ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2019 เราเริ่มได้รู้จักฝุ่น PM 2.5 กันมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศ ทั้งการจุดไฟเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ การก่อสร้าง และฝุ่นควันจากรถยนต์นั้น เป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดฝุ่นที่อันตรายนี้ขึ้นมา จนถึงปัจจุบันนี้ฝุ่นเหล่านี้ ก็ยังคงหลงเหลืออยู่ แต่อาจจะลดลง และเพิ่มขึ้นมาบ้าง แล้วแต่สภาพอากาศของช่วงเวลานั้นด้วย
พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดฝุ่นนี้ได้นั้น มักจะเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง และมีพื้นที่อุตสาหกรรมค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงพื้นที่ที่มีสภาพอากาศปิด ซึ่งสามารถเกิดขึ้นไปในหลายๆ เมือง ไม่ใช้จะมีเพียงกรุงเทพฯ เท่านั้น ที่จะมีฝุ่นนี้เยอะ แต่เมืองหลักๆ อย่างเชียงใหม่ พัทยา เขตปริมณฑลทั้งหลาย ก็สามารถเกิดฝุ่นนี้ขึ้นมาได้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่นั้นจะมีสาเหตุมาจาก สภาพการจราจรที่รถติด รถยนต์เยอะเกินไป การเผาในที่โล่ง และสภาพความกดอากาศต่ำ ซึ่งฝุ่นเหล่านี้ อาจจะไม่ได้ส่งผลในระยะเร็วมากนัก ในกรณีที่ไม่ได้เยอะจนถึงขึ้นมองอะไรไม่เห็น แต่จะส่งผลในระยะยาว และส่งผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และยิ่งฝุ่นเยอะมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งสุขภาพเสื่อมเสียไปมากเท่านั้น การป้องกันขั้นต้นก็คือการใส่หน้ากาก แต่ถ้าหากเราเตรียมตัวเอาไว้ก่อนออกจากบ้าน ด้วยการโหลดแอพเช็คค่าฝุ่น PM 2.5 มาติดเครื่องไว้ ก็จะทำให้เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือได้ในทุกๆ วัน วันนี้ Specphone จะมาแนะนำแอพที่สามารถเช็คค่าฝุ่นได้ ทั้งบน Android และ iOS
ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร
PM 2.5 หรือ Particulate Matters เป็นฝุ่นขนาดเล็กมากๆ ซึ่งตัวเลข 2.5 ก็คือขนาดของฝุ่นนี้ ที่มีขนาดเพียง 2.5 ไมครอน จะเทียบได้กับ 1ใน25 ส่วนของเส้นผมเราเท่านั้นเอง แน่นอนว่าด้วยขนาดเล็กมากๆ การกรองโดยปกติของมนุษย์ จึงไม่สามารถกรองฝุ่นตัวนี้ได้เลย และด้วยความเล็กมากๆ นี้เองจึงทำให้ฝุ่นตัวนี้ สามารถลอยเกาะอยู่บนอากาศ ควัน และก๊าซต่างๆ ปกตินั้นเราจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อปริมาณฝุ่นเยอะมากขึ้นแบบมากๆ เราจึงสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคล้ายๆ หมอก
ความอันตรายของฝุ่นเหล่านี้ ในระยะแรกอาจจะยังไม่ส่งผลต่อร่างกายมากนัก แต่ถ้าเราหายใจเอาฝุ่นนี้เข้าไปในปริมาณมาก หรือมีฝุ่นเยอะมากๆ แล้วเราไปอยู่ในบริเวณนั้น จะส่งผลกับร่างกายเป็นอย่างมาก ตามที่องค์การอนามัยโลกได้บอกเอาไว้ ว่าฝุ่นเหล่านี้สามารถเข้าสู่จมูก ลงไปถึงปอดและหลอดเลือดได้ง่ายมากๆ จึงอันตรายทั้งทางเดินหายใจ กระแสเลือด และผิวหนังได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีสารจำพวกโลหะหนัก แคดเมียม และปรอท ที่เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้ด้วย
การป้องกันเบื้องต้น
หลักการป้องกันเบื้องต้น เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการเตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้าน จากแอพเช็คปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ หรือจะซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยกรองอากาศ และช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน ที่ตอนนี้มีให้เลือกซื้อกันอย่างแพร่หลาย และเราก็เคยได้รีวิวรุ่นที่น่าใช้งานไปแล้วหลายรุ่น อย่างเช่น Xiaomi Mi Air Purifier 2S (อ่านรีวิวเครื่อง), Xiaomi Mi Air Purifier 3H (อ่านรีวิวเครื่อง) และตัวล่าสุด Mi Air Purifier Pro H (อ่านรีวิวเครื่อง) ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ทำให้บรรยากาศภายในบ้านสะอาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนเวลาที่ต้องออกไปข้างนอกนั้น แนะนำให้ใส่หน้ากากชนิด N95 ที่ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับว่าสามารถป้องกันได้จริง หรือถ้าไม่มีจริงๆ ก็สามารถใช้แบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น และแบบผ้าฝ้ายก็ได้ ถึงแม้ว่าจะกรองฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการป้องกันได้ระดับหนึ่ง ดีกว่าสูดเข้าไปตรงๆ
1. Air Quality | AirVisual
มาเริ่มกันที่แอพแรกก่อนเลย ซึ่งแอพนี้ถือว่าเป็นแอพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งบน Android และ iOS เนื่องจากเป็นแอพที่มีฐานข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะ โดยมีสถานีตรวจวัดค่ามากกว่า 10000 แห่งทั่วโลก จึงสามารถบอกค่าฝุ่น และค่าอากาศต่างๆ ได้แบบ Real Time กันเลย นอกจากนี้ยังสามารถพยากรณ์ไปได้อีก 7 วันข้างหน้า ว่าสภาพอากาศและฝุ่นนั้น จะเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะบอกข้อมูลของพื้นที่ ที่ตั้งอยู่ของเราในปัจจุบัน และสามารถข้ามไปดูประเทศอื่นๆ ได้ทั่วโลกเลยด้วย การบอกค่านั้น จะมีบอกทั้งค่าฝุ่น ความรุนแรงของฝุ่น สภาพอากาศต่างๆ ที่สำคัญคือแอพนี้ไม่มีโฆษณามากวนใจ สามารถโหลดมาใช้งานได้อย่างฟรีๆ
จากการใช้งาน คิดว่าแอพนี้ค่อนข้างบอกข้อมูล และรายละเอียดที่ครบดีมากเลย ตัวแอพจะใช้งานได้ง่าย กดเข้าไปแล้วรู้ได้เลย ว่าพื้นที่ที่อยู่นั้นมีค่า AQI เท่าไหร่ พร้อมทั้งบอกล่วงหน้าไปอีก 2 วัน และบอกอุณหภูมิของอากาศนั้นๆ อยู่ด้วย ในตัวแอพนั้นยังบอกถึงอันดับประเทศที่มีค่าฝุ่นเยอะที่สุด แบบวันต่อวัน ช่วยในเรื่องของการวางแผนไปเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลย มีการเก็บสถิติตั้งแต่ค่าฝุ่นที่บ้าน ที่ทำงาน ไปจนถึงสภาพฝุ่นภายนอก โดยรวมแล้วแอพนี้มีความครบมากที่สุดแล้ว แนะนำให้โหลดติดเครื่องไว้เลย จะตั้งค่าให้แจ้งเตือนตลอดเวลาก็ได้นะ เผื่อว่าจะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงต่อฝุ่นควันเยอะๆ
2. Air4Thai
แอพนี้เป็นแอพเช็คค่าฝุ่น PM 2.5 ของไทยเรานี่เอง ที่ทำขึ้นโดยกรมควบคุมมลพิษ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศของประเทศไทยโดยเฉพาะ ภาพในแอพนั้น จะมีการรายงานอยู่ 2 แบบ นั่นก็คือบอกสถานการณ์คุณภาพอากาศโดยรวม และรายงานสถานการณ์ PM 2.5 ซึ่งการรายงานแบบนี้ จะมีการบอกถึงค่าฝุ่นของวันนี้ และพยากรณ์ไปอีก 3 วันรวมถึงมีการบอกกราฟ และข้อมูลสถานี และแหล่งที่ ส่วนอีกแบบนึงก็จะมีการบอกที่คล้ายกัน แต่จะมีการเพิ่มค่าฝุ่น PM10, O3, NO2, CO และ SO2 ด้วย รวมไปถึงกราฟแสดงผลข้อมูลแบบวันต่อวัน
จากการใช้งานแอพนี้ ก็ค่อนข้างบอกได้ตรง โดยจะมีการอัพเดทค่าเป็นรายชั่วโมง และจะสรุปมาให้เป็นสถิติไว้ พร้อมกับการดูสภาพฝุ่นได้ทั่วประเทศ ด้วยการกดดูแผนที่ หรือจะดูแบบแยกย่อยลงมา เปนระดับภาค และสถานที่ได้ด้วย เท่าที่ลองดูคิดว่าสถานีที่วัดค่านั้น อาจจะยังไม่ครอบคลุมพื้นที่มากนัก จึงทำให้บางพื้นที่อาจจะไม่รู้ค่าจริงของฝุ่น จะรู้ก็เพียงบริเวณใกล้เคียง ที่เป็นสถานีหลัก ยิ่งเป็นต่างจังหวัดที่ไกลมากๆ ก็อาจจะมีบอกแค่เพียงจุดเดียว แต่กระจุกส่วนใหญ่จะมารวมอยู่ที่กรุงเทพฯ
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Air4Thai
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Air4Thai
3. Air Quality : Real Time AQI
ขึ้นชื่อว่า Real Time ก็แน่นอนว่าแอพตัวนี้ สามารถบอกค่าฝุ่นได้แบบตลิดเวลา ไม่ได้อัพเดทเป็นรายชั่วโมงหรือรายวัน แต่จะบอกค่าโดยทันทีที่ใช้งานเลย ว่าตอนนี้พื้นที่ที่อยู่มีค่าฝุ่นเท่าไหร่บ้าง และที่สามารถทำแบบนี้ได้ ก็เนื่องจากทางแอพ ได้มีฐานข้อมูลจากสถานีวัดค่ามากกว่า 10000 สถานีในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ทั้งเอเชียและยุโรป และนอกจากจะเช็ค PM 2.5 ได้แล้วยังเช็ค PM 10 ได้อีกด้วย แต่พื้นที่ในประเทศไทยนั้น อาจจะยังไม่ได้ครอบคลุมในหลายๆ ที่ แต่ความละเอียดในการบอกข้อมูลแอพนี้จะบอกได้ดี และค่อนข้างครบเลย พร้อมทั้งมีการอัพเดท และเทียบให้ดูด้วยว่าระหว่างวันนั้น มีค่าฝุ่นขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน
จากการใช้งานจริง พบว่าแอพนี้บอกข้อมูลได้ดีจริง แต่อาจจะยังไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่จริงๆ จะบอกเป็นพื้นที่หลักๆ แทน แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ นอกจากนี้ยังมีการบอกถึงอุณหภูมิ และแรงลม พร้อมทั้งมีการบอกว่าระดับไหนถึงจะอันตราย เท่าที่ลองใช้คิดว่าแอพนี้ จะบอกข้อมูลเชิงลึกมากกว่า อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ หรือดูเพื่อนำรายละเอียดไปใช้งาน ถ้าดูแบบทั่วไปอาจจะเข้าใจได้ยาก หน้า UI ก็ค่อนข้างมองออกยากด้วย แต่ถ้าดูผ่านใน Map ของแอพก็พอได้อยู่เหมือนกัน แอพนี้ใน iOS ยังไม่มีให้ใช้นะ
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Air Quality : Real Time AQI
- iOS : ยังไม่เปิดให้ใช้งาน
4. Plume Labs: Air Quality App
สำหรับแอพจาก Plume Labs นั้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอพที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีข้อมูลที่เยอะ และละเอียดดีมาก ซึ่งจะสามารถดูได้ตลอดเวลา หรือจะดูล่วงหน้าได้มากถึง 7 วัน นอกจากจะบอกค่าฝุ่น PM 2.5 แล้ว แอพนี้มีการบอกค่า NO2, PM 10 และ O3 ด้วย โดยค่าที่มีออกมานั้นค่อนข้างตรงเลย ที่น่าสนใจคือ ภายในแอพจะมีการแนะนำ ว่าเราควรไปวิ่ง ปั่นจักรยาน ความปลอดภัยต่อเด็ก สุขภาพ และการออกไปข้าง ถ้าสภาพฝุ่นค่อนข้างอันตราย แอพนี้ก็จะเตือนว่าไม่ควรออกไป พร้อมทั้งบอกอุณหภูมิ แรงลม และความชื้นของสภาพอากาศด้วย นอกจากดูเป็นรายวันแล้วยังสามารถบอกเป็นรายเดือนได้อีกด้วย
จากการใช้งานคิดว่าแอพนี้น่าสนใจดีมาก ทั้งการใช้งานที่ดูออกง่าย เพราะจะขึ้นค่าฝุ่น AQI ขึ้นมาให้ทันที โดยตอนแรกนั้นแอพจะมีให้เข้าสู่ระบบ หรือจะเข้าแบบ As Quest ก็ได้ เมื่อกดเข้ามาแล้วก็ใช้งานได้เลย ส่วนการดูค่าต่างๆ ก็มีความแม่นยำ เลือกเวลาดูระหว่างวันได้ ว่าอยากรู้เวลาไหนพร้อมทั้งเก็บสถิติเป็นรายปี ว่าที่ที่เราอยู่นั้น มีค่าฝุ่นต่ำสุดเท่าไหร่ และค่าเฉลี่ยเท่าไหร่ ที่น่าสนใจและน่าโหลดมาใช้งาน ก็คงเป็นเรื่องของการเตือน เวลาจะออกไปทำกิจกรรมข้างนอกนี่แหละ ที่เป็นตัวช่วยอย่างมาก ในการตัดสินใจว่าจะออกไปวิ่ง ไปออกกำลังกายข้างนอกบ้านดีหรือไม่ เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือคนที่ต้องออกไปข้างนอกอยู่บ่อยๆ โหลดมาติดเครื่องไว้ รับรองว่ามีประโยชน์มากๆ
5. Air Matters
แอพสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำนั้น เป็นแอพที่สามารถดูค่าฝุ่นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งนอกจากจะดูค่าฝุ่นได้แบบทั่วไปแล้ว ยังสามารถดูได้ว่าสามารถออกไปทำกิจกรรมด้านนอกได้หรือไม่ จะคล้ายๆ กันกับแอพ Plume Labs แต่จะต่างกันตรงที่ มีบอกด้วยว่าควรใส่หน้ากากหรือไม่ หรือว่าไม่ต้องใส่ก็ได้ พร้อมทั้งมีบอกค่าความชื้น อุณหภูมิ และแรงลม ดูได้แบบรายชั่วโมง และสามารถดูล่วงหน้าได้ 7 วัน ดูรายเดือน มีการบอกค่าฐานข้อมูลค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดอาจจะไม่แน่นเท่าไหร่นัก จะมีอยู่หลักๆ ก็ตรงหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ พัทยา กรุงเทพและปริมณฑล แต่ต่างจังหวัดก็จะมีอยู่บ้างในเมือง
จากการใช้งาน คิดว่าแอพนี้ก็มีการบอกค่าที่ดีเลย ค่าฝุ่นพื้นฐานที่ควรบอกก็มีบอกให้ครบ และก็มีการเตือนถึงเรื่องการใส่หน้ากาก คิดว่าอันนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกัน Covid-19 กันอยู่แล้ว แต่ถ้าไปเดินในที่ที่ไม่ชุกชุมมาก อาจจะเผลอลืมใส่ แต่ที่ตรงนั้นมีค่าฝุ่นสูง ก็สามารถดูได้ว่าควรใส่หรือไม่ หรือว่าควรออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นหรือไม่ จะดูเป็นข้อมูลปกติ หรือจะดูเป็น Map ด้วยก็ได้ และยังมีการบอกอันดับว่าที่ไหนมีสภาพอากาศดีที่สุด หรือที่ไหนที่มีค่าฝุ่นเยอะมากที่สุด เผื่อคนที่ต้องไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องฟอกอกาศได้ด้วย โดยในแอพนั้นจะสามารถเชื่อมได้อยู่ 3 ยี่ห้อก็คือ Phillips, Laser Egg และ 352 M25 ของจีนได้ ถ้าใครใช้งานเครื่องฟอกอากาศเหล่านี้อยู่ จะโหลดแอพนี้มาเชื่อมต่อ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Air Matters
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Air Matters
แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็นแอพที่สามารถเช็คค่าฝุ่น PM 2.5 ได้ ซึ่งบางแอพอาจจะมีการอัพเดทค่าที่ต่างกันไป ทั้งการอัพเดทแบบรายชั่วโมง หรือแบบ Real Time แต่ส่วนตัวคิดว่าการอัพเดทแบบ Real Time นั้นดีกว่า เนื่องจากบางคนอาจจะต้องไปสถานที่ต่างๆ บ่อย ไม่ได้ทำงานอยู่กับที่ ก็เหมาะสมที่ควรจะใช้งานแอพที่สามารถอัพเดทได้รวดเร็ว และมีข้อมูลที่แม่นยำ หรือถ้าไม่ใช่คนที่ไม่ได้ไปไหน ทำงานอยู่ในออฟฟิศปกติ ก็อาจจะใช้แอพ ที่มีการอัพเดทแบบรายชั่วโมงก็ได้ อยู่ที่ว่าอยากใช้งานแบบไหน และอันไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะมาบอกกันเรื่อยๆ เลยนะครับ