ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาให้เราได้เห็นอยู่เสมอ แต่มือถือเหล่านั้นจะเป็นระดับเรือธงที่มีราคาสูงเกินหลังหมื่นขึ้นทั้งนั้น สำหรับคนที่มีงบไม่มากนัก หรือมีไม่เกิน 5000 บาท ก็ลองเข้ามาเลือกดูโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทในปี 2021 ว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจ ใช้งานได้คุ้มค่ากับราคา แถมยังได้สเปคดีมีกล้องสวยไว้ให้ใช้งานทุกรูปแบบเลย
ในยุคที่เศรษฐกิจของบ้านเรานั้น ไม่ค่อยจะดำเนินไปในทางที่ดีสักเท่าไหร่ เนื่องจากเกิดการระบาดของ Covid-19 ทำให้หลายๆ คนไม่มีงานทำ หรือว่ารายได้ที่เคยได้รับนั้น ลดลงไปเยอะมาก แต่การใช้งานมือถือกับชีวิตประจำวันในทุกวันนี้ ก็เป็นสิ่งที่ยังจำเป็นอยู่ เพราะไม่ได้มีเอาไว้เพียงแค่ให้โทรหากันเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถอัพเดทข่าวสาร ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่น Social Media ต่างๆ ได้อีก ที่สำคัญเลยก็คือ การลงทะเบียนรับเงินเยียวยา หรือว่าการซื้อขายของผ่านทางแอปฯ ธนาคารต่างๆ ที่ช่วยให้การขายของ หรือการทำงานสะดวกสบาย และตอบโจทย์การใช้งานของทุกๆ คนมากขึ้น วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทในปี 2021 ที่คุ้มค่าต่อการใช้งาน ทั้งราคาสเปค กล้องสวย พร้อมรองรับการใช้งานในระดับพื้นฐานทุกรูปแบบ ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนในปีนี้ ที่น่าสนใจบ้าง
10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 ปี 2021
สำหรับทั้ง 10 รุ่นที่เราจะนำมาแนะนำกันในวันนี้ จะเป็นโทรศัพท์ที่ออกใหม่มาไม่เกิน 6 เดือน หรือพูดง่ายๆ ก็คือส่วนใหญ่จะเปิดตัวออกมาในปี 2021 นี้นั่นเอง ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ที่ทำออกมาให้ใช้งาน แต่เราจะเลือกแนะนำรุ่นที่น่าสนใจ ใช้งานได้เป็นอย่างดี มีครบทุกฟีเจอร์ ไม่ว่าจะใช้แบบทั่วไป เล่น Social Media ดูหนัง หรือเล่นเกม (อ่านต่อ.. 10 มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 5000 บาท) ลองเข้าไปดูกันว่ารุ่นไหน เหมาะกับใคร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหนได้บ้าง
1. Samsung Galaxy M02 : ราคา 2,799 บาท
หน้าจอ PLS TFT กว้าง 6.5 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + 2MP | ชิป MT6739 | แบต 5,000 mAh |
มาเริ่มกันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นแรกกันก่อนเลย กับมือถือจากยี่ห้อใหญ่อย่าง Samsung ซึ่งความจริงแล้ว Samsung นั้นได้ทำออกมาอยู่หลายรุ่นอยู่เหมือนกัน โดยรุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นประหยัด ที่ใช้งานได้ครอบคลุมทุกการใช้งานด้วย โดยรุ่นนี้ได้เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง การดีไซน์ภายนอกตัวเครื่องของฝาหลัง จะทำให้มีลวดลายเล็กน้อยดูสวยงาม ทำมาจากพลาสติก กับหน้าจอที่เป็นกระจกแข็ง และเป็นแบบ PLS TFT ขนาดความกว้าง 6.5 นิ้ว มาพร้อมชิปเซ็ต MT6739 ใช้งานแบบทั่วไปได้สบายๆ แต่ไม่ได้เน้นไปในเรื่องการเล่นเกมหรืออะไรมากนัก
ส่วนกล้องหลังจะมีมาให้ 2 ตัวคือ 13MP + เลนส์มาโคร 2MP ถ่ายรูปธรรมดา หรือใช้ถ่ายสแกนได้ปกติ กับกล้องหน้าที่อยู่ในระดับมาตรฐานที่ความละเอียด 5MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะถ่ายไม่ได้ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือแบต ที่มีความจุมาให้มากถึง 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานมากๆ ถ้าไม่ได้ใช้งานหนักแบบเล่นเกมหนักๆ ทั้งวันก็ไม่เป็นปัญหาแน่นอน และถึงแม้ว่าจะเล่น Social Media หรือดู Youtube ก็ดูได้ติดต่อกันถึง 16 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย โดยรวมแล้วโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นอะไรมากเป็นพิเศษ แต่การทำงานของตัวเครื่องและสเปคก็ช่วยให้ใช้งานได้เป็นอย่างดีมากอยู่แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ ที่นี่
- ราคาของ Samsung Galaxy M02 มีราคาเปิดตัวที่ 2,799 บาทเท่านั้น
2. Samsung Galaxy A02 : ราคา 2,999 บาท
หน้าจอ PLS TFT กว้าง 6.5 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + 2MP | ชิป MT6739W | แบต 5,000 mAh |
มาต่อกันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทกับของ Samsung อีกรุ่น ซึ่งรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นรุ่นมาตรฐาน ที่สามารถนำมาใช้งานแบบทั่วไปได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่ามีราคาที่ไม่แพงด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวนี้จะต่างกับตัวบนนิดหน่อยตรงที่ชิป ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะมีความคล้ายกันมากๆ กระทั่งรูปลักษณ์ภายนอก ก็ยังมีการดีไซน์ที่คล้ายๆ กันด้วย อย่างฝาหลังที่มีลายเล็กน้อย ใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด ส่วนหน้าจอเป็นกระจกแข็งแบบ PLS TFT ที่มีความกว้าง 6.5 นิ้วเท่ากันเป๊ะ ส่วนที่บอกว่าแตกต่างก็คือชิป ที่รุ่นนี้ได้ใช้เป็นตัว MT6739W ใช้งานแบบทั่วไปได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดเล่นเกมหนักๆ ได้ ซึ่งรุ่นนี้ก็ทำมาให้ใช้งานแบบทั่วไปอยู่แล้ว
ส่วนในเรื่องของกล้องหลังก็จะมีความคล้ายกับตัว M02 เลย และมีเลนส์ที่เหมือนกันด้วย ที่มีกล้องหลัง 2 ตัวมีความละเอียดอยู่ที่ 13MP + เลนส์มาโคร 2MP ถ่ายรูปได้ดีในระดับหนึ่งเลย สามารถถ่ายได้ดีปกติ กับกล้องหน้าที่มีความละเอียดมาตรฐานคือ 5MP เซลฟี่ได้สบายๆ สุดท้ายคือแบตเตอรี่ ที่ยังคงมีความอึดอีกเช่นเคย ซึ่งตัวนี้มีความจุมากถึง 5000 mAh ดูหนังหรือดู Youtube ได้ต่อเนื่อง 16 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะใช้งานหนัก หรือว่าเล่นเกมดูหนังทั้งวัน ก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน รุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป เป็นรุ่นที่ไม่ได้เน้นอะไรโดดเด่นเฉพาะ เพราะสามารถใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งในทุกๆ ด้านอยู่แล้ว ใครมองหาโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทต้องซื้อเลย
- ราคาของ Samsung Galaxy A02 มีราคาเปิดตัวที่ 2,999 บาท
3. OPPO A15s : ราคา 4,999 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.52 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + 2MP + 2MP | ชิป Helio P35 | แบต 4,230 mAh |
อัพเกรดกันให้เหนือขึ้นมาอีกขั้น กับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทจาก OPPO รุ่นนี้ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมาก จากคนที่ได้ลองใช้งาน ก็บอกกันหลายคนว่าใช้งานได้ดีจริง ด้วยสเปคทั้งภายนอกและภายใน ที่ใช้งานได้ดีในทุกๆ เรื่อง โดยด้านหลังของตัวเครื่องนั้น จะเป็นสีเรียบๆ ทำให้ดูสวยงามมีระดับ ทำจากพลาสติกทั้งหมด ด้านหน้าจอจะเป็นกระจกแข็งแบบ IPS-LCD ให้ความคมชัดสีสันสวยงาม มีขนาดความกว้าง 6.52 นิ้วขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนชิปตัวนี้จะเป็น Helio P35 ใช้ได้ตั้งแต่ทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือจะใช้เล่นเกมก็ยังได้ เล่นได้ลื่นๆ ระดับหนึ่งเลย เพราะชิปตัวนี้เล่นเกมได้อยู่แล้วด้วย
ส่วนกล้องหลังก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะมีมาให้ถึง 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + มาโคร 2MP + เลนส์ชัดลึก 2MP ใช้ถ่ายรูปก็ทำได้ดีอีก ไม่ว่าจะถ่ายแบบไหน กล้องก็สามารถรองรับตรงนี้ได้ดีเลย มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามแน่นอน แถมยังมีฟีเจอร์ AI มาช่วยทำให้การถ่ายนั้นง่ายขึ้นด้วย สุดท้ายคือแบต ที่มีความจุมาให้ 4,230 mAh ถึงแม้ว่าจะดูไม่เยอะมากนัก แต่ความจริงแล้วก็สามารถดูวิดีโอได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และเล่นเกมได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงเลย โดยรวมแล้วเป็นรุ่นที่ทำออกมาให้ใช้งานได้ดีในทุกๆ ด้าน จะใช้ปกติ เน้นถ่ายรูป หรือเอามาเล่นเกมก็ยังพอไหว แถมมีราคากลางๆ เป็นโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทที่คุ้มเหมือนกัน
- ราคาของ OPPO A15s มีราคาเปิดตัวที่ 4,999 บาท
4. vivo Y12s : ราคา 4,299 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.51 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + 2MP | ชิป Helio P35 | แบต 5,000 mAh |
มาต่อกันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทปี 2021 ที่มีกล้องสวยกันอีกยี่ห้อ โดยตัวนี้ของ vivo นั้นเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ด้วยการทำงานที่ยังทำได้ดีอยู่ เราเลยขอใส่มาด้วย รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำออกมาให้ใช้งานได้แบบทั่วๆ ไป และใช้งานได้เกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะดูหนัง หรือเล่นเกมก็ทำได้ดีเลย การดีไซน์ภายนอกของรุ่นนี้จะเป็นการเล่นสีแบบเหลือบๆ สะท้อนแสงเล็กน้อย ทำมาจากพลาสติก กับหน้าจอกระจกแข็งที่เป็นแบบ IPS-LCD กว้าง 6.51 นิ้ว ขนาดกำลังดีพอๆ กับตัวข้างบนเลย และก็มาพร้อมกับชิป Helio P35 ที่สามารถใช้เล่นเกมได้ดีอีกด้วย ความน่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือ สามารถสแกนลายนิ้วมือ จากตรงด้านข้างของตัวเครื่องได้ด้วย
ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้จะมีมาให้ 2 กล้องที่ความละเอียด 13MP + Bokeh 2MP กับ AI อัจฉริยะ ที่ทำให้ถ่ายรูปได้ง่าย และทำให้สวยมากยิ่งขึ้น จะถ่ายวิวหรือถ่ายคนก็ทำออกมาได้ดีมากๆ กล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ 8MP ใช้ถ่ายเซลฟี่ๆ ได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะออกมาไม่สวย เพราะมี AI คอยช่วยปรับให้ดีขึ้น ถ้าใครจะซื้อมาใช้เล่นเกมก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแบต เพราะมีความจุมากถึง 5,000 mAh เล่นต่อเนื่องไปเลยยาวๆ ได้ถึง 8.9 ชั่วโมง หรือถ้าจะเอาไว้ดูหนังก็ดูได้ต่อเนื่อง 16.3 ชั่วโมงเลยทีเดียว โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่อยากได้มือถือไว้เล่นเกม หรือจะใช้แบบทั่วไปก็ใช้ได้ดีรุ่นนึงเลย และยังมีราคาที่ประหยัดมากขึ้นด้วย เนื่องจากออกมานานแล้ว ราคาอาจลดลงจากราคาเปิดตัวไปบ้างเล็กน้อย
- ราคาของ vivo Y12s มีราคาเปิดตัวที่ 4,299 บาท
5. realme C21 : ราคา 4,299 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + 2MP +2MP | ชิป Helio G35 | แบต 5,000 mAh |
มากันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทอีกหนึ่งยี่ห้อ ที่เรียกได้ว่าถูกใจผู้ใช้งานหลายๆ คนอีกเช่นกันกับ realme ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่นี้ออกมาในราคาประหยัด แต่ได้สเปคแบบเทพๆ ตัวหนึ่งเลย ด้วยการดีไซน์ลวดลายลงไปบนฝาหลัง ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมตัดกันไปมา ช่วยให้เครื่องนี้ดูสวยงามมากขึ้น ซึ่งทำมาจากพลาสติกล้วน และด้านหน้าเป็นกระจกแข็งแบบ IPS-LCD ให้สีสันสวยสดใสแน่นอน มีความกว้าง 6.5 นิ้ว ถือว่าไม่เล็กเกินไป อยู่ในขั้นพอดีๆ พกพาได้สะดวก จุดเด่นก็คือชิป Helio G35 ที่ใส่เข้ามา ทำให้เครื่องนี้สามารถเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางเกมอาจปรับไปถึงสูงสุดได้เลย ในมือถือราคาเท่านี้ แต่ได้สเปคที่ครบถ้วนทุกด้าน เป็นรุ่นที่คุ้มค่าต่อการใช้งานเป็นอย่างมากเลย ใครมองหามือถือดีดีสักเครื่อง ต้องไม่พลาดลิสต์เครื่องนี้เข้าไปเป็นตัวเลือกด้วย
ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้ ก็ไม่ธรรมดาอีก เพราะมีมาให้ถึง 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + B&W 2MP + มาโคร 2MP ถ่ายได้สวยอย่างใจคิดแน่นอน แถมยังมีโหมดต่างๆ มาให้เลือกใช้งานจากกล้องหลังด้วย ไม่ว่าจะถ่ายตอนกลางคืน หรือถ่ายคนก็ทำได้ดีมากๆ ถ่ายวิดีโอแบบสโลวได้ด้วยนะ มาพร้อมกับกล้องหน้าระดับมาตรฐาน 5MP ถ่ายเซลฟีได้ดีระดับหนึ่ง สุดท้ายคือแบตที่อึดมาก มีความจุมากถึง 5,000 mAh ไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดระหว่างวัน หรือว่าเล่นเกมได้น้อย เพราะแบตที่อึดมากๆ ถึงแม้ว่าแบตจะเหลือเพียง 5% แต่ก็ยังใช้ได้อีกเป็นชั่วโมงเลยด้วยโหมดประหยัดพลังงาน รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทที่ทำออกมาสำหรับเล่นเกมก็ได้ จะใช้ถ่ายรูปก็ดี หรือจะใช้แบบทั่วไปก็ได้หมด เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ
- ราคาของ realme C21 มีราคาเปิดตัวที่ 4,299 บาท
6. realme narzo 30A : ราคา 4,599 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.5 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + B&W | ชิป Helio G85 | แบต 6,000 mAh |
มาต่อกันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทปี 2021 ของ realme กันอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งรุ่นนี้บอกเลยว่าทำออกมาเพื่อเน้นให้เล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะสเปคของชิบหรือแบต ที่ทำออกมารองรับการเล่นเกมอย่างเต็มที่ และลดการใช้งานของกล้องลงไป โดยรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวออกมาเช่นกัน มีการดีไซน์ด้านหลังแบบแยกบนกับล่าง ที่ด้านบนจะเรียบๆ แต่ด้านล่างมีลวดลายพริ้วไหวสวยงาม หน้าจอของรุ่นนี้เป็นแบบ IPS-LCD ให้สีสันสวยงามคมชัด กับความกว้าง 6.5 นิ้วเท่ากับตัวบนเลย ตัวเด็ดก็คือชิปที่เป็น Helio G85 ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่นให้มือถือเครื่องนี้ เล่นเกมได้ไหลลื่นโดดเด่นมากขึ้น มีสองแบบให้เลือกคือ RAM 3GB กับ 4GB ถ้าอยากได้เร็วๆ ก็เพิ่มสเปคอีกนิด รับรองว่าเล่นเกมได้ทุกเกมแน่นอน
ส่วนกล้องหลังของตัวนี้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่นัก จึงมีกล้องแค่ 2 ตัวที่มีความละเอียด 13MP กับเลนส์ B&W ถ่ายแบบปกติได้ หรือจะใช้ถ่ายสแกนก็ยังทำได้ดีอยู่เหมือนกัน มากับกล้องหน้าแบบมาตรฐานที่ความละเอียด 8MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามปกติเลย สำหรับรุ่นนี้ยังไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้าจะเอามาถ่ายรูป สิ่งสำคัญคือแบตเตอรี่ ที่รุ่นนี้ใส่มาให้มากถึง 6,000 mAh และรองรับ Fast Charging ที่ 18W ไม่ต้องกลัวแบตหมดเลย หรือถ้าหมดก็ยังชาร์ทกลับมาให้เต็มได้เร็วมากๆ ใครมองหามือถือเล่นเกม กับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาท รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ
- ราคาของ realme narzo 30A มีราคาเปิดตัวที่ 4,599 บาท
7. Redmi 9T : ราคา 4,499 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว | กล้องหลัง 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | ชิป Snapdragon 662 | แบต 6,000 mAh |
ต่อเนื่องกันด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทปี 2021 นี้ด้วยมือถือที่มีคุณสมบัติครบเครื่อง ไม่ว่าจะเอามาใช้ถ่ายรูป หรือว่าจะนำมาดูหนัง ฟังเพลง ไปจนถึงเล่นเกมก็ทำออกมาได้ดีทุกด้าน แถมมีราคาที่จับต้องได้ ให้เลือกอยู่ 2 สเปคด้วย ซึ่งตัวนี้บอกเลยว่าทำสเปคออกมาได้น่าสนใจมาก การดีไซน์ตัวเครื่องนั้น ด้านหลังจะเป็นลายคล้ายกับแสง ที่กระจ่ายตัวออกจากกล้อง สวยงามใช้ได้เลย ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD สีสันสวยงามอยู่แล้ว มีความกว้าง 6.53 นิ้ว ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แต่ใช้สอยได้สะดวก ไม่เทอะทะแน่นอน ตัวเทพอีกอย่างก็คือชิปเซ็ตที่เป็น Snapdragon 662 ทำให้เครื่องนั้นลื่นขึ้น ใช้เล่นเกมใหญ่ๆ ได้ดีเยี่ยม บางเกมอาจปรับสุดได้เลยด้วยซ้ำ รุ่นนี้มีสองสเปคให้เลือกคือ RAM 4GB และ 6GB
ส่วนกล้องหลังก็เทพไม่แพ้กัน เพราะทำกล้องออกมาให้ใช้งานกันถึง 4 ตัว มีความละเอียดที่ 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP รับรองได้เลยว่าถ่ายได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ จะเก็บพื้นหลังหมดเลยก็ทำได้ หรือจะถ่ายบุคคลก็สวยหมด กล้องหน้ามีความละเอียดตามมาตรฐานที่ 8MP เซลฟี่ได้สวยๆ ไม่ต้องกลัวหลุด ส่วนแบตเตอรี่ก็จัดเต็มมาเลยถึง 6,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W ใช้งานได้ยาวๆ ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกม ก็สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นนี้เหมาะกับผู้ใช้งานทุกด้าน จะซื้อไปเล่นเกม หรือว่าถ่ายรูปก็ทำได้หมดเลย แถมราคาโดนใจมากๆ
- ราคาของ Redmi 9T RAM 4GB ROM 64GB มีราคาเปิดตัวที่ 4,499 บาท
- ราคาของ Redmi 9T RAM 6GB ROM 128GB มีราคาเปิดตัวที่ 5,299 บาท
8. Redmi Note 10 : ราคา 4,999 บาท
หน้าจอ Super AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว | กล้องหลัง 48MP + 8MP + 2MP + 2MP | ชิป Snapdragon 678 | แบต 5,000 mAh |
ต่อเนื่องกันด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทของ Redmi อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งตัวนี้เป็นรุ่นที่อัพเกรดขึ้นมาจากตัวก่อนหน้า และทำออกมาได้ดีอีกเช่นกัน ถึงแม้ว่าสเปคจะคล้ายๆ กับตัว 9T เล็กน้อย แต่ก็มีรายละเอียดที่ต่างกันอยู่บ้าง อย่างแรกเลยก็คือการดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบเงาเหลือบ เมื่อเปลี่ยนทิศทางการมองก็จะต่างกันไป และหน้าจอเป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 แบบ Super AMOLED ให้สีสันสวยงามสมจริงยิ่งขึ้น มีความกว้างที่ 6.43 นิ้ว ไม่ได้ถือว่าเล็กมากนัก แต่ก็อยู่ในขั้นที่กำลังดี ตัวเด็ดก็คงอยู่ที่ชิปที่เป็น Snapdragon 678 มั่นใจได้เลยว่าเล่นเกมได้แน่นอน และเล่นได้ลื่นๆ ด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะเล่นเกมไหนไม่ได้เลย รุ่นนี้มีมาให้เลือก 2 สเปคคือ RAM 4GB และ 6GB เลือกซื้อได้ตามการใช้งานเลย
ส่วนกล้องหลังนั้น จะเป็นกล้อง 4 ตัวคล้ายกับรุ่น 9T มีความละเอียดอยู่ที่ 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายได้สวยงามทุกที่ จะถ่ายวิวก็เก็บหมด หรือจะถ่ายคนก็ทำได้ กล้องหน้าก็เทพไม่แพ้กัน เพราะมีความละเอียดมากถึง 13MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวย และชัดเจนมากขึ้น สุดท้ายคือแบตที่มีมาให้ถึง 5,000 mAh รองรับ Fast Charging ได้สูงสุด 33W เลยทีเดียว ไม่ต้องกลัวว่าแบตหมดก่อน หรือถึงแม้ว่าแบตจะหมด ก็ยังชาร์จกลับมาเต็มได้ไวมากๆ ด้วย รุ่นนี้โดยรวมแล้วเป็นโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทุกด้าน จะเล่นเกมหรือใช้ถ่ายรูปก็ทำได้เลย
- ราคาของ Redmi Note 10 RAM 4GB ROM 64GB มีราคาเปิดตัวที่ 4,999 บาท
- ราคาของ Redmi Note 10 RAM 6GB ROM 128GB มีราคาเปิดตัวที่ 5,999 บาท
9. POCO M3 : ราคา 4,499 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว | กล้องหลัง 48MP + 2MP + 2MP | ชิป Snapdragon 662 | แบต 6,000 mAh |
ต่อเนื่องกันกับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาท มาที่มือถือของ POCO กันบ้าง ซึ่งหลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้เท่าไหร่นัก เพราะหาซื้อค่อนข้างยาก ถ้าซื้อในร้านค้าออนไลน์ก็ยังพอมีอยู่ แถมราคาอาจถูกกว่าราคาเปิดตัวด้วย การดีไซน์ของฝาหลังนั้นจะเป็นสีเรียบๆ มีให้เลือกหลายสี กับหน้าจอที่เป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 แบบ IPS-LCD ให้สีสันสวยงามตามแบบมาตรฐาน มีขนาดความกว้าง 6.53 นิ้วขนาดใหญ่กำลังดี ใช้ดูหนังหรือเล่นเกมได้สบายๆ ตัวที่ทำให้เครื่องนี้น่าสนใจ และทำให้ไหลลื่นก็คงเป็นชิป Snapdragon 662 ที่เอามาเล่นเกมได้ลื่นๆ แน่นอน ซึ่งรุ่นนี้ก็เน้นมาให้เล่นเกมกันอยู่แล้ว จึงไปดรอปลงตรงกล้องหลังเล็กน้อย
กล้องหลังของรุ่นนี้ทำออกมาให้ใช้กัน 3 ตัวมีความละเอียดที่ 48MP + มาโคร 2MP และชัดลึกอีก 2MP ถ่ายได้สวยงามปกติถึงแม้ว่าจะไม่มีอัลตร้าไวลด์ แต่ถ้าเอามาถ่ายแบบทั่วไป ก็ยังเป็นรุ่นที่ถ่ายได้ดีอยู่เหมือนกัน ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ 8MP ตามแบบมาตรฐาน ที่เอามาถ่ายเซลฟี่ได้ปกติ แถมยังมี AI คอยช่วยในการถ่ายได้อีกด้วย สุดท้ายคือเรื่องของแบตที่ทำออกมาได้อึดโหดมาก มีความจุอยู่ 6,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W รับรองว่าเล่นเกม หรือใช้งานปกติได้ทั้งวันแน่นอน หลายๆ คนที่ใช้งานจริงก็พูดเหมือนกันว่า ใช้ทั้งวันยังลดไม่เกิน 30% ด้วยซ้ำ เหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป ที่เน้นไปทางเล่นเกม และไม่ได้เน้นถ่ายรูปเยอะมากนัก แนะนำให้ซื้อรุ่นสเปคสูงสุดของรุ่นไปเลย
- ราคาของ POCO M3 RAM 4GB ROM 64GB มีราคาเปิดตัวที่ 4,499 บาท
- ราคาของ POCO M3 RAM 4GB ROM 128GB มีราคาเปิดตัวที่ 4,999 บาท
10. Wiko Power U30 : ราคา 3,599 บาท
หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.82 นิ้ว | กล้องหลัง 13MP + 2MP + QVGA | ชิป Helio G35 | แบต 6,000 mAh |
ปิดท้ายกันด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทจาก Wiko สุดประหยัดตัวนี้ ที่เพิ่มเปิดตัวออกมาเดือนนี้นี่เอง ซึ่งรุ่นนี้ทำออกมาได้คุ้มค่าการใช้งานมาก มีราคาไม่เกิน 4000 บาทด้วยซ้ำ แต่ได้สเปคที่ใช้งานได้ดีปกติเลย จะใช้งานแบบปกติทั่วไป หรือจะเอามาเล่นเกมก็ยังพอไหว การดีไซน์ด้านหลังนั้นจะเป็นลวดลายคล้ายลูกศรที่เล่นสีสะดุดตามากๆ ส่วนหน้าจอจะเป็นกระจกแข็งแบบ IPS-LCD ให้สีสันสวยงามตามมาตรฐานทั่วไป มีความกว้างมากถึง 6.82 นิ้ว ถือว่าใหญ่มากๆ ใหญ่กว่าทุกตัวที่เราได้เอามาแนะนำด้วย ใช้ดูหนังหรือเล่นเกมได้สบายๆ ไม่ต้องส่องใกล้ๆ เลย มาพร้อมกับชิปเซ็ตที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะได้เป็นตัว Helio G35 ที่ใช้เล่นเกมได้สบายๆ ไม่สะดุด
ส่วนกล้องหลังนั้นจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP + 2MP และเป็น QVGA อีกหนึ่งตัว ซึ่งความจริงแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เน้นมาให้ถ่ายรูปเท่าไหร่นัก จึงได้เป็นสเปคกล้องไม่สูงมากนัก แต่ก็ยังใช้ถ่ายแบบทั่วไปได้ดีเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สูงมาก กล้องหน้าก็ได้ระดับบมาตรฐานคือความละเอียด 8MP ใช้ถ่ายเซลฟี่ได้ดีเลย สุดท้ายคือแบตที่อึดไม่แพ้ใครเลย ด้วยความจุมากถึง 6,000 mAh รองรับ Fast Charging 15W ใช้งานได้เต็มวันเหลือๆ ไม่ต้องกลัวว่าเล่นเกมแล้วแบตจะหมดไว เพราะอึดมากจริงๆ แถมชาร์จกลับมาเต็มได้เร็วด้วย เหมาะกับคนที่อยากได้โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทราคาประหยัด แต่ได้สเปคที่คุ้มค่าการใช้งานมากจริงๆ แนะนำเลย
ราคาของ Wiko Power U30 มีราคาเปิดตัวที่ 3,599 บาทเท่านั้น
เป็นยังไงกันบ้างกับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทปี 2021 ที่เราได้แนะนำกันไปทั้ง 10 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความสามารถในการใช้งานที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงราคากับความคุ้มค่าในการใช้งานด้วย หากใครต้องการราคาถูกๆ และได้สเปคคุ้มๆ แนะนำเป็นของ Wiko Power U30 หรือจะเป็นของ Samsung ทั้งสองรุ่นเลยก็พอได้ ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูปก็แนะนำเป็นของ Redmi ทั้งสองรุ่น ที่มีกล้องมาให้ถึง 4 ตัว สุดท้ายคือสายเกมมิ่ง ที่มีหลายๆ รุ่นทำออกมาได้ดีมาก ทั้งของ realme, POCO และ OPPO ก็สามารถใช้เล่นเกมได้ดีเลย แล้วถ้ามีโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นไหนอัพเดทใหม่อีก เราก็จะเอามาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ