จากคดีความเรื่องสิทธิบัตรระหว่าง Apple เเละ Samsung ตามข่าวเก่า เราก็คงเห็นว่าทั้ง Apple เเละ Samsung ต่างก็อ้างว่าเเต่ละฝ่ายละเมิดสิทธิบัตรของตน ถ้าดูๆ เเล้วเราจะเห็นว่า Apple นั้นครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับประสบการณ์ใช้งานของเครื่องเป็นหลัก ในขณะที่ Samsung นั้นมีสิทธิบัตรในเรื่องของ 3G ที่ถือเป็นฐานในการพัฒนามือถือทุกเครื่องในปัจจุบัน
ประเด็นคงอยู่ที่ว่า Apple นั้นตบหน้า Samsung เข้าอย่างจังในเรื่องของการเรียกร้องค่าสิทธิบัตรที่มีมูลค่าสูงกว่าของ Apple มาก สรุปให้สั้นคือ Apple นั้นเรียกให้ Samsung จ่ายในส่วนที่ละเมิดในเรื่องดีไซน์หรือฟีเจอร์การใช้งานอย่างการซูม หรือการเลื่อนหน้าเป็นจำนวนรวมประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง เเต่ Apple ยินยอมที่จะจ่ายค่าสิทธิบัตร 3G ที่ตัวเองละเมิดเช่นกันให้กับ Samsung เพียงเครื่องละ 0.0049 ดอลลาร์เท่านั้น
ส่วนทาง Samsung เองก็เเย้งคำกล่าวหาในหลายด้าน ว่า Apple เองก็ไม่ได้เป็นผู้ประดิษฐ์นวัตกรรมเองขึ้นมาทั้งหมดเช่นกัน รายละเอียดที่น่าสนใจมีดังนี่้ครับ
- Samsung วิจัยเเละพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารมาตั้งเเต่ปี 1991 ซึ่ง iPhone เองออกมาทีหลังจาก Samsung ทำโทรศัพท์มาถึง 20 ปี เเละ Apple เองก็ไม่มีสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารเลย ดังนั้น Apple ไม่สามารถขาย iPhone ได้เเม้เเต่เครื่องเดียวถ้าไม่ได้ขโมยสิทธิบัตรของ Samsung ไปใช้
- การที่ Apple กล่าวหาว่า Samsung ขโมยเเนวคิดการออกเเบบของ Apple ไปใช้ ซึ่งจริงๆ เเล้ว Apple ก็นำเเนวความคิดมาจากคู่เเข่งเช่นกัน เเละมีเอกสารภายในกล่าวว่า Tony Fadell เคยสัมภาษณ์ดีไซน์เนอร์ของ Sony เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ที่มีปุ่มเพียงเล็กน้อยในการใช้งาน หน้าจอมีลักษณะใหญ่เเละขอบมน
- มีเอกสารภายในของ Apple ระบุว่าจุดเเข็งของ Apple ไม่ใช้การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เป็นรายเเรก เเต่คือการขายให้ได้กำไรอย่างสูงต่างหาก
- Samsung เคยออกมือถือที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ขอบมน เเละการเรียงไอคอนเป็นตารางก่อนที่ iPhone จะออกมาในปี 2006 เเละมีภาพการออกเเบบมือถือในลักษณะดังกล่าวก่อนการประกาศเปิดตัว iPhone อีกด้วย
- ทัชสกรีนนั้นมีการใช้งานมาก่อนที่ iPhone ประกาศในปี 2007
- Apple มีเจตนาที่จะละเมิดสิทธิบัตร เพราะ Samsung เคยเสนอสิทธิบัตรให้กับ Apple เกี่ยวกับ 3G อยู่เเล้ว เเต่ Apple กลับไม่สนใจ
ที่มา : wsj