ก่อนหน้านี้เราได้แนะนำมือถือ 5G คุ้ม ๆ ที่มีราคาเกิน 20,000 บาทไปแล้ว ในครั้งนี้ทีมงาน Specphone เราก็จะมาแนะนำมือถือ 5G น่าใช้ สเปคดี ในราคาไม่เกิน 20,000 บาทกันบ้าง ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่ามือถือ 5G ที่ราคาไม่เกิน 20,000 บาท เป็นช่วงราคาที่น่าซื้อที่สุดอันเนื่องมาจากในปัจจุบันเรายังไม่สามารถใช้ 5G กันได้อย่างเต็มที่ผนวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้จำเป็นต้องประหยัดเงินกันบ้าง ครั้งจะไปซื้อพวกกลุ่มเรือธงในช่วงที่ไม่รู้จะตกงานกันเมื่อไรนั้นก็ออกจะเสี่ยงไปหน่อย ดังนั้นหากจำเป็นต้องซื้อมือถือใหม่แล้วอยากจะได้ 5G ด้วย การซื้อในช่วงราคาหมื่นกลาง ๆ ถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่านั่นเอง เกร่นกันมานานละ เราไปดูกันดีกว่าว่ามือถือ 5G ที่ราคาไม่เกิน 20,000 บาทตัวไหนบ้างที่น่าซื้อที่สุด
เทียบสเปคมือถือ 5G ราคาไม่เกิน 20,000 บาท
Xiaomi Mi 10T Pro 5G | vivo V20 Pro 5G | Samsung Galaxy A42 5G | realme X7 Pro 5G | realme 7 5G | |
---|---|---|---|---|---|
หน้าจอ | AMOLED 6.67 นิ้ว Full HD+ Refresh Rate 144Hz | AMOLED 6.44 นิ้ว Full HD+ | Super AMOLED 6.6 นิ้ว HD+ | Super AMOLED 6.5 นิ้ว Full HD+ Refresh Rate 120Hz Touch-sampling rate 240Hz | Ultra Smooth Display 6.5 นิ้ว Full HD+ Refresh Rate 120Hz |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 865 | Qualcomm Snapdragon 765G | Qualcomm Snapdragon 750G | MediaTek Dimensity 1000+ | MediaTek Dimensity 800U |
แรม | 8GB | 8GB | 8GB | 8GB | 8GB |
หน่วยความจำ | 128GB / 256GB | 128GB | 128GB | 128GB | 128GB |
กล้องหลัง | 108MP + 13MP + 5MP | 64MP + 8MP + 2MP | 48MP + 8MP + 5MP + 5MP | 64MP + 8MP + 2MP + 2MP | 48MP + 8MP + 2MP + 2MP |
กล้องหน้า | 20MP | 44MP | 20MP | 32MP | 16MP |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 33W | 4,000 mAh Vivo FlashCharge 33W | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 15W | 4,500 mAh SuperDart Charge 65W | 5,000 mAh DartCharge 30W |
ราคา | 13,900 บาท (128GB) 15,900 บาท (256GB) | 14,999 บาท | 11,990 บาท | 16,990 บาท | 9,999 บาท |
1. Xiaomi Mi 10T Pro 5G
มาเริ่มกันที่ตัวแรกกันก่อนเลยและเป็นตัวที่ทางผู้เขียนมองว่าคุ้มที่สุดในบทความนี้แล้วกับ Xiaomi Mi 10T Pro 5G มือถือ 5G ตัวคุ้มเกินราคาจาก Xiaomi ที่อัดสเปคมาให้แบบไม่ธรรมดาตามแบบฉบับ Xiaomi เลย โดยความโดดเด่นของเครื่องนี้ก็คือเป็นมือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 865 ตัวเดียวในตลาดที่มีค่าตัวต่ำกว่า 20,000 บาท อีกทั้งยังให้หน้าจอที่มี Refresh Rate สูงถึง 144Hz กล้องหลัง 108MP และระบบชาร์จเร็วขนาด 33W มาอีกด้วย
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี จุดที่ต้องพิจารณาของ Mi 10T Pro ก็มีอยู่เช่นกัน นั่นก็คือตัวโมดูลกล้องหลังที่นูนออกมาพอสมควร เพื่อให้สามารถใส่เซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากถึง 108MP ได้ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่สามารถวางราบไปกับพื้นได้ แถมยังทำให้ตัวกระจกกล้องเป็นรอยได้ง่ายอีกด้วย (กระจกกล้องไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากระจกหน้าจอนะครับ นอกจากนี้ด้วยการที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่ ทำให้น้ำหนักเครื่องไปกองกันอยู่ตรงมุมทำให้สมดุลไม่ดี หากถือนาน ๆ อาจมีอาการปวดมือได้
ราคา : 13,900 บาท (128GB) / 15,900 บาท (256GB)
2. vivo V20 Pro 5G
มากันที่ตัวคุ้มของ vivo อย่าง vivo V20 Pro 5G กันบ้าง ซึ่ง V20 Pro 5G เครื่องนี้คือมือถือ 5G ที่เบาที่สุดในบทความนี้แล้ว และยังเป็นมือถือที่มีความสามารถในด้านการเซลฟี่ที่โดดเด่นที่สุดอีกด้วย เพราะกล้องหน้าของ V20 Pro 5G นี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ Eye Autofocus ที่จะทำการล็อกโฟกัสที่ดวงตาขณะเซลฟี่ทันทีด้วยความแม่นยำสูง ทำให้ในการเซลฟี่ ไม่จำเป็นที่จะต้องมองเพ่งไปที่กล้องตอนกดชัตเตอร์ สามารถถ่ายเซลฟี่แบบเผลอ ๆ โดยที่กล้องหน้าก็ยังคงโฟกัสได้แม่นยำ
ด้วยการที่ใช้ชิป Snapdragon 765G ทำให้ vivo V20 Pro 5G เครื่องนี้รองรับ 5G งแบบ SA และ NSA ในคลื่นความถี่ N41 (2600 MHz) และ N78 (3500 MHz) มั่นใจได้เลยว่าสามารถใช้ 5G ในไทยได้อย่างยาว ๆ แน่นอน และด้วยระบบชาร์จ 33W Vivo FlashCharge 2.0 ที่ใช้เวลาชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่คืนมามากกว่า 50% และใช้เวลาชาร์จไฟเต็ม 100% ประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่แบตอึดและชาร์จเร็วครับ
ราคา : 14,999 บาท
3. Samsung Galaxy A42 5G
มาที่มือถือ 5G ตัวถูกสุดของทาง Samsung อย่าง Samsung Galaxy A42 5G กันบ้าง ซึ่ง A42 5G นี้เป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon โดยใน A42 5G นี้ใช้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 750G ซึ่งรองรับ 5G ทุกคลื่นในไทย แถมยังสามารถเล่นเกมแบบนาน ๆ ได้โดยที่เครื่องไม่ร้อนอีกด้วย
ด้วยการที่มีหน้าจอความละเอียดเพียง HD+ ที่อาจจะดูไม่ละเอียดมากนัก แต่เมื่อใช้งานจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เห็นความต่างอะไรมากนัก แต่ด้วยหน้าจอ HD+ ทไให้แบตเตอรี่นั้นมีความอึดขึ้นอย่างมากเลย ทำให้แบตเตอรี่ 5,000 mAh นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวัน แถมยังสามารถเล่นเกมแบบต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงอีกด้วย
ราคา : 11,990 บาท
4. realme X7 Pro 5G
มาต่อกันที่เรือธงของ realme อย่าง realme X7 Pro 5G ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Dimensity 1000+ ที่เป็นชิปตัวท็อปสุดของค่าย MediaTek ซึ่งตามที่ MediaTek ว่าไว้มันสามารถชนกับ Snapdragon 865 ได้สบาย ๆ เลย แต่สิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากชิปประมวลผลแล้ว ตัวหน้าจอยังมี Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz และมี Touch-sampling Rate ที่สูงถึง 240Hz (เหมือนกับมือถือเกมมิ่งมาก)
ฟีเจอร์เด่น ๆ อีกอย่างของ realme X7 Pro 5G ก็คือความสามารถในการทำ 5G Dual Standby ได้ ซึ่งมือถือ 5G หลาย ๆ นั้นยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของมือถือ realme ในตอนนี้เลย นอกจากนี้ด้วยระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge ทำให้สามารถชาร์จเต็ม 100% ใน 35 นาที พร้อมด้วยระบบความปลอดภัย VCVT ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิ และ VFC ที่จะชาร์จด้วยกระแสต่ำเมื่อใกล้เต็ม เป็นตัวป้องกัน ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ
ราคา : 16,990 บาท
5. realme 7 5G
ปิดท้ายกันด้วยมือถือ 5G ที่ถูกที่สุดในตอนนี้อย่าง realme 7 5G ที่เป็นการเอา realme 7 มาอัพเกรดให้รองรับ 5G ในไทยได้ โดยการเปลี่ยนไปใช้ชิปประมวลผล Dimensity 800U จาก MediaTek ซึ่ง realme 7 5G นี้นับเป็นมือถือรุ่นแรกที่สามารถทำ 5G Dual Standby ได้ นอกจากการรองรับ 5G แล้ว realme 7 5G ยังมาพร้อมหน้าจอที่มี Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz อีกด้วย มือถือรุ่นอื่นไม่สามารถให้ได้แบบนี้แน่นอน
ชิป Dimensity 800U นั้นถึงแม้หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักกัน แต่ทว่าชิปตัวนี้ตามที่ MediaTek ว่าไว้ก็สามารถเทียบกับชิป Snapdragon ซีรี่ส์ 7xx ได้เลย ทำให้เรื่องการประมวลผลและการเล่นเกมนั้นหายห่วงได้เลย แถมยังสามารถทำคะแนน AnTuTu ได้ถึง 340,000 คะแนน อีกด้วย นอกจากนี้ด้วยระบบชาร์จไฟ 30W SuperDart Charge ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 5000 mAh จาก 0 – 100% เต็มใน 65 นาทีได้เลย และหากจับเวลาดี ๆ ช่วง 0 – 50% นั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ 26 นาที
ราคา : 9,999 บาท
สรุป
สำหรับมือถือ 5G ราคาไม่เกิน 20,00 บาทที่ว่ามาทั้งหมดนั้น หากถามว่าตัวไหนคุ้มสุดในบทความนี้ยังไงก็คงหนีไม่พ้อ Xioami Mi 10T Pro 5G อย่างแน่นอน ด้วยสเปคที่อัดมาแแบบจัดเต็มในราคาเริ่มต้นเพียง 13,900 บาทเท่านั้น (แค่ 128GB ก็พอแล้ว) ทำให้ในบทความนี้ไม่มีใครสามารถสู้ได้เลยทั้งในแง่ของสเปคและราคา
แต่หากใครที่อยากได้มือถือ 5G ราคาถูก ๆ หน่อย แล้วรองรับ 5G realme 7 5G ผมมองว่าคือคำตอบที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านักเรียนหรือนักศึกษาที่งบไม่เยอะ แต่อย่างได้มือถือที่ใช้ 5G ได้ เล่นเกมได้ แต่หากเพื่อน ๆ อย่างได้มือถือที่เอาไว้เล่นเกมแบบจัดเต็ม realme X7 Pro 5G ผมว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะตัว X7 Pro 5G นี้มี Touch-sampling Rate ที่สูงถึง 240Hz ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถตอบสนองต่อการเล่นเกมได้ดีกว่านั่นเอง
และหากเพื่อน ๆ เป็สายเซลฟี่แล้วหละก็ไม่ว่ายังไงก็อยากแนะนำ vivo V20 Pro 5G เป็นที่สุด ด้วยระบบ Eye Autofocus ทำให้การเซลฟี่มีความละเอียดมากขึ้น และยังมีความหลากหลายในรูปแบบของภาพอีกด้วย ซึ่งจากที่ได้ลองแบบผ่าน ๆ มาตัว Eye Autofocus นี่ต้องบอกเลยว่ามันสามารถตรวจจับดวงตาของเราได้เร็วเอามาก ๆ แต่โผล่หน้าเข้าไปก็สามารถจับได้แล้ว