5 วิธีเช็คเบอร์แปลกว่าเป็นของใคร เบอร์แปลกที่โทรมาและตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ง่ายๆ ในปี 2023
ช่วงนี้หลายคนน่าจะได้ยินข่าวการโดนหลอกโอนเงิน หรือว่าโดนดูดเงินไปจากมือถือ ด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกให้โหลดแอพ การโทรมาหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง เรียกได้ว่าถ้าใครตามไม่ทันและหลงไปเชื่อแค่เพียงไม่กี่นาที ก็อาจจะสูญเสียเงินหมดตัวได้เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเราจะระวังตัวดีแค่ไหนก็ตาม แต่บางครั้งเบอร์มือถือของเราอาจจะโดนสุ่มโทรมาหลอกได้เหมือนกัน ดังนั้นหากมีเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา แนะนำว่าอย่ารับและให้ตรวจสอบก่อนว่าเบอร์เหล่านั้นเป็นเบอร์จากที่ไหน เป็นของใคร และตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ โดยทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ Anti-Fake News Center Thailand และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้บอกวิธีการรับมือกับเบอร์แปลกๆ เหล่านี้เอาไว้ด้วย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมารวม 5 วิธีเช็คเบอร์แปลกว่าเป็นของใคร เบอร์แปลกที่โทรมา และตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ง่ายๆ ในปี 2023 ว่ามีวิธีไหนบ้าง
5 วิธีเช็คเบอร์แปลกว่าเป็นของใคร ตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ในปี 2023
สำหรับวิธีเช็คพวกเบอร์แปลกๆ ที่โทรมาหาเราว่าเป็นเบอร์ของใครนั้น ความจริงแล้วทางค่ายมือถือของแต่ละค่ายจะสามารถเช็คได้เพียงว่าเป็นเบอร์ของค่ายไหนที่โทรมาเท่านั้น ไม่สามารถเช็คได้ว่าเป็นชื่อของใคร ทำให้ต้องใช้วิธีอื่นๆ ในการค้นหาเข้ามาแทน ซึ่งทาง Anti-Fake News Center Thailand และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้มีการแนะนำ 3-4 วิธีในการเช็คเบอร์โทรแปลกๆ เอาไว้ แต่เราจะมาเสริมให้อีก 1 วิธีแบบง่ายๆ งานได้จริงแน่นอน หรือถ้าใครอยากจะเช็คผ่านเครือข่ายของตัวเองในเบื้องต้นก่อนก็ได้ด้วยการกดเบอร์ลัดดังนี้
- AIS: กด *727*เบอร์ที่ต้องการเช็ค# โทรออก
- true: กด *933*เบอร์ที่ต้องการเช็ค# โทรออก
- dtac: กด *102*เบอร์ที่ต้องการเช็ค# โทรออก หรือ กด *812*เบอร์ที่ต้องการเช็ค# โทรออก
- NT Mobile (TOT): กด *153*เบอร์ที่ต้องการเช็ค# โทรออก
วิธีเช็คเบอร์ปลายทาง Dtac, AIS, True และ TOT เช็คฟรี! ทุกเครือข่าย
ซึ่งการเช็คเบื้องต้นด้านบนนี้ จะเป็นการเช็คแค่ว่าเบอร์นั้นเป็นของเครือข่ายไหนที่โทรมาเท่านั้น แต่ถ้าต้องการเช็คว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพหรือเบอร์ที่โทรมาหลอกลวงตามที่ Anti-Fake News Center Thailand และสำนักงานตำรวจแห่งชาติบอกเอาไว้ จะมีวิธีการค้นหาและเช็คจากแหล่ง Social Media เพื่อค้นหาว่าเป็นมิจฉาชีพหรือพวกโทรมาหลอกให้ทำธุรกรรมการเงิน และขโมยข้อมูลหรือไม่ด้วยวิธีง่ายๆ 5 วิธีดังนี้
1. เช็คเบอร์แปลกจาก Google
วิธีแรกนี้จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเว็บ Google กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยการค้นหาก็เพียงแค่พิมพ์เบอร์แปลกที่โทรมาหาเข้าไปเลย ถ้าหากว่าเป็นเบอร์ทั่วไปก็อาจจะขึ้นข้อมูลเบอร์ปกติ หรือว่าไม่มีข้อมูลว่าเป็นเบอร์หลอกลวง แต่ถ้าหากเป็นเบอร์มิจฉาชีพ หรือมีใครที่เคยโดนเบอร์นี้โทรมาหลอกก่อนแล้ว ก็จะมีขึ้นในหน้าเว็บ junkcall หรือมีข้อมูลที่คนอื่นโดนหลอกมาบอกเอาไว้ แต่ต้องบอกก่อนว่าการค้นหาบน Google นั้นค่อนข้างกว้างมาก อาจจะค้นหาแล้วไม่เจอว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ถ้าไม่เจอให้ลองวิธีอื่นแทน
2. เช็คเบอร์แปลกบน Facebook
ช่องทาง Social Media ที่สามารถค้นหาเบอร์แปลกและเบอร์หลอกลวงได้ดีขึ้นมาหน่อยก็คือ Facebook ด้วยการพิมพ์เบอร์เข้าไปในช่องค้นหา หรืออาจจะพิมพ์เบอร์แล้วตามด้วยคำว่ามิจฉาชีพ (เช่น 08X-XXX-XXXX มิจฉาชีพ) เพื่อเช็คว่ามีคนเคยโดนหลอกมาก่อนหน้านี้ และมาโพสต์เตือนเอาไว้ก่อนแล้วหรือไม่ เพราะเบอร์ของพวกที่เป็นมิจฉาชีพมักจะโทรหาเบอร์อื่นๆ ก่อนหน้านี้แล้ว หากค้นหาแล้วเจอคนที่เคยโดนเหมือนกันก็ให้รีบบล็อคทันที
3. เช็คเบอร์แปลกผ่านแอพ LINE
การเช็คเบอร์ผ่านแอพ LINE ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้เหมือนกัน แต่จะเป็นการค้นหาเพื่อดูว่าเบอร์แปลกที่โทรมาเหล่านั้น เป็นเบอร์ที่มีตัวตนจริงหรือว่าเป็นเบอร์ของคนที่เรารู้จักหรือไม่เท่านั้น ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพ หรือว่าเป็นเบอร์ก่อกวนหรือไม่ เพราะถ้ากดค้นหาไปแล้วมีหน้าอวตารเหมือนมีตัวตนจริงๆ ก็ยิ่งไม่ควรกดแอดเพื่อนไปถามอยู่แล้ว เรียกว่าเอาไว้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อดูว่าเบอร์ที่โทรมามีตัวตนหรือไม่ก็พอ โดยการค้นหาให้เข้าไปที่หน้าแอดเพื่อน และพิมพ์เบอร์แปลกเข้าไปเพื่อค้นหาได้เลย
4. เช็คเบอร์แปลกผ่านแอพ Whoscall
แอพที่ดีและเช็คพวกเบอร์แปลกได้ชัวร์มากที่สุดก็คือ Whoscall (iOS, Android) เป็นแอพที่โหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ โดยแอพนี้เราสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ติดตั้งเลย เพราะเมื่อติดตั้งไปแล้วมีเบอร์แปลกโทรมา ก็จะมีการบอกทันทีว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ของอะไร โทรมาจากที่ไหน และเป็นเพวกหลอกลวงไม่ควรรับหรือไม่ หรือถ้าเราอยากจะรู้ว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์มิจฉาชีพหรือไม่ ก็เพียงกดเข้าไปในแอพ และกดในช่องค้นหา จากนั้นพิมพ์เบอร์ที่ต้องการเช็คลงไปก็จะมีข้อมูลขึ้นมาให้แล้ว ว่าเบอร์เหล่านั้นเป็นเบอร์ของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ หรือเบอร์หลอกลวงหรือไม่ แนะนำว่าใช้แอพนี้แอพเดียวจบทุกปัญหา และเช็คได้ง่ายที่สุดแล้วจากทุกวิธีที่บอกไป
รีวิวแอพ Whoscall เช็คเบอร์ก่อนรับสาย แอพสารพัดประโยชน์ที่ต้องมีติดมือถือ!
5. เช็คเบอร์ แปลกจากเว็บ blacklistseller
อีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจก็คือเว็บ blacklistseller ที่เป็นเว็บรวมคนโกงเอาไว้จากหลายๆ คนที่เคยโดนมาก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวกหลอกให้โอนเงินเพื่อซื้อสินค้าต่างๆ อาจจะไม่ใช่พวกคอลเซ็นเตอร์โดยตรง แต่ก็ยังพอช่วยเตือนก่อนโอนเงินเพื่อซื้อของได้ดีมากๆ โดยเฉพาะคนที่ซื้อ-ขายของ และต้องโอนเงินผ่านช่องทาง true wallet หรือมีเลขบัญชีระบุเอาไว้ โดยให้เราเข้าไปยังเว็บ blacklistseller และเลือก ตรวจสอบบัญชี/ผู้ขาย จากนั้นพิมพ์เลขบัญชี/ เบอร์ หรือชื่ออย่างใดอย่างหนึ่งก็พอ จากนั้นก็กดค้นหา ถ้าเป็นพวกมิจฉาชีพกะมีข้อมูลเตือนขึ้นมาให้ทั้งหมดเลย ว่าเคยโกงใครไปบ้างแล้ว
เตือนตัวเองก่อนให้ข้อมูล หรือการสังเกตพวกเบอร์หลอกลวง
สำหรับคนที่ไม่เคยโดนพวกมิจฉาชีพโทรมาก่อกวน หรือว่ายังไม่เคยโดนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โทรมาหาเลย ความจริงแล้วก็ยังมีวิธีสังเกตจากเบอร์ที่โทรมาหาเราได้ง่ายๆ เหมือนกัน อย่างแรกเลยก็คือคนที่โทรมาหาด้วยเบอร์แปลกเหล่านั้น มักจะอ้างว่าโทรมาจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่มีอยู่จริงแบบน่าเชื่อถือ แต่ถ้าเราไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับหน่วยงานนั้น หรือไม่ได้เกี่ยวข้องก็นึกไว้เสอมเลยว่ามั่วแน่นอน หรือถ้ามีคนที่โทรมาพร้อมบอกชื่อนามสกุล แบบจู่ๆ ก็รู้ข้อมูลเยอะจังไม่มีปี่มีขลุ่ย อันนี้ก็อาจจะเป็นมิจฉาชีพได้ด้วย
โดยเฉพาะพวกที่โทรมาขอข้อมูลอย่างที่อยู่ เลขบัญชีธนคาร หมายเลขบัตรประชาชน ถ้าเจอใครโทรมาขอก็ให้รีบวางไปก่อนได้เลยไม่ต้องคุยให้เสียเวลา รวมไปถึง SMS ที่ส่งมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างเช่นเงินกู้ หรือ SMS ที่แนบลิงก์มาให้กด อันนี้ก็ห้ามกดเด็ดขาดถ้ายังไม่มั่นใจว่าเป็นของธนาคารหรือเครือข่ายส่งมาให้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังสังเกตเบอร์ในเบื้องต้นได้ด้วย เพราะถ้าเป็นเบอร์จากประเทศไทยจะขึ้นต้นด้วย 08.., 09.. หรือ +66 ที่เป็นรหัสเบอร์ของประเทศ แต่ถ้าขึ้นต้นด้วยเลขแปลกๆ มากกว่า 10 ตัวก็ไม่ต้องรับเพราะเป็นเบอร์จากต่างประเทศที่โทรมาหลอกแน่ๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีเช็คพวกเบอร์แปลกว่าเป็นของใคร เบอร์แปลกที่โทรมาและตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ง่ายๆ ในปี 2023 ทั้ง 5 วิธีที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ พร้อมกับวิธีสังเกตพวกมิจฉาชีพที่โทรมาหลอกได้ง่ายๆ ก่อนจะรับสายหรือพูดคุย เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองในเบื้องต้น ที่สำคัญก็คืออย่ากดเว็บมั่ว โหลดแอพมั่ว หรือว่าแอดไลน์ใครมั่วๆ เพราะความไม่ตั้งใจของเราเพียงครั้งเดียว ก็อาจทำให้สูญเสียได้มหาศาลเหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะให้ข้อมูลใคร ก่อนจะรับสาย หรือก่อนจะโหลดอะไรให้เช็คให้ดีก่อนว่าเป็นของจริงหรือไม่อย่างไร หรือถ้าให้ดีก็ให้ติดต่อหน่วยงานจริงเพื่อสอบถามได้เลย