การปกป้องข้อมูลขั้นสูงสำหรับ iCloud คืออะไรและใช้งานอย่างไร

การปกป้องข้อมูลขั้นสูงหรือ Advanced Data Protection เป็นฟีเจอร์หนึ่งสำหรับผู้ใช้งาน iCloud ที่บางท่านอาจจะยังไม่รู้จัก ในวันนี้เราจึงขอมาเผยให้รู้ว่ามันคืออะไรและจะสามารถเปิดใช้งานได้อย่างไรกัน

iCloud
iCloud

Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและ iMessage เป็นส่วนหนึ่งของการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยระดับเดียวกันไม่มีให้ใช้งานบน iCloud ในอดีต

โชคดีที่มีการเปลี่ยนแปลงใน iOS 16.2 เนื่องจาก Apple เปิดตัว “การปกป้องข้อมูลขั้นสูง” ซึ่งเป็นการตั้งค่าเสริมที่เปิดใช้งานการเข้ารหัสแบบ end-to-end บนบริการ iCloud

หากคุณสับสนเกี่ยวกับการเพิ่มคุณสมบัตินี้ใน iOS โปรดอ่านบทความนี้ให้จบเพื่อที่คุณจะได้รู้ถึงคุณสมบัติการปกป้องข้อมูลขั้นสูงสำหรับ iCloud โดยสังเขปและแนะนำคุณตลอดขั้นตอนในการเปิดใช้งานที่ง่ายๆ แต่ได้ผลดี



การปกป้องข้อมูลขั้นสูงสำหรับ iCloud คืออะไร

advanced data protection in icloud settings

การปกป้องข้อมูลขั้นสูงสำหรับ iCloud เป็นการตั้งค่าเสริมที่เปิดใช้งานการเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับข้อมูลส่วนใหญ่ใน iCloud ของคุณ ด้วยเหตุนี้เมื่อข้อมูล iCloud ออกจากอุปกรณ์ของคุณ จะไม่มีใคร(แม้แต่ Apple) เข้าถึงได้ยกเว้นคุณ(และคนที่รู้รหัสที่คุณตั้งเอาไว้ดังนั้นต้องระวังในส่วนนี้ให้ดี)

มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงคีย์ที่จะช่วยให้คุณสามารถถอดรหัสข้อมูลของคุณได้(ถ้าคุณไม่บอกใคร) แม้ว่าข้อมูลของคุณจะถูกขโมยจากการละเมิดข้อมูล(อย่างการโจรกรรมออนไลน์) ขโมยจะไม่สามารถถอดรหัสได้หากไม่มีรหัสส่วนตัวของคุณ นอกจากนี้เมื่อข้อมูลของคุณได้รับการเข้ารหัสในลักษณะนี้ Apple จะไม่สามารถให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของคุณแก่เจ้าหน้าที่ได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณเป็นความลับสุดยอด


การคุ้มครองข้อมูลขั้นสูงครอบคลุมอะไรบ้าง

Apple ใช้การเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเพื่อเข้ารหัสข้อมูล iMessage, Health, Keychain และข้อมูลการชำระเงินของคุณ การเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางพร้อมใช้งานแล้วสำหรับหมวดหมู่ iCloud หลังจากที่มีการอัปเดทระบบปฎิบัติการใหม่ในปี 2022 มานั้นมีแอปพลิเคชันเพิ่มเติมที่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เพิ่มขึ้นดังนี้

  • iCloud Backups (Messages and device backups)
  • iCloud Drive
  • Notes
  • Photos
  • Reminders
  • Safari Bookmarks
  • Siri Shortcuts
  • Voice Memos
  • Wallet Passes

ดังนั้นในการเข้าถึงข้อมูลที่กล่าวถึงข้างต้น คุณต้องมีสิทธิ์เข้าถึงคีย์ส่วนตัวของคุณ เป็นที่น่าสังเกตว่าการปกป้องข้อมูลขั้นสูงไม่สามารถใช้งานได้ในเมล, รายชื่อหรือปฏิทิน iCloud เนื่องจากต้องมีการผสานรวมกับระบบอีเมล รายชื่อติดต่อและปฏิทินส่วนกลางอื่นๆ


ข้อกำหนดสำหรับการปกป้องข้อมูลขั้นสูงของ iCloud

ขณะนี้คุณสมบัติการปกป้องข้อมูลขั้นสูงของ Apple พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ต่อไปนี้

  • iPhone ที่ใช้ iOS เวอร์ชัน 16.2 ขึ้นไป
  • iPad ที่ใช้ iPadOS เวอร์ชัน 16.2 ขึ้นไป
  • Mac ที่ใช้ macOS เวอร์ชัน13.1 Ventura ขึ้นไป
  • Apple Watch ที่ใช้ watchOS เวอร์ชัน 9.2 ขึ้นไป
  • Apple TV ที่ใช้ tvOS เวอร์ชัน 16.2 ขึ้นไป
  • HomePod เวอร์ชัน 16.2
  • Windows PC ที่ติดตั้ง iCloud for Windows 14.1 ขึ้นไป

นอกเหนือจากข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แล้ว คุณจะต้องเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยสำหรับ Apple ID ของคุณ ตั้งรหัสผ่านหรือรหัสผ่านบนอุปกรณ์ของคุณหรือตั้งค่าคีย์การกู้คืนบนอุปกรณ์ Apple ของคุณ คุณยังต้องมีผู้ติดต่อสำหรับการกู้คืนอย่างน้อยหนึ่งรายเพื่อช่วยคุณกู้คืนข้อมูล iCloud ของคุณด้วยรหัส

ปัจจุบันคุณสมบัตินี้มีเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ Apple วางแผนที่จะเปิดตัวคุณสมบัตินี้ทั่วโลกในต้นปี 2566


วิธีเปิดใช้งานการปกป้องข้อมูลขั้นสูงสำหรับ iCloud

คุณสามารถเปิดใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูงสำหรับบัญชี iCloud ของคุณได้เมื่อคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดแล้ว เนื่องจากกระบวนการนี้คล้ายกันในอุปกรณ์อื่นๆ เราจะแสดงวิธีเปิดใช้งานบน iPhone, iPad และ Mac

วิธีเปิดการปกป้องข้อมูลขั้นสูงบน iPhone และ iPad

คุณสามารถตั้งค่าการปกป้องข้อมูลขั้นสูงได้จากแอปการตั้งค่าใน iOS และ iPadOS โดยทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้

Advanced Data Protection 001
  1. เปิดการตั้งค่า(Settings) บน iPhone หรือ iPad ของคุณแล้วแตะชื่อ Apple ID ของคุณที่ด้านบน
  2. ไปที่ iCloud > การปกป้องข้อมูลขั้นสูง(Advanced Data Protection)
  3. แตะเปิดใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง(Turn On Advanced Data Protection)
  4. เลือก ตรวจสอบวิธีการกู้คืน(Review Recovery Methods) และป้อนรหัสการกู้คืน 28 อักขระของคุณ
  5. ใส่รหัสผ่านของ iPad หรือ iPhone ตอนที่ขึ้น.
  6. แตะเสร็จสิ้น(Done) เพื่อเสร็จสิ้นการตั้งค่า
Advanced Data Protection 002

เมื่อการตั้งค่าเสร็จสิ้น การปกป้องข้อมูลขั้นสูงจะเปิดใช้งานสำหรับ Apple ID ของคุณ

วิธีเปิดการปกป้องข้อมูลขั้นสูงบน Mac

การตั้งค่าการปกป้องข้อมูลขั้นสูงบน Mac นั้นค่อนข้างง่ายเช่นกัน โดยสามารถที่จะทำได้ดังนี้

click advanced data protection
  • ไปที่การตั้งค่าระบบ(System Settings) > Apple ID > iCloud บน Mac ของคุณ
  • เลื่อนลงไปด้านล่างเพื่อค้นหาการตั้งค่าการปกป้องข้อมูลขั้นสูง(Advanced Data Protection) แล้วคลิก
  • ตอนนี้ คลิก เปิด(Turn On) ถัดจาก การปกป้องข้อมูลขั้นสูง(Advanced Data Protection)
turn on advanced data protection
  • เลือกตัวเลือก ตรวจสอบวิธีการกู้คืน(Review Recovery Methods) และป้อนรหัสการกู้คืน 28 อักขระในหน้าต่างถัดไป
enter recovery key verification
  • ป้อนรหัสผ่าน Mac ของคุณหากถูกถาม แล้วแตะดำเนินการต่อ(Continue) เพื่อสิ้นสุดการตั้งค่า

การปกป้องข้อมูลขั้นสูงจะเปิดใช้งานสำหรับ Apple ID ของคุณเมื่อคุณทำเสร็จแล้ว ในทำนองเดียวกันคุณสามารถเปิดคุณสมบัตินี้ได้ภายใต้การตั้งค่า Apple ID บนอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งนี้สิ่งที่คุณสามารถเปิดใช้งานบนอุปกรณ์เครื่องใดเครื่องหนึ่งของคุณเท่านั้นเพราะการตั้งค่านี้จะซิงค์กับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีเดียวกันให้โดยอัตโนมัติ


รักษาความปลอดภัยข้อมูลของคุณด้วยการปกป้องข้อมูลขั้นสูง

ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของทาง Apple ส่วนใหญ่รู้ว่า Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นอย่างมากและการปกป้องข้อมูลขั้นสูงก็เป็นก้าวสำคัญในทิศทางที่ถูกต้อง เป็นการดีที่สุดที่จะเปิดใช้งานเพื่อให้ข้อมูลสำรอง iCloud และข้อมูลที่มีค่าอื่นๆ ของคุณเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์

การปกป้องข้อมูลขั้นสูงเป็นเพียงหนึ่งในคุณสมบัติที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากมายที่ Apple นำเสนอ คุณยังสามารถปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของคุณบน iPhone และ iPad ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าบางอย่างซึ่งทางเราจะนำมานำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบกันต่อไป

ที่มา : makeuseof

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก