รีวิวแอพ Whoscall เช็คเบอร์ก่อนรับสาย แอพสารพัดประโยชน์ที่ต้องมีติดมือถือในปี 2020!

แอพชื่อดังที่สามารถ จัดการเบอร์โทรให้มือถือได้ ที่คนใช้งานกันเยอะมากอย่างแอพ Whoscall ที่สามารถรู้เบอร์ที่โทรเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นในนามบริษัท หรือนามบุลคล (บางเบอร์) ก็จะรู้ได้ในทันทีเลย เช่น ประกัน โอเปอร์เรเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายในบริษัทใหญ่ๆ แถมยังสามารถบล็อคเบอร์ และข้อความได้อีกด้วย

ในตอนนี้ ที่ทุกเบอร์โทร จะต้องลงทะเบียน ด้วยบัตรประชาชนของตัวเองทุกเบอร์ ไม่สามารถใช้เบอร์เถื่อนได้เหมือนในสมัยก่อนแล้ว ซึ่งการลงเบียนนี้เอง ทำให้เราสามารถเข้าถึงเบอร์แต่ละเบอร์ และตรวจสอบตัวตนได้มากขึ้น จึงมีการทำแอปพลิเคชัน ที่สามารถเข้าถึงเบอร์สาธารณะ เบอร์ของบริษัทใหญ่ๆ และเบอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนชื่อรายบุลคล เบอร์แปลก เพื่อตอบโจทย์การตัดความน่ารำคาญ ของผู้ใช้มือถือได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเลือกบล็อค ตัดสายทิ้ง เบอร์ที่ไม่ต้องการรับได้ และวันนี้เราก็จะมารีวิว แอพจัดการการโทรเข้า – ออก ที่เป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้คือ Whoscall ที่เป็นแอพสารพัดประโยชน์เลยก็ว่าได้ แถมยังใช้งานได้อย่างฟรีๆ อีกต่างหาก ไปดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

Whoscall คืออะไร

แอพนี้ เป็นแอพที่ทำขึ้นมาโดยบริษัท Gogolook จากประเทศไต้หวัน มีการดาวน์โหลดมากกว่า 70 ล้านเครื่อง และมีฐานข้อมูลเบอร์มมือถือทั่วโลก มากกว่า 1 พันล้านหมายเลข และยังมีการอัพเดทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และด้วยฐานข้อมูลที่เยอะมากนี่เอง จึงทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเบอร์ต้นทางนั้น เป็นเบอร์จากใคร หรือบริษัทไหนโทรเข้ามา ถึงแม้ว่าเบอร์นั้นจะไม่ได้ถูกบันทึก ไว้ในรายชื่อของมือถือ แอพนี้ก็จะโชว์ขึ้นมาให้รู้อยู่ดีว่าเป็นใคร เมื่อรู้แล้ว เราจะบล็อค หรือเลือกไม่รับสายนี้ก็ได้ ซึ่งคุณสมบัติการทำงานหลักๆ เลยก็คือ โชว์เบอร์ที่ไม่รู้จัก แบบออฟไลน์ บล็อกเบอร์สแปม ค้นหาเบอร์ปลายทาง และบล็อคข้อความ

ลักษณะการทำงานก็คือ เมื่อมีสายโทรเข้ามายังมือถือของเรา แอพนี้ก็จะขึ้นเตือน พร้อมกับสายที่โทรมาเลย โดยจะโชว์ขึ้นมาบนหน้าจอทันที เช่น ถ้าเป็นสายที่ไม่ได้บันทึกในรายชื่อไว้ เมื่อโทรเข้ามาแอพก็บอกเป็นรายชื่ออย่าง ไลน์แมน Grab ฟู้ดแพนด้า บริษัทต่างๆ เบอร์ประกันบัตรเครดิต เรียกได้ว่าถ้าเบอร์นั้น อยู่ในฐานข้อมูลก็จะสามารถบอกได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังบอกเบอร์ SMS ต้นทางได้ด้วยนะ นอกจากนี้ยังเลือกบล็อคเบอร์ หรือค้นหาเบอร์ในแอพได้ด้วย ว่าเป็นเบอร์อะไร จากเครือข่ายไหนก็ได้ แต่ต้องอัพเดทฐานข้อมูลเองในแอพเรื่อยๆ ถ้าสมัครพรีเมียมก็จะปิดโฆษณา ออโต้อัพเดทได้เลย ส่วนเรื่องระบบ ที่รองรับนั้น จะสามารถใช้งานได้ทั้ง iOS, Android และ Windows Phone โหลดใช้งานได้ฟรี

การตั้งค่าเริ่มต้นของแอพ Whoscall

หลังจากโหลดและติดตั้งเรียบร้อยแล้ว แอพจะให้กดเริ่มและยอมรับกฎต่างๆ ของแอพ สุดท้ายแล้วต้องกดตั้งค่า อนุญาตให้แอพเป็นแอพเริ่มต้น สำหรับการกรีนรายชื่อผู้โทรเข้ามา อันนี้ต้องกดยอมรับเท่านั้นนะ ถ้าข้ามจะไม่สามารถใช้งานได้ หลังจากนั้นถึงจะเลือกได้ว่า จะให้เป็นแอพเริ่มต้นแบบไหน มีให้เลือก 2 อย่างคือ โทรศัพท์ และจากตัวแอพ (สามารถเข้าถึงประวัติ และ SMS ได้) จะเลือกอันไหนก็ได้ หลังจากนั้น แอพจะให้ทำการ Login เพื่อเข้าสู่ระบบ โดยจะสามารถ Login ผ่าน Facebook หรือ Google (จะเข้าสู่ระบบ หรือไม่เข้าก็ได้)

ฟีเจอร์ในแอพ Whoscall

หลังจากตั้งค่าเรียบร้อยหมดแล้ว หน้าแรกในแอพจะเป็นหน้าเริ่มต้น ก็คือหน้าของ Call logs หรือหน้า Recent (บันทึกล่าสุด) ของการโทรเข้า – ออกจากมือถือเราทั้งหมด โดยหน้านี้จะเก็บสถิติการโทรของเราด้วย เมื่อกดตรงไอคอนรูปเลขหมาย ตรงขวาล่าง จะแสดงถึงเบอร์ที่โทรมาบ่อยให้เรารู้ได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าการแสดงว่า จะให้แสดงแค่หมายเลขโทรเข้า โทรออก หรือเบอร์ที่ไม่ได้รับสายได้ แถบบนสุดจะเป็นฟีเจอร์ค้นหา กับลบประวัติการโทร ซึ่งในหน้านี้เราสามารถกดบล็อครายชื่อ ที่ไม่อยากรับสายได้ในทันทีด้วย โดยการกดค้างที่รายชื่อ แล้วเลือกเมนู “บล็อค”

ส่วนหน้าที่สอง จะเป็นหน้าของข้อความ (SMS) โดยหน้านี้จะบอกรายชื่อ ของข้อความที่ส่งมา และส่งออกไปว่าส่งถึงใครบ้าง หน้านี้จะแค่เป็นการบอกการรับ – ส่งข้อความแค่นั้น ไม่ได้มีฟีเจอร์นอกเหนือจากการดูในมือถือทั่วไป สามารถกดเขียนข้อความได้ในหน้านี้ด้วย แถบบนสุดจะเป็นฟีเจอร์ค้นหา และมีปุ่มตัวเลือกเมนู Mark all as read กับ Edit

หน้าที่สามจะเป็นหน้าของรายชื่อ (Contacts) ซึ่งก็จะบอกรายชื่อในมือถือ ที่เราได้ทำการบันทึกไว้ทั้งหมด หน้านี้จะเชื่อมต่อกับ รายชื่อในมือถือเลย มีปุ่มเพิ่มรายชื่อ เมื่อกดเพิ่มรายชื่อ ก็จะย้ายไปหน้าของมือถือที่ใช้อยู่ และกดเพิ่มเข้าไปในมือถือได้เหมือนกัน มีช่องค้นหาด้านบน จะพิมพ์หรือใช้เสียงในการค้นหาก็ได้ ส่วนแถบบนสุดจะเป็นฟีเจอร์ค้นหา กับตัวเลือกรายการโปรดของรายชื่อ

ส่วนหน้าที่สี่ จะเป็นหน้าสุดท้าย เป็นหน้าอัพเกรดเป็นเวอร์ชัน พรีเมียม สามารถทดลองใช้ได้ 7 วัน หรือถ้าจ่ายเงินซื้อ จะมี 3 แพ็กเกจให้เลือก คือ 30 บาท ต่อเดือน / 177 บาท ต่อครึ่งปี และ 350 บาท ต่อปี (ลด15%) ซึ่งการอัพเกรดเวอร์ชันนี้ จะสามารถปิดโฆษณาได้ทั้งหมด อัพเดทฐานข้อมูลเบอร์ รายชื่อในแอพได้โดยอัตโนมัติ ขยายฐานข้อมูลหมายเลขได้มากกว่าเดิม เพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น

ส่วนตัวเลือกเมนูหลัก (ด้านบนซ้าย) จะมีเมนูให้เลือกอยู่ 8 เมนู เมนูแรกก็คือ รายชื่อบล็อค โดยเมนูนี้จะเป็นการตั้งค่า การบล็อคเบอร์ของมือถือทั้งหมด เมื่อเข้ามายังหน้านี้ จะมีทั้งประวัติการบล็อคทั้งการโทร และข้อความ และรายอนุญาตเบอร์ที่ตั้งค่าไว้ ว่าจะสามารถรับได้ปกติ ส่วนที่น่าสนใจก็คือ ฟีเจอร์ในการบล็อคเบอร์ ที่จะมีตัวเลือกให้หลายรูปแบบ ได้แก่ บล็อคเบอร์ที่ไม่แสดงหมายเลข บล็อคเบอร์ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ และบล็อคเบอร์ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเพิ่มการบล็อคแบบละเอียดมากขึ้นได้อีก ด้วยการกดปุ่มบวก ตรงมุมขวาล่าง เมื่อกดแล้ว จะมีเมนูขึ้นมาให้เลือกอีกครั้งได้แก่ บล็อคด้วยการใส่หมายเลข บล็อคจากประวัติเบอร์ล่าสุด บล็อคจากข้อความล่าสุด บล็อคจากเบอร์ในมือถือเราเอง และบล็อคจากเบอร์ที่ขึ้นต้น (เช่น 082xxx, 083xxx) เมนูพวกนี้จะทำการบล็อคให้เลย ถ้ากดไปแล้วเบอร์ที่โทรมา จะไม่สามารถโทรหาได้อีกเลย ง่ายและสะดวกมากๆ

ส่วนเมนูถัดมาจะเป็น การระบุเบอร์แบบออฟไลน์ อันนี้ต้องอัพเดทเองเรื่อยๆ นะ แอพจะเตือนขึ้นมาให้อัพ แต่ถ้าอัพเกรดเป็นพรีเมียมแล้ว จะอัพเดทได้โดยอัตโนมัติ และเมนูต่อมาก็จะเป็นการรายงานหมายเลข จะสามารถเข้าไปใช้งานได้ ก็ต่อเมื่อเราได้ทำการ Login แล้วเท่านั้น

ฟีเจอร์อีกตัวที่น่าสนใจ ในเมนูหลักก็คือ การทำ Whoscall Card ที่เป็นฟีเจอร์เหมือนเป็นการ์ดแนะนำตัวออนไลน์ของตัวเอง เช่นถ้าเราลงทะเบียนแนะนำตัวเองเอาไว้ว่า specphone เว็บที่ให้ข่าวสารมือถือ เมื่อโทรไปหาปลายสาย หรือเวลาใครจะโทรมาแล้วใช้แอพนี้ เหมือนกัน ก็จะขึ้นชื่อที่เราตั้งไว้บนหน้าจอเลย เหมาะกับผู้ที่ทำธุรกิจ หรือขนส่งที่ต้องโทรไปหาลูกค้าเป็นประจำ ส่วนเมนูที่เหลือจะเป็นเมนูรอง จะเป็นการบอกข่าวสารการอัพเดท และการตั้งค่าทั่วไป ส่วนสองเมนูสุดท้าย จะเป็นศูนย์ช่วยเหลือ และส่งความคิดเห็น กับข้อมูลเกี่ยวกับเวอร์ชันของแอพ และข้อมูลทั่วไป เฉยๆ ไม่ได้ให้ตั้งค่าหรือทำอะไรได้

สรุป

จากการใช้งานมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว พบว่าแอพ Whoscall สามารถใช้งานได้จริง และค่อนข้างแม่นยำ และปลอดภัย ในการบอกรายชื่อขึ้นมาเตือน เช่น เบอร์จากธนาคาร จากโอเปอร์เรเตอร์ จากขนส่งของ ส่งอาหาร ขึ้นเตือนหมดทุกอย่าง แต่ในกรณีที่เป็นตัวบุคคล อันนี้บางเบอร์จะไม่ได้ขึ้น ว่าเป็นใคร แต่จะขึ้นเป็นเครือข่ายแทน ซึ่งต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติมไปอีก แต่ในตอนนี้เท่าที่มีอยู่ก็ถือว่าค่อนข้างครบ และมีประโยชน์มากๆ ควรมีติดมือถือเอาไว้เลย และถ้ามีเรื่องอะไรน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ