หลังจาก Apple เปิดอัปเดต iOS 26.1 ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดก็ได้ปล่อยอัปเดต iOS 26.2 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2025 ที่ผ่านมา แม้จะไม่ใช่การยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเหมือนตอนเปลี่ยนเลขเวอร์ชันหลัก แต่ในเวอร์ชั่น 26.2 นี้ก็อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ย่อยๆ ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นและลูกเล่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจสำหรับคนที่ใช้ iPhone ทุกคน ใครที่อยากจะลองฟีเจอร์ใหม่ๆ และอยากให้เครื่องเสถียรขึ้นก็สามารถอัปเดตได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ส่วนใครที่สนใจอยากได้รุ่นล่าสุดอย่าง iPhone 17 Pro มีราคาเริ่มต้น 43,900 บาทที่ Shopee/ Lazada และ iPhone 17 Pro Max ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท Shopee/ Lazada
อัปเดต iOS 26.2 มีอะไรใหม่บ้าง

1. ตั้งปลุกในแอปเตือนความจำ (Alarms for Reminders) บน iOS 26.2
- ระบบตั้งปลุกจริงจัง: แอป Reminders มีตัวเลือกใหม่ให้ตั้งนาฬิกาปลุก เมื่อถึงกำหนดเวลาของงานนั้นๆ ได้แล้ว โดยเปิดตัวเลือก “Urgent” หรือ ด่วน และเมื่อถึงเวลา จะมีหน้าจอแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาเหมือนนาฬิกาปลุกปกติ ให้กด Snooze (เลื่อน) หรือ Slide to stop (หยุด) ได้
- Live Activity: หากกดเลื่อนปลุก จะมีนับถอยหลังแสดงบนหน้าจอล็อค (Lock Screen) พร้อมกับใช้สีน้ำเงินเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างการปลุกของ Reminders กับนาฬิกาปลุกปกติ

2. ปรับแต่งหน้าจอล็อค (Lock Screen Liquid Glass) บน iOS 26.2
- แถบปรับความใส: เพิ่มแถบสไลด์ใหม่สำหรับปรับความทึบ/ใส (Opacity) ของตัวเลขนาฬิกาในโหมด Liquid Glass ให้ดูใสเหมือนหรือดูขุ่นๆ (Frosted) ได้ตามต้องการ และยังมีตัวเลือก Solid แยกต่างหากที่ใช้ปิด Liquid Glass บนนาฬิกาพร้อมตัวเลือกสีได้ด้วย
- การตั้งค่า Liquid Glass: เมื่อเปิดโหมด “Tinted” จะไม่สามารถใช้ร่วมกับฟีเจอร์ลดความใส Reduce Transparency และเพิ่มความคมชัด Increase Contrast ได้ (ระบบจะปิดให้อัตโนมัติ)

3. ความปลอดภัย AirDrop ที่มากขึ้นบน iOS 26.2
- รหัสยืนยันตัวตน: เพิ่มความปลอดภัยเมื่อส่งไฟล์หาคนแปลกหน้า โดยผู้รับสามารถสร้างรหัส (Code) บนเครื่องตัวเอง ให้คนที่ส่งกรอกเพื่อยืนยันการส่งได้ โดยรหัสนี้จะทำให้สามารถ AirDrop หากันได้สะดวกขึ้นภายในระยะเวลา 30 วัน

4. คะแนนการนอนหลับแบบใหม่ (Sleep Score Ranges) บน iOS 26.2
- ปรับเกณฑ์คะแนน Sleep Score ใน iOS 26.2 และ watchOS 26.2 ให้เข้ากับความรู้สึกจริงหลังตื่นนอนมากขึ้น โดยการคิดคะแนนจะมาจาก ระยะเวลาที่นอน (50 คะแนน), เวลาเข้านอน (30 คะแนน), และการตื่นกลางดึก (20 คะแนน) และแบ่งเกณฑ์ใหม่ดังนี้:
- Very Low (ต่ำมาก): 0-40
- Low (ต่ำ): 41-60
- OK (ปานกลาง): 61-80
- High (สูง): 81-95
- Very High (สูงมาก): 96-100 (เปลี่ยนชื่อจาก Excellent)

5. อัปเดตแอปพลิเคชันต่างๆ (App Updates) บน iOS 26.2
- Apple Music: รองรับเนื้อเพลงแบบออฟไลน์ (Offline Lyrics) และเพิ่ม Playlist เพลงโปรดลงในหน้า Top Picks
- Podcasts: สร้าง Chapters ให้อัตโนมัติ, ดูลิงก์ที่ถูกพูดถึงในรายการได้ทันที และเห็นรายชื่อ Podcast อื่นๆ ที่ถูกพูดถึงได้จากหน้าแรก
- Apple News: ปรับดีไซน์ใหม่ เพิ่มปุ่มลัดด้านบนสำหรับหมวดหมู่ต่างๆ เช่น กีฬา, ธุรกิจ และแยกแท็บ Following ออกมาต่างหากได้
- Freeform: รองรับการสร้างตาราง (Tables) ที่ใส่ข้อความ รูปภาพ หรือไฟล์แนบได้ และช่องตารางจะขยายขนาดให้อัตโนมัติ
- Games App: เรียงลำดับเกมตาม ขนาดไฟล์ได้แล้ว และรองรับการควบคุมเมนูด้วยจอยคอนโทรล
- Measure (แอปวัดระยะ): ปรับดีไซน์ตัววัดระดับน้ำเป็นแบบฟองอากาศ Liquid Glass

6. การช่วยการเข้าถึงและความปลอดภัย (Accessibility & Safety)
- Flash for Alerts แฟลชสำหรับแจ้งเตือน: เลือกให้หน้าจอกะพริบ (Screen Flash) เมื่อมีการแจ้งเตือนเข้ามาได้ จากเดิมที่มีแค่แฟลชกล้องหลังเท่านั้น
- Enhanced Safety Alerts: (เฉพาะในสหรัฐฯ) เมนูใหม่สำหรับจัดการแจ้งเตือนภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว โดยแสดงข้อมูลละเอียดขึ้น เช่น แผนที่พื้นที่ได้รับผลกระทบ

7. ฟีเจอร์เฉพาะบางภูมิภาค
- AirPods Live Translation (EU): ขยายฟีเจอร์แปลภาษาขณะพูดคุยผ่าน AirPods ไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป รองรับหลายภาษา รวมถึงจีน ญี่ปุ่น เกาหลี
- ในญี่ปุ่น: iPhone ในญี่ปุ่นสามารถเปลี่ยนปุ่ม Side Button ให้เรียกผู้ช่วยอื่นที่ไม่ใช่ Siri ได้ เช่น Gemini หรือ Alexa และเลือก Default Search Engine ได้ตอนเริ่มเครื่องใหม่
- เท็กซัส (สหรัฐฯ): เพิ่มระบบยืนยันอายุ (18+) และความยินยอมของผู้ปกครองสำหรับการโหลดแอป เพื่อรองรับกฎหมายใหม่
8. iPadOS 26.2 (เพิ่มเติม)
- Multitasking: คืนฟีเจอร์การลากแอป (Drag and drop) จาก App Library หรือ Dock เพื่อเปิดเป็น Slide Over หรือแบ่งหน้าจอได้ง่ายขึ้น
9. การแก้ไขบั๊กและความปลอดภัย
- อุดช่องโหว่ความปลอดภัยกว่า 20 จุด รวมถึงช่องโหว่ WebKit ที่อาจถูกโจมตีได้ และแก้ไขบั๊กที่ทำให้อัลบั้มเพลง Pre-release ใน Apple Music เล่นไม่ได้
สำหรับใครที่อัปเดตเป็น iOS 26 ไปแล้วก็แนะนำว่าให้อัปเดตเวอร์ชั่นใหม่นี้ด้วย เพื่อความปลอดภัยและความใหม่ของฟีเจอร์ สามารถกดอัปเดตได้เลยที่ Settings -> General -> Software Update ทั้งนี้เวอร์ชั่นถัดไปอย่าง iOS 26.3 คาดว่า Apple จะปล่อยเวอร์ชันเบต้าแรกครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า และจะให้อัปเดตได้เต็มๆ ปีหน้า
ที่มา: macrumors
