วันนี้หลายท่านคงได้เห็นข่าวที่เว็บไซต์ต่างประเทศ (รวมถึงเว็บไซต์ในบ้านเรา) รายงานเรื่อง iPhone 6 Plus สามารถงอเครื่องได้ด้วยมือเปล่า รวมถึงมันพร้อมจะงอได้ตลอดเวลาที่เราจับใส่กระเป๋า (หลัง) กางเกงยีนส์แล้วนั่งทับ และก็มีการแชร์ต่อกันมากมาย แต่ผมเชื่อว่ามีสิ่งหนึ่งที่เราลืมไป หรืออาจจะไม่รู้มาก่อนว่า iPhone 6 Plus ไม่ใช่ iPhone รุ่นแรกที่มีเหตุการณ์ตัวเครื่องงอเวลาโดนนั่งทับ เพราะมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัย iPhone 5 แล้วหล่ะครับ
ทำไม iPhone 6 Plus ถึงงอได้?
โดยสาเหตุที่ตัวเครื่อง iPhone 6 Plus (รวมถึง iPhone 5, iPhone 5s และ iPhone 6) ตัวเครื่องงอนั้นมีสาเหตุมาจากการขึ้นรูปแบบ Uniboby นี่แหละครับ การที่ใช้โลหะชิ้นเดียวแบบไร้รอยต่อทำให้ได้ตัวเครื่องที่มีความบางก็จริง แต่มันจะมีปัญหาเรื่องการรองรับแรงกดทับ เนื่องจากมันไม่มีแกนของตัวเครื่องนั่นเอง อีกทั้งตัวเครื่องยังบางอีกต่างหาก ลองสังเกตดูจาก Samsung Galaxy Note 3 ที่เอามาบิดเครื่องเทียบก็ได้ครับ Samsung Galaxy Note 3 จะใช้ขอบตัวเครื่องที่ทำจากโลหะเป็นแกน ตรงนี้นี่เองที่ทำให้มันทนทานกว่า iPhone 6 Plus ถ้าเจอแรงกดทับ หรือเจอคนมาบิดเล่น เช่นเดียวกันถ้าลองไปงอ Nokia Lumia 930 หรือ Sony Xperia Z2 ก็ไม่น่าจะมีใครงอได้ด้วยมือนะครับ เพราะมือถือเหล่านั้นต่างก็มีขอบเครื่องทำจากโลหะด้วยกันทั้งสิ้น
คลิปทดสอบดัดเครื่อง iPhone 6 Plus
คลิปทดสอบดัดเครื่อง Samsung Galaxy Note 3
HTC One M8 ก็เป็น Unibody เหมือนกัน ทำไมไม่เห็นงอเลย?
จริงอยู่ครับที่ HTC One M8 ก็เป็นมือถือที่ขึ้นรูปแบบ Unibody เหมือนอย่าง iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แถมยังใช้วัสดุเป็นโลหะเหมือนกันอีกต่างหาก แต่ต้องยอมรับครับว่าวัสดุโลหะของ HTC One M8 นั้นมีความทนทานมากกว่า iPhone พอสมควร อย่างน้อยที่สุดโลหะในบอดี้ของ HTC One M8 ก็มีความหนากว่า iPhone เยอะครับ แน่นอนว่าต้องแลกมากับน้ำหนักตัวที่มากกว่า iPhone พอสมควร
หมายเหตุ HTC One M8 หนัก 160 กรัม หนา 9.4 มิลลิเมตร ส่วน iPhone 5s หนัก 112 กรัม หนา 7.6 มิลลิเมตร
**อัพเดตล่าสุด มีผลการทดสอบออกมาแล้วนะครับ HTC One M8 ก็ไม่รอด เพราะมันมีสิทธิงอได้เหมือนกัน แสดงว่า Unibody ก็มีจุดด้อยเหมือนกันหมด**
ป้องกันไม่ให้ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus งอได้อย่างไรบ้าง
สำหรับวิธีการป้องกันไห้ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus (รวมถึง iPhone 5 กับ iPhone 5s ด้วย) เกิดอาการเครื่องงอก็มีด้วยกัน 3 วิธี ดังนี้ครับ
- หลีกเลี่ยงการใส่ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ไว้ในกระเป๋าหลังกางเกง
อันที่จริงการจับ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ใส่กระเป๋าหลังกางเกงก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ตัวเครื่องเกิดอาการงอหรอกครับ แต่ผู้ร้ายตัวจริงน่าจะเป็น “ก้นและน้ำหนักตัว” ของเรามากกว่า เพราะตอนงอมันจะเกิดจากการนั่งทับตัวเครื่องนี่แหละครับ ให้นึกภาพลักษณะทางกายภาพของก้นมนุษย์ที่จะมีลักษณะนูน และเมื่อเราหย่อนก้นลงพื้นมันก็จะเป็นลักษณะที่ก้นนูนๆ ของเราสัมผัสกับพื้นใช่ไหมครับ และยังไม่นับน้ำหนักตัวที่กดทับลงไปอีก การใส่ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ไว้ในกระเป๋าหลังกางเกงก็ไม่ต่างอะไรกับการพยายามดัด iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ด้วยก้นและน้ำหนักตัวของเราเลยหล่ะ
- หาเคสแบบ Bumper มาใส่ให้กับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
ทำไมถึงต้องเป็นเคสแบบ Bumper? อย่างที่เราได้บอกไปเกี่ยวกับสาเหตุที่ iPhone 6 Plus งอนั้นมาจากการขึ้นรูปแบบ Unibody ทำให้มันไม่มีแกนของตัวเครื่อง การที่เราใส่เคสแบบ Bumper จะเป็นเหมือนกับการเพิ่มแกนให้กับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ครับ ทำให้โอกาสที่ตัวเครื่องจะงอก็มีน้อยลง แถมยังป้องกันรอยขีดข่วนที่จะเกิดกับตัวเครื่องได้ในระดับหนึ่งด้วย เรียกว่าได้ 2 ต่อเลย
-
อย่าไปงอ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus เล่น
ตามหัวข้อนั่นแหละครับ จะไปงอเล่นทำม๊ายยยย
ทั้งนี้ทั้งนั้นการป้องกันปัญหา iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus เครื่องงอที่ง่ายที่สุดก็คือวิธีที่ 1 ซึ่งก็คือหลีกเลี่ยงการใส่ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ไว้ในกระเป๋าหลังกางเกงจะเป็นการดีที่สุดครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะเผลอนั่งทับไปตอนไหนก็ไม่รู้ และก็ไม่ใช่แต่เพียง iPhone เท่านั้นนะครับที่ไม่ควรใส่ไว้ในกระเป๋าหลังกางเกง มือถือไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตาม ก็ไม่ควรใส่ไว้ในกระเป๋าหลังกางเกงอยู่ดี เพราะถึงตัวเครื่องจะไม่งอ แต่ก็มีโอกาสที่จะนั่งทับแล้วหน้าจอแตกได้เช่นกัน