ปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นอะไรที่พกติดตัว รวมถึงถูกใช้งานบ่อยมากในแต่ละวัน เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 หรือจะเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราก็ว่าได้ ถึงขนาดที่มีผลวิจัยเมื่อปีที่แล้วว่าคนไทย Gen Y สารภาพ “ลงแดง” หากขาดสมาร์ทโฟน?จากผลวิจัยยังพบว่าเราเล่นมือถือกันแทบจะทุกเวลา ที่สำคัญมีอีกผลวิจัยออกมาบอกว่าการเล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอีกต่างหาก
มหาวิทยาลัยฟลอริด้าจับมือกับมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนกับสมรรถภาพในการนอนหลับ และความสามารถในการทำงาน ซึ่งผลการวิจัยก็ย้ำชัดว่า คนที่เช็กอีเมล และเล่นสมาร์ทโฟนหลังเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป มีแนวโน้มนอนหลับยาก และตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกไม่พร้อมทำงาน ซึ่งส่งผลกระทบกับงานเข้าอย่างจังเชียวล่ะ และสาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็อธิบายได้ง่าย ๆ ว่า?สมาร์ทโฟนมีคลื่นอินฟาเรด และแสงสีฟ้า ที่รบกวนร่างกาย ให้หลั่งฮอร์โมนเมลาโธนิน (Melatonin) ออกมาสร้างความง่วงงุนให้เราได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้ร่างกายนอนหลับไม่สนิทนั่นเอง -?ขอบคุณข้อมูลจาก Kapook
อัตราการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของคนส่วนใหญ่จะอยู่ที่มากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งส่งผลกระทบกับสุขภาพตาโดยตรงเลยทีเดียว เพราะหน้าจอของอุปกรณ์เหล่านี้จะปล่อยแสงที่เรียกว่า “แสงสีฟ้า” มากกว่าอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ?โดยแสงสีฟ้า คือคลื่นแสงพลังงานสูงมีความยาวคลื่น 400 – 500 นาโนเมตรซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาของเราอย่างที่เราคาดไม่ถึง?ซึ่งการใช้สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเกิดผลกระทบกับเราเช่น ปวดตา ตาแห้ง พร่ามัว น้ำตาไหลจากงาน?และการวิจัยทางการแพทย์พบว่า แสงสีฟ้า (Blue Light) จะกระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระ (Oxidation) ที่สามารถทำลายเซลล์จอประสาทตา (RPE) อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD)?
แล้วผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างเราๆ จะทำอย่างไรดี ถ้าเลิกใช้ไม่ได้ ก็ต้องหาทางป้องกัน ซึ่งจะมีอุปกรณ์เสริมสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่มากับสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตมาอย่างยาวนาน จนแทบจะกลายเป็นของจำเป็นที่ผู้ใช้ต้องซื้อหลังซื้อมือถือใหม่…ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงฟิล์มกันรอยหน้าจอ ที่มีจุดประสงค์หลักก็คือช่วยในการปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน การกระแทก หรือในบางชนิดก็ช่วยเพิ่มความสวยงามและความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มกากเพชรฟรุ้่งฟริ้ง หรือฟิล์มลายการ์ตูน แต่ในปัจจุบันนี้มีฟิล์มรุ่นใหม่ที่ช่วยถนอมสายตาของเราได้แล้วนะครับ เรียกว่าทั้งป้องกันหน้าจอสมาร์ทโฟนของเราจากรอยขีดข่วน แถมยังป้องกันสายตาเราจากการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ อีกต่างหาก
ฟิล์มที่ว่าก็คือฟิล์มถนอมสายตา Focus Blue Light Cut นั่นเอง โดยจะใช้เทคโนโลยีตัดแสงสีฟ้า ซึ่งฟิล์ม Focus Blue Light Cut?มีการการันตีด้วยผลการทดสอบที่รับรองจาก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าฟิล์มถนอมสายตา Focus Blue Light Cut สามารถกรองแสงช่วง 400-500 นาโนเมตรได้ถึง 17.74 – 99.04% และมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มายืนยันด้วย ส่วนหลักการทำงานของฟิล์ม Focus Blue Light Cut ก็ตามรูปเลย
รีวิว Focus Blue Light Cut จากทาง Specphone
วิธีการติดตั้งก็ไม่ยากและมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นเอง สรุปง่ายๆ คือให้ทำความสะอาดจอให้เรียบร้อยก่อน ใช้ผ้าเช็ด ถ้ามีฝุ่นก็ใช้เทปกาวแปะแล้วดึงฝุ่นออก เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ลอกแผ่นฟิล์มที่ติดเลข 1 ไว้ออก แล้วนำฟิล์มด้านนั้นติดลงไปบนจอ เมื่อติดและไล่ฟองอากาศเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยลอกฟิล์มแผ่นที่ติดเลข 2 เอาไว้ออก เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ โดยฟิล์มกันรอยถนอมสายตา Focus Blue Light Cut นี่ติดตั้งได้ง่ายมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับฟิล์มตัดแสงสีฟ้าคุณภาพต่ำ และเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นสามารถรับชมวีดีโอแสดงการติดตั้งควบคู่ไปได้เลย
แต่ถ้าเครื่องเป็นสีโทนเข้มอย่างสีดำก็หายห่วงครับ แยกไม่ออกระหว่างฟิล์ม Focus Blue Light Cut กับฟิล์มปกติเลยหล่ะ อย่าง iPhone 5s สี Space Gray ในรูปติดฟิล์ม Focus Blue Light Cut แล้วนะครับ (เครื่องเดียวกับในวีดีโอรีวิว)
หากใครกังวลเรื่องการใช้งานหน้าจอว่าสีจอจะเพี้ยนหรือไม่ ต้องบอกว่าหายห่วงเลยครับ เพราะหน้าจอยังคงแสดงผลได้สีตรงตามปกติ จากการทดสอบให้เจ้าของเครื่องลองเช็กดู ยืนยันว่าแยกความแตกต่างไม่ออกระหว่างเครื่องไม่ติดฟิล์ม กับเครื่องเมื่อติดฟิล์มถนอมสายตา Focus Blue Light Cut ครับ ส่วนการทัชสกรีนยังคงทำได้แม่นยำและลื่นพอๆ กับตอนที่ไม่ติดฟิล์มเลย
เปรียบเทียบ Focus Blue Light Cut กับฟิล์มใสปกติ และฟิล์มตัดแสงสีฟ้าคุณภาพต่ำ
ลองมาเปรียบเทียบกับฟิล์มใส และฟิล์มตัดแสงสีฟ้าคุณภาพต่ำดูบ้างครับ ดูจากลักษณะทางกายภาพกันก่อน เมื่อเทียบกันจะเห็นชัดเจนเลยว่าฟิล์มแต่ละชนิดก็มีโทนสีของเนื้อฟิล์มที่แตกต่างกันไป โดยฟิล์มถนอมสายตาตัดแสงสีฟ้า Focus Blue Light Cut จะมีเนื้อฟิล์มออกสีโทนฟ้า, ฟิล์มตัดแสงสีฟ้าคุณภาพต่ำจะออกโทนเหลือง (ถ้าติดกับเครื่องสีขาวนี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ เครื่องจะดูหมองไปเลย) และท้ายที่สุดฟิล์มใสปกติก็มีเนื้อฟิล์มใส
โดยการทดสอบของเรานั้นจะใช้แสงไฟจากไฟฉายที่มีสองสีได้แก่สีขาว (แทนแสง Backlight) และไฟสีฟ้า (แทนแสงสีฟ้า) โดยมีฉากหลังเป็นกระดาษขาวก่อนนะครับ เมื่อลองใช้่ไฟสีฟ้าไล่ส่องดูตามฟิล์มชนิดต่างๆ พบว่าทั้งฟิล์มใสและฟิล์มตัดแสงสีฟ้าคุณภาพต่ำเนี่ย แสงไฟสีฟ้าสามารถส่องผ่านไปได้เกือบ 100% เลยทีเดียว กลับกันฟิล์มถนอมสายตา Focus Blue Light Cut สามารถกรองแสงสีฟ้าได้ดีทีเดียว เห็นได้ชัดเลยว่าแสงสีฟ้าผ่านไปที่กระดาษได้น้อยมาก ส่วนการทดสอบกับแสงสีขาว ที่ใช้แทนแสง Backlight พบว่าฟิล์มกันรอยถนอมสายตาตัดแสงสีฟ้าของ Focus ก็ไม่ได้ทำให้แสงหน้าจอดรอปลงแต่อย่างใด เพราะแสงไฟสีขาวยังคงผ่านทะลุได้เช่นเดียวกับฟิล์มใสธรรมดา และฟิล์มตัดแสงสีฟ้าคุณภาพต่ำ จึงสรุปได้ว่าในการใช้งานจริงนั้นหน้าจอที่ติดฟิล์มถนอมสายตา Focus Blue Light Cut สามารถป้องกันแสงสีฟ้าได้จริง รวมถึงไม่ลดคุณภาพของหน้าจอสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตอีกด้วย
ทั้งนี้ ใครที่สนใจจะหาฟิล์มกันรอยถนอมสายตา Focus Blue Light Cut มาใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ก็สามารถหาซื้อและติดฟิล์มได้ตามร้านจำหน่ายสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมทั่วไปได้ครับ เพราะยังไงทุกวันนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยเพราะต้องใช้สายตากับหน้าจอสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตทั้งวันเราควรหาวิธีป้องกัน และดูแลรักษาดวงตา อย่างการเลือกติดฟิล์มที่สามารถตัดแสงสีฟ้า เพื่อจะช่วยป้องกันอันตราย และ ถนอมสายตาให้อยู่กับเราไปนานๆ ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ??