และแล้วปี 2020 ก็ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ซึ่งในปี 2020 นั้นก็ได้มีการเปิดตัวมือถือ 5G ไปเยอะเลยทีเดียว อีกทั้งผู้ผลิตต่างก็พยายามแข่งกันเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ กันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลือกในการเลือกซื้อมือถือใหม่มีมากตามไปด้วย วันนี้ทีมงาน Specphone เราเลยจะมาแนะนำมือถือ 5G ที่ทางทีมงานมองว่าคุ้มค่าจริง ๆ ซื้อมาแล้วไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน โดยในบทความนี้จะเน้นเฉพาะเครื่องที่มีราคาเกิน 20,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น
สำหรับใครที่มองหามือถือ 5G ราคาไม่เกิน 20,000 บาท สามารถเข้าไปดูได้ตามลิ้งนี้เลยครับ : มือถือ 5G ราคาไม่เกิน 20,000 บาท
เทียบสเปคมือถือ 5G
iPhone 12 Pro Max | Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G | Samsung Galaxy S20 FE 5G | HUAWEI Mate40 Pro 5G | Lenovo Legion Phone Duel | |
---|---|---|---|---|---|
หน้าจอ | OLED 6.7 นิ้ว Super Retina XDR รีเฟรชเรต 60Hz | Dynamic AMOLED 2X 6.9 นิ้ว WQHD+ รีเฟรชเรต 120Hz | Super AMOLED 6.5 นิ้ว Full HD+ รีเฟรชเรต 120Hz | curved OLED 6.76 นิ้ว 1344 x 2772 พิกเซล รีเฟรชเรต 90Hz | AMOLED 6.65 นิ้ว Full HD+ รีเฟรชเรต 144Hz |
ชิปประมวลผล | Apple A14 Bionic | Exynos 990 | Qualcomm Snapdragon 865 | Kirin 9000 | Snapdragon 865+ |
แรม | 6GB | 12GB | 8 GB | 8GB | 12 / 16 GB |
หน่วยความจำ | 128GB / 256GB / 512GB | 256GB / 512GB | 128GB / 256GB | 256GB | 256 / 512GB |
กล้องหลัง | 12MP + 12MP + 12MP + LiDAR Scanner | 108MP + 12MP + 12MP | 12MP + 8MP + 12MP | 50MP + 20MP + 12MP | 64MP + 16MP |
กล้องหน้า | 12MP | 10MP | 32MP | 13MP + 3D Depth | 20MP |
แบตเตอรี่ | 3,687 mAh PD 3.0 20W | 4,500 mAh ชาร์จไว 25W | 4,500 mAh ชาร์จไว 25W | 4,400 mAh HUAWEI SuperCharge 66W | 5,000 mAh ชาร์จไว 90W |
ราคา | 39,900 – 51,900 บาท | 42,900 – 46,900 บาท | 23,900 – 25,900 บาท | 34,900 บาท | 23,990 – 30,990 บาท |
1. iPhone 12 Pro Max
มาเริ่มกันที่ตัวแรกอย่าง iPhone 12 Pro Max กันก่อนเลย โดยที่ iPhone 12 นี้นับเป็นมือถือ 5G ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็น iPhone รุ่นแรกที่มาพร้อมกับ 5G และดีไซน์เครื่องแบบใหม่ ซึ่ง iPhone 12 นี้จะมีให้เลือกซื้อถึง 4 รุ่น แบ่งเป็นแบบพื้นฐาน 2 รุ่นและแบบโปรอีก 2 รุ่น
ซึ่งความน่าสนใจของ iPhone 12 Pro Max นี้มาจากชิป Apple A14 Bionic ที่แรงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น กล้องหลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ (โดยเฉพาะในรุ่นโปร) อีกทั้งยังเป็น iPhone รุ่นแรกที่ใช้หน้าจอ OLED ครบทุกรุ่นย่อย นอกจากนี้ยังมีการขยายขนาดหน้าจอเพิ่มเป็น 6.7 นิ้ว ช่วยให้เห็นรายละเอียดได้อย่างเต็มตามากขึ้น อีกทั้งด้วยการที่ติดตั้ง LiDAR Scanner เข้ามา ทำให้การถ่ายภาพทำได้ดียิ่งขึ้นด้วย
จุดสังเกตที่ต้องพิจารณาของ iPhone 12 Series นั้นที่โดดเด่นสุดก็คือการที่หากใช้งาน 5G แล้วแบตเตอรี่จะลดลงเร็วเอามาก ๆ ทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถอยู่จนหมดวันได้ แล้วอาจจะทำให้ต้องพก Powerbank ติดตัวเอาไว้เลยก็ได้ แต่หากใครไม่คิดมาเรื่องแบตเตอรี่หมดเร็วแล้ว iPhone 12 Pro Max นี่แหละคือมือถือ 5G ที่ตัวผู้เขียนคิดว่าน่าซื้อที่สุดแล้วครับ
ราคา : 39,900 – 51,900 บาท
2. Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G
มาต่อกันด้วยมือถือมากความสามารถอย่าง Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G ที่เป็นเรือธงซีรี่ส์ Note ของ Samusng ด้วยความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย ทำให้ส่วนตีวแล้วมองว่าเป็นมือถือที่เหมาะกับสายทำงานนอกสถานที่อย่าง Sales, PR หรือวิศวกรต่าง ๆ เพราะตัวเครื่องนั้นมีความแรงถึงระดับที่สามารถใช้งานได้หลาย ๆ อย่างพร้อมกัน S Pen ที่มีฟีเจอร์รองรับการใช้งานในด้านต่าง ๆ กล้องถ่ายภาพระดับโปรพร้อมความสามารถในการซูมแบบสุดยอด แบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน
ความน่าสนใจของ Note20 Ultra 5G ก็คือหน่าจอ 120Hz ที่เมื่องานร่วมกับปากกา S Pen แล้ว ให้ความรู้สึกลื่นไหล สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งด้วย Dex Mode ที่เปลี่ยนมือถือให้กลายเป็น Desktop ยังช่วยให้รูปแบบการใช้งานมีความหลากหลายมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องไปพรีเซ็นต์งานทั้งในและนอกสถานที่ เพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ใช้ได้เยอะ
ราคา : 42,900 บาท (12GB / 256GB) และ46,900 บาท (12GB / 512GB)
3. Samsung Galaxy S20 FE
มากันที่ตัวคุ้มของ Samsung อย่าง Samsung Galaxy S20 FE บ้าง ซึ่งตัว S20 FE นี้เป็นตัวคุ้มของ Samsung ที่เหมือนออกมาเพื่อนแฟน ๆ โดยเฉพาะ (FE ย่อมาจาก Fan Edition) ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นตัวที่น่าซื้อที่สุดของ Samsung แล้ว ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 865 ที่นับเป็นส่วนน้อยของมือถือ Samsung ในไทยที่ใช้ชิป Snapdragon (ปกติในไทยจะใช้ชิปเป็น Exynos เท่านั้น)
ความน่าสนใจของ Galaxy S20 FE นอกเหนือจากการที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 865 แล้ว ยังได้หน้าจอ Super AMOLED ที่มี Refresh rate สูงถึง 120Hz และกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูง แถมยังสามารถซูมได้สูงสุดถึง 20 เท่าอีกด้วย (ทั่วไปได้ 10 เท่า)
ราคา : 23,900 – 25,900 บาท
4. HUAWEI Mate40 Pro
มากันที่เรือธงตัวล่าสุดของ HUAWEI อย่าง HUAWEI Mate40 Pro บ้าง ซึ่ง Mate40 Pro นี้ขึ้นชื่อเรื่องกล้องถ่ายภาพระดับโปรที่ตอบสนองต่อการถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ แม้กระทั่งในที่มืดก็ยังสามารถถ่ายได้ไม่มีปัญหา อีกทั้งระบบกันสั่งเองก็ทำได้ดีในระดับที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
Mate40 Pro นี้ใช้ชิปประมวลผลเป็น Kirin 9000 ซึ่งเป็นชิป 5G ตัวสุดท้ายของ HUAWEI ทำให้มีการอัดความสามารถมาแบบจัดเต็ม ทั้งการประมวลผล, AI หรือแม้แต่การรับคลื่น 5G ที่ดีกว่ามือถือ 5G ยี่ห้ออื่น ๆ ทำให้ Mate40 Pro กลายเป็นมือถือที่โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าน่าใช้ไม่ใช่น้อย ๆ
ข้อสังเกตที่เป็นประเด็นของมือถือ HUAWEI หลัก ๆ ก็มีเพียงข้อเดียวก็คือการที่ไม่มี GMS ใช้ เนื่องจากคนไทยใช้ GMS กันเป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้น HUAWEI ก็ได้หาแอพอื่นมาแทนที่ให้ ซึ่งหลาย ๆ แอพก็ใช้ได้แทบไม่ต่างจากแอพใน GMS หากใ้เวลาในการปรับตัวสักเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหาแน่นอน
ราคา : 34,900 บาท
5. Lenovo Legion Phone Duel
มาปิดกันที่มือถือ 5G สำหรับสายเกมมิ่งอย่าง Lenovo Legion Phone Duel ที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์อย่างแท้จริง แถมยังมีความสามารถในการสตรีมมิ่งได้ตัวตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณืเสริมใด ๆ อีกด้วย เป็นอะไรที่เหมาะอย่างยิ่งกับเหล่า Youtuber และสตรีมเมอร์อย่างแรง
สิ่งที่น่าสนใจของ Legion Phone Duel นั้นนอกจากการรองรับ 5G และการสตรีมได้ด้วยตัวเองแล้ว ด้วยหน้าจอที่มี Refresh rate สูงถึง 144Hz กล้องหน้าคู่แบบป๊อปอัพที่ทำให้หน้าจอไม่มีอะไรมบัง และระบบชาร์จเร็วที่แรงถึง 90W (มีช่องชาร์จ 2 ช่องซึ่งชาร์จพร้อมกันได้) นอกจากนี้ยังสามารถเล่นไปชาร์จไปได้โดยไม่ทำให้เครื่องร้อนเกินไปอีกด้วย
สิ่งที่ต้องพิจารณาเล็กน้อยก็คือ Legion Phone Duel นี้มีการวางกล้องหน้าที่แตกต่างจากมือถือทั่ว ๆ ไป เนื่องจากกล้องหน้าของเครื่องนี้ถูกเอาไปไว้ด้านข้างแทน แล้วทำให้เป็นแบบป๊อปอัพเพื่อไม่ให้เกะกะ
ราคา : 23,990 บาท (12GB / 256GB) และ 30,990 บาท (16GB / 512GB)
สรุป
มือถือ 5G ในปัจจุบันนั้นเริ่มมีความน่าสนใจไม่น้อย ทั้งในเรื่องของสเปคที่แรงขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น อีกทั้งยิ่งเปิดตัวก็ยิ่งราคาถูกลง เนื่องจากในช่วงแรกนั้นมือถือที่รองรับ 5G จะมีราคาอยู่ประมาณ 40,000 บาทกันทั้งนั้น ซึ่งหลังจากที่ราคาลดลงมาทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการเลือกซื้อมือถือเพิ่มขึ้น แต่จากในบทความนี้รุ่นที่โดยส่วนตัวอยากแนะนำมากที่สุดก็คือ Samsung Galaxy S20 FE เพราะสำหรับฝั่ง Android แล้วถือว่าเป็นเครื่องที่ราคาสามารถจับต้องได้ และครอบคลุมทุกการใช้งานมากกว่า
แต่สำหรับใครที่อยากได้มือถือเฉพาะทาง Mate40 Pro คือมือถือที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการมือถือที่มีความสุดยอดด้านการถ่ายภาพ และหากต้องการมือถือมาเพื่อเล่นเกมแล้ว Lenovo Legion Phone Duel นับเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมันคือมือถือที่สร้างขึ้นมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
แต่หากใครที่เป็นสายทำงานโดยการทำงานนั้นต้องพึ่งมือถือเป็นหลัก หรือเป็นงานที่ต้องทำผ่านมือถือ Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G และ iPhone 12 Pro / Pro Max นับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ด้วยความสามารถที่หลากหลายและฟีเจอร์ที่รองรับกับทุกสายงาน