Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Gadgets»รีวิว Fossil Gen 5 LTE สมาร์ทวอทช์แบรนด์หรูสเปคแรง สเปคจัดเต็ม
    Gadgets

    รีวิว Fossil Gen 5 LTE สมาร์ทวอทช์แบรนด์หรูสเปคแรง สเปคจัดเต็ม

    EDDYBy EDDY13 กันยายน 2021
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    Fossil แบรนด์นาฬิกาหรูเข้ามาเล่นตลาดสมาร์ทวอทช์ได้ไม่นานแต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าของเขามาแรงมาก ล่าสุดกับ Fossil Gen 5 LTE ที่ต้องบอกเลยว่านอกจากจะหรูแล้วยังอัดฟีเจอร์มาแบบจัดเต็ม มาดูริวิวกันว่าจะน่าใช้สมราคาหรือไม่

    Fossil Gen 5 LTE
    Fossil Gen 5 LTE

    แม้ว่า Fossil จะส่งผลิตภัณฑ์ในสายสมาร์ทวอทช์ออกมาช้ากว่าแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าสมาร์ทวอทช์ของทาง Fossil นั้นมาแรงแบบจัดเต็มไม่ทิ้งนโยบายของการเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูในระดับราคาที่สัมผัสได้จริงๆ ล่าสุดกับ Fossil Gen 5 LTE นั้นเรียกได้ว่ากระแสในโซนยุโรปมาแรงแบบสุดๆ เพราะนอกเหนือไปจากความหรูที่ทาง Fossil จัดมาให้แบบเน้นๆ แล้วนั้น สเปคของ Fossil Gen 5 LTE ก็อัดมาให้เต็มๆ แบบจุดใจในแบบที่รับรองว่าคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน ในวันนี้เราขอนำเสนอความรู้สึกการใช้งานของคุณ Inge Schwabe กันดูว่าจะเป็นเช่นไรเพราะแว่วๆ มาว่าจะมีเข้ามาให้สั่งจองในไทยเราด้วยเร็วๆ นี้(แต่ท่านใดอยากได้จริงๆ ก็สามารถสั่งตรงจากทาง Fossil มาก่อนได้เลยเช่นเดียวกัน) ว่าแล้วก็ได้ติดตามกันเลย


    • สเปคของ Fossil Gen 5 LTE
    • การใช้งาน Wear OS บน Fossil Gen 5 LTE
    • การติดตามการออกกำลังกายและสุขภาพ
    • ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่

    สเปคของ Fossil Gen 5 LTE

    ProcessorQualcomm Snapdragon Wear 3100 4 x – 1.2 GHz, ARM Cortex-A7
    Memory1024 MB
    Display1.28 inch, 416 x 416 pixel 328 PPI, Full touchscreen, AMOLED, glossy: yes
    Storage8 GB SSD
    ConnectionsAudio Connections: ⊕, NFC, Brightness Sensor, Sensors: accelerometer, gyroscope, barometer, optical heart rate
    Networking802.11 b/g/n (b/g/n = Wi-Fi 4), Bluetooth LE, LTE Band I/1, 3, 7, VIII, 20, LTE, GPS
    Sizeสูง x กว้าง x ลึก : 13 mm x 45 mm x 45 mm
    Battery310 mAh
    Chargingwireless charging, fast charging / Quickcharge
    Operating SystemGoogle WearOS 2
    Additional featuresSpeakers: ⊕, Keyboard: 3 buttons, 1 rotating, Fossil Gen 5 LTE, quick start manual, charging dock, documentation, warranty information, Wear OS, 24 Months Warranty, compatibility: Android 6.0+; SAR head: 1.11 W/kg, SAR body: 1.35 W/kg; water resistance: 3 ATM, waterproof
    Weight54 g

    อย่างที่ได้บอกไว้ในตอนต้นว่า Fossil Gen 5 LTE นั้นนอกเหนือไปจากจะเน้นเรื่องของดีไซน์ที่หรูหราแล้ว ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับสเปคแบบจัดเต็มแบบเต็มเหนี่ยวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon Wear 3100 ที่ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2019 แล้วแต่ทว่าก็ยังคงถือว่ามีความแรงอยู่ในระดับที่ต้องร้องว้าวเลยทีเดียว นอกไปจากนั้นแล้ว Fossil Gen 5 LTE ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในถึง 1 GB และแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD อีก 8 GB ซึ่งทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ บน WearOS 2 เป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ

    ตัวเครื่องมีดีไซน์หน้าจอแบบวงกลมทำให้ยังคงความเป็นนาฬิกาอยู่ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ชื่นชอบหน้าปัดสมาร์ทวอทช์ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมมากเท่าไรนัก ตัวเรือนใช้วัสดุเป็นสแตนเลสเคลือบสีทองทำให้ดูหรูหรา(ซึ่งจะรวมไปถึงส่วนล๊อคข้อมือด้วย) 

    สำหรับสายรัดข้อมือนั้นที่แถมมากับชุดวางจำหน่ายจะใช้วัสดุซิลิโคนอย่างดีสามารถกันน้ำได้โดยจะมีขนาดความกว้างของสายรัดอยู่ที่ 22 mm แน่นอนว่าผู้ใช้สามารถที่จะเปลี่ยนสายเป็นแบบอื่นเช่นสายหนัง ฯลฯ ที่มีขนาดความกว้างของสายรัด 22 mm เท่ากับของเดิมมาใช้แทนได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งการเปลี่ยนสายรัดข้อมือนั้นผู้ใช้สามารถที่จะทำได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ อีกด้วยต่างหากงานนี้เรียกได้ว่าเอาใจวัยรุ่นที่เบื่อง่ายจริงๆ

    อย่างไรก็ตามแล้วนั้นหากจะพูดถึงเรื่องขนาดของตัวเรือนหน้าปัดของ Fossil Gen 5 LTE นั้น ผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงอาจจะไม่ค่อยชอบมากเท่าไรนักเนื่องจากว่าหน้าจอตัวเรือนนั้นจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 45 mm (แต่ก็มีรุ่นเล็กอย่าง Fossil Gen 5E ที่หน้าจอตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 mm เป็นตัวเลือกแทน) ด้วยการใช้หน้าจอตัวเรือนเป็นพาเนล AMOLED ทำให้สบายหายห่วงเมื่อใช้งานในที่ที่มีแสงจ้า พร้อมด้วยเซ็นเซอร์รับแสงซึ่งจะช่วยทำให้ Fossil Gen 5 LTE นั้นสามารถปรับแสงหน้าปัดให้เหมาะสมกับสภาพของแสงได้โดยอัตโนมัติได้ด้วย

    Fossil Gen 5 LTE นั้นยังมาพร้อมกับลำโพงในตัวทำให้สามารถที่จะเล่นเพลงผ่านตัวเรือนได้เลย(ทว่าเสียงก็ไม่ได้ดีมากเท่าไรนักเพราะจุดประสงค์ของมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นลำโพงสำหรับเล่นเสียงแจ้งเตือนต่างๆ มากกว่า) การโต้สั่งการต่างๆ นั้นก็สามารถที่จะสำได้ผ่านการสัมผัสหน้าจอหรือจะใช้ปุ่มควบควมทางด้านข้างของตัวเครื่องที่อยู่ทางด้านขวาของตัวเรือนนาฬิกาก็ได้เช่นเดียวกันโดยปุ่มสำหรับสั่งการทางด้านขวาของตัวเครื่องนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ปุ่มด้วยกัน

    อีกหนึ่งจุดเด่นของ Fossil Gen 5 LTE นั้นก็คือการรองรับการเชื่อมต่อแบบ LTE ที่จะใช้งานในรูปแบบของ eSIM และมี GPS ในตัวทำให้คุณสามารถที่จะสวมใส่ Fossil Gen 5 LTE เพื่อที่จะทำการออกกำลังกายและใช้นำทางในระยะไกลได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพกสมาร์ทโฟนติดตัวไปให้หนักอีกด้วย งานนี้นั้นเรียกได้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์จริงฃ

    หมายเหตุ – นอกไปจากนั้นแล้ว Fossil Gen 5 LTE ยังมี NFC ด้วยซึ่งมันจะรองรับการใช้งานร่วมกับ Google Pay ทว่าในเมืองไทยเรานั้นอาจจะไม่ค่อยได้เห็นประโยชน์ในเรื่องนี้นักเนื่องจากว่ายังคงหาร้านที่รับชำระเงินผ่านทางระบบดังกล่าวไม่ได้นั่นเอง

    อุปกรณ์ในกล่องของ Fossil Gen 5 LTE นั้นจะมีเพียงตัว Fossil Gen 5 LTE, คู่มือการใช้งาน และที่ชาร์จเท่านั้น 


    การใช้งาน Wear OS บน Fossil Gen 5 LTE

    Fossil Gen 5 LTE นั้นรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนทั้งที่เป็นระบบปฏิบัติการณ์ Android และ iOS โดยสำหรับผู้ใช้งาน Android นั้นการติดตั้งใช้งานและซิงค์สมาร์ทโฟนกับ Fossil Gen 5 LTE นั้นสามารถที่จะทำได้ง่ายมากๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Google Wear OS ได้เลย ซึ่งข้อดีสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการณ์ Android นั้นก็คือสามารถใช้งาน Fossil Gen 5 LTE ได้ครบทุกฟังก์ชัน

    แต่สำหรับผู้ใช้ iOS นั้นคุณจำเป็นที่จะต้องมี Google Account และมีการติดตั้งแอปพลิเคชันของทาง Google เพิ่มเติมเช่น Google Assistant ไว้บนเครื่องของคุณ ทว่าหากคุณไม่ต้องการที่สมัคร Google Account แล้วล่ะก็คุณก็ยังคงสามารถใช้งาน Fossil Gen 5 LTE กับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการณ์ iOS ได้อยู่เพียงแค่ว่าจะต้องทำใจว่าคุณจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์บางประการได้ แถมยิ่งไปกว่านั้นแล้วคุณจะยังไม่สามารถโหลดแอปพลิเคชันลงบนตัว Fossil Gen 5 LTE ผ่านทาง Play Store ของทาง Google ได้อีกดังนั้นหากคุณชอบ Fossil Gen 5 LTE จริงๆ แล้วต้องการที่จะใช้ฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบก็ขอแนะนำให้สมัคร Google Account จะดีกว่า

    มาดูกันต่อกับฟีเจอร์ต่างๆ บน Fossil Gen 5 LTE กับฟีเจอร์แรกที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของสมาร์ทวอทช์ Wear OS นั่นก็คือฟีเจอร์การเลือกรูปแบบหน้าปัดแสดงผลที่บน Fossil Gen 5 LTE นั้นสามารถที่จะโหลดมาเก็บไว้ให้เปลี่ยนแก้เบื่อได้ถึง 10 แบบ(โหลดจากสมาร์ทโฟนเข้าตัวเครื่อง โดยบน Store นั้นมีรูปแบบแสดงผลให้เลือกเยอะมากๆ) นอกไปจากนั้นแล้วคุณเองยังสามารถที่จะทำปรับแต่งรูปแบบหน้าจอของตัวเองได้อีกด้วยต่างหากโดยใช้รูปที่คุณถ่ายบนสมาร์ทโฟนแล้วซิงค์ขึ้นไปไว้บน Fossil Gen 5 LTE

    นอกเหนือไปจากนั้นแล้วฟีเจอร์หลักๆ อื่นๆ ก็มาครบเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยดิจิทัล, Google Translator ฯลฯ ซึ่งจุดเด่นก็คือด้วยความที่ Fossil Gen 5 LTE รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ Wi-Fi และ LTE ทำให้คุณสามารถที่จะใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดเหล่านี้ได้โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา งานนี้ก็สามารถที่จะช่วยให้คุณวางสมาร์ทโฟนไว้อีกทีแต่ก็ยังมีชีวิตในแบบสมาร์ทได้อยู่ด้วย

    จุดเด่นหลักของ Fossil Gen 5 LTE ที่ไม่พูดไม่ได้เลยนั้นก็คือการรองรับเครือข่ายแบบ LTE ในรูปแบบของการใช้งาน eSIM หรือ embedded SIM ซึ่งจะเป็นแบบเดียวกับที่สมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปๆ ใหม่ๆ ใช้กัน ด้วยความสามารถดังกล่าวนี้เองนั้นนอกเหนือไปจากที่จะทำให้ Fossil Gen 5 LTE สามารถที่จะทำงานเสมือนเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายแล้วคุณยังสามารถที่จะใช้งานในการโทรออกและรับสายได้ด้วยอีกต่างหาก(แต่ต้องเชื่อมต่อกับชุดหูฟัง Bluetooth นะ) 

    หมายเหตุ – ในเมืองไทยเรานั้นจะต้องรอดูว่าทางผู้ให้บริการเครือข่ายใดที่จะอนุญาตให้สามารถใช้เบอร์โทรร่วมกับ eSIM บน Fossil Gen 5 LTE ได้ก่อนถึงจะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ยังคงไม่มีข้อมูลออกมาแต่อย่างใด


    การติดตามการออกกำลังกายและสุขภาพ

    แน่นอนว่าจะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับสมาร์ทวอทช์กับฟีเจอร์สำหรับติดตามค่าต่างๆ ทางด้านการออกกำลังกายและค่าทางสุขภาพ แน่นอนว่า Fossil Gen 5 LTE นั้นด้วยความที่เป็น Wear OS ของทาง Google ดังนั้นจึงใช้ Google Fit ในการบันทึกและคำนวณผลค่าต่างๆ ออกมา ซึ่งต้องยอมรับว่า Google Fit นั้นเก็บค่าต่างๆ และคำนวณออกมาให้เราได้เห็นกันละเอียดมากๆ 

    จะพึ่งแต่แอปพลิเคชันอย่างเดียวนั้นก็คงไม่ได้ Fossil Gen 5 LTE นั้นมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ PPG ที่เอาไว้ใช้ในการวันอัตรการเต้นของหัวใจโดยเฉพาะ ซึงต่างบอกว่าสามารถที่จะทำออกมาได้เป็นอย่างดีทีเดียว ทว่าจุดที่น่าเสียดายมากที่สุดเลยนั้นก็คือ Fossil Gen 5 LTE นั้นไม่ได้มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ SpO2 สำหรับวัดปริมาณอ๊อกซิเจนในกระแสเลือดซึ่งถือว่าผิดไปจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคโควิทฯ เป็นอย่างมาก(แต่ถึงกระนั้นก็ยังสามารถวัดได้อยู่นะแต่ไม่ค่อยแม่นยำเท่าไร)

    ฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับก็ไม่พลาดที่จะมีมาด้วยเช่นเดียวกัน โดยบนตัว Fossil Gen 5 LTE เองนั้นสามารถที่จะแสดงผลเป็นกราฟในการหลับของแต่ละวันของเราออกมาให้เห็นบนตัว Fossil Gen 5 LTE ได้เลย แต่ถ้าหากต้องการดูแบบละเอียดแล้วล่ะก็สามารถที่จะเข้าไปดูบนแอป Google Fit บนสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อเอาไว้ก็ได้เช่นเดียวกัน


    ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่


    สรุป

    จุดเด่น

    • รองรับเครือข่าย LTE
    • มี GPS ในตัว
    • สามารถลงแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้
    • รองรับชาร์จเร็ว
    • ใช้วัสดุขั้นเยี่ยม
    • ใช้งานง่าย

    จุดด้อย

    • ในเมืองไทยยังคงไม่มีเครือข่ายไหนรองรับ eSIM สำหรับ Fossil Gen 5 LTE
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างน้อย
    • ตัว Fossil Gen 5 LTE เองยังจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนเพื่อทำการวิเคราะห์ผลทางด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่เต็มรูปแบบ
    • ไม่สามารถวัดค่า SpO2 ได้

    Fossil Gen 5 LTE นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทสวอทช์หรูที่มาพร้อมจริงๆ แม้จะมีบางอย่างหายไปบ้างแต่ก็ได้บางอย่างกลับมาแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการให้ผู้ใช้สามารถที่จะเปลี่ยนรายรัดข้อมือได้เองนั้นส่วนใหญ่แล้วสมาร์ทวอทช์แบรนด์หรูจะไม่ค่อยปล่อยให้ผู้ใช้ทำได้เองเท่าไร ทั้งนี้ปัญหาใหญ่ๆ ของ Fossil Gen 5 LTE นั้นคงหนีไม่พ้นการที่มันไม่รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS อย่างเต็มรูปแบบซึ่งทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์ iOS นั้นจำเป็นที่จะต้องสมัครและลงแอปพลิเคชันหลายๆ อย่างเพิ่มเติมในอุปกรณ์ของตัวเอง 

    สำหรับราคาจำหน่ายของ Fossil Gen 5 LTE นั้นจะอยู่ที่ $349 หรือประมาณ 11,400 บาท ซึ่งในเมืองไทยเรานั้นคงต้องลุ้นกัน 2 อย่างว่าจะเข้ามาจำหน่ายเมื่อไรและผู้ให้บริการเครือข่ายรายไหนจะเป็นผู้รองรับ eSIM บน Fossil Gen 5 LTE

    ที่มา : notebookcheck

    Fossil Fossil Gen 5 LTE Smartwatch รีวิว สมาร์ทวอทช์
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    EDDY

    Related Posts

    แนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดีในปี 2025 ตัวช่วยลดปัญหากลิ่นอับ และเชื้อราในบ้าน

    21 พฤษภาคม 2025

    20 อันดับความแรงการ์ดจอ 2025 ทั้ง NVIDIA และ AMD ที่แรงที่สุดช่วงกลางปีนี้มีรุ่นไหนบ้าง

    26 เมษายน 2025

    แนะนำ 10 Powerbank Magsafe แบตสำรองแบบแม่เหล็กยี่ห้อไหนดี ชาร์จไวได้ พกพาสะดวกในปี 2025

    24 เมษายน 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    ลือ กำหนดการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Flip 7 และรุ่นอื่น ๆ อาจเลื่อนออกไปจากเดิม

    9 มิถุนายน 2025

    สื่อคาด ดีไซน์ iOS 26 อาจสื่อไปถึงหน้าตา iPhone รุ่นฉลองครบรอบ 20 ปี ที่จะออกในปี 2027

    9 มิถุนายน 2025

    แรงทะลุขีดจำกัด! เปิดตัว iQOO Neo 10 อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ครบเครื่องพร้อม ‘เต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์’ ในราคาเริ่มต้น 15,900 บาท

    8 มิถุนายน 2025

    Baseus เผยโฉมพาวเวอร์แบงค์ 3 รุ่นใหม่ ชาร์จไวไซซ์มินิกว่าเดิม ในราคาเริ่มต้น 999 บาท

    8 มิถุนายน 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X