บทความนี้เหมาะกับผู้ใช้มือใหม่ที่ใช้งาน Vivo V5 และ Vivo V5 Plus มือถือเซลฟี่ขั้นเทพ รวมถึงมือถือ Vivo รุ่นอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ FunTouch OS ที่มีพื้นฐานบน Android 6.0 Matshmallow ครับ
โดยบทความนี้จะรวมวิธีการใช้งานเบื้องต้น และวิธีการแก้ปัญหาที่พบบ่อยใน Vivo V5 และ Vivo V5 Plus สำหรับแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเป็นหลัก
**หมายเหตุ บทความนี่เขียนขึ้นตอน Vivo V5 และ Vivo V5 Plus ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow**
วิธีการจับภาพหน้าจอ Vivo V5 และ Vivo V5 Plus ทำยังไง?
การจับภาพหน้าจอ Vivo V5 และ Vivo V5 Plus ให้กดปุ่มเปิดปิดเครื่องพร้อมๆ กับปุ่มโฮม จนมีเสียงดังแช้ะ โดยรูป Screenshot จะเก็บไว้ที่โฟลเดอร์ Picture > Screenshot แล้วแต่ว่าเลือกเก็บไว้ที่ไหน ปกติส่วนมากจะเก็บไว้ที่ SD card แต่สำหรับ Vivo V5 และ Vivo V5 Plus จะมีฟีเจอร์ S-Capture ที่สามารถเซฟภาพหน้าจอได้หลายแบบ ทั้งการอัดแบบวีดีโอ, การเซฟภาพหน้าจอแบบยาว รวมถึงการเซฟภาพหน้าจอแบบรูปร่างต่าง ๆ ตามที่เราต้องการ
โดยวิธีการเรียกใช้ฟีเจอร์ Super Screenshot เพียงปัดหน้าจอจากล่างขึ้นบน เพื่อเรียกแถบ Shotcut แล้วกดที่ไอคอนของ S-Capture
วิธีแก้ไขตอน Vivo V5 และ Vivo V5 Plus เครื่องค้าง (reset, hard reset)
ปัญหาเครื่องค้างบน Vivo V5 และ Vivo V5 Plus อันดับแรกให้ลองกดปุ่มปิดเครื่องค้างไว้ก่อนเพื่อทำการ Reset เครื่อง ถ้ากดแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาให้ทำการ Hard Reset ซึ่งปกติแล้วจะเป็นการถอดแบตเตอรี่ แต่ในกรณีของ Vivo V5 และ Vivo V5 Plus ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ ให้ใช้การกดปุ่ม Power พร้อมกับการกดปุ่มลดเสียงค้างไว้แทน
วิธีการเปิด-ปิด อินเทอร์เน็ต Vivo V5 และ Vivo V5 Plus
Vivo V5 และ Vivo V5 Plus สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ผ่านทาง 2 วิธี คือการเชื่อมต่อผ่าน Wifi และการเชื่อมต่อผ่าน 3G/4G LTE
การเชื่อมต่อผ่าน Wifi
- เข้าไปที่ การตั้งค่า > Wifi > เลือก Wifi ที่ต้องการเชื่อมต่อ (ถ้ามีพาสเวิร์ดก็ให้กรอกพาสเวิร์ดลงไป)
การเชื่อมต่อ 3G/4G LTE
- เข้าไปที่ การตั้งค่า > ข้อมูลโมบายล์ > ทำการเปิดข้อมูลโมบายล์
นอกจากนี้ยังสามารถเปิดอินเทอร์เน็ตทั้ง Wifi และ 3G/4G LTE ผ่านทางหน้า Quick Setting ได้โดยการปัดหน้าจอจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน จากนั้นเลือกกดที่ Wifi หรือ ข้อมูลโมบายล์
ปัญหาการเชื่อมต่อบลูทูธ, ไม้เซลฟี่ บน Vivo V5 และ Vivo V5 Plus
ถ้าไม่สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ ให้ลองปิดบลูทูธที่ตัวมือถือ (เข้าไปที่ การตั้งค่า > Bluetooth) พร้อมกับปิดอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ แล้วลองเชื่อมต่ออีกครั้ง โดยเปิดบลูทูธที่มือถือก่อน แล้วค่อยเปิดที่ตัวอุปกรณ์ หรือถ้ายังเชื่อมต่อไม่ได้จริงๆ ให้กดเลิกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ แล้วค่อย Pair ใหม่ครับ
Vivo V5 และ Vivo V5 Plus อัพเดต Firmware ไม่ได้
ปัญหาการอัพเดตเฟิร์มแวร์ หรือซอฟท์แวร์ไม่ผ่านอาจเกิดจากปันหาด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร หรือเน็ตแรงไม่พอ แนะนำให้รอจังหวะที่คนใช้เน็ตน้อยๆ (ตอนดึก) แล้วลองอัพเดตซอฟท์แวร์อีกครั้ง
ทั้งนี้ทั้งนั้นตอนอัพเดตซอฟท์แวร์ แนะนำให้มีแบตเตอรี่มากกว่า 60% และทางที่ดีควรเสียบสายชาร์จขณะที่อัพเดตซอฟท์แวร์ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องดับเอง
ปัญหาหน่วยความจำเต็ม Vivo V5 และ Vivo V5 Plus
การแก้ไขปัญหาหน่วยความจำเต็มบน SD Card ให้ลองลบข้อมูลบางส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น รูปภาพ หรือแอปพลิเคชันบางตัวที่ไม่ค่อยได้ใช้งานออกจากเครื่อง หรืออาจจะใช้แอปพลิเคชันสำหรับสำรองข้อมูลบน Cloud เพื่อสำรองข้อมูลก่อนทำการลบก็ได้ (เช่น Dropbox, Google Drive, OneDrive เป็นต้น)
ถ้าหน่วยความจำภายในเต็ม แล้วไม่สามารถลงแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ ให้ลองดูที่หัวข้อ “การย้ายแอปลง SD Card ใน Vivo V5”
การย้ายแอปลง SD Card ใน Vivo V5
เข้าไปที่ การตั้งค่า > แอปพลิเคชัน > จากนั้นเลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการจากหน้า “ดาวโหลดแล้ว” เมื่อกดเข้าไปแล้วให้เลือกที่ “ย้าย” แล้วกดที่ ยืนยัน
*หมายเหตุ แอปพลิเคชันบางแอป จะไม่สามารถย้ายไปยัง SD Card ได้ เนื่องจากข้อจำกัดของตัวระบบ*
**Vivo V5 Plus ไม่รองรับ MicroSD Card**
วิธีการตามหาเครื่อง Vivo V5 และ Vivo V5 Plus เมื่อทำหาย
เข้าไปที่ Android Device Manager จากนั้น Login ด้วย Google Account เดียวกับที่ล็อกอินไว้ในเครื่อง เพื่อทำการหาตำแหน่งของมือถือที่หายไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มือถือของเราก็ต้องเปิดอินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วยนะครับ
วิธีการตั้งค่าปลดล็อกหน้าจอ Vivo V5 และ Vivo V5 Plus แบบต่างๆ
Vivo V5 และ Vivo V5 Plus จะมาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ทางด้านหน้าของตัวเครื่อง แต่ก่อนจะปลดล็อกด้วยสแกนนิ้ว ต้องเข้าไปตั้งค่าที่ Setting > ความปลอดภัย > ล็อคหน้าจอ > เลือกวิธีการปลดล็อกหน้าจอ
- รูปแบบ – คือการลากเส้นเพื่อปลดล็อกหน้าจอ
- พิน – คือการกำหนดรหัสผ่านเป็นตัวเลขเพื่อปลดล็อคหน้าจอ
- รหัสผ่าน – คือการกำหนดรหัสผ่านเป็นตัวเลขผสมกับตัวอักษรภาษาอังกฤษเพื่อทำการปลดล็อคหน้าจอ