ในทุกวันนี้เน็ตบ้านแบบไฟเบอร์กลายเป็นบริการที่หลาย ๆ บ้านต้องติดเพื่อให้สามารถเล่นเน็ตความเร็วสูงมาก ๆ ได้ เพราะมันช่วยให้ทั้งดูหนัง เล่นเกม ได้แบบลื่น ๆ ไม่ต้องกลัวสะดุด ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอปัญหาสัญญาณ Wi-Fi ไม่ครอบคลุมทั้งบ้านทำให้ไม่สามารถใช้งานเน็ตได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้แล้ว นั่นก็คือ Mesh Technology นั่นเอง แถมหลัง ๆ มานี้เราเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ก็จะเป็น Mesh Wi-Fi ซะส่วนมากด้วย เพราะมันช่วยให้ปัญหาต่าง ๆ ถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
Mesh Wi-Fi คืออะไร
Mesh Wi-Fi หรืออุปกรณ์เน็ตเวิร์คอะไรก็ตามที่มีคำว่า Mesh ติดอยู่ หมายถึงอุปกรณ์หรือเราเตอร์ Wi-Fi ที่สามารถสื่อสารกับเราเตอร์ Wi-Fi ตัวอื่น ๆ ได้อัตโนมัติ สามารถรวมหัวกันช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมทั่วสถานที่ หรือช่วยลดจุดอับสัญญาณต่าง ๆ เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่บ้านมีหลายชั้น ห้องมีพื้นที่กว้างขวาง เราเตอร์ Wi-Fi ตัวเดียวคงเอาไม่อยู่แน่นอน ต้องมีจุดใดจุดหนึ่งที่สัญญาณ ขาดหายไปแน่ ๆ บางคนจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการซื้อ Access Point มาช่วยขยายสัญญาณเพิ่มเติม แต่ก็คงติดปัญหาการลากสาย LAN ไปต่อกับ Access Point ส่วนบางคนก็ซื้อ Wi-Fi Range Extender ที่ช่วยขยายสัญญาณได้เหมือนกัน แถมไม่ต้องลากสาย LAN ด้วย ทว่าก็ต้องเสียเวลาตั้งค่า ยิ่งถ้าต้องติดตั้งหลายตัวแล้วคงเหนื่อยแน่ ๆ สุดท้ายก็เลยซื้อเราเตอร์ Wi-Fi เพิ่มซะเลย แน่นอนว่าปัญหาคือ เปลือง
จากปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดเป็น Mesh Wi-Fi ที่จัดการปัญหาต่าง ๆ “ทีเดียวจบ” ด้วยการเอาเราเตอร์ Wi-Fi พร้อมชุดช่วยขยายสัญญาณหรือ Node แถมติดมาในกล่อง บางแบรนด์ก็ใส่เป็นเราเตอร์ Wi-Fi จำนวน 2 – 3 เครื่องในกล่องเดียวเลยก็มี ซึ่งข้อดีของมันคือ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก ไม่ต้องตั้งค่าอะไรใหม่ให้วุ่นวาย และช่วยประหยัดงบยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ชุดเดียวกัน ก็เลยทำให้อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถใช้งานภายใต้ระบบเดียวกันได้ คือเปิด App เดียวก็ควบคุมการทำงานของ Node ได้ทั้งหมดเลย ไม่ต้องไล่เปิด App เปิด Browser ใหม่เพื่อควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ อีกต่อไป
สรุป Mesh WiFi แบบเข้าใจง่ายๆ
- ขยาย WiFi ไปทั่วบ้านได้ทั้งแบบเดินสาย(สปีดเน็ตเต็ม) และไม่เดินสาย(สปีดเน็ตตกลงตามระยะทาง)
- ตั้งค่าให้ชื่อ WiFi (SSID) เป็นชื่อเดียวกันได้
- ความเร็วที่ได้ต่อจุด (node) มีคุณภาพดีกว่า Repeater ทั่วไป
- ถ้าจุดใดจุดหนึ่งล่ม จะไม่ทำให้ระบบทั้งหมดล่มตามไปด้วย
ต่างจาก Wi-Fi Extender อย่างไร
Wi-Fi Extender คืออุปกรณ์ขยายสัญญาณ Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ง่ายๆที่ช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ของคุณโดยทำการกระจายสัญญาณใหม่ไปยังบ้านของคุณ ตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi บางครั้งเรียกว่า Wi-Fi booster หรือ repeater หรือ Amplifier แล้วแต่ แต่มันหมายถึงสิ่งเดียวกัน ทำหน้าที่ขยายความครอบคลุมสัญญาณ Wi-Fi ในบ้าน แต่จะมีข้อจำกัดที่คุณต้องสลับจากเครือข่าย Wi-Fi ของเราเตอร์ในบ้านเป็นเครือข่าย Wi-Fi ของ Extender เนื่องจากไม่มีฟังก์ชั่นการ Roaming
ซึ่งความต่างอย่างที่สุดของ Wi-Fi Extender คือต้องสลับไปยังเครือข่ายของ Wi-Fi Extender ด้วยตนเองไม่เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่กำหนดค่าได้ยากขึ้น แต่ก็มีข้อดีคือ เป็นทางเลือกที่ง่ายสำหรับการขยายสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านของคุณ แค่เสียบปลั๊กตรงเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า ราคาไม่แพงมาก
หากเอามาเทียบกับ Mesh Wi-Fi แล้ว ข้อดีคือเป็นเครือข่าย Wi-Fi ขนาดใหญ่ที่ไร้รอยต่อ ไม่จำเป็นต้องสลับไปใช้เครือข่ายอื่นด้วยตนเอง จัดระเบียบเองเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับโหนดที่ใกล้ที่สุดด้วยสัญญาณ Wi-Fi ที่แรงที่สุด เชื่อถือได้แม้เมื่อโหนดหนึ่งล้มเหลวก็สามารถย้ายโหนดไปยังตำแหน่งอื่นได้เพียงเพิ่มโหนดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความครอบคลุมสัญญาณ Wi-Fi มีความง่ายในการตั้งค่าและควบคุมผ่านแอพโทรศัพท์ ส่วนข้อเสียหลัก ๆ มีแค่อย่างเดียวคือ แพงมากกก!!
เลือกซื้อ MESH WIFI อย่างไรดี
ในปัจจุบันนี้เริ่มมีหลายค่ายเอา Mesh Wi-Fi เข้ามาทำตลายในไทยกันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายเองก็เริ่มมีโปรเสริมเพิ่มเข้ามาแล้วด้วย ซึ่งตอนนี้ยี่ห้อหลัก ๆ ที่เห็นจะเป็น ASUS, Netgear, TP-Link และ Nokia(แถมมากับ AIS) ซึ่งยี่ห้อเหล่านี้ก็ได้มีการอัดฟรเจอร์ต่าง ๆ เข้ามาให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งยังพยายามขยายวงสัญญาณให้กว้างขึ้นด้วย ทว่าในปัจจุบันยังไม่มีมาตราฐานกลางที่ช่วยให้เราสามารถใช้ Mesh ข้ามแบรนด์ได้ ดังนั้นหากเราซื้อแบรนด์ไหนมาแล้ว หากต้องการขยายพื้นที่สัญญาณก็จำเป็นต้องซื้อแบรนด์นั้นมาใช้เท่านั้น ดังนั้นหากคิดจะหาซื้อเราเตอร์ที่เป็น Mesh Wi-Fi มาใช้แล้วสิ่งที่ต้องเช็คคือ
- ความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่อ ทั้งแบบ WiFi และ LAN
- LAN ไม่น้อยกว่า 1Gbps
- WiFi ไม่น้อยกว่า 350Mbps รองรับทั้ง 2.4 และ 5GHz (ได้ Wi-Fi6 ด้วยยิ่งดี)
- จำนวน Node ที่รองรับ เพียงพอกับพื้นที่ใช้งาน
- ความเร็วที่ได้เมื่อมีการต่อ Node เพิ่ม
- มีการอัพเดทระบบต่อเนื่อง (ป้องกันการโดนแฮกผ่านอุปกรณ์)
- รายละเอียดของอุปกรณ์ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี
- อัตรากินไฟ
- ราคาและการรับประกัน
คำแนะนำเล็กน้อย
สำหรับใครที่ดูเราเตอร์ไม่เป็นหรือไม่อยากทำอะไรให้มันวุ่นวาย ตอนนี้ AIS และ True Online ก็มีแพ็กเกจให้สมัครพร้อมแถมเราเตอร์ที่เป็น Mesh Wi-Fi มาให้ด้วยเช่นกันดังนี้
AIS SuperMESH WiFi
สำหรับ AIS นั้นจะมีแพ็กเกจเดียว ราคาเดียว 999 บาท ความเร็ว 1Gbps / 500Mbps ได้ SuperMESH WiFi Router 2 ตัว และสามารถเพิ่ม SuperMESH WiFi Router ได้อีกด้วยการจ่ายเพิ่มอีก 100 บาท / จุด / เดือน ระยะเวลาติดสัญญาทั้งหมด 24 เดือน ซึ่งผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งความเร็วได้ตามที่ต้องการ
** เงื่อไขสามารถเข้าไปดูได้ที่ AIS Fiber
True GIGATEX FIBER
สำหรับ True นั้นจะมีแพ็กเกจให้เลือกถึง 3 ราคา โดยจะแตกต่างกันที่ของพ่วงแพ็กเกจ แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงแต่แพ็กเกจเน็ตบ้านเพียว ๆ โดยจะมีราคาแพ็กเกจอยู่ที่ 899 บาท ได้ความเร็ว 1000Mbps / 200Mbps และหากจ่ายเพิ่มอีก 100 บาท/เดือนจะได้เราเตอร์ Mesh WiFi เพิ่มเข้ามาด้วย นอกจากนี้ยังได้ Google Nest Mini เพิ่มมาอีกตัวด้วย
** เงื่อไขสามารถเข้าไปดูได้ที่ TrueOnline หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ TrueShop