สำหรับมือถือจอพับรุ่นใหม่จาก Samsung รุ่นจอพับที่ตอนนี้ก็เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกันทีเดียว 3 รุ่นได้แก่ Samsung Galaxy Z Fold 7/ Z Flip 7 และ Z Flip 7 FE รวมไปถึงข่าวลือเรื่องมือถือจอพับ 3 ทบก็อาจจะเปิดตัวให้เห็นกันด้วยในวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 นี้ โดยสเปคจากข่าวลือและรูปภาพที่หลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็พอจะทำให้เราได้เห็นถึงภาพรวมและสเปคเกือบทั้งหมดของทุกรุ่นแล้ว เหลือแค่วันเปิดตัวกับราคาจริงออกมาเท่านั้นว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เราเลยจะมาสรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold 7/ Z Flip 7 และ Z Flip 7 FE ว่าจะมีอะไรใหม่บ้างไปดูกันเลย
รวมโทรศัพท์ Samsung ทุกรุ่นพร้อมราคาล่าสุดกลางปี 2025 ที่วางขายมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง
Samsung Galaxy Z Fold 7



เริ่มกันด้วย Samsung Galaxy Z Fold 7 ตัวใหญ่ของจอพับซีรีส์นี้กันก่อนเลย ซึ่งหน้าตาภายนอกดูเผินๆ ก็มีรูปแบบการออกแบบคล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้า แต่ว่ามีการอัพเกรดบางอย่างใหม่ จากภาพและช้อมูลล่าสุดจาก OnLeaks ที่หลุดออกมาจะเห็นได้ว่า Galaxy Z Fold 7 จะบางกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย โดยมีความหนา 4.5 มม. เมื่อกางออก เมื่อเทียบกับ Fold 6 ที่มีความหนา 5.36 มม. ซึ่งความบางลงเพียง 1 มม. ก็ถือว่าบางลงเยอะแล้ว ส่วนตอนพับมีข้อมูลข่าวลือที่เผยออกมาว่าจะมีตัวเครื่องบาง 9 มม. ตอนพับ (ทั้งนี้ก็มีบางแหล่งข่าวที่บอกว่าอาจมีความบางมากกว่านี้อีก ลงไปได้ถึง 8.9 มม. เลยทีเดียว)
ส่วนสีตัวเครื่องของรุ่นนี้ทาง Samsung เองได้หลุดสี Samsung Galaxy Z Fold 7 ออกมา 4 สีบนเว็บไซต์ของ Samsung ในไอร์แลนด์ ได้แก่สีดำ (Jet Black), สีฟ้า (Blue Shadow), สีเงิน (Silver Shadow) และสีเขียว (Green Mint) โดยสีสุดท้ายระบุว่าเป็นสีพิเศษเฉพาะบนร้านค้าออนไลน์ และอาจมีสีแดง (Coral Red) ด้วย
จากข่าวลือระบุว่า Galaxy Z Fold 7 จะมาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยอาจมีหน้าจอหลักขนาด 8 นิ้ว (จากเดิม 7.6 นิ้วใน Z Fold 6) และหน้าจอด้านนอกขนาด 6.5 นิ้ว (จากเดิม 6.3 นิ้ว) นอกจากนี้แหล่งข่าวบางแห่งยังระบุว่า รอยพับกลางหน้าจอ (Crease) จะเล็กลง และบานพับจะมีความทนทานและลื่นไหลมากขึ้น ตามที่ซัมซุงเคยให้ข้อมูลไว้ในรายงานผลประกอบการว่ามือถือจอพับรุ่นใหม่จะมี “ฟอร์มแฟกเตอร์และความทนทานที่พัฒนาไปอีกขั้น” ทั้งสองจอใช้เป็น AMOLED รองรับ Refresh Rate 120Hz และความสว่างสูงสุด 2,600 นิต จอนอกเคลือบทับด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 รองรับ S Pen เหมือนเดิมแต่อาจปรับปรุงใหม่
ด้านประสิทธิภาพ Samsung Galaxy Z Fold 7 คาดว่าจะได้ชิป Snapdragon 8 Elite ชิปเรือธงตัวแรงที่ปรับปรุงเฉพาะสำหรับ Samsung และยังมาพร้อม RAM 12GB และรุ่น 16GB มีตัวเลือกความจุ 256GB, 512GB และ 1TB เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าที่มีอยู่แล้ว และอาจเปิดตัวมาพร้อมกับ One UI 8 บน Android 16 (ถ้าไม่ใช่ก็เป็น One UI 7 แบบเดียวกับ S25 Series)
ส่วนแบตมี4,400mAh ใช้งานได้ 40 ชั่วโมง 28 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รักษาความจุได้ 80% หลังจากใช้งาน 2,000 รอบ ชาร์จไวได้ 25W และไร้สายได้ 15W อันนี้เท่าเดิม และรองรับการชาร์จ Qi2 เพิ่มเติมด้วย และคาดว่าจะอยู่ได้นานกว่าเดิม เพราะชิปใหม่ประหยัดพลังงานกว่า พร้อมกันน้ำกันฝุ่น IP48 เท่าเดิม
กล้องก็เป็นอีกจุดที่จะได้รับการอัพเกรดใหม่ โดยมีกล้องหลังถึง 200MP ที่ถ่ายภาพได้ดีกว่าเดิมแน่นอน ส่วนตัวอื่นยังไม่มีอะไรเพิ่มเข้ามาใหม่ ก็น่าจะเป็นกล้องอัลตราไวด์ 12MP และ เทเลโฟโต้ 10MP ซูม 3 เท่า และมีกล้องด้านหน้า 10MP กับกล้องด้านในใต้จอ 4MP ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อัพเกรดอีกสองตัวที่เหลือ แต่ก็มีข่าวว่าจะมี ProVisual Engine เวอร์ชันใหม่ของ Samsung ที่จะช่วยปรับปรุงทั้งภาพถ่ายและวิดีโอให้ดีขึ้นด้วย
สรุปสเปคที่ได้อัพเกรดใหม่
- Samsung Galaxy Z Fold 7 อาจมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 8 นิ้ว และหน้าจอนอกขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.5 นิ้ว ขอบจอบางลง
- กล้องหลัก 200MP อัพเกรดใหม่ กล้องตัวอื่นปรับปรุงเพิ่มเติมใหม่ด้วย
- ตัวเครื่องอาจบาง 4.5 มม. เมื่อกางออก และพับบางเหลือ 9 มม. (บางข่าวว่าบางสุดได้ถึง 3.9 มม. เมื่อกางออก และ 8.9 มม. เมื่อพับ)
- ได้ชิปตัวแรง Snapdragon 8 Elite for Galaxy และอาจมาพร้อม One UI 8 เวอร์ชั่นใหม่
- หน้าจอพับได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และรอยพับที่น้อยลง
Samsung Galaxy Z Flip 7/ Samsung Galaxy Z Flip 7 FE
มาดูที่รุ่นจอพับเล็กกันบ้างที่มีการอัพเกรดมาใหม่ด้วยเหมือนกัน โดยรวมจะคล้ายกับ Galaxy Z Flip 6 รุ่นก่อนหน้า แต่ว่าบางกว่าเดิม โดยมีแหล่งข่าวอ้างว่าจะมีขนาดตัวเครื่อง 13.7 มม. เมื่อพับ และ 6.5 มม. เมื่อกางออก ซึ่งทำให้บางกว่ารุ่นก่อนหน้าและจะมีน้ำหนัก 188 กรัม นอกจากนี้ @PandaFlashPro ยังบอกอีกว่าตัวบานพับจะพับดีขึ้นและทนกว่าเดิม และอาจมีหน้าจอด้านนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่ ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นและจอเต็มมากกว่าเดิม กันน้ำกันฝุ่น IP48 ส่วนอื่นๆ ก็ยังคงคล้ายเดิม
โดยมีสีตัวเครื่องที่หลุดออกมา 4 สีเช่นเดียวกับรุ่นใหญ่ ทั้งสีดำ (Jet Black), สีฟ้า (Blue Shadow), สีเงิน (Silver Shadow) และสีเขียว (Green Mint) สีเขียวจะเป็นสีพิเศษ และคาดว่าจะมีสีแดง (Coral Red) ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของหน้าจอคาดว่าจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.85 นิ้ว (จากเดิม 6.7 นิ้ว) เพราะปรับขอบจอให้บางลงกว่าเดิม ส่วนจอนอกจะปรับให้กว้างถึง 4 นิ้ว (จากเดิม 3.4 นิ้ว) อีกด้วย ทำให้เล่นได้เต็มที่มากขึ้นทั้งจอนอกและจอในเลย นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงรอยพับให้เนียนขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ทั้งคู่มีอัตราการรีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุด 2,600 nits
ทางด้านชิปเซ็ตนั้นมีสองข่าวลือออกมาว่าจะมีทั้งชิป Exynos 2500 (ที่อาจขายเฉพาะในเกาหลีใต้ และบางประเทศ) ในขณะที่รุ่นขายทั่วโลกจะใช้ชิป Snapdragon 8 Elite for Galaxy แบบเดียวกับรุ่นใหญ่ พร้อมกับ RAM 12GB และความจุ 256GB หรือ 512GB เช่นเดิม คาดว่าอาจจะมาพร้อมกับ One UI 8 พื้นฐาน Android 16 พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น
นอกจากยังมีข่าวว่าแบตความจุเพิ่มขึ้นเป็น 4,300mAh (จากเดิม 4,000mAh) ชาร์จไวได้ 25W และแบบไร้สาย 15W ใช้งานได้นาน 42 ชั่วโมง 4 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ทั้งนี้ข่าวคราวของกล้องหน้าและกล้องหลังไม่ได้มีการพูดถึงกันแต่อย่างใด และคาดว่าจะได้กล้องแบบเดิมคือกล้องหลัก 50MP กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และกล้องหน้า 10MP เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า แต่อาจมีการอัพเดทซอฟต์แวร์ภายในเพิ่มเติมแทน โดยใช้ ProVisual Engine เวอร์ชันใหม่ของ Samsung พร้อม AI ช่วยปรับปรุงภาพและวิดีโอได้เหมือนกันกับรุ่นใหญ่
สรุปสเปคที่ได้อัพเกรดใหม่
- มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 6.85 นิ้ว และหน้าจอนอกใหญ่ขึ้นเป็น 4 นิ้วเต็มจอ ขอบจอบางลง
- อาจมีทั้งชิป Exynos 2500 ที่ขายในบางประเทศ และชิปหลัก Snapdragon 8 Elite for Galaxy พร้อม One UI 8 เวอร์ชั่นใหม่
- แบตความจุเพิ่มขึ้นเป็น 4,300mAh
- รอยพับหน้าจอน้อยลงกว่าเดิม และตัวเครื่องอาจบางลงเล็กน้อย 13.7 มม. เมื่อพับ และ 6.5 มม. เมื่อกางออก

ส่วนทางด้านของ Samsung Galaxy Z Flip 7 FE จะเป็นรุ่นจอพับตัวประหยัด ที่ทำออกมาเหมือนกับ Samsung Galaxy Z Flip 6 ตัวเครื่องมีขนาด 14.9 มม. ตอนพับและบาง 6.9 มม. เมื่อกางออก หนัก 187 กรัม มาพร้อมหน้าจอ Dynamic LTPO AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้วเมื่อกางออก เล่นลื่น 120Hz ส่วนจอนอกมี 3.4 นิ้วเท่ากับรุ่นก่อนหน้า และคาดว่าจะได้ชิป Exynos 2400 ที่มี RAM 8GB กับความจุ 128GB และ 256GB
กล้องหลังของรุ่นนี้จะมีตัวหลัก 50MP และอัลตร้าไวด์ 12MP กล้องหน้า 10MP และมีแบตความจุ 4,000mAh ภาพรวมๆ ก็คือ Samsung Galaxy Z Flip 6 นั่นแหละ แต่มีการปรับปรุงสเปคบางอย่างให้ดีขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ราคาและวันเปิดตัว
สำหรับราคาของ Samsung Galaxy Z Fold 7/ Galaxy Z Flip 7 และ Galaxy Z Flip 7 ตอนนี้ก็ได้มีการเผยข้อมูลแน่นอนออกมาแล้ว ว่าจะเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย และติดตามข่าวใหม่ๆ ของงาน Galaxy Unpacked 2025 ที่เว็บไซต์ news.samsung.com/global ตอนนี้สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อแสดงความสนใจพร้อมรับโปรต่างๆ ได้แล้ว คาดว่าจะเปิดจองทันทีหลังจากงานเปิดตัววันที่ 9 กรกฎาคม และ และจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2025
ส่วนราคาตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีบางเว็บที่หลุดราคาออกมาแล้ว โดย NieuweMobiel ได้เข้าไปพบการวางขายในเว็บที่ประเทศอิตาลี พบว่า Samsung Galaxy Z Fold 7 มีราคาเริ่มต้น 2,227 ยูโร หรือประมาณ 64,800 บาท ส่วน Samsung Galaxy Z Flip 7 มีราคารุ่น 512GB ที่ 1,425 ยูโร หรือประมาณ 54,200 บาท ซึ่งารคานี้เป็นราคาจากฝั่งยุโรปที่มีราคาสูงกว่าประเทศไทยค่อนข้างเยอะ และมีราคาสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วย โดยหลายแหล่งข่าวเชื่อว่ายังมีราคาเปิดตัวออกมาเท่าเดิมมากกว่า
สรุปแล้ว Samsung Galaxy Z Fold 7 ก็ได้มีการอัพเกรดใหม่ทั้งดีไซน์ ขนาดหน้าจอ ตัวเครื่องที่บางลง ชิปแรง กล้องเทพขึ้น ส่วน Samsung Galaxy Z Flip 7 ก็ได้อัพเกรดใหม่ทั้งหน้าจอและความบางเช่นกัน แต่ที่เด็ดๆ ก็คงเป็นจอนอกที่ใหญ่ขึ้น ใช้งานได้ดีกว่าเดิมเยอะ ทั้งสองรุ่นอัพเกรดสเปคทั้งชิป และฟีเจอร์ AI รวมถึงอาจได้เวอร์ชั่น One UI 8 ตัวใหม่ด้วย ส่วนอีกรุ่นคือ Samsung Galaxy Z Flip 7 FE อันนี้น่าจะพอๆ กับรุ่นก่อนหน้าเลย ใครที่รอมือถือจอพับปี 2025 แนะนำให้รอติดตามวันเปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังการเปิดตัว
ข้อมูลจาก phonearena1, 2/ techradar 1, 2/ tomsguide