สวัสดีครับวันนี้เราจะมารีวิว App on iPad กับ Filpboard ที่เป็นสุดยอดแอพพลิเคชั่นแห่งปี 2010 โดยทาง Apple ได้เป็นคนประกาศเองว่าเป็น ?iPad App of the Year? โดยอันดับแรกเราไปชมวีดีโอเปิดตัว Flipboard โดยจาก Flipboard เองกันก่อนเลย?กันก่อนเลยครับ
ซึ่งที่มาของการได้มาเป็นที่สุดของ App บน iPad นั้นมาจากรูปร่างหน้าตากราฟิกของมัน รวมไปถึงลักษณะการใช้งานที่จะเปลี่ยน iPad ในมือเรา ให้กลายเป็นแมกกาซีนออนไลน์ ที่มีการอัพเดทตลอดเวลาขึ้นมาทันที โดยการดึงข้อมูลจาก Facebook, Twitter ที่เราได้ล๊อกอินไว้ รวมไปถึงเว็บข่าวอื่นๆ แล้วทำการจัดรูปแบบการวางโครงหน้าใหม่ ให้เสมือนการอ่านแมกกาซีนจริงๆ บน iPad นอกเหนือจากนี้ยังมีรูปภาพมากมายที่มีคนแชร์เอาไว้ ประกอบเข้ากันด้วย
หากมองกันจริงๆ แล้ว ในการที่ Apple เองออกมาประกาศให้ Filpboard เป็นสุดยอด App?อีกมุมมองหนึ่งเป็นการสะท้อนแนวคิดจาก Apple ว่าต้องการ App ที่พิเศษเฉพาะ ในแบบฉบับของตนเองบน iPad แบบนี้จริงๆ โดยตอนนี้ถ้าใครมี iPad อยู่ ก็สามารถดาวน์โหลดจาก App Store แล้วมาทดลองใช้งาน พร้อมๆ กันเลยนะครับ ที่สำคัญ App เจ๋งๆ แบบนี้ ดาวน์โหลดได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
Flipboard เมื่อเราเปิดมาเจอในหน้าแรก จะเป็นการรวมรูปภาพพร้อมกับข้อความอัพเดทล่าสุดของแต่ละหมวดย่อยๆ ของเรา มาสไลด์ไปเรื่อยๆ สลับกันไปอย่างลื่นไหลและนุ่มนวล ลักษณะมีการเอารูปภาพมาซูมเข้าออกตลอดเวลาอย่างช้าๆ เป็นอะไรที่สวยงามหวือหวาและลงตัวอย่างยิ่ง โดยมุมด้านบนขวาจะเป็นปุ่มเครื่องมือที่ไว้แบ่งบันกับเพื่อนๆ อย่าง Retweet/Post to/Email Cover/View on Web ส่วนแถบด้านล่างจะเป็นรูปภาพต่างๆ ที่เป็นสถานะล่าสุดอีกด้วย เรียกได้ว่าแรกเห็นก็ประทับใจแล้วครับ พร้อมทั้งยังรองรับการแสดงผลทั้งแนวตั้ง และแนวนอนอย่างเต็มรูปแบบ
ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนไปในหน้าถัดไป ด้วยการปัดนิ้วจากซ้ายไปขวา พร้อมกับตัว Filpboard จะแสดงให้เห็นการ Flip จากหน้าแรกอย่างนุ่มนวล มีการเปลี่ยนหน้าเหมือนกับการเปิดแมกกาซีนจริงๆ
โดยเราจะเจอหน้ารวม ซึ่งใน 2 ช่องแรกจะเป็น Twitter?และ Facebook?โดยเอา Account Twitter?ของเรา ทำการ Login เข้าไป และ Account?Facebook?เรา Login เข้าไปเช่นกัน ก็จะเอารูปจาก Facebook เราที่มีเพื่อนเรา Post ไว้มาแสดง สำหรับ Twitter ก็เอาทั้งที่เรา Tweet ไว้ แล้วก็ที่เรา Follower เขาไว้มาแสดง ดูว่าอันไหนล่าสุด สำหรับที่ว่าเป็นจุดเด่นและโดนใจโดยส่วนตัวมากๆ เลยก็คือ การที่มันนำทั้งข้อความและรูปภาพมาพร้อมๆ กัน ทำให้รู้สึกเลยว่าแตกต่างจากการเล่น Facebook กับ Twitter เดิมๆ อีกต่อไป?โดยเราสามารถเพิ่ม Section เองได้ โดยกดที่ Add a Section ด้านล่าง ที่จากรูปด้านบน จะอยู่ช่องสุดท้าย ซึ่งหากเราเพิ่มจนเต็มก็เลื่อนไปในหน้าถัดๆ ไป
พร้อมทั้งทำการลบได้เมื่อเราไม่ต้องการใช้งาน Section นั้นๆ อีก วิธีการก็ง่ายๆ โดยการกดไปที่ปุ่ม Edit จากนั้นตาม Section ต่างๆ ก็จะมี (X) ขึ้นที่มุมด้านซ้ายบนให้กดปิดไปครับ
ซึ่งทำการเมื่อกดเข้าไปใน Add a Section?แล้วก็จะมีหน้าต่างมาให้เลือก ว่าเราอยากได้อะไรมาติดตั้ง อาทิ Facebook/Twitter/Google Reader/Fickr ที่เราสามารถเลือกลงไปในรายละเอียดของแต่ละหมวดได้อีก
อย่างเช่นของ Facebook ก็จะมี News Feed/You Wall/News Feed Photos/News Feed Links/Groups/Pages และ Friend Lists มาให้เลือกลงในแต่ละ Section ที่เราต้องการได้
ยกตัวอย่าง สมมุติว่าเราเลือกไปที่ Pages ?เราก็สามารถที่จะเลือก Pages ที่เรากด Like เป็นแฟนเอาไว้ มาเป็นอีกหนึ่ง Section ง่ายๆ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานใน Pages ที่เราเข้าอยู่บ่อยๆ
ย้อนออกไปหน่อยเราก็จะพบกับ Categories ข่าวสารอื่นๆ หรือ Feed ดังๆ มาอยู่ในนี้ พร้อมโดนแบ่งหมวดหมู่ไว้เรียบร้อยแล้ว อาทิเช่น?News/Business & Finance/Tech & Science/Cool Curators/Art & Photography/Design/Lifestyle เยอะแยะมากมายเลยครับ
พร้อมทั้งถ้าหากเราต้องการ Twitter ของใครก็ตามที่เราสนใจ ก็สามารถที่เพิ่มได้ตรง ?Add a Custom Section ได้ทันที
สำหรับในการใช้งานของ Twitter ?ซึ่งที่ผ่านมาหากเราเล่นบนโปรแกรมอื่นๆ เราก็จะได้เพียงแค่ข้อความสั้นๆ พร้อมกับ link ที่เราต้องทำการเข้าไปอีกทีหนึ่ง แต่สำหรับ Flipboard นี้ไม่ต้องเลยครับ เพราะมันจะทำการดึงข้อความข่าว พร้อมกับรูปภาพ หรือจะเป็นคลิปวีดีโอก็ทำได้ ซึ่งจากการทดลองใช้งานก็ถือว่าน่าประทับใจเป็นอย่างดี ?สำหรับในข้อความที่ไม่มีรูปภาพหรือวีดีโอ ก็จะเป็นเพียงแค่ข้อความอย่างเดียว
โดยเราก็สามารถ Retweet ไปได้เช่นเดียวกัน หรือจะเข้าไปอ่านเต็มๆ ในเว็บไซต์ก็ได้ โดยถ้าเราเอานิ้วเลื่อนข่าวในขณะที่จะขยาย ก็จะเหมือนนิตยสารเลื่อนไปแต่ละหน้า แต่ละรายการได้เลย?อีกทั้งเรายังสามารถตั้งให้เป็น Favorite on Twitter รวมไปถึงสามารถ Retweet / Post to… / Email Link / View on Web ได้ทันที
จะย้อนกลับไปใน Section อื่นๆ ก็ทำได้อย่างง่ายดาย โดยการเลือกไปที่หัวข้อหลักของ Section นั้นๆ
มาดูความสามารถและการแสดงผลของ Facebook กันบ้าง ที่หลายๆ คนขาดแทบไม่ได้ ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยมีการนำรูปภาพ ข้อความ ลิ้งค์ วีดีโอ ที่เพื่อนๆ เราได้ทำการแบ่งบันเอาไว้ พร้อมกับปรับรูปแบบให้เป็นหน้าตาดีไซน์แมกกาซีนอย่างเนียนๆ เลยครับ
ซึ่งหน้าแรกจะเป็นการอัพเดทสถานะล่าสุดของทุกคน โดยเมื่อเราทำการปัดนิ้วหน้าก็จะเปลี่ยนหน้าไป เหมือนเปิดหนังสือจริงๆ ก็ไม่ปาน
พร้อมทั้งสามารถแสดงความคิดเห็นลงไปได้เลยทันที หรือจะกด Like ก็ทำได้อย่างทันใจ
หรือจะทำการแบ่งบันให้กับเพื่อนๆ ของเราก็ทำได้
นอกจากนั้นยังสามารถชมลิ้งวีดีโอที่เป็น Youtube โดยไปไม่ต้องกดเข้าไป เพราะเราสามารถเลือกที่จะเล่นได้ทันทีจากหน้าโพสนี้ ทำให้สะดวกมากๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดดูผ่านแอพฯ Youtube โดยตรงครับ
หรือจะดูแบบ Full Screen ก็ทำได้ทันที จากหน้าของ Filpboard ได้เลย
นอกเหนือจากนี้ยังสามารถใช้งาน Google Reader และ Fickr ได้ด้วย ซึ่งหากจะกล่าวถึงจุดเด่นของ Flipboard คงอยู่ที่การแสดงผลที่ดูหวือหวา ไฮโซ และลื่นไหล เมื่อเห็นแล้วอยากใช้ทันที เปลี่ยนการใช้งาน Facebook หรือ Twetter เดิมๆ ให้กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แต่ตอนนี้มีแค่เวอร์ชั่นบน iPad เท่านั้นนะครับ และก็คิดว่าคงไม่มีทีท่าว่าเวอร์ชันใน iPhone จะเกิด แถมยังฟรีอยู่ด้วย และไม่รู้ในวันข้างหน้ามันจะมีเวอร์ชั่นที่ต้องเสียเงินซื้อมาแทนที่ของฟรีหรือเปล่า?
สุดท้ายแนะนำเลยครับ ใครมี iPad อยู่กับตัวแล้ว ลองดาวน์โหลด App นี้ไปติดตั้งกันดู รับรองว่าคุณจะรัก iPad มากยิ่งขึ้น?รวมไปถึงใครไม่มีลองยืมของเพื่อนที่มีมาเล่นก็ได้ คุณอาจจะมีเหตุผลได้ถอย iPad มาในวันพรุ่งนี้เลยก็เป็นได้ครับ!!!
ปิดท้ายกับวีดีโอจากทีมงาน Filpboard ที่เกี่ยวแนวคิดในการสร้างสรรค์เจ้า App นี้ขึ้นมาครับ 🙂
ไว้เจอกับการรีวิว App ที่ดีๆ แบบนี้ ในโอกาสต่อไปนะครับ SpecPhone.