แน่นอนว่า Tim Cook ไม่ได้ให้คำตอบของปริศนาชิ้นนี้ จึงทำให้ประเด็นเรื่องนี้เป็นที่น่าจับตามองอย่างมากว่าอะไรคือนวัตรกรรมใหม่บน iPhone ที่เราจะขาดไม่ได้ และในบทความนี้ผมจะมาพูดถึงสิ่งที่อาจจะเป็นนวัตรกรรมใหม่ของ iPhone รุ่นต่อไปในอนาคตโดยอ้างอิงจากสิทธิบัตร (บางอย่าง) ที่ทาง Apple ได้ครอบครองอยู่โดยผมจะเรียงจากสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากไปสู่สิ่งที่มีความเป็นไปได้น้อย และจะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
1. คุณสมบัติในการกันน้ำ
เริ่มจากประเด็นที่มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือนวัตรกรรมใหม่ของ Apple ที่จะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone รุ่นต่อไปนั่นคือ คุณสมบัติในการป้องกันน้ำ ที่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีข่าวออกมาให้เราได้ยินกันแล้วว่า iPhone 7 จะมาพร้อมกับคุณสมบัติดังกล่าว และเช่นเดียวกับระบบสแกนลายนิ้วมือที่เมื่อ Apple ได้สร้างแนวคิดในการสร้างมือถือของแบรนด์อื่นๆ ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเราจะสังเกตได้จากมือถือรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันนี้ล้วนมาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคตัวเครื่องหรือการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยทั้งสิ้น ส่งผลให้ในการตัดสินใจของผู้ใช้งานมือถือนั้นเปลี่ยนไป ดังนั้นเมื่อ Apple สร้างมือถือกันน้ำขึ้นต่อไปในอนาคตมือถือทุกเครื่องก็อาจจะมาพร้อมคุณสมบัติเดียวกันก็เป็นได้
2. หน้าจอที่สัมผัสใต้น้ำได้
ต่อยอดจากเรื่องของการกันน้ำที่จะไร้ความหมายหากเราไม่สามารถใช้งานได้ในขณะที่หน้าจอเปียกหรือเวลาที่ตัวเครื่องอยู่ใต้น้ำ ดังนั้นอาจจะมีการคิดค้นให้ผู้ใช้งาน iPhone รุ่นต่อไปในอนาคตสามารถสัมผัสกับหน้าจอได้ในขณะที่ตัวเครื่องเปียกหรืออยู่ใต้น้ำ ซึ่งหากเรื่องนี้เป็นความจริงก็เชื่อได้เลยว่า iPhone รุ่นต่อไปจะต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับในทุกวันนี้ที่เราไม่สามารถใช้งานมือถือได้ในขณะที่หน้าจอเปียกน้ำ ดังนั้นหากสิ่งทีว่านี้เกิดขึ้นจริงแล้วล่ะก็ ประสบการณ์ใช้งาน iPhone จะเปลี่ยนไปตลอดกาล
3. ตัวเครื่องดัดงอได้
Flexible Displays หรือหน้าจอที่สามารถดัดงอได้เป็นสิ่งที่ทางผู้ผลิตมือถือกำลังพัฒนาอย่างแข็งขันในทุกวันนี้ เรียกว่าเป็นความท้าทายอย่างมากเพราะหากสามารถทำได้จริง ก็จะเท่ากับว่าความทนทานของมือถือนั้นได้เพิ้มขึ้นอีกระดับหนึ่ง แน่นอนว่าหาก Apple สามารถผลิตมือถือที่สามารถดัดงอได้ จะทำให้เรื่องของการพกพานั้นทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะในทุกวันนี้การนำมือถือหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วขึ้นไปใส่ในกระเป๋ากางเกงนั่นเริ่มที่จะไม่สะดวกอย่างเห็นได้ชัด ลองคิดดูว่าจะน่าสนใจขนาดไหนหากเราสามารถพับตัวเครื่องแล้วหย่อนลงกระเป๋ากางเกง หรือสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นในขณะที่มือถืออยู่ในกระเป๋ากางเกง
4. หมุนตัวด้วยตัวเองกลางอากาศ (ป้องกันการกระแทก)
เรื่องนี้อาจจะฟังดูเว่อร์ไปหน่อยแต่นี่คือสิ่งที่เคยเป็นข่าวออกมาจริงๆ โดยหลักการทำงานจะเน้นไปที่การป้องกันการกระแทกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะมีการใช้มอเตอร์หรือเทคโนโลยีแบบใหม่ เข้ามาช่วยในการปรับปรับทิศทางกลางอากาศ ให้ส่วนที่แข็งแรงที่สุดกระแทกพื้นในกรณีที่ตัวเครื่องหลุดมือ หรือ ตกหล่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้หน้าจอของ iPhone รอดพ้นจากการกระแทกพื้นอันเป็นเหตุทำให้หน้าจอแตกนั่นเอง และหากมีการพัฒนาให้ iPhone รุ่นต่อไปมาพร้อมกับเทคโนโลยีดังกล่าวราคาของ iPhone ในอนาคตก็จะต้องสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน จึงทำให้เรื่องนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น แต่หากเกิดขึ้นจริงก็เท่ากับว่าเราจะไม่ต้องกลัว iPhone หล่นพื้นอีกต่อไป
5. ปลดล็อคตัวเครื่องด้วยการแตะที่
เป็นระยะเวลาหลายปีแล้วที่ Apple ได้เปิดตัว Touch ID หรือเทคโนโลยีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาใช้งานใน iPhone จึงมีความเป็นไปได้ว่าถึงเวลาแล้วที่ Apple อาจจะมีการพัฒนาระบบปลดล็อคตัวเครื่องแบบใหม่ที่สามารถสั่งการได้จากการสัมผัสที่หน้าจอโดยตรงโดยการฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้้วมือเข้าไปที่หน้าจอแทนการใช้งาน Touch ID แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้การปลดล็อค iPhone ทำได้เร็วมากยิ่งขึ้น
6. เพิ่มการใช้งาน Visual Control
เมื่อช่วงต้นปี 2015 Apple ได้สิทธิบัตรในการควบคุมตัวเครื่องโดยที่ไม่ต้องมีการสัมผัสกับตัวเครื่องโดนตรง โดยฟีเจอร์นี้จะใช้กล้องถ่ายภาพด้านหน้าของตัวเครื่องจับการเคลื่อนไหนของสายตาผู้ใช้งานและจะประมวลผลออกมาเป็นคำสั่งบนหน้าจอสัมผัส เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องมารอดูว่า Apple จะพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวนี้มาใช้งานใน iPhone รุ่นต่อไปในอนาคตหรือไม่
7. หน้าจอแสดงผลด้านข้าง
Sidewall Display หรือหน้าจอแสดงผลด้านข้างของตัวเครื่องเป็นสิทธิบัตรที่ Apple ได้มาตั้งแต่ปี 2014 และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า Apple จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานเมื่อใด และหาก Apple ตัดสินใจพัฒนาเทคโนโลยีหน้าจอด้านข้างจริง หน้าจอด้านข้างจาก Apple จะต้องมีอะไรที่มากกว่าการแจ้งเตือนธรรมดาอย่างแน่นอน แต่จะเป็นอะไรนั้นเราคงต้องมารอดูกันต่อไป และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คาดว่าอาจจะเป็นนวัตรกรรมใหม่จาก Apple ที่ยังคงต้องรอดูว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ หรือไม่ และถ้าเกิดขึ้นจริงนี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกใบนี้อีกครั้ง
