ข่าวนี้น่าจะเป็นประเด็นดราม่าต้อนรับการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 3 อย่างเป็นทางการในไทยพอดิบพอดีเลยครับ เมื่อ Phil Schiller รองประธานของ Apple ปัจจุบันดูแลด้านการตลาดโดยรวม ซึ่งตัวเขาเองก็มีความเชี่ยวชาญทางด้านฮาร์ดแวร์มาแต่ไหนแต่ไร ล่าสุดเขาได้ทวิตบทความรีวิว Samsung Galaxy Note 3 จากเว็บไซต์ ArsTechnica ที่ตัวบทความเองก็จั่วหัวไว้เลยว่า
“Review: The Galaxy Note 3 is big–and it pulls some benchmark shenanigans”
ซึ่งประโยคดังกล่าวแปลงเป็นไทยคร่าวๆ แล้วได้ความหมายคือ “รีวิว: Galaxy Note 3 มือถือจอใหญ่ ที่มาพร้อมผลทดสอบอันหลอกลวง” โดยตัวของ Schiller เองทวิตคำว่า Shenanigan ที่แปลว่าการหลอกลวง การโกหก การโกงซ้ำเข้าไปเพื่อเป็นการเน้นย้ำอีกด้วย ดังด้านล่างนี้ครับ
shenanigans http://t.co/30FoQDfNw0
? Philip Schiller (@pschiller) October 1, 2013
โดยจุดที่เป็นประเด็นก็คือเรื่องคะแนนทดสอบ ซึ่งทาง ArsTechnica ตรวจพบว่า Note 3 จะปรับการทำงานของ CPU ทั้ง 4 คอร์ให้วิ่งเต็มความเร็ว 2.3 GHz ทันทีเมื่อเปิดแอพที่ใช้ benchmark ขึ้นมา (รุ่นที่รีวิวคือรุ่นใช้ชิป Snapdragon 800) ซึ่งความเร็วนี้คือความเร็วสูงสุดของตัว CPU และจะรันที่ความเร็ว 2.3 GHz ตลอดเวลาที่เปิดแอพนั้นอยู่ แม้ว่าจะแค่เปิดแอพทิ้งไว้เฉยๆ ก็ตาม ผิดไปจากสมาร์ทโฟนปกติที่จะปรับความเร็วมาระดับสูงสุดก็ต่อเมื่อระบบเรียกใช้งานความเร็วสูงสุดเท่านั้น ความเร็วในการทำงานก็จะขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้พีคที่จุดสูงสุดตลอดเวลา
ภาพซ้ายคือระดับการทำงานในแบบปกติ สังเกตว่าคอร์หนึ่งทำงานแค่ 300 MHz ด้วยการเรียกทำงานแค่ 5% เท่านั้น แล้วปิดคอร์ที่เหลือลงไปเพื่อประหยัดพลังงาน แต่ในภาพขวาคือภาพการทำงานในขณะที่เปิดแอพ GeekBench ที่ใช้ benchmark ระบบอยู่ สังเกตว่า CPU ปรับมาทำงานที่ความเร็ว 2.3 GHz ทุกคอร์ในทันที แม้ว่าแต่ละคอร์จะทำงานจริงแค่ 3% ก็ตาม เรียกว่าเป็นการเพิ่มความเร็วขึ้นมารอในทันทีที่เปิดแอพ benchmark แม้ว่าจะยังไม่ได้ทดสอบจริงๆ ก็ตาม ซึ่งในส่วนนี้ไปส่งผลกับคะแนนทดสอบด้วย เพราะทำให้คะแนนออกมาสูงกว่า LG G2 ที่ใช้ CPU รุ่นเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่า Samsung จะใส่รายชื่อของแอพทดสอบลงไปในเครื่อง เมื่อระบบตรวจพบการเรียกทำงานแอพดังกล่าว CPU ก็จะเร่งความเร็วขึ้นมาในทันที
ทางทีมงาน ArsTechnica จึงได้ทดสอบแงะไฟล์ APK ของแอพ GeekBench 3 มาเปลี่ยนชื่อแอพเป็น Stealthbench 3 ซะ แล้วติดตั้งลงใน Note 3 ใหม่อีกที ปรากฏว่า CPU ในขณะเปิดแอพ Stealthbench (แต่ยังไม่ได้ทดสอบ) ทำงานในระดับปกติ คือใช้งานแค่คอร์เดียว ความเร็ว 300 MHz เท่านั้น (ภาพขวา)
และในด้านของผลการทดสอบ ก็พบความแตกต่างอย่างชัดเจนของ Note 3 ที่ใช้แอพชื่อปกติ (CPU เร่งไปที่ 2.3 GHz ตลอดเวลา/คะแนนผลเทสกลุ่มบน) กับ Note 3 ที่เปลี่ยนชื่อแอพทดสอบ (CPU ทำงานตามจริง/คะแนนผลเทสกลุ่มที่สอง) ดังกราฟด้านล่างนี้
ด้านของการทดสอบแบบหลายคอร์ อันนี้เห็นผลชัดเจนเลยครับ เรื่องความแตกต่างของคะแนนระหว่าง Note 3 ที่ CPU เร่งความเร็วขึ้น (กลุ่มบนสุด) กับ Note 3 ที่ทำงานในรูปแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ (กลุ่มที่สอง) พบว่าได้คะแนนใกล้เคียงกับ LG G2 มากๆ ซึ่งก็เป็นระดับคะแนนที่มันควรจะเป็นของตัวชิป Snapdragon 800
ส่วนถ้าหากทดสอบแบบคอร์เดียว พบว่า Note 3 แบบเร่งความเร็วทำคะแนนได้ดีกว่าแบบความเร็วธรรมชาติอยู่เล็กน้อย แต่ความแตกต่างอาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับแบบหลายคอร์ครับ
ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า Samsung ตั้งใจเพิ่มคะแนนการทดสอบด้วยการสร้างรายชื่อแอพทดสอบขึ้นมา เพื่อให้ CPU เร่งการทำงานไว้ตลอด โดยหวังผลให้ได้คะแนนทดสอบสูงกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งลักษณะนี้จะทำให้ผล benchmark ไม่ได้บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพจากการใช้งานจริงตามปกติ แต่เป็นการทำเพื่อรีดคะแนนออกมาได้สูงๆ เพื่อผลทางการตลาด เพราะด้วยลักษณะการทำงานโดยทั่วไปคงไม่มีใครใช้งานมือถือได้ความเร็ว CPU เต็ม 100% ทุกคอร์ตลอดเวลาแน่นอน ?ซึ่งจะมองว่าเป็นการเอาเปรียบสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ ในตลาดด้วยก็ได้ครับ
และอันที่จริงแล้ว Samsung ก็เคยใช้วิธีเดียวกันนี้กับ Samsung Galaxy S4 มาแล้ว (โมเดล Snapdragon 600) โดยเป็นการเพิ่มความเร็ว GPU ขึ้นเมื่อเปิดแอพ benchmark และแอพกล้อง ก็ต้องดูกันต่อไปครับว่า Samsung จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
ที่มา: ArsTechnica, 9to5mac