ติดหูผู้ใช้ไปแทบจะตลอดเวลา ฟังก์ชันอย่างระบบช่วยตัดเสียงรบกวนที่ชาญฉลาด ก็เป็นอีกสิ่งที่หลายคนมักใช้ในการเลือกด้วย ซึ่ง HUAWEI FreeBuds Pro 2 นั้นสามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเรื่องคุณภาพเสียง ที่รองรับเสียงคุณภาพสูงระดับ Hi-Res ความสะดวกในการเชื่อมต่อกับมือถือ การชาร์จไฟ ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน รวมถึงระบบตัดเสียงรบกวนที่ทำได้ดี ใช้นาน ๆ แล้วไม่รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด ในราคาเปิดตัวที่ 6,499 บาท
จะมีจุดสังเกตนิดนึงก็คือ ในระหว่างที่ทดสอบ บางครั้งผมก็พบอาการเสียงกระตุก หรือบางทีก็เป็นเรื่องคุณภาพเสียงที่ drop ลงจากปกติ เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่สมาร์ตดีไวซ์ของ HUAWEI เอง อันนี้ก็คงต้องรอการอัปเดตเฟิร์มแวร์หลังจากนี้อีกทีครับ น่าจะแก้ไขได้ เนื่องจากขณะนี้เป็นการทดสอบก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย
สำหรับใครที่สนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 ในช่วงเปิดตัวนี้ก็มีโปรโมชันพิเศษด้วย สำหรับผู้ที่สั่งจองในระหว่างวันที่ 27 ก.ค. 65 – 5 ส.ค. 65 รับฟรี HUAWEI Band 6 (มูลค่า 1,899 บาท) และได้สิทธิ์ใช้บริการ HUAWEI Music Premium ฟรี 3 เดือน (มูลค่า 387 บาท)
สามารถสั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store ที่ร่วมรายการ และผ่านช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store รวมถึงร้านอย่างเป็นทางการของ HUAWEI บน Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop ด้วย