แนะนำ 10 มือถือ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021 ถ่ายรูปสวย ได้สเปคแรง รองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ
มือถือของ OPPO นั้นเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อ ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ OPPO ได้มีการพัฒนาตัวเครื่อง และสเปคต่างๆ ออกมาอยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับผู้ใช้งานหลายรูปแบบ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำสเปคออกมาได้ดีอย่างเดียว แต่ราคาของมือถือจาก OPPO นั้นก็มีให้เลือกหลายช่วงราคา ตั้งแต่มือถือที่ราคาไม่เกิน 5000 บาท ไปจนถึงระดับเรือธงที่มีราคาหลักหมื่นขึ้นอีกหลายตัว ใครที่ลังเลว่าจะซื้อ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021 ก็ลองลงไปดูสเปคกันได้เลย
จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้รับความนิยมมากถึงขนาดนี้ได้ และก็แน่นอนว่าตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา OPPO ก็ได้ทำมือถือออกมาอยู่หลายรุ่น รวมไปถึงในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมานี้ ก็ยังคงทำออกมาให้เราได้เห็นกันอีกหลายรุ่น สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือของ OPPO แต่ว่ายังไม่รู้ว่าจะซื้อ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021 ที่ได้ความคุ้มค่ากับสเปคการใช้งาน ทั้งถ่ายรูปสวย และสเปคที่ตอบโจทย์การใช้งาน เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำกันทั้งหมด 10 รุ่น เผื่อเป็นตัวเลือกให้กับทุกคนเลย
- 10 มือถือ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021
- OPPO A15s
- OPPO A54
- OPPO A73 (2020)
- OPPO A74 Series
- OPPO A94
- OPPO Reno5 Series
- OPPO Reno4 Z 5G
- OPPO Reno5 Pro 5G
- OPPO Reno4 Pro
- OPPO Find X3 Pro
10 มือถือ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021
สำหรับมือถือของ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021 ที่เราจะนำมาแนะนำกันในวันนี้ จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาในปี 2021 เป็นส่วนใหญ่ และอาจจะมีรุ่นที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมาด้วย เพื่อความหลากหลาย รวมไปถึงเรทราคาที่ต่างกันด้วย ซึ่งเราจะแนะนำทั้งรุ่นที่มีราคาถูก สำหรับคนที่มีงบไม่เยอะมาก กับรุ่นราคาสูงๆ ที่ได้สเปคเทพๆ สำหรับคนที่มีงบเยอะ และต้องการใช้มือถือของ OPPO และนึกไม่ออกว่าจะใช้ OPPO รุ่นไหนดีก็ลองเข้ามาเลือกดูกันได้เลย จะขอเรียงลำดับตั้งแต่ราคาน้อยไปหามาก มีรุ่นที่น่าสนใจดังนี้
1. OPPO A15s : ราคา 4,999 บาท
เปิดรุ่นแรกกันกับ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021 กับรุ่นนี้ที่เปิดตัวออกมาช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน เนื่องจากเป็นรุ่นที่อัพเกรดมาจากตัว A15 และมีราคาที่ไม่ต่างกันมา แต่ได้สเปคที่ดีกว่าเดิม การดีไซน์ภายนอกของตัวนี้จะเป็นสีแบบเรียบๆ ทำมาจากพลาสติก ที่มีความสวยงาม ส่วนหน้าจอจะเป็นกระจกแข็งแบบ IPS-LCD ให้ความคมชัดสีสันสวยงาม มีขนาดความกว้าง 6.52 นิ้วตามมาตรฐาน ไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งรุ่นนี้ได้ใช้ชิป Helio P35 ที่สามารถใช้งานได้แบบทั่วไป หรือจะใช้เล่นเกมก็ยังพอไหวอยู่ เพราะชิปตัวนี้เล่นเกมได้ลื่นพอสมควรเลย
กล้องหลังของรุ่นนี้จะเป็นแบบกล้อง 3 ตัว มีความละเอียดอยู่ 13MP + มาโคร 2MP และเลนส์ชัดลึก 2MP จะเอามาถ่ายรูปก็ได้ แต่รุ่นนี้อาจจะไม่ได้เน้นตรงกล้องมากนัก ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 8MP ถ่ายเซลฟี่ได้สบายๆ แถมยังมีฟีเจอร์ AI มาช่วยทำให้การถ่ายนั้นง่ายขึ้นด้วย กับแบตที่มีความจุ 4,230 mAh ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง และเล่นเกมได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนไม่เยอะมากนัก แต่ก็ยังใช้งานได้อย่างยาวนานทั้งวันแน่นอน โดยรวมแล้วเป็นรุ่นที่ทำออกมาให้ใช้งานได้ดีในทุกๆ ด้าน ทั้งการใช้เล่นเกม ถ่ายรูป หรือใช้แบบปกติก็ทำงานได้ดีเลย ราคาของ OPPO A15s มีราคาเปิดตัวที่ 4,999 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
2. OPPO A54 : ราคา 5,699 บาท
มาที่รุ่นต่อไปกัน สำหรับรุ่นนี้ที่เพิ่มงบเข้ามาอีกหน่อย ก็จะได้รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และเป็นรุ่นที่อัพเกรดให้ดีขึ้นนิดหน่อย ตรงเรื่องแบตที่อึดมากขึ้น และกล้องที่ดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน การดีไซน์ของรุ่นนี้ทำออกมา 2 สีให้เลือกคือ Black และ Blue ซึ่งรูปแบบนั้นจะเป็นแบบมันวาวแบบเหลือบๆ และมีระบบจดจำใบหน้า ไม่ต้องสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง ส่วนหน้าจอจะเป็นกระจกแข็งแบบ IPS-LCD ให้สีสวยตามมาตรฐาน กับความกว้างขนาด 6.51 นิ้วพอๆ กับตัวด้านบนเลย ขนาดกำลังดี แถมยังมี Touch-Sensing ถึง 120Hz มาพร้อมกับชิป Helio P35 ใช้งานได้แบบทั่วไป หรือจะใช้เล่นเกมได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าตัวนี้จะมีหน้าจอเล็กลงมาแค่นิดเดียว แต่ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ทำออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น จึงเป็นรุ่นที่น่าใช้มากสำหรับคนที่มีงบไม่เยอะมาก
อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้ได้กล้องที่ดีกว่าตัวบน แต่ว่าไม่ใช่กล้องหลังนะ เป็นกล้องหน้าที่มีความละเอียดมากถึง 16MP เอามาถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามเลย และยังบันทึกวิดีโอได้ระดับ HD เลยด้วย เหมาะกับการเอามาทำคอนเทนต์ลง Social Media ในราคาประหยัดสุดๆ ส่วนกล้องหลังจะมี 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + มาโคร 2MP และเลนส์โบเก้ 2MP ใช้ถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้สวยๆ จะถ่ายวิวหรือถ่ายคนก็สวยได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือแบตอึดมาก เพราะมีความจุมากถึง 5,000 mAh แถมรองรับ Fast Charging 18W ใช้งานได้ยาวๆ ได้ชาร์จไวมาเสริมให้ดีมากขึ้น รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ จะถ่ายวิดีโอทำคอนเทนต์ หรือจะเล่นเกมก็ทำได้ดีเลย ใครที่ไม่รู้จะเลือก OPPO รุ่นไหนดี รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ต้องลิสต์ไว้เลย ราคาของ OPPO A54 มีราคาที่ 5,699 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
3. OPPO A73 (2020) : ราคา 6,999 บาท
มาที่รุ่นต่อไปกันเลย ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นรุ่นที่ยังน่าสนใจอยู่เช่นกัน ด้วยสเปคของตัวเครื่องที่ยังแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นแน่นอน ที่สำคัญคือราคายังคงอยู่ในระดับกลางๆ ที่ยังไม่เกินหมื่น ก็สามารถซื้อมาใช้กันได้แล้ว ตัวนี้เคยทำออกมาเมื่อปี 2018 แล้วแต่ได้อัพเกรดใหม่ ให้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ อย่างแรกคือการดีไซน์ที่ฝาหลังไม่มีสแกนลายนิ้วมือแล้ว และทำเป็นแบบสีเรียบๆ สวยมากขอบอก หน้าจอเป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 แบบ AMOLED ให้สีสันสมจริงมากยิ่งขึ้น ขนาดความกว้าง 6.44 กำลังดีไม่ได้เล็กเกินไป ตัวแรงของรุ่นนี้อยู่ที่ชิป Snapdragon 662 ที่สามารถเล่นเกมได้ลื่นๆ แน่นอน หายห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย ใครมองหามือถือ OPPO รุ่นไหนดีที่เล่นเกมได้ดี รุ่นนี้น่าสนใจมาก
ส่วนกล้องหลังก็ไม่ธรรมดานะ เพราะว่ามีมาให้ถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 16MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP และเลนส์โมโนอีกสองตัว 2MP + 2MP ถ่ายได้สีออกมาค่อนข้างสวยเลยทีเดียว แถมยังมี AI คอยช่วยในการถ่ายให้ดีขึ้น พร้อมกับซูมได้ 10 เท่า กล้องหน้าความละเอียด 16MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยเลยไม่ว่าจะถ่ายกลางวัน หรือว่าจะถ่ายกลางคืนด้วย Night Mode ที่ช่วยปรับแสงให้เห็นหน้าชัดขึ้น ถ่ายอะไรได้ดีขึ้นอีกเยอะ สุดท้ายคือแบตของรุ่นนี้ ที่ทำออกมามีความจุ 4,015 mAh เหมือนจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ก็มีการรองรับ Fast Chaging 30W มาให้ เพื่อให้ชาร์จได้เต็มไวขึ้นทดแทนกันไป รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งถ่ายรูปหรือว่าจะเล่นเกม แถมยังมีดีไซน์สวยงาม ตัวเครื่องผิวสัมผัสเหมือนหนังดูดีไปอีกแบบ ราคาของรุ่นนี้เปิดตัวที่ 6,999 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
4. OPPO A74 Series : ราคา 7,999 | 8,999 บาท
ต่อเนื่องกันด้วย OPPO A74 ที่ทำออกมาให้เลือกถึง 2 แบบคือแบบ 4G และแบบ 5G ทั้งสองตัวนี้ราคาต่างกัน 1,000 บาท แต่สเปคนั้นค่อนข้างต่างกันเยอะอยู่พอสมควรเลย ถ้าพูดถึงดีไซน์นั้นจะคล้ายๆ กันคือเป็นแบบมันวาวเหลือบนิดๆ แต่ถ้ามองไปที่โมดูลกล้องก็จะต่างกันแล้ว ส่วนหน้าจอจะเป็นกระจกแข็งแบบ AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว ในตัว 4G และในตัว 5G เป็นแบบ IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้วต่างกันเล็กน้อย และชิปเซ็ตของตัว 4G เป็น Snapdragon 662 ส่วน 5G เป็น Snapdragon 480 ทั้งสองตัวนี้เล่นเกมได้ดีทั้งคู่ อยู่ที่ว่าอยากจะใช้เล่นในระดับไหนมากกว่ากัน เพราะตัว 480 จะทำงานได้ดีกว่าถ้าเทียบกันจาก Benchmarks หรือจะใช้งานทั่วไปก็ดีแน่นอน
ส่วนกล้องหลังของทั้งสองตัวนี้ก็ต่างกันเลย เพราะในรุ่น 4G จะมีกล้องเพียง 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP + ชัดลึก 2MP และมาโคร 2MP กับของรุ่น 5G ที่จะมีเพิ่มเลนส์อัลตร้าไวลด์ 8MP เข้ามาอีก 1 ตัว กับกล้องหน้าที่ความละเอียดเท่ากันคือ 16MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยดั่งใจ สุดท้ายคือแบตที่มีความจุเท่ากันคือ 5,000 mAh แต่รองรับ Fast Charing ไม่เท่ากันอีก เพราะในรุ่น 4G ได้ถึง 30W แต่รุ่น 5G ได้เพียง 18W เท่านั้น ถ้ามองดูแล้วใครไม่รู้ว่าจะเลือก OPPO รุ่นไหนดีระหว่าง 4G หรือ 5G ให้มองที่การใช้งานของตัวเองเป็นหลักดีกว่า ถ้าอยากใช้ 5G ก็จัดตัว 5G ไปเลย แต่ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาดนั้น แนะนำให้ซื้อรุ่น 4G ,าใช้งานก็ได้สเปคเทพพอๆ กันแล้ว แถมราคาก็ต่างกันแค่ 7,999 กับ 8,999 บาทเท่านั้น
5. OPPO A94 : ราคา 9,499 บาท
เพิ่มราคากันมาอีกหน่อย แต่ก็ยังเป็นรุ่นที่มีราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท จัดว่าเป็นเครื่องที่มีราคากลางๆ แต่ได้สเปคค่อนข้างเทพกันเลย รูปแบบการดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบเกือบเงา แต่ว่ามีสีสันสะท้อนแสงสวยตามแบบของ OPPO วัสดุทำมาจากพลากติก กับหน้าจอที่เป็นกระจกแข็งแบบ AMOLED ให้สีแบบสมจริงที่ความกว้าง 6.43 นิ้ว ไม่ถือว่าเล็กเกินไป แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก มาพร้อมกับชิป Helio P95 ที่สามารถใช้เล่นเกมได้ หรือจะใช้แบบทั่วไปที่เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลงได้หมดเลย เพราะชิปตัวนี้มีประสิทธิภาพเหนือขึ้นมากว่าซีรีส์ P3x มี AI ที่ฉลากมากยิ่งขึ้นด้วย
กล้องหลังรุ่นนี้จะมีอยู่ 4 ตัวที่ความละเอียด 48 MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + โมโน 2MP และมาโคร 2MP รองรับการถ่ายทุกรูปแบบ แถมยังได้สีสันที่สวยงามด้วย AI Camera และระบบกันสั่น EIS ช่วยให้ถ่ายได้สวยงามตามใจนึกเลยแหละ ส่วนกล้องหน้าก็สามารถใช้ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ ด้วยความละเอียดสูงถึง 32MP จะถ่ายภาพนิ่ง หรือจะทำวิดีโอคอนเทนต์ก็ทำได้ดีแน่นอน และสุดท้ายคือความจุแบตที่ 4,310 mAh รองรับ Fast Charging มากถึง 30W มั่นใจได้เลยว่าใช้งานได้ทั้งวัน ถึงแม้ว่าจะหมดก่อนหากใช้งานหนัก ก็ยังชาร์จกลับมาเต็มได้ไว สำหรับคนที่มองหา OPPO รุ่นไหนดีที่มีฟีเจอร์ครบๆ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่มีราคากลางๆ แต่ได้สเปคเยี่ยมทั้งการถ่ายรูป หรือเล่นเกมเลย มีราคาเปิดตัวที่ 9,499 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
6. OPPO Reno5 Series : ราคา 10,990 | 13,990 บาท
อัพเกรดซีรีส์มาเป็นตัว Reno กันบ้าง ซึ่งในซีรีส์นี้จะมีราคาที่เกินหมื่นขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในช่วงหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถ้าใครมีงบสูงแนะนำว่าให้ลองขยับขึ้นมานิด เผื่อยังไม่รู้ว่าจะเลือก OPPO รุ่นไหนดีในงบหลักหมื่น โดยในรุ่น Reno 5 ได้ทำออกมา 2 แบบคือ 4G และ 5G เช่นกัน แต่สเปคของทั้งสองนั้นจะคล้ายๆ กัน จะต่างก็ตรงตัวชิปกับกล้อง และแบตนิดหน่อยเท่านั้น รวมไปถึงการดีไซน์ที่ออกแนวคล้ายกัน ที่เป็นแบบสะท้อนแสงและมีด้านหลังเป็นกระจกแข็ง Gorilla Glass เหมือนกันกระจกด้านหน้า มีจอเป็น AMOLED ทั้งคู่ และมีความกว้าง 6.43 นิ้วเท่ากันเลย พร้อมกับ Refresh Rate 90Hz และ Touch-Sensing 180Hz ส่วนชิปของรุ่น 4G จะเป็น Snapdragon 720G กับรุ่น 5G ที่เป็น Snapdragon 765G 5G มีความเร็วแรงกว่า แต่ทั้งคู่ยังสามารถเล่นเกมได้ไหลลื่นสุดๆ แน่นอน
มาที่เรื่องของกล้องหลังกันบ้าง ที่ทั้งสองรุ่นมีกล้อง 4 ตัวเหมือนกัน กับความละเอียดที่เท่ากันด้วยคือ 64MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + เทเล 2MP และมาโคร 2MP พร้อมกันสั่น EIS และ AI Camera ที่เข้ามาช่วยให้การถ่ายดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายอะไรก็ทำได้เหมือนโปรมาเอง ความต่างอยู่ที่กล้องหน้าที่รุ่น 4G มีกล้องหน้าถึง 44MP แต่ของรุ่น 5G มีเพียง 32MP เท่านั้น และมี Night Flare Portrait ช่วยให้ถ่ายตอนกลางคืนออกมาได้สวยจัดๆ ส่วนแบตก็ต่างกันเล็กน้อยที่รุ่นธรรมดามีความจุ 4,310 mAh และรองรับ Fast Charging 50W ส่วนรุ่น 5G มีความจุน้อยกว่าที่ 4,300 mAh แต่รองรับ Fast Charging สูงถึง 65W เฉลี่ยแล้วจะดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือก OPPO รุ่นไหนดีที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง
7. OPPO Reno4 Z 5G : ราคา 12,990 บาท
ย้อนกลับลงไปที่ตัวก่อนหน้ากับตัว Reno4 Z 5G สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะซื้อ OPPO รุ่นไหนดี ที่มีราคาเปิดตัวออกมาแรงกว่าเล็กน้อย แต่ในตอนนี้อาจจะลดราคาลงไปแล้ว หรือถ้าหากซื้อจากร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee, Lazada ก็มีราคาแค่เพียงหมื่นนิดๆ เท่านั้น ราคาเทียบเคียงกับรุ่น Reno5 ได้เลย แต่ตัวนี้สามารถใช้งาน 5G ได้แล้ว การดีไซน์ของฝาหลังจะมีความเรียบหรูเหลือบๆ เล็กน้อย ด้านหน้าเป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 แบบ IPS-LCD ให้สีสันสวยงาม กับความกว้างขนาด 6.57 นิ้ว ใหญ่มากๆ ใครที่ชอบดูหนังจะเหมาะมาก หรือถ้าเอาไปเล่นเกมก็ไหวแน่ๆ เพราะเป็นชิป Dimensity 800 ทำงานได้ดีมาก แถมยังมีอัตรา Refresh Rate 120Hz และ Touch-Sensing ถึง 120Hz อีกด้วย
ต่อกันที่กล้องหลังของรุ่นนี้ ที่เป็นกล้องแบบ 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + Vintage Portrait 2MP และเลนส์ B&W 2MP เหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล หรือจะถ่ายวิวก็ยังสวย มาพร้อม Ultra Dark Mode ที่ช่วยให้การถ่ายภาพตอนกลางคืนชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ 16MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามตามมาตรฐานของกล้องหน้า อาจจะไม่ได้สูงนัก เพราะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ถ้าจะเน้นกล้องหน้าแนะนำเป็นตัวใหม่อย่าง Reno5 จะเหมาะกว่า เผื่อไม่รู้ว่าจะเลือก OPPO รุ่นไหนดีที่ถ่ายได้สวยกว่ากัน สุดท้ายคือแบตที่มีความจุมาให้ 4,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W ราคาเปิดตัว 12,990 บาท แต่ถ้าซื้อจากร้านค้าออนไลน์อาจถูกกว่านี้
8. OPPO Reno5 Pro 5G : ราคา 19,900 บาท
มาที่รุ่นต่อไปกันบ้างกับรุ่นที่อัพเกรดจากรุ่นปกติ ให้มีความโปรมากขึ้น ซึ่งตัวนี้มีราคาที่ถูกกว่าตัวก่อนหน้าคือ Reno4 Pro ด้วย และก็แน่นอนว่าสเปคของตัวเครื่องก็ต้องอัพเกรดเพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ที่จำเป็นต้องใช้งานด้านต่างๆ ด้วยเช่นกัน หากไม่รู้ว่าจะเลือก OPPO รุ้นไหนดีระหว่าง 4 กับ 5 เดี๋ยวเราจะแนะนำรุ่นก่อนหน้าไว้ให้ด้วย ดีไซน์ของตัวนี้จะคล้ายๆ กับรุ่นธรรมดาเลย แต่สีเหลือบๆ ด้านหลังสวยมาก ทำมาจากกระจกแข็ง Gorilla Glass ทั้งหน้าและหลัง ด้านข้างเป็นอลูมิเนียม ส่วนหน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED ความกว้าง 6.55 นิ้วใหญ่จุใจกับการใช้งานอย่างแน่นอน มาพร้อมกับชิป Dimensity 1000+ เร็วแรงทุกการใช้งานแน่อน ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือว่าใช้ทำอะไรก็ตาม
กล้องหลังของรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 4 ตัวเหมือนรุ่นปกติที่ความละเอียด 64MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 2MP และเลนส์โมโน 2MP ถ่ายเก็บสีได้สมจริง พร้อมกับ AI Camera และฟีเจอร์อีกมากมายมารองรับการใช้งานให้ดูโปรมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K เลยทีเดียว พร้อมกับ Ultra Night Video ช่วยให้ถ่ายกลางคืนได้สว่างมากขึ้นด้วย ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดที่ 32MP ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจไม่มีหลุด รุ่นนี้มีความจุแบตอยู่ 4,350 mAh รองรับ Fast Charging 65W เร็วแรงไม่ต้องกลัวแบตหมด เพราะชาร์จกลับมาเต็มได้ไวมาก ราคาเปิดตัวรุ่นนี้มีราคา 19,900 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
9. OPPO Reno4 Pro : ราคา 24,990 บาท
อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาก่อน และเป็นรุ่นก่อนหน้าก็ตาม แต่ก็มีราคาที่สูงกว่าเยอะพอสมควร แต่ถ้าหากซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada จะมีราคาที่ถูกลงมากว่านี้อีก จนราคานั้นต่ำกว่ารุ่นใหม่อย่างแน่นอน แต่ด้วยราคาเปิดตัวที่สูงกว่า เราจึงนำมาไว้ทีหลังเผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเลือก OPPO รุ่นไหนดี การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบด้านที่มีความเงาเหลือบตามมุมมอง แต่เป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมด กับหน้าจอที่เป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 5 แบบ AMOLED ระดับ HDR10 มีความกว้างขนาด 6.5 นิ้ว เล็กกว่ารุ่นใหม่เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าใหญ่อยู่ดี ส่วนชิปของตัวนี้จะเป็น Snapdragon 765G รองรับการใช้งาน 5G และเล่นเกมได้ไหลลื่นเช่นกัน
กล้องหลังของรุ่นนี้ยังมีอยู่แค่ 3 ตัวเท่านั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 48MP + อัลตร้าไวลด์ 12MP และเลนส์มาโคร 13MP ซูมออฟติคอลได้ 2 เท่า และบันทึกวิดีโอได้ถึงระดับ 4K ถ่าย Ultra Night Wide Angle Video เก็บภาพได้เต็มที่ทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ถ่ายสวยทุกมุมมอง พร้อมกับฟีเจอร์ Ultra Steady ช่วยให้ถ่ายหน้าแบบวิดีโอไม่หลุดกรอบ สุดท้ายคือแบตที่มีความจุอยู่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charging 65W ไม่ต้องห่วงถึงแม้ว่าจะมีความจุไม่มากนัก แต่ก็ยังทดแทนได้ด้วยการชาร์จที่ไวมากขึ้นเยอะ รุ่นนี้เปิดตัวที่ราคา 24,990 บาท แต่ถ้าซื้อจากร้านค้าออนไลน์จะมีราคาเพียงหมื่นกลางๆ เท่านั้น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเผื่อกำลังเลือก OPPO รุ่นไหนดีอยู่
10. OPPO Find X3 Pro : ราคา 33,990 บาท
สำหรับคนงบสูงและไม่รู้ว่าจะใช้ OPPO รุ่นไหนดี ลองมาดูมหากาพย์ความรุนแรงของมือถือ ทั้งสเปคและความเทพของการใช้งาน ที่มีแฟล็กชิพ 1 พันล้านสี ช่วยให้สามารถเห็นสีได้มากกว่าที่เคยเห็นบนมือถือทั่วไป โดยแต่ละเครื่องจะได้รับการ Calibrate เพื่อให้ได้ค่าสีที่ถูกต้อง ที่สำคัญคือสามารถปรับสีให้ตรงกับตัวเองได้มากที่สุด ถ้าหากใครที่บกพร่องทางกการมองเห็นสี ตัวนี้ก็สามารถปรับให้เข้ากับตาของทุกคนได้ (อ่านรีวิวได้ที่นี่) การดีไซน์ของตัวนี้จะเป็นแบบเรียบหรู กับกล้องหลังที่ทำออกมาได้สวยงาม ด้านหน้าและหลังเป็นกระจกแข็ง Gorilla Glass ด้านข้างเป็นอลูมิเนียม หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด Quad HD+ กว้าง 6.7 นิ้วขนาดใหญ่มาก แต่จับแล้วกระชับมือ แถมยังมีอัตรา Refresh Rate 120Hz กับ Touch-Sensing มากถึง 240Hz ที่สำคัญคือชิปเป็น Snapdragon 888 เร็วแรงฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว เครื่องทำได้ทุกอย่างทุกการใช้งานอย่างแท้จริง
กล้องหลังก็มาอย่างเหนือเช่นกัน มีมาให้ทั้งหมด 4 ตัวที่ความละเอียด 50MP + อัลตร้าไวลด์ 50MP + เทเล 13MP และเลนส์ไมโคร 3MP อ่านไม่ผิด เพราะมันคือไมโครที่สามารถถ่ายในระยะใกล้มากๆ ระดับไมโครได้เลย พร้อมทั้งฟีเจอร์อีกมากมายในการถ่ายรูป ซูมไฮบริดออฟติคอลได้ 5 เท่า ถ่ายวิดีโอได้ที่ระดับ 4K ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ 32MP ถ่ายเซลฟี่สบายหายห่วง อย่างที่บอกว่าตัวนี้ทำได้ทุกอย่างจริงๆ ทั้งเล่นเกม ถ่ายรูป หรือจะใช้งานทั่วไปได้หมดทุกอย่าง แบตเตอรี่มีความจุ 4,500 mAh รองรับการชาร์จไร้สายและ Fast Charging 65W เพิ่มความสะดวกในการชาร์จได้มากขึ้น โดยรวมแล้วรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดีมากๆ รุ่นหนึ่งของ OPPO เลย สำหรับคนที่มีงบสูงๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้ OPPO รุ่นไหนดี แนะนำรุ่นนี้เลย รับรองว่าตอบโจทย์ทุกอย่างแน่นอน มีราคาอยู่ 33,990 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
ตารางเปรียบเทียบ OPPO รุ่นไหนดีในปี 2021
รุ่น \ ข้อมูล | หน้าจอ | ชิปเซ็ต | GPU | RAM | ROM | กล้องหน้า | กล้องหลัง | แบตเตอรี่ | ราคา (เริ่มต้น) |
OPPO A15s | IPS-LCD 6.52 นิ้ว | Helio P35 | IMG GE8320 | 4GB | 64GB | 8MP | 13MP + 2MP + 2MP | 4,230 mAh | 4,999 บาท |
OPPO A54 | IPS-LCD 6.51 นิ้ว | Helio P35 | PowerVR GE8320 | 4GB | 128GB | 16MP | 13MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh | 5,699 บาท |
OPPO A73 (2020) | AMOLED 6.44 นิ้ว | Snapdragon 662 | Adreno 610 | 6GB | 128GB | 16MP | 16MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4,015 mAh | 6,999 บาท |
OPPO A74 4G | AMOLED 6.43 นิ้ว | Snapdragon 662 | Adreno 610 | 6GB | 128GB | 16MP | 48MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh | 7,999 บาท |
OPPO A74 5G | IPS-LCD 6.5 นิ้ว | Snapdragon 480 | Adreno 619 | 6GB | 128GB | 16MP | 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh | 8,999 บาท |
OPPO A94 | AMOLED 6.43 นิ้ว | Helio P95 | PowerVR GM9446 | 8GB | 128GB | 32MP | 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4,310 mAh | 9,499 บาท |
OPPO Reno5 4G | AMOLED 6.43 นิ้ว | Snapdragon 720G | Adreno 618 | 8GB | 128GB | 44MP | 64MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4,310 mAh | 10,990 บาท |
OPPO Reno5 5G | AMOLED 6.43 นิ้ว | Snapdragon 765G 5G | Adreno 620 | 8GB | 128GB | 32MP | 64MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4,300 mAh | 13,990 บาท |
OPPO Reno4 Z 5G | IPS-LCD 6.57 นิ้ว | Dimensity 800 | Mali-G57 MC4 | 8GB | 128GB | 16MP | 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4,000 mAh | 12,990 บาท |
OPPO Reno5 Pro 5G | Super AMOLED 6.55 นิ้ว | Dimensity 1000+ | Adreno 620 | 12GB | 256GB | 32MP | 64MP + 8MP + 2MP + 2MP | 4,350 mAh | 19,900 บาท |
OPPO Reno4 Pro | AMOLED 6.5 นิ้ว | Snapdragon 765G | Adreno 620 | 12GB | 256GB | 32MP | 48MP + 12MP + 13MP | 4,000 mAh | 24,990 บาท |
OPPO Find X3 Pro | AMOLED 6.7 นิ้ว | Snapdragon 888 | Adreno 660 | 8/12GB | 256GB | 32MP | 50MP + 50MP + 13MP + 3MP | 4,500 mAh | 33,990 บาท |
จากตารางจะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นที่เรานำมาแนะนำ จะเรียงจากราคาที่น้อยไปจนถึงราคาสูงสุด ถึงตรงนี้ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ OPPO รุ่นไหนดี แนะนำว่าให้ดูงบของตัวเองก่อน ว่ามีประมาณเท่าไหร่ เพราะว่าบางตัวนั้นเพิ่มราคาจากงบอีกนิดหน่อย ก็จะได้ตัวที่ดีกว่าแล้ว เว้นแต่ในรุ่นที่แยกเป็น 4G กับ 5G ตรงนี้ต้องดูการใช้งานของตัวเองด้วย ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ 5G ส่งไปไม่ถึงก็อาจจะไม่ได้ใช้งาน 5G เลย แต่ใครที่มั่นใจว่าใช้งานได้แน่นอน และอยากใช้ความเร็ว 5G ก็แนะนำให้ซื้อได้เลย แต่ถ้าใครไม่จำเป็นจะซื้อตัว 4G ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากนักเลย ส่วนใครที่มีงบสูงๆ และไม่รู้จะซื้อ OPPO รุ่นไหนดี แนะนำให้ซื้อรุ่นท็อปฟอร์มสุดในตอนนี้คือ Find X3 Pro ได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะเอามาฝากและอัพเดทกันเรื่อยๆ เลยนะครับ