วันนี้มีงานเปิดตัวของ Lenovo ที่เปิดตัวเเท็บเล็ต Android Honeycomb พร้อมกันสองตัวคือ Lenovo Ideapad K1 ที่เน้นในระดับ Consumer เป็นหลัก ส่วน Lenovo Thinkpad Tablet นั้นก็ไปเน้นในเรื่องของตลาดองค์กรเสียมากกว่า ซึ่ง Lenovo Ideapad K1 เราเคยรีวิวไปเเล้ว เลยไม่ขอพูดละกันนะครับ
สำหรับคนที่ไม่รู้ ซีรีย์ Thinkpad นั้นมีอดีตมาจาก IBM ซึ่งเป็นผู้ผลิต PC เครื่องเเรกของโลก ซึ่งมีจุดเด่นถึงเรื่องหน้าตาที่คงเส้นคงวากับดีไซน์เเบบอนุรักษ์นิยม เน้นงานประกอบภายในที่ทนทาน เเละเทคโนโลยีที่ใส่ให้มาส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับสูงของตลาด ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเเบบนอกสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเจอกับอุบัติเหตุต่างๆ สูง ดังนั้นของในซีรีย์ Thinkpad จะไม่เน้นที่ความสวยงามมากเท่าไรนัก เรียกเสียว่าเป็น Engineering Beauty สวยจากภายในมากกว่า
เเต่หลังจากนั้นมา Lenovo ก็ได้ซื้อกิจการในส่วนของ PC จาก IBM ไปทำให้เราเห็นซีรีย์ Thinkpad ในรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาสวยงามขึ้นอย่าง Thinkpad Edge ซึ่งทำหน้าตาออกมาดูดีขึ้น เเต่ในเรื่องความทนทานอาจจะไม่เท่ากับรุ่นพี่ เเต่ก็สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปได้เป็นอย่างดี
ในกรณีเเท็บเล็ตก็เช่นเดียวกัน สำหรับ Lenovo Thinkpad ตัวนี้ ดูเเล้วก็ยังคงเอกลักษณ์ในดีไซน์เเบบ Thinkpad ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ทนทานเเละมีสไตล์ในฉบับของนักธุกิจของตนเอง สำหรับตัวฮาร์ดเเวร์นั้นก็อยู่ตามมาตรฐานของ Tablet Android Honeycomb ทั่วๆ ไป (ตัวนี้มาพร้อมเวอร์ชั่น 3.1) หน้าจอ 10.1 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1280 x 800 เเรม 1 GB ตามมาตรฐานของตัว Android Honeycomb ตัว Tablet ถูกออกเเบบมาเป็นเเนวตั้งเป็นหลัก เเต่ใช้งานเเนวนอนก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะส่วนใหญ่ Honeycomb ถูกออกเเบบมาให้ใช้เเนวนอนอยู่เเล้ว
ในส่วนของหน้าจอนั้นเป็นเเบบกระจก Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วน ดูเเล้วเหมือนมีกระจกครอบหน้าไว้อีกทีหนึ่ง เเละหน้าจอเป็นเเบบ IPS เเบบเดียวกับบน Asus Eee Pad Transformer
ในส่วนของ Keyboard Docking นั้นเป็นอุปกรณ์เเยกต่างหาก จุดเด่นคือสามารถพับเก็บได้เหมือนกับ Cover เคสทั่วๆไป เมื่อกางออกมาจะสามารถปรับความเอียงได้สามระดับ โดยมีเเม่เหล็กอยู่บริเวณล่างเพื่อไม่ให้ล้มพับได้โดยง่าย เเรงดูดสูงมาก ส่วนตัวคีย์บอร์ดนั่นเเป้นเป็นเเบบ Smile Key คือบริเวณด้านล่างจะมีลักษณะโค้งออกไปด้านนอกที่ทำให้พิมพ์ได้ง่ายกว่าเเบบสี่เหลี่ยมธรรมดา
จุดเด่นอีกอย่างคือ Trackpoint ที่อยู่ใน Thinkpad ทุกรุ่น เป็นปุ่มสีเเดงๆ? อยู่บริเวณตรงกลางเอาไว้ควบคุมเคอเซอร์บนจอ (เมื่อต่อดอคเเล้วจะมีเคอเซอร์ขึ้นมา) โดยลักษณะของตัวนี้เป็นเเบบ Optical Trackpad มากกว่าโดยใช้การลากซ้าย/ขวา มากกว่าการคลึงเเบบเดิม เเต่โดยโดยรวมเเล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เบา ใช้งานได้อเนกประสงค์ สามารถพกเป็นโน้ตบุคได้ง่ายเเบบ Asus Eee Pad Transformer เเต่จุดเด่นที่เหนือกว่าคือความเเข็งเเรงในการยึดระหว่าง Keyboard เเละ Tablet นั้นทำได้เหนือกว่า Asus Eee Pad Transformer
ลักษณะของตัว Cover ที่ประกอบเข้ามารวมทั้ง Tablet เเละ Keyobard สามารถปลดล็อกซองหนัง เเละกางออกมาใช้ได้เลย
เครื่องถูกออกเเบบมาในเเนวตั้งเป็นหลัก เป็นนั้นเป็นเเบบปุ่มกดต่างกับบางเจ้าที่จะเป็นเเบบปุ่มสัมผัสที่ทำให้กดโดยไม่ได้ตั้งใจได้ง่าย โดยถ้ามองจากเเนวตั้งปุ่มต่างๆ นั้นคือปุ่มล็อคการหมุนหน้าจอ ,ปุ่มเรียก Browser ,ปุ่ม Back เเละ ปุ่ม Home ตามลำดับ? ปุ่มด้านล่างเป็นเเบบปุ่มกด ทำให้ไม่มีการเผลอไปโดนโดยไม่ตั้งใจเเน่นอน
ด้านหลังนั้นยังมีโลโก้ Thinkpad ที่ตัว i มีเเสงสว่างสีเเดงเวลาเปิดใช้งานที่เป็นเอกลัษณ์ของ Thinkpad วัสดุด้านหลังเป็นดำด้านเเบบเทฟลอนเหมือนกับ HTC Incredible S หรือ Motorola Defy กล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซลตามมาตรฐานทั่วไป
สไตลัสนั้นใช้ถ่านขนาด AAAA ในการให้พลังงาน เนื่องจากปากกานั้นสามารถให้น้ำหนักในการกดได้เหมือนกับเวลาเราเขียนหนังสือ ถ้ากดเเรงเส้นก็จะใหญ่ กดเบาเส้นก็จะเล็ก ในเรื่องของสไตลัสนั้น ตัวเเอพจดโน้ตของ Lenovo สามารถเเปลงลายมือของเราไปเป็นตัวอักษรได้ค่อนข้างเเม่นยำมาก
ประโยชน์ส่วนนี้เห็นได้มากสุดน่าจะเป็นเรื่องของการเซ็นต์เอกสาร (Digital Signature) ที่สามารถเน้นความหนักเบาของเส้นในลายเซนต์ได้ เเละพบว่าถ้าเเบตเตอรี่อยู่ในระดับที่ต่ำหรือถ่านของสไตลัสใกล้หมดเเล้ว จะเกิดอาการเขียนติดบ้างไม่ติดบางครั้ง ในส่วนนี้ยังคงเป็นตัวต้นเเบบอยู่จึงมีปัญหาบ้าง เเต่รวมๆ เเล้วสามารถใช้จดโน้ตหรือไอเดียสั้นๆที่เราคิดขึ้นมาได้ เเต่คงไม่เหมาะกับเลคเชอร์ที่ต้องอาศัยความเร็วในการเขียนเท่าไหร่
ช่องต่อหลักอยู่ด้านล่างก็เเละรวมไปถึงพอร์ทมาตรฐานเเบบ micro USB เเละ micro HDMI พอร์ทหูฟังเเละช่องต่อ Multimedia Dock มาให้ (Keyboard Docking ใช้ พอร์ท USB, Multimedia Port ใช้พอร์ทเฉพาะ)
ด้านขวาก็ให้พอร์ท? Full USB มาเเบบ Acer Iconia Tab A500 ใช่ต่อเมาส์หรือคีย์บอร์ดเเบบ USB ได้
ปุ่มเปิดปิดนั้นอยู่ด้านข้างเหมือนกูล Samsung Galaxy
ปุ่มเพิ่มลดเสียงมาอยู่ด้านบนเเทน
สามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ท micro USB ได้
ตัว Multimedia Dock ที่บอกไป ต่อในเเนวตั้งเป็นหลัก เเถมพอร์ท USB มาให้อีก 1 พอร์ท
เเต่เอาเข้าจริงๆ จุดเด่นของตัวนี้เนื่องจากดีไซน์เเบบ Thinkpad เเล้ว ก็คือฟีเจอร์ในเรื่องขององค์กร โดยสรุปคร่าวๆ ที่ฟีเจอร์ใน Thinkpad Tablet ดังนี้
- ปิดการทำงานของเครื่องหรือ Remote Wipe ข้อมูลในเเท็บเล็ตได้
- สามารถ Encryption ข้อมูลในเครื่องได้
- Active Directory Intregration เป็น single sign on สำหรับการเข้าหาทรัพยากรในเครือข่ายไม่ต้องใส่พาสเวิร์ดหลายครั้ง
- สามารถล็อคพอร์ท USB, Micro SD Card, กล้อง เเละอื่นๆ
- สร้าง Market ที่ให้มีเเต่เเอพเฉพาะในองค์กรได้
โดยรวมเเล้วผู้ใช้ทั่วไปก็ซื้อใช้ได้ เพียงเเต่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ฮาร์ดคอร์ระดับนี้เเน่นอน เเละทำให้ราคารุ่นนี้อาจจะสูงขึ้นเหนือกว่าเพื่อนๆ ได้ง่ายมาก เมื่อรวมกับพวก On Site หรือ Extended Warranty ไปได้ ก็ทำให้พวกผู้บริหารหันมามองเเท็บเล็ตตัวนี้มากขึ้น เพราะโดยธรรมชาติ ผู้บริหารมักอยากได้อะไรที่ควบคุมได้ง่าย เเละสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวัลกับปัญหาจุกจิกของเครื่องจากการประกันที่มาซ่อมถึงที่
ถ้าพูดว่า Apple iPad นั้นขายความเป็น iPad ทำให้ขายดิบขายดีเเล้วละก็ ตัว Lenovo Thinkpad นั้นก็เปรียบเสมือนเหรียญคนละด้านกัน Lenovo Thinkpad Tablet ให้ความรู้สึกการใช้งาน เเละดีไซน์เเละความทนทานที่เรียกว่าเป็น Thinkpad เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเสน่ห์ของ Thinkpad ที่อยู่ในโน้ตบุคนั้นถูกถ่ายทอดลงมายังเเท็บเล็ตได้อย่างครบถ้วน เเฟนๆ Thinkpad อาจจะซื้อตัวนี้ได้ไม่ยาก
สำหรับ Lenovo Thinkpad Tablet นี้ จะถูกวางขายในเเบบ Wi-Fi + 3G เท่านั้น ในเเบบความจุ 32 GB เเละ 64 GB ในช่วงปลายกันยายน ถ้ามีราคาจะมาอัพเดทกันอีกทีครับ เเต่คาดการเบื้องต้นเเล้ว 20k (ขณะนี้ 3G + WiFiAndroid Tablet Honeycomb ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 19,900 บาท)
The Good
- เสน่ห์เเละเอกลักษณ์ของ Thinkpad ยังอยู่ครบถ้วน
- หน้าจอใช้เทคโนโลยี IPS ที่ให้มุมมองกว้าง เหมือน iPad เเละหน้าจอกันรอยขีดข่วน
- มีช่องเก็บปากกาในตัว + ที่ร้อยสาย (หายากมากเดี๋ยวนี้)
The Bad
- น้ำหนักค่อนข้างมากถ้าเทียบกับคู่เเข่ง อยู่ในระดับเดียวกับ Acer Iconia Tab A500 หรือ Motorola Xoom
- มีเเอพรวมเข้ามาเยอะเกินไปเหมือน Ideapad K1 ซอฟเเวร์ที่เสริมมาอย่าง Social Touch สามารถใช้งานได้ เเต่ขาดความน่าดึงดูดให้ใช้
- ความเร็วยังไม่ดีนัก ถ้าได้ตัวอัพเดท 3.2 น่าจะดีขึ้น