หลังจากเมื่อคืนนี้ในงาน WWDC 2014 แอปเปิลได้ทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ของทั้งฝั่ง Mac และฝั่ง iDevice ซึ่งไฮไลท์จริงๆ จะอยู่ที่ OS ของฝั่ง iDevice อย่าง iOS 8 ที่เอาจริงๆ จะเรียกว่า iOS 7.2 ?ก็คงไม่ผิดนัก เพราะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงยกแผงเหมือนอย่างตอน iOS 6 > iOS 7 แต่เป็นการปรับปรุงเพื่อรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ควรจะมี (มาตั้งนานแล้ว) ซะมากกว่า
โดย iDevice ที่ได้ไปต่อ iOS 8 มีรายชื่อดังนี้ครับ
- iPhone 4s
- iPhone 5
- iPhone 5c
- iPhone 5s
- iPad 2
- iPad 3 (The New iPad)
- iPad 4 (iPad with Retina Display)
- iPad Air
- iPad Mini
- iPad Mini 2 (iPad Mini with Retina Display)
- iPod touch 5th generation?
โดยรุ่นที่ได้ทำตัวหนาเอาไว้จะเป็นดีไวซ์ที่จะทำงานร่วมกับ iOS 8 ได้ดีที่สุดครับ เนื่องจากตัว iOS 8 เองใช้ API แบบใหม่ที่มีชื่อว่า Metal ทำให้รีดประสิทธิภาพของชิป Apple A7 ออกมาได้อย่างเต็มที่ซักที (แล้ว iOS 7 หมายความว่าอย่างไร :P) ส่วนกำหนดการอัพเดตนั้น iOS 8 ตัวเต็มจะปล่อยให้ได้อัพเดตกันช่วงปลายเดือน (คาดว่าเป็นเดือนกันยายนพร้อม iPhone 6) ส่วน iOS 8 Beta สำหรับนักพัฒนานั้นสามารถอัพเกรดได้ทันที และนี่คือ 15 ฟีเจอร์เด็ดที่จะพบได้ใน iOS 8 Part 1 ครับ
1. Health hub
ศูนย์รวมสำหรับแอพเกี่ยวกับสุขภาพบน iOS 8 ครับ หลังจากที่ตอนแรกลือกันว่าจะมาในชื่อ Healthbook แต่ Apple ใช้ชื่อว่า Health เฉยๆ แต่ชื่อไม่สำคัญเท่ากับว่ามันทำอะไรได้บ้างครับ โดย Health hub เนี่ยจะคอยเก็บกิจกรรมประจำวันของเรา อาทิเช่น การนับแคลอรี่, อัตราการเต้นหัวใจ , ความดันโลหิต รูปแบบการนอน และอื่น ๆ รวมถึงทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมภายนอกอย่างพวก Wearable Gadget ต่างๆ ได้อีกต่างหาก
2. การแจ้งเตือนแบบใหม่ และ Third-Party Widget
ใน iOS 8 ผู้ใช้สามารถตอบกลับข้อความ, Email, Twitter หรือแม้แต่ Facebook (สามารถกดไลค์ได้ด้วยนะ) ผ่านทาง Notification Center โดยที่ไม่ต้องออกจาก App ที่กำลังใช้งานอยู่ได้แล้ว และที่สำคัญคือมันรองรับการทำงานร่วมกับ Third-Party App ได้อย่างสบายๆ อย่างเช่นเรากำลัง Bid ของชิ้นหนึ่งใน Ebay แต่ดันมีคนให้เงินมากกว่า ตัว App ก็จะแจ้งเตือนที่ Notification Center และเราก็สามารถ Bid สู้ราคาได้ทันทีผ่านทาง Notification Center โดยที่ไม่ต้องเข้า App ให้เสียเวลา ถือว่าสะดวกขึ้นเยอะเลยครับ
3. Multitasking ปรับปรุงใหม่
จากเดิมที่การกดปุ่ม Home ติดกัน 2 ครั้งจะเป็นการเรียกหน้า Multitasking ของ App ที่เราเคยเปิดใช้ แต่ใน iOS 8 จะไม่ได้แสดงแค่เพียง App ที่เราเปิดใช้เท่านั้น มันยังแสดง Contact หรือรายชื่อผู้ติดต่อล่าสุดของเราได้อีกด้วย และเราสามารถโทรออก, ส่งข้อความ หรือแม้แต่ Facetime ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจาก Multitask ให้เสียเวลา
4. QuickType Keyboard
ความเร็วของแป้นพิมพ์ QuickType จะอยู่ที่การคาดเดาคำ (เหมือนอย่าง Android และ Windows Phone นั่นเอง) เมื่อเราเริ่มพิมพ์ ตัวคีย์บอร์ดก็จะทำการเสนอคำที่คิดว่าเรากำลังจะพิมพ์ เพื่อช่วยให้พิมพ์ได้ไวขึ้น อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้คำศัพท์ รวมถึงปรับตัวให้เข้ากับลักษณะการพิมพ์ของเราได้อีกต่างหาก
5. Third-Party Keyboard
และนี่คือสิ่งที่ผู้ใช้ iOS หลายท่านรอคอยมานาน ใน iOS 8 เราสามารถดาวโหลดคีย์บอร์ดมาใช้เพิ่มเติมได้เองแล้ว สำหรับใครที่ไม่ถูกใจคีย์บอร์ดติดเครื่องก็แค่โหลดมาใช้เพิ่มเติม (เหมือนอย่าง Android นั่นเองครับ)
6.?Family Sharing
เป็นการแชร์ทุกสิ่งให้กับครอบครัวของเราครับ อาทิเช่นแชร์ภาพถ่าย, กิจกรรมในปฏิทิน, การแจ้งเตือนต่างๆ และที่เด็ดกว่านั้นคือมันสามารถแชร์คอนเท้นจาก iTunes Store ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น App, เพลง รวมถึงภาพยนตร์ และที่สำคัญคือ Find my iPhone สามารถบอกพิกัดที่อยู่ของคนในครอบครัวได้อีกต่างหาก
7. การส่งข้อความแบบกลุ่ม
สรุปง่ายๆ คือแอพ Messages ตอนนี้สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับแอพพลิเคชันสำหรับแชทเจ้าอื่นๆ ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตั้งห้องแชท, เพิ่มผู้สนทนาในกลุ่ม, ส่งข้อความเสียง, สตรีมวีดีโอ หรือแม้แต่การแชร์ Location ก็ทำได้ครับ ขาดแค่ส่ง Sticker เท่านั้นแหละ 😛
8.?Spotlight ที่รู้ไปซะทุกเรื่อง
Spotlight หรือการค้นหาบน iOS 8 นั้นได้รับการพัฒนาขึ้นครับ สามารถค้นหาได้เกือบทุกอย่างที่ต้องการผ่านทาง Spotlight ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น App, ข่าวสาร, เพลงบน iTunes Store, ตารางฉายภาพยนตร์ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ เรียกได้ว่าทำงานได้ใกล้เคียงกับ Google Now เลยหล่ะครับ
ผ่านไปแล้วครึ่งนึง (8/15) ของฟีเจอร์ใหม่ๆ บน iOS 8 สำหรับฟีเจอร์ที่เหลือสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลยครับ
15 ฟีเจอร์เด็ดสุดเจ๋งที่จะพบใน iOS 8 ภาคจบ