เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วนะครับสำหรับ iPad Air รุ่นใหม่ในชื่อที่ไม่ได้พลิกโผไปมากนัก เพราะเปิดตัวในชื่อของ iPad Air 2 อย่างที่สื่อหลายเจ้าได้เก็งเอาไว้ ว่าแต่ iPad Air 2 จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง จะดีขึ้น, แรงขึ้นหรือไม่ มาดูกันครับ
ราคา iPad Air 2
ราคา iPad Air 2 เครื่องศูนย์ไทย รุ่น Wifi
- iPad Air 16 GB ราคา $499 ตีเป็นเงินไทย?16,900 บาท
- iPad Air 64 GB ราคา $599?ตีเป็นเงินไทย?20,400 บาท
- iPad Air 128 GB ราคา $699?ตีเป็นเงินไทย 23,900 บาท
ราคา iPad Air 2 เครื่องศูนย์ไทย รุ่น Wifi+Cellular
- iPad Air 16 GB ราคา $629?ตีเป็นเงินไทย 21,400 บาท
- iPad Air 64 GB ราคา $729?ตีเป็นเงินไทย?24,900 บาท
- iPad Air 128 GB ราคา $829?ตีเป็นเงินไทย 28,400 บาท
iPad Air 2 วางขายในไทยเมื่อไหร่/ซื้อ iPad Air 2 ได้ที่ไหน
กลุ่มประเทศแรกที่จะได้ซื้อ iPad Air 2 (ไม่มีไทยจ้าา)
ตามปกติแล้ว iPad เมื่อเปิดตัวแล้วจะวางขายแทบจะทันทีที่เปิดตัวเลยครับ โดย Apple เปิดให้จอง iPad Air 2 ได้ในวันที่ 17 ตุลาคม 2014 (บ้านเราน่าจะเป็นวันที่ 18 ตุลาคม 2014) และจะเริ่มส่งของได้ในอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป น่าเสียดายตรงที่ประเทศไทยก็ยังไม่ใช่ประเทศในกลุ่มแรกๆ ที่จะได้ซื้อ iPad Air 2 ก่อนใครเพื่อนอยู่ดี T-T เอาเป็นว่าอันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาเลยครับ จะจับจองเครื่องหิ้ว MBK หรือจะรอเครื่องศูนย์ไทย สำหรับ iPad Air 2 แล้วมีค่าเท่ากันครับ เพราะมันสามารถเคลมที่บ้านเราได้หมด ไม่เหมือนอย่าง iPhone
สำหรับการวางขาย iPad Air 2 ตามหน้าร้านนั้น มีความเป็นไปได้ว่ามันน่าจะวางขายภายในเดือนพฤษจิกายน – ธันวาคมครับ (ถ้าไทยได้เป็นประเทศกลุ่มที่สองนะ)?โดยเราสามารถหาซื้อ iPad Air 2 ได้ที่ร้านตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple ทุกสาขา เช่น iStudio, iBeat, Power Buy, Banana IT แต่ในช่วงแรกจะเป็นการวางขาย iPad Air 2 แค่รุ่น Wifi ส่วน iPad Air 2 รุ่น Wifi+Cellular (ใส่ซิมเพื่อเล่น 3G/4G ได้) น่าจะวางขายหลังจากรุ่น Wifi คาดว่าน่าจะวางขายประมาณเดือนพฤษจิกายน 2014 ครับ โดยในระยะแรกจะวางขาย iPad Air 2 Wifi+Cellular ผ่านทางโอเปอร์เรเตอร์อย่าง Dtac, Truemove-H และ AIS ก่อนครับ
สเปค iPad Air 2?
สำหรับสเปคของ iPad Air 2 ก็น่าจะไม่ทิ้งไปจาก iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มากนักครับ โดยหลักๆ ก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้ CPU Apple A8X 64 Bit
- ชิปประมวลผล Apple A8X รองรับ 64 บิต?แรงกว่า?iPhone?6 และ iPhone 6 Plus
- ภายในมีชิป M8 สำหรับช่วยประมวลผลด้านการเคลื่อนไหว (Motion)
- หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว Super Retina Display รุ่นปรับปรุงจาก iPad Air ตัวแรก
- กล้องหลัง iSight 8 ล้านพิกเซล ฟีเจอร์ไม่ต่างจากใน iPhone ถ่ายได้ทั้ง Slo-Mo, Timelpse, Burst mode
- กล้องหน้า Facetime Camera HD
- มาพร้อม iOS 8.1
- บางเพียง 6.1 มิลลิเมตร เป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลกไปแล้ว
- มีสีทองเพิ่มมาจากเดิม
- มีให้เลือก 3?ความจุคือ 16, 64 และ 128
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานทั่วไปได้ 10 ชั่วโมง
- มาพร้อมกับ Touch ID
- ใช้งาน Apple Pay ได้แค่การซื้อของออนไลน์
- สเปค iPad Air?2?แบบเต็มๆ
CPU iPad Air 2 ความเร็วเท่าไหร่/iPad Air 2 Ram เท่าไหร่
ตามปกติแล้ว iPad จะใช้ CPU ที่แรงกว่า iPhone อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นไปได้ว่า iPad Air 2 จะมาพร้อมกับ CPU Apple A8X ที่มีสัญญาณนาฬิกาแรงกว่า iPhone 6 เล็กน้อย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รอยืนยันข่าวอีกทีครับ เดี๋ยวพวก iFixit ก็แงะเครื่อง iPad Air 2 แล้วมาบอกเราเองนั่นแหละ ส่วนเรื่องแรมของ iPad Air 2 ก็น่าจะใช้เท่าเดิมครับ คือ 1 GB (ยังไม่ยืนยัน) แต่สิ่งที่โดดเด่นของชิป Apple A8X ก็คือความแรงที่มากกว่า iPad รุ่นก่อนถึง 12 เท่า และชิปกราฟฟิคที่ทรงพลังกว่าเดิมถึง 180 เท่า ทีนี้ก็เล่นเกมกันเนียนตาเลย
หน้าจอ iPad Air 2 แจ่มแค่ไหน
ความเจ๋งของ iPad Air 2 อย่างที่เรารู้กันว่านอกจากสเปคจะมีการพัฒนามากขึ้นแล้ว หน้าจอก็เป็นส่วนหนึ่งที่ Apple ให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยกรณีของ iPad Air 2 ตอนแรกมีการคาดการณ์ว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด 3K แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงเป็นหน้าจอ 9.7 นิ้วความละเอียดสูง Retina Display ความละเอียด 2048×1536 พิกเซล 264 ppi ทีเด็ดอยู่ที่การลดพื้นที่ระหว่างหน้าจอลง แล้วก็เคลือบสารกันแสงสะท้อน ทำให้หน้าจอของ iPad Air 2 มีแสงสะท้อนน้อยที่สุดในโลกของแท็บเล็ตไปเป็นที่เรียบร้อย เรียกว่ามาเรียบๆ แต่ต่อยทีนี่มีน็อคเลยนะครับ
กล้อง iPad Air 2/กล้องหน้า iPad Air 2 ดีไหม
กล้องหน้าและกล้องหลังของ iPad Air 2 มีการพัฒนาไปจากรุ่นแรกมากขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ พูดกันตรงๆ ตอนนี้ก็น่าจะเทียบชั้น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้แล้วหล่ะ เพราะ iPad Air 2 เล่นให้กล้องหลัง iSight Cameras ตัวใหม่ เซนเซอร์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ปรับปรุงการจับโฟกัสให้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงสามารถใช้โหมดต่างๆ ที่มีใน iPhone 6 ได้ซะด้วย ไม่ว่าจะเป็น Slo-mo 120fps, Timelapse, Panorama, Burst mode รวมถึงซอฟท์แวร์ในเครื่องก็จะฉลาดขึ้นถึงระดับที่ว่าสามารถปรับแต่งภาพจากใน iPad Air 2 ได้ทันทีหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ
ส่วนกล้องหน้าของ iPad Air 2 ก็ได้ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งครับ เพราะเปลี่ยนมาใช้กล้อง Facetime Cameras HD ตัวใหม่พร้อมกับไมโครโฟน 2 ตัวสำหรับการใช้งาน Facetime ส่วนตัวกล้องก็โดดเด่นขึ้นด้วยรูรับแสง f/2.2 ที่ให้ภาพสว่างกว่าเดิมถึง 81% เอาไปใช้เซลฟี่ได้สบายๆ เลยครับ รับรองกล้องหน้า iPad Air 2 ถ่ายออกมาแล้วสวยหล่อสมจริงแน่นอน
iPad Air 2 มาพร้อมกับ Touch ID
ไม่มีอะไรผลิกโผมากนักครับสำหรับฟีเจอร์ Touch ID ของ iPad Air 2 (อันที่จริงลือมาตั้งแต่ปีที่แล้ว) หลักการใช้งานก็เช่นเดียวกับใน iPhone เลยครับ แค่สแกนนิ้วไว้ ทีนี้เวสลาปลดล็อคหน้าจอก็แค่แตะนิ้วเข้าที่ปุ่มโฮม โดย Touch ID ของ Apple ค่อนข้างมีความแม่นยำสูงมากทีเดียว ถ้าสแกนตอนแรกดีๆ นี่แตะท่าไหนก็ติดครับ และนอกจากจะสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อก iPad Air 2 ได้แล้ว ยังสามารถใช้การสแกน Touch ID แทนการกรอกรหัสผ่านตอนซื้อแอพบน AppStore ได้ด้วย
iPad Air 2 มีสีอะไรบ้าง
ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ iPad Air 2 จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สีครับ ได้แก่ iPad Air 2 สีเทา Spcae Grey, iPad Air 2 สีเงิน Silver และ iPad Air 2 สีทอง Gold
หน้าตา iPad Air 2?
จุดเด่นของ iPad Air 2 ก็คงเป็นเรื่องของความบางที่บางกว่าเดิมที่ 6.1 มิลลิเมตรครับ ส่วนหน้าตาที่เหลือก็คล้ายๆ กับ iPad Air 2 นะ
