ในปี 2016 นี้ Apple พึ่งจะทำการเปิดตัว iPhone หน้าจอ 4 นิ้วอีกครั้ง ซึ่งก็คือ iPhone SE ที่มาในรูปร่างรูปทรงเดียวกับ iPhone 5s ที่เปิดตัวเมื่อปี 2013 ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกมาก เพราะในยุคสมัยนี้ เราต่างก็ใช้มือถือขนาดหน้าจอ 5 นิ้วขึ้นไป เอาเป็นว่ามือถือจอ 5 นิ้วในยุคนี้เป็นอะไรที่เป็นเรื่องปกติเอามาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า iPhone SE เป็นมือถือเครื่องเล็กที่ยอดขายดีไม่เบาเลย ด้วยสเปคและความสามารถที่ยัดเข้ามาในบอดี้เล็ก ๆ นี่แหละ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2010 Steve Jobs ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ iPhone 4 และตอบคำถามของสื่อมวลชน เนื่องจากตอนนั้นมีข่าวลือหนาหูว่า Apple กำลังจะผลิตสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่กว่า 3.5 นิ้ว โดยสตีฟ จ็อบส์ก็ได้ให้เหตุผลว่า Apple จะไม่ทำมือถือจอใหญ่กว่านี้หรอก เพราะมือถือจอใหญ่ไม่สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้ (ในลักษณะของการลากนิ้วได้ทั่วหน้าจอ) และก็คงไม่มีใครซื้อมือถือจอใหญ่ ๆ หรอก!! นั่นก็คือเหตุผลที่ iPhone 4 ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว เช่นเดียวกับ iPhone 2G รุ่นแรก
ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ฝั่งแอนดรอยก็มีมือถือจอใหญ่ (กว่าขนาด 3.5 นิ้ว) ออกมาขายกันหลายรุ่น แต่ที่ฮิตติดลมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy S หน้าจอ 4 นิ้ว กับ HTC Evo 4G หน้าจอ 4.3 นิ้ว บางทีสตีฟ จ็อบส์อาจจะหมายถึง “ไม่มีใครอยากซื้อ iPhone จอใหญ่” หรอก เพราะเขาหนีไปซื้อ Android จอใหญ่มากกว่าน่ะสิ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Steve Jobs มองพลาดไป มีผู้ใช้หลายคนต้องการมือถือจอใหญ่ ๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถปาดหน้าจอมือถือตัวเองด้วยมือข้างเดียวได้ก็ตาม
สองปีหลังจากนั้น ในปี 2012 ตอนที่ Apple ไม่มี Steve Jobs และ CEO คนใหม่ก็คือ Tim Cook ก็ได้เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ อย่าง iPhone 5 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว และถัดมาอีก 2 ปี ซึ่งก็คือในปี 2014 Apple ในยุคของ Tim Cook ก็ได้เปิดตัว iPhone 6 ที่มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว กับ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำเข้าไปอีกว่า คนส่วนใหญ่อยากใช้มือถือจอใหญ่ ๆ ด้วยกันทั้งนั้นแหละ
ที่มา: phonearena