สำหรับคนที่มีแผนจะเปลี่ยนไปใช้งาน iPhone 12 รวมไปถึงพวกรุ่น iPhone 12 mini, รุ่น Pro และรุ่น Pro Max นั้น รอบนี้ดูเหมือนว่าอาจจะต้องเตรียมหาซื้ออุปกรณ์เสริมพอสมควรทีเดียวครับ เพื่อให้สามารถใช้งานประสิทธิภาพเครื่องจากฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างเต็มที่ แถมรอบนี้ Apple ยังเลือกตัดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ และก็หูฟัง EarPods ออกจากในกล่องอีกด้วย ดังนั้น เรามาดูกันครับว่า 5 อุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนมาใช้ iPhone รุ่นใหม่จะมีอะไรบ้าง โดยเบื้องต้นนี้จะอิงจากสินค้าของทาง Apple เองก่อนนะครับ
1. เคสที่รองรับ MagSafe ของ iPhone 12 | 12 Pro | iPhone 12 mini| iPhone 12 Pro Max
ฟังก์ชันเก่าที่ Apple นำมาปัดฝุ่นแล้วจับใส่มาใน iPhone รุ่นใหม่ประจำปีนี้ก็คือการนำแม่เหล็ก MagSafe มาใส่ในฝาหลัง เพื่อทำให้สามารถยึดติดเข้ากับแท่นชาร์จไร้สายได้ดีขึ้น ซึ่ง Apple เองก็มีเคสซิลิโคนและเคสใสที่ระบุว่ารองรับการใช้งาน MagSafe ได้แบบชัวร์ ๆ ออกมาด้วย โดยจะมีการแบ่งกลุ่มเคสดังนี้ครับ
- เคส iPhone 12 และ 12 Pro
- เคส iPhone 12 mini
- เคส iPhone 12 Pro Max
ซึ่งทุกรุ่นจะมีทั้งแบบที่เป็นซิลิโคนสี ๆ ผิวนุ่ม ภายในเป็นใยไมโครไฟเบอร์ ส่วนอีกแบบก็จะเป็นเคสโพลีคาร์บอเนตใส ทุกรุ่นราคาเท่ากันคือ $49 คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,600 บาท ตอนนี้ยังไม่เปิดให้สั่งซื้อทั้งในสหรัฐฯ รวมถึงในไทยด้วย
ส่วนซองหนังใส่บัตรที่นำมาแปะกับ MagSafe หลังเคสได้นั้น ราคาเปิดมาที่ $59 หรือเกือบ 1,900 บาท อันนี้รอไปซักพัก เราน่าจะได้เห็นผู้ผลิตรายอื่นมีสินค้าประเภทนี้ออกมาให้เลือกกันในราคาย่อมเยากว่านี้ครับ
2. แท่นชาร์จ MagSafe
ไหน ๆ iPhone 12 ทุกรุ่นก็มี MagSafe แล้ว ก็ควรจะซื้อแท่นชาร์จไร้สาย MagSafe Charger ไปใช้งานคู่กันด้วยเลยครับ ค่าตัวอยู่ที่ $39 หรือประมาณ 1,300 บาท
ซึ่งนอกเหนือจากจะใช้งานร่วมกับ MagSafe ของ iPhone 12 แล้ว แท่นชาร์จนี้ยังใช้เป็นแท่นชาร์จไร้สายให้กับ iPhone รุ่นก่อนหน้าที่รองรับการชาร์จไร้สาย รวมถึงพวก AirPods ได้ด้วย ส่วนปลายสายจะเป็นแบบ USB-C สามารถนำไปใช้กับอะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB-C ทั่วไปได้เลย
3. อะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB-C 20W
เนื่องจาก iPhone 12 จะไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จมาให้ในกล่อง เนื่องจาก Apple มองว่าผู้ใช้สามารถนำอะแดปเตอร์ที่ตนเองมีอยู่แล้วมาใช้ได้เลย แต่ถ้าคุณอยากได้อะแดปเตอร์แท้จาก Apple ซักอัน ก็ต้องเป็นชิ้นนี้เลยครับ ซึ่งเป็นอะแดปเตอร์แบบเดียวกับที่แถมมาในกล่อง iPad 8 ด้วย รองรับการจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 20W สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดทั้งแบบ 5V 3A และ 9V 2.2A หัวเป็นแบบ USB-C สามารถนำสายชาร์จจากในกล่อง iPhone 12 มาใช้ได้เลย
ที่สำคัญคือราคานั้นอยู่ที่ 690 บาท เท่ากับอะแดปเตอร์ 5V 1A ตัวจิ๋วที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอีกด้วย สามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ทางหน้าเว็บ Apple Store Online ของเริ่มจัดส่งช่วงปลายสัปดาห์หน้าครับ
4. หูฟัง EarPods หัว Lightning
เป็นอุปกรณ์เสริมอีกชิ้นที่ Apple ไม่ให้มาในกล่อง iPhone ทุกรุ่นนับจากนี้ ซึ่งถ้าต้องการหูฟังแบบมีสายมาใช้งานทั่วไป ใช้คุยโทรศัพท์ EarPods แบบหัว Lightning ก็เป็นอีกทางเลือกที่ไม่แย่ครับ การันตีเรื่องความเข้ากันได้กับฟังก์ชันต่าง ๆ ของ iPhone ที่สำคัญคือมันปรับราคาลงมาเหลือ 690 บาทเท่านั้น
5. สายแปลงจาก Lightning เป็นช่อง 3.5 มม.
สำหรับใครที่จำเป็นต้องใช้งาน iPhone 12 ร่วมกับหูฟัง หรืออุปกรณ์ที่ใช้แจ็คเสียงแบบ 3.5 มม. นี่ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ควรมีติดกระเป๋าไว้เป็นอย่างยิ่งครับ ซึ่งก็น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เนื่องจาก Apple ได้วางขายมาตั้งแต่ตอนเปิดตัว iPhone 7 ที่เป็น iPhone รุ่นแรกที่ถูกตัดช่อง 3.5 มม. ออก
ส่วนราคาก็น่ารักเหมือนเดิมครับ 390 บาท
โดยตัวของเคสกับแท่นชาร์จ MagSafe คงต้องรอดูราคาอย่างเป็นทางการในไทยกันอีกทีนะครับ คาดว่าน่าจะเปิดเผยพร้อม ๆ กับการเปิดราคา iPhone 12 เครื่องศูนย์เลย ส่วนวันวางจำหน่าย เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้