แนะนำ 5 Apple Watch รุ่นไหนดีในปี 2024 รุ่นไหนเหมาะกับใคร และแต่ละรุ่นมีราคาล่าสุดเท่าไหร่บ้าง
สำหรับ Apple Watch ล่าสุดที่มีวางขายบน Apple Store จะมีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นหลัก ได้แก่ Apple Watch SE, Apple Watch Ultra 2 และ Apple Watch Series 9 ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกช่วงปลายปีที่แล้วพร้อมๆ กับ iPhone 15 และแน่นอนว่าช่วงกันยายนที่ iPhone 16 จะเปิดตัวนี้ก็จะมี Apple Watch รุ่นใหม่เปิดตัวมาด้วยในปีนี้เช่นกัน ส่วนรุ่นอื่นๆ ก่อนหน้าในตอนนี้ที่มีขายก็จะมีอีก 2 รุ่นคือ Apple Watch Ultra และ Apple Watch Series 8 จากร้านค้าตัวแทนจำหน่าย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 5 Apple Watch รุ่นไหนดีในปี 2024 ที่น่าใช้งาน แต่ละรุ่นมีราคาล่าสุดเท่าไหร่และเหมาะกับใครบ้างไปดูกันเลย
- ตารางเปรียบเทียบ 5 Apple Watch รุ่นไหนดีในปี 2024
- สรุปซื้อ Apple Watch รุ่นไหนดีในปี 2024 และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง
ตารางเปรียบเทียบ 5 Apple Watch รุ่นไหนดีในปี 2024
Apple Watch Ultra 2 | Apple Watch Ultra | Apple Watch Series 9 | Apple Watch Series 8 | Apple Watch SE | |
ขนาด | 49 มม. | 49 มม. | 45 มม. และ 41 มม. | 45 มม. และ 41 มม. | 44 มม. และ 40 มม. |
หน้าจอ | Retina LTPO OLED แบบติดตลอด | Retina LTPO OLED แบบติดตลอด | Retina LTPO OLED แบบติดตลอด | Retina LTPO OLED แบบติดตลอด | Retina LTPO OLED |
สว่าง | 3,000 นิต | 2,000 นิต | 2,000 นิต | 1,000 นิต | 1,000 นิต |
วัสดุ | ไทเทเนียม จอผลึกแซฟไฟร์ | ไทเทเนียม จอผลึกแซฟไฟร์ | อะลูมิเนียม/ สแตนเลสสตีล จอ Ion‑X/ ผลึกแซฟไฟร์ | อะลูมิเนียม/ สแตนเลสสตีล จอ Ion‑X/ ผลึกแซฟไฟร์ | อะลูมิเนียม จอ Ion‑X |
กันน้ำกันฝุ่น | 100 ม./ IP6X | 100 ม./ IP6X | 50 ม./ IP6X | 50 ม./ IP6X | 50 ม. |
ชิป | SiP S9 | SiP S8 | SiP S9 | SiP S8 | SiP S8 |
เซ็นเซอร์สุขภาพ | ออกซิเจนในเลือด ECG IRNF ระยะของการนอนหลับ วัดหัวใจแบบไฟฟ้า วัดหัวใจแบบออปติคัล ติดตามรอบเดือน/คาดคะเน วัดอุณหภูมิ วัดความลึก ตรวจจับการชนกัน โทรฉุกเฉินทั่วโลก ตรวจจับการล้ม เสียงไซเรน | ออกซิเจนในเลือด ECG IRNF ระยะของการนอนหลับ วัดหัวใจแบบไฟฟ้า วัดหัวใจแบบออปติคัล ติดตามรอบเดือน/คาดคะเน วัดอุณหภูมิ วัดความลึก ตรวจจับการชนกัน โทรฉุกเฉินทั่วโลก ตรวจจับการล้ม เสียงไซเรน | ออกซิเจนในเลือด ECG IRNF ระยะของการนอนหลับ วัดหัวใจแบบไฟฟ้า วัดหัวใจแบบออปติคัล ติดตามรอบเดือน/คาดคะเน ตรวจจับการชนกัน โทรฉุกเฉินทั่วโลก ตรวจจับการล้ม | ออกซิเจนในเลือด ECG IRNF ระยะของการนอนหลับ วัดหัวใจแบบไฟฟ้า วัดหัวใจแบบออปติคัล ติดตามรอบเดือน/คาดคะเน ตรวจจับการชนกัน โทรฉุกเฉินทั่วโลก ตรวจจับการล้ม | IRNF ระยะของการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจ วัดหัวใจแบบออปติคัล ติดตามรอบเดือน ตรวจจับการชนกัน โทรฉุกเฉินทั่วโลก ตรวจจับการล้ม |
ปุ่ม | Digital Crown ปุ่มด้านข้าง/ ปุ่มแอ็คชั่น/ แตะ 2 ครั้ง | Digital Crown ปุ่มด้านข้าง/ ปุ่มแอ็คชั่น | Digital Crown ปุ่มด้านข้าง/ แตะ 2 ครั้ง | Digital Crown | Digital Crown |
แบตเตอรี่ | สูงสุด 72 ชั่วโมง ชาร์จไว | สูงสุด 60 ชั่วโมง ชาร์จไว | สูงสุด 36 ชั่วโมง ชาร์จไว | สูงสุด 36 ชั่วโมง ชาร์จไว | สูงสุด 18 ชั่วโมง |
ราคา | 31,900 บาท | 20,400 บาท | เริ่มต้น 15,900 บาท | เริ่มต้น 13,400 บาท | เริ่มต้น 9,490 บาท |
Apple Watch Ultra 2
เริ่มต้นกันด้วย Apple Watch รุ่นไหนดีกับสเปคของ Apple Watch Ultra 2 รุ่นตัวใหญ่ที่สุดกว่าทุกรุ่นนี้จะมีจุดเด่นหลักๆ เลยก็คือความแข็งแกร่งทั้งตัวเรือนและสาย สามารถจับคู่ตัวเรือนและสายที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ กับหน้าจอขนาดใหญ่พร้อมความสว่างที่ทำได้มากที่สุด มีฟีเจอร์การวัดต่างๆ พร้อมเซ็นเซอร์ที่ครบมากกว่าทุกรุ่น เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าขึ้นเขา ว่ายน้ำดำน้ำ หรือเอาไว้เล่นกีฬาก็ทำได้หมด นอกจากนี้ยังมีปุ่มกดที่ต่างๆ รอบตัวเรือน และรองรับการแตะ 2 ครั้งที่นิ้วเพื่อสั่งคำสั่งต่างๆ ได้ด้วยโดยไม่ต้องสัมผัส เหมาะสำหรับการใช้งานทุกแบบจะใส่ทั่วไปหรือจะเอาไว้ทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็ได้ มีวางขายรุ่นเดียวคือ GPS + Cellular ในราคา 31,900 บาท สั่งซื้อที่นี่
Apple Watch Ultra
Apple Watch รุ่นไหนดีรุ่นต่อมาเป็นรุ่น Apple Watch Ultra รุ่นก่อนหน้าที่มีฟีเจอร์การตรวจวัดค่าต่างๆ ที่เหมือนกันแทบทั้งหมด จะมีความต่างเล็กน้อยที่รุ่นนี้ยังแปลภาษาได้ไม่เท่ารุ่นใหม่ มีชิปเซ็ตที่เก่ากว่า แบตอยู่ได้นานน้อยกว่า และมีความสว่างหน้าจอที่น้อยกว่ารุ่นใหม่ รวมไปถึงปุ่มการใช้งานที่ยังไม่ได้รองรับฟีเจอร์แตะนิ้ว 2 ครั้งโดยไม่ต้องสัมผัส และจับคู่สายที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนไม่ได้ นอกนั้นก็ใช้งานได้พอๆ กันหมด ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องของความทนทาน และการใช้งานในทุกกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ เหมาะกับคนที่จะเอาไว้ใช้ทำกิจกรรมหรือเน้นแข็งแกร่งในราคาที่รองลงมาเยอะพอสมควร มีชายรุ่น GPS + Cellular ในราคา 20,400 บาท สั่งซื้อที่นี่
Apple Watch Series 9
มาดูรุ่นปกติที่เอาไว้ใช้งานทั่วไปกันบ้างกับ Apple Watch รุ่นไหนดีในรุ่น Apple Watch Series 9 รุ่นล่าสุดในปัจจุบัน มีจุดเด่นในด้านการใช้งานทั้งเซ็นเซอร์อันทรงพลัง และคุณสมบัติด้านสุขภาพที่ครบทุกแบบ ตัวเรือนมีให้เลือก 2 แบบ 2 ขนาดคือแบบอะลูมิเนียม และสแตนเลสสตีล พร้อมขนาด 45 มม. และ 41 มม. สามารถจับคู่ตัวเรือนและสายที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ และยังมีจอที่สว่างได้มากกว่าเดิมใช้ตอบ พิมพ์ หรือปัดหน้าจอได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์แตะนิ้ว 2 ครั้งโดยไม่ต้องสัมผัสได้ด้วย และมีสีให้เลือกเยอะกว่าทุกรุ่น จะเหมาะกับคนที่เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป มีขาย 2 รุ่นราคาดังนี้ สั่งซื้อที่นี่
จอ 41 มม.
- รุ่น GPS: ราคา 15,900 บาท (อะลูมิเนียม)/ ราคา 27,900 บาท (สแตนเลสสตีล)
- รุ่น GPS+ CELLULAR: ราคา 19,900 บาท (อะลูมิเนียม)/ ราคา 29,900 บาท (สแตนเลสสตีล)
จอ 45 มม.
- รุ่น GPS: ราคา 16,900 บาท (อะลูมิเนียม)/ ราคา 29,900 บาท (สแตนเลสสตีล)
- รุ่น GPS+ CELLULAR: ราคา 20,900 บาท (อะลูมิเนียม)/ ราคา 31,900 บาท (สแตนเลสสตีล)
Apple Watch Series 8
Apple Watch รุ่นไหนดีต่อมาเป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้า ซึ่งรุ่นนี้ก็จะมีสเปคและฟีเจอร์การใช้งานที่คล้ายๆ กับรุ่นใหม่ของฟีเจอร์การวีดค่าต่างๆ ที่ทำได้เหมือนกัน รุ่นนี้จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ใส่ทำงานหรือใส่เพื่อดูสุขภาพก็ทำได้ดีเลย ซึ่งรุ่นนี้จะต่างจากรุ่นใหม่ตรงที่ความสว่างหน้าจอที่น้อยกว่า มีชิปที่เก่ากว่า ยังไม่สามารถจับคู่ตัวเรือนและสายที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ และก็ยังไม่ได้รองรับฟีเจอร์แตะนิ้ว 2 ครั้งโดยไม่ต้องสัมผัส ถ้าใครที่จะหาไว้ใช้งานทั่วไปในราคาประหยัดลงมาหน่อยก็คือว่ายังเป็นรุ่นที่น่าสนใจเลย มีรุ่นและราคาล่าสุดในตอนนี้ได้แก่ สั่งซื้อที่นี่
จอ 41 มม.
- รุ่น GPS+ CELLULAR: ราคา 13,400 บาท (อะลูมิเนียม)/ ราคา 23,400 บาท (สแตนเลสสตีล)
จอ 45 มม.
- รุ่น GPS+ CELLULAR: ราคา 19,900 บาท (อะลูมิเนียม)/ ราคา 25,400 บาท (สแตนเลสสตีล)
Apple Watch SE
ปิดท้ายด้วย Apple Watch รุ่นไหนดีกับรุ่นน้องเล็กที่สุด สามารถสามารถจับคู่ตัวเรือนและสายที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ และแน่นอนว่าทั้งตัวหน้าจอก็จะมีขนาดที่เล็กกว่าทุกรุ่น มีรูปแบบหน้าจอที่ยังไม่สามารถเปิดแบบติดตลอดเวลาได้ และมีความสว่างที่น้อยที่สุด พร้อมกับเคสแบบเดียวคืออะลูมิเนียม ไม่สามารถกันฝุ่นได้ กับแบตเตอรี่ที่ยังใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การวัดค่าต่างๆ ได้แบบทั่วไป ยังไม่ได้เยอะเท่ากับตัว Series 8 – 9 รุ่นนี้จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป หรือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับเด็กๆ ในครอบครัวก็ได้ (เพราะรุ่นใหม่ก็มีข่าวว่าจะทำเป็นวัสดุพลาสติก) มีราคาและรุ่นให้เลือกคือ สั่งซื้อที่นี่
จอ 40 มม.
- รุ่น GPS: ราคา 9,490 บาท (อะลูมิเนียม)
- รุ่น GPS+ CELLULAR: ราคา 11,490 บาท (อะลูมิเนียม)
จอ 44 มม.
- รุ่น GPS: ราคา 10,490 บาท (อะลูมิเนียม)
- รุ่น GPS+ CELLULAR: ราคา 12,490 บาท (อะลูมิเนียม)
สรุปซื้อ Apple Watch รุ่นไหนดีในปี 2024 และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง
จากการเปรียบเทียบสเปคและข้อมูลสเปคคร่าวๆ ที่เราได้บอกไปนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า Apple Watch แต่ละรุ่นหลักๆ นั้นทำออกมาเพื่อใช้งานในรูปแบบไหน และเหมาะกับใครบ้าง อย่างแรกเลยก็คือคนที่ชอบเดินทางหรือว่าทำกิจกรรมภายนอก หรือออกไปในแนวแอดเวนเจอร์ และการเล่นกีฬา เน้นความแข็งแกร่งเป็นหลักจะเหมาะกับการใช้งานกับ Apple Watch Ultra 2 มากที่สุดแล้วในตอนนี้ หรือถ้างบน้อยลงมาหน่อยจะเลือกซื้อ Apple Watch Ultra รุ่นแรกมาใช้งานดูก่อนก็ได้
ส่วนใครที่หาซื้อ Apple Watch ไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างการออกกำลังกายปกติเวลาไปฟิตเนส ใช้วัดค่าทางด้านสุขภาพได้ครบ หรือว่าใส่ไปทำงานและใช้ชีวิตทั่วไปก็จะเหมาะกับ Apple Watch Series 9 ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนทั่วไปได้มากที่สุดในตอนนี้แล้ว ซึ่งใครที่อยากลดงบลงมาอีกหน่อยก็ยังมี Apple Watch Series 8 ให้เลือกซื้ออยู่ในบางรุ่น (สำหรับคนที่เน้นเรื่องฟีเจอร์การวัดค่าที่ทำได้เหมือนกัน)
สุดท้ายคือรุ่นเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากลองใช้งานหรือว่าจะซื้อให้กับเด็กๆ และคนในครอบครัวเอาไว้ใส่เพื่อวัดค่าทั่วไป มีการแจ้งเตือนเมื่อล้ม และวัดค่าหัวใจในแบบทั่วไปได้ดี และมีราคาประหยัดมากที่สุดก็ต้องเป็น Apple Watch SE ที่มีฟีเจอร์สำหรับรุ่นเริ่มต้นครบเลย
ข้อมูลและรูปจาก Apple