Google Bard AI คืออะไร เริ่มต้นใช้งานยังไง Chatbot จาก Google ที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น อัพเดทปี 2023
หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว Chatbot เข้ามาเขย่าวงการอย่าง ChatGPT ในช่วงปลายปีที่แล้วปี 2022 (ดูข้อมูล ChatGPT คืออะไรได้ที่นี่) ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้จัก AI กันมากขึ้น และยังนำข้อมูลจาก ChatGPT มาใช้ในการทำงานได้อย่างหลากหลายอีกด้วย หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ก็มีการยังเกิด Chatbot ตัวใหม่เข้ามาตามกันติดๆ ในช่วงต้นปี 2023 นั่นก็คือ Bard จาก Google แต่ว่ามาในรูปแบบของ beta จึงทำให้ข้อมูลที่ตอบกลับมาค่อนข้างจะมั่วและผิดเป็นส่วนใหญ่ สิ่งนี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Bard ถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนทำให้ต้องมีการอัพเดทครั้งใหม่และล่าสุดในเดือน พ.ค. 2023 ที่ผ่านมา วันนี้ทาง Specphone จะพาไปทำความรู้จักกับ Google Bard AI คืออะไร เริ่มต้นใช้งานยังไง มีอะไรที่แตกต่างจากตัวที่มีอยู่แล้วบ้าง กับ Chatbot ของ Google ที่ช่วยให้ชีวิตการทำงานง่ายขึ้นในปี 2023
- Google Bard AI คืออะไร ต่างจาก ChatGPT อย่างไร
- Google Bard AI ทำอะไรได้บ้าง
- Google Bard AI เริ่มต้นใช้งานยังไง
Google Bard AI คืออะไร ต่างจาก ChatGPT อย่างไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Google Bard หรือ Bard AI จาก Google นั้นทำ Chatbot ออกมาเพื่อแข่งกับ ChatGPT เต็มตัวอย่างแน่นอน แต่ว่าถึงจะเป็น Chatbot เหมือนกัน ก็มีมันสมองและวิธีการใช้งานกับรายละเอียดที่ต่างกันอยู่ แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือเป็น text-based ที่สามารถป้อนคำถามเข้าไปและได้รับคำตอบออกมาได้เรื่อยๆ เหมือนกัน โดยเบื้องต้น Google Bard AI หรือว่า Bard ของ Google เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ 2023 แต่ว่าเป็นตัว Beta ที่ยังไม่ได้ให้คำตอบได้ถูกต้องกลับมา จนทำให้ทาง Google ต้องปล่อยตัวอัพเดทออกมาอีกครั้งในภายหลัง
สิ่งที่ Google Bard AI ต่างกับ ChatGPT โดยหลักๆ เลยก็คือระบบควบคุมโปรแกรมที่ต่างกัน โดยของ Bard นั้นจะทำงานบนโมเดล LaMDA ส่วนของ ChatGPT ในเวอร์ชันฟรีนั้นทำงานบนโมเดล GPT 3.5 (เวอร์ชันเสียเงินเป็น GPT 4) ซึ่งมีขนาดโมเดลภาษาเป็นพารามิเตอร์ที่ต่างกันด้วย สิ่งต่อมาก็คือเรื่องของภาษาที่ Bard นั้นรองรับภาษาได้มากกว่า 40 ภาษาได้แก่ อารบิก เบงกาลี บัลแกเรีย จีน (ตัวย่อ/ ตัวเต็ม) โครเอเชีย เช็ก เดนมาร์ก ดัตช์ อังกฤษ เอสโตเนีย ฟาร์ซี ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีก คุชราต ฮิบรู ฮินดี ฮังการี อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น กันนาดา เกาหลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย มาลายาลัม มราฐี นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย รัสเซีย เซอร์เบีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน สวาฮีลี สวีเดน ทมิฬ เตลูกู ไทย ตุรกี ยูเครน อูรดู และเวียดนาม (ตามข้อมูลของ Google) ส่วนของ ChatGPT ก็มีการรองรับหลายภาษาเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ดีๆ ก็ต้องภาษาอังกฤษ ถ้าภาษาไทยอาจจะเรียงคำออกมาได้ไม่เป๊ะนัก
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ต่างกันอยู่อีกก็คือข้อมูลที่อัพเดท เพราะว่าของ ChatGPT นั้นจะมีการอัพเดทข้อมูลไว้เพียงปี 2021 แต่ว่า Bard ของ Google นั้นจะมีการดึงข้อมูลมาแบบ Real-time ทำให้มีข้อมูลที่ใหม่กว่า และยังมีขั้นตอนในการเข้าใช้งานที่คล้ายกันด้วย เพราะว่าของ ChatGPT นั้นก็ต้องสมัครเพื่อเข้าสู่ระบบ ส่วนของ Bard จะต้องมีการลงทะเบียน หรือว่าจะใช้ Gmail, Workspace ของตัวเองก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ใช้งานได้ฟรีทั้งคู่ อีกทั้ง Bard ของ Google นั้นสามารถเลือกธีมได้ด้วยว่าจะใช้แบบ Light Mode หรือ Dark Mode
Google Bard AI ทำอะไรได้บ้าง
หลังจากที่ Bard ของ Google ได้รับการอัพเดทใหม่อีกครั้ง ก็ทำให้ความสามารถในการใช้งาน Bard นั้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก ถ้าพูดถึงในเรื่องของการทำงานที่จะเข้ามาช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ก็ต้องดูสายงานของตัวเองในเบื้องต้นก่อนว่าจะใช้ประโยชน์ของมันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตัวโปรแกรมก็จัดอยู่ในพวก Conversational AI ที่ถามมาตอบไปในเรื่องที่ต้องการคำตอบ ในเบื้องต้น Bard ของ Google นั้นก็เป็นตัวช่วยในการทำงานได้หลายอย่างเช่น
1. ข้อมูลที่มีการอัพเดทใหม่แบบ Real-time อยู่เสมอ เนื่องจากตัวโปรแกรมของ LaMDA จะเข้าไปค้นหาจาก Google Search ก่อน จากนั้นก็จะนำมาเสนอให้เรารู้อีกที ทำให้การถามคำถามเข้าไปแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าเป็นข้อมูลที่อัพเดทใหม่แล้ว ที่สำคัญคือหลักการใช้ภาษานั้นจะค่อนข้างเป็นกันเองเหมือนมนุษย์คุยกัน ในขณะที่ ChatGPT นั้นจะให้คำตอบที่ดูเป็นทางการมากกว่า
2. Bard Ai รองรับการโต้ตอบกลับด้วยรูปภาพได้ ซึ่งการใช้งานสำหรับคนที่ต้องการ reference จากรูปภาพก็จะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้นไปอีกระดับ ไม่ว่าจะถามไปแบบดื้อๆ ตรงๆ ไปเลย หรือว่าจะถามด้วยข้อมูลที่ต้องมีรายยละเอียดก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงข้อมูลพร้อมกับรูปภาพประกอบออกมาได้เลยด้วย (แต่มีบางภาษาก็ยังไม่เข้าใจที่ขอไปนะ)
3. Bard สามารถช่วยทำงานใน Google Workspace ได้ด้วย จากการอัพเดทครั้งล่าสุดไปนั้น ก็ทำให้ Bard AI มีการเพิ่มการเรียนรู้ใหม่ โดยสามารถช่วยเราค้นหาข้อมูลด้วยการ Login เข้าไปใน Bard AI จากบัญชีของ Google Workspace เพื่อที่จะให้ Bard AI นั้นช่วยทำงาน ค้นหาข้อมูล ทำงานวิจัย ติดค้นอะไรใหม่ๆ หรือการจัดการในด้านธุรกิจได้ด้วย
4. Bard สามารถแชร์เนื้อหาจาก Bard AI ไปยัง Google Docs และ Gmail ได้เลย โดยเราสามารถส่งออก หรือว่าจะแชร์เนื้อหาจาก Bard AI ที่เราได้ถามหรือค้นหาไปแล้วไปยัง Gmail และ Google Docs ได้แบบง่ายๆ แค่คลิกแชร์ออกไปเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงพวก Google Drive, Google Sheets, Google Slides, Google Map หรือว่า Google Search ได้อีกด้วย
นอกจากที่ได้กล่าวไปแล้วก็ยังมีการทำงานตลอดเวลา 24 ชั่วโมง รองรับการเชื่อมต่อกับ Google Cloud ได้ง่ายๆ และยังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อื่นๆ ได้ด้วยการนำเข้าไปใส่ไว้ในแอพหรือโปรแกรมนั้นๆ เพื่อที่จะทำงานไปด้วยและหาข้อมูลไปด้วยได้พร้อมๆ กัน แต่ว่าใครจะนำไปใช้กับสายงานแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของตัวเองนั่นแหละ
Google Bard AI เริ่มต้นใช้งานยังไง
สำหรับการใช้งานของ Google Bard นั้นก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนวุ่นวาย อีกทั้งยังสามารถเข้าไปใช้งานได้บนระบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบนมือถืออย่าง Android หรือ iOS บนหน้าบราวเซอร์ที่ใช้ได้กับ Google Chrome, Firefox หรือว่าบน Microsoft Edge ได้ด้วย ส่วนระบบบนคอมฯ นั้นก็รองรับทั้งระบบ Window 10, Window 11, MacOS หรือ Linux ได้หมดเลย โดยขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้นมีวิธีดังนี้
1. เข้าไปยังเว็บของ Bard จากนั้นเลือก “ลองใช้ Bard (Try Bard)” ถ้าใครยังไม่ได้เข้าสู่ระบบก็ให้ Login เข้าด้วย Gmail หรือว่า Google Workspace ก่อนจะกดลองใช้งาน หากมีนโยบายขึ้นมาก็กดยอมรับ (Agree) ไปได้เลย
2. หลังจากนั้นถ้าหากว่าเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก ระบบจะแนะนำตัวโปรแกรมเบื้องต้นให้ก่อน เมื่อเรากดต่อไป (Continue) ก็จะเริ่มเข้าสู่หน้าแชทได้แล้ว โดยการป้อนคำถามนั้นสามารถถามเข้าไปได้เลยตามที่ต้องการ ไม่ต้องแต่งคำเวิ่นเว้ออะไรมากมาย เดี๋ยวระบบจะตอบกลับมาให้แบบธรรมชาติเอง
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเข้าไปใช้งาน Google Bard ได้แล้วง่ายๆ อีกทั้งยังป้อนภาษาไทยได้เลยแบบง่ายๆ จากการที่ได้ทดลองถามเรื่องมือถือก็ตอบกลับมาได้ดีทีเดียว และยังมีการอัพเดทใหม่ให้อีกด้วย โดยข้อมูลที่ตอบกลับมาจะมีทั้งข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ลิงก์ประกอบ รวมไปถึงรูปภาพที่ตอบกลับมาได้อย่างชัดเจน พร้อมแนะนำรุ่นอื่นๆ นอกจากรุ่นตัวเต็งให้ด้วย ว่าถ้าอยากได้ข้อมูลที่ละเอียดก็ให้ใช้คำถามที่ครอบคลุมสิ่งที่อยากได้จะดีที่สุด เพราะถ้าถามแบบโปรยๆ ไปแล้วทาง Bard ก็จะตอบมาให้ตามที่ถามเลยตรงๆ ลองนำไปใช้งานกันดูได้เลย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของ Google Bard AI คืออะไร มีความแตกต่างจาก Chatbot ตัวอื่นชื่อดังอย่าง ChatGPT อย่างไร มีจุดไหนเด่นจุดไหนที่ยังสู้ไม่ได้บ้าง คาดว่าน่าจะมีการอัพเดทมาให้ดีขึ้นกว่านี้อีก โดยตอนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีในหลายๆ ด้านแล้ว รวมไปถึงการเริ่มต้นใช้งานที่ง่าย ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าสู่ระบบก่อน แต่ก็ยังง่ายต่อการใช้งานอยู่ดี ที่น่าสนใจก็คือการรองรับภาษาไทย และรายละเอียดการใช้งานอื่นๆ ที่ช่วยให้บางสายงานดีขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ข้อมูลเยอะๆ หรือบ่อยๆ ก็ให้สรุปมาให้ง่ายๆ หรือว่าใครจะถามเรื่องราวจิปาถะทาง Bard ก็ให้คำตอบออกมาได้เหมือนกันนะ ส่วนข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างการวิเคราะห์หุ้นหรือการลงทุนอาจจะตอบไม่ได้เป๊ะนัก เพราะว่ามีความซับซ้อนสูง แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ