สรุปสเปค iPhone 15 Pro Max ชิป A17 Pro กล้องซูมได้ 5x และกรอบไทเทเนียม พร้อมอัพเดทราคาล่าสุดจากทุกค่าย

สรุปสเปค iPhone 15 Pro Max ชิป A17 Pro กล้องซูมได้ 5x และกรอบไทเทเนียม พร้อมอัพเดทราคาล่าสุดจากทุกค่าย

หลังจากที่ iPhone 15 Series และ iPhone 15 Pro Series ได้เปิดตัวพร้อมวางขายออกมาได้เกือบ 2 เดือน ความน่าสนใจของสเปครุ่นตัวท็อปอย่าง iPhone 15 Pro Max นั้นก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญก็คือทั้งสามค่ายหลักอย่าง AIS, true – dtac ต่างก็มีเครื่องเข้ามาขายกันครบทุกความจุแล้ว สามารถหาซื้อได้ทั้งเครื่องเปล่าและเครื่องติดโปรพร้อมแพ็กเกจได้เลย ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดไปเลยดีหรือไม่ หรือว่ายังไม่รู้สเปคแบบละเอียดๆ ของรุ่น Pro Max ที่ปรับสเปคขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุใหม่ ปุ่มใหม่ ดีไซน์ที่เปลี่ยนไป มีสเปคที่แรงกว่าเดิม ถ่ายรูปได้ดีกว่าเดิมมากๆ ทั้งทั้วไปและการซูม รวมไปถึงพอร์ตที่เปลี่ยนมาใช้ USB-C แล้วด้วย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค iPhone 15 Pro Max ให้ว่ามีอะไรใหม่บ้างทั้งชิปใหม่ A17 Pro ตัวเครื่องใหม่ที่เป็นไทเทเนียม ปุ่มแบบ Action ใหม่และกล้องใหม่ พร้อมอัพเดทราคาล่าสุดปี 2023 จากทุกค่ายให้ด้วย

สเปค iPhone 15 Pro Max

• ดีไซน์ตัวเครื่อง พร้อมวัสดุไทเทเนียม และสีใหม่
• หน้าจอ
• ชิปประมวลผล ปุ่ม Action ใหม่ และแบตเตอรี่
• กล้องหน้าและกล้องหลัง
• ราคาล่าสุดทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรจาก AIS, true – dtac

ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone 15 Pro Max กับรุ่นก่อนหน้า

เปรียบเทียบสเปค iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra รุ่นตัวท็อปทั้งสองค่ายต่างกันแค่ไหนบ้าง

ดีไซน์ตัวเครื่อง พร้อมวัสดุไทเทเนียม และสีใหม่

สำหรับตัวเครื่องของ iPhone 15 Pro Max ที่มีการดีไซน์ใหม่นั้น จะมีเหมือนกันกับทั้งตัว Pro และ Pro Max รวมไปถึงสเปคต่างๆ โดยรวมที่คล้ายกัน ยกเว้นขนาดหน้าจอและกล้องกับแบตเท่านั้น โดยรุ่นใหม่นี้ได้มีการดีไซน์ตัวขอบเครื่องใหม่ให้มีความโค้งกว่ารุ่นก่อนหน้า ลบคมของขอบไปเพื่อให้ถือเล่นนานๆ ได้สะดวกมากขึ้น และยังมีการลดขอบจอให้บางลงอีก ทำให้รุ่นนี้มีขอบจอที่บางกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมาเลย นอกจากนี้ยังมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงนิดหน่อยที่ขนาด 159.9×76.7×8.25 มม. น้ำหนัก 221 กรัมเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อยเช่นกัน ส่วนโมดูลกล้องทำให้กลมกลืนไปกับฝาหลัง และยังคงเป็นรูปแบบเดิมที่มีกรอบพร้อมเลนส์ 3 ตัวด้านในตรงนี้จะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้าอยู่

จุดที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือวัสดุตัวเครื่องของ iPhone 15 Pro Max ที่เปลี่ยนกรอบจากเดิมที่ใช้สแตนเลสสตีล มาเป็นแบบไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงมากกว่าเดิม เบามากกว่า โดยไทเทเนียมบนตัวเครื่องนั้นได้มีการการปัดเงาพร้อมพ่นทรายที่ทำให้ได้พื้นผิวที่สว่างและมีความสวยงามมากขึ้น ส่วนด้านในจะมีการเชื่อมกับเฟรมอะลูมิเนียมภายในตัวเครื่องแบบใหม่ (เป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%) และใช้วิธีเชื่อมต่อด้วยกระบวนการทางความร้อนเชิงกล ที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาลงนั่นเอง ทั้งนี้วัสดุไทเทเนียมก็เคยมีการใช้งานบน Apple Watch Ultra มาก่อนแล้วด้วย

ส่วนด้านหน้าของตัวเครื่องยังคงใช้แบบ Ceramic Shield และด้านหลังเป็นกระจกแบบผิวด้าน สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ IP68 อีกทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนสีตัวเครื่องใหม่ตามวัสดุที่ใช้งาน ด้วยสีที่ออกมาใหม่ด้วยกันทั้งหมด 4 สีได้แก่ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมน้ำเงิน และไทเทเนียมธรรมชาติ ที่ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องลือกันถึงรอยนิ้วมือที่สัมผัสแล้วติดตัวเครื่อง แต่จริงๆ แล้วแค่ใช้ผ้าเช็ดก็หายแล้วเป็นเรื่องปกติของไทเทเนียม แนะนำว่าให้ลองไปสัมผัสของจริงดูก่อนเพราะสวยมาก

หน้าจอ

ในส่วนของหน้าจอของ iPhone 15 Pro Max และ iPhone 15 Pro จะมีความคล้ายกันต่างกันที่ขนาดเท่านั้น และยังใช้หน้าจอที่เป็นแบบเดิมด้วย ยกเว้นแต่ว่ารุ่นใหม่นี้ปรับขอบจอให้บางลง ทำให้เล่นได้เต็มที่มากกว่าเดิม หน้าจอยังใช้เป็น Super Retina XDR แบบ OLED ความละเอียด 2796 x 1290 พิกเซลที่ 460 ppi ขนาด 6.7 นิ้วสำหรับรุ่น Pro Max และขนาด 6.1 นิ้วในรุ่น Pro รองรับ ProMotion 120Hz เล่นลื่นเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีความสว่างที่เท่ากับรุ่นก่อนหน้าที่ สว่างทั่วไป 1,000nits สว่างแบบ HDR 1,600nits และสว่างกลางแจ้งสูงสุด 2,000nits มีการแสดงผลแบบ True Tone รวมไปถึงการรองรับ HDR และฟีเจอร์ Dynamic Island ที่เปลี่ยนรูปแบบตามการใช้งาน กับจอภาพแบบติดตลอด (Always-on) ที่หน้าจอได้เหมือนเดิม

ชิปประมวลผล ปุ่ม Action ใหม่ และแบตเตอรี่

ความเร็วแรงที่มากขึ้นและเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก็ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ชิปตัวใหม่คือ Apple A17 Pro รุ่นแรกที่มีการใช้แบบ 3nm รวมไปถึงชื่อที่ใช้สำหรับรุ่น Pro แล้ว โดยมีการอัพเกรด CPU ให้เร็วขึ้นอีก 10% มี Neural Engine ที่เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่ากับการประมวลผลได้ดีขึ้นกับตัว GPU ใหม่ที่เร็วขึ้น 20% สำหรับความโปรที่ทำให้กราฟิกเกมต่างๆ ออกมาได้ดีกว่าทุกรุ่นที่เคยมี อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม และมีเรย์เทรซซิ่งเร็วขึ้นสูงสุด 4 เท่าด้วยการใช้เทคโนโลยีเรย์เทรซซิ่งด้วยฮาร์ดแวร์เป็นครั้งแรกของ iPhone ส่งผลให้การเล่นเกมมีแสงและเงาออกมาสมจริงมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังทำออกมารองรับเกม Resident Evil 4 Remake และภาค Village ฉบับที่พอร์ตลง iPhone 15 Pro/ iPhone 15 Pro Max สามารถรันเกมระดับ AAA ได้และอาจมีเกมใหม่ๆ เพิ่มเติมที่จะทำออกมาตามหลังอีกด้วย

ในส่วนของ RAM ก็มีการเผยออกมาแล้วว่ารุ่นนี้ได้ใช้ RAM 8GB ที่มีความจุเริ่มต้นสำหรับรุ่น iPhone 15 Pro Max ที่ความจุ 256GB/ 512GB และ 1TB มีเพียงสามความจุให้เลือก เพราะตัดความจุขั้นต่ำ 128GB ไปแล้ว ในด้านการเชื่อมต่อสามารถใช้ได้ทั้ง 5G/ WiFi6E/ Bluetooth 5.3/ NFC พร้อมเทคโนโลยีระบบเครือข่าย Thread ใหม่ กับชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2 (UWB) ที่ทำให้การระบุตำแหน่งมีความแม่นยำขึ้น เปิดดูที่อยู่ของเพื่อนหรือคนอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำด้วย Find My ที่มีทิศทางกำกับทำให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์ตรวจสอบการชนกัน และลำโพงที่รองรับรูปแบบการเล่นเสียงตามตำแหน่ง รองรับ Dolby Atmos กับการทำงานบน iOS17 เรียบร้อยแล้ว

อีกหนึ่งจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือปุ่มด้านข้างที่เป็นสวิตช์เปิด/ปิดเสียงของเดิม ในรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก็ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ปุ่มใหม่ที่ได้ชื่อว่าปุ่ม Action ที่เป็นปุ่มทางลัดเพื่อใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วตามที่เราตั้งค่าเอาไว้ โดยการใช้งานก็เพียงกดปุ่มค้างเอาไว้ก็ใช้งานได้เลย อย่างค่าเริ่มต้นที่ให้มาก็จะเป็นปุ่มเปิด/ปิดเสียง แต่เราสามารถตั้งค่าเป็นรูปแบบอื่นๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นทั้งโหมดปิดเสียง โหมดโฟกัส ไฟฉาย การบันทึกเสียงแบบรวดเร็ว การแปลภาษา แว่นขยาย การช่วยการเข้าถึง คำสั่งลัดเพื่อเปิดแอพหรือสั่งต่อกันเป็นชุดๆ และการเปิดกล้องเพื่อถ่ายรูป หรือว่าถ่ายเซลฟี่ได้ทันที ซึ่งถ้าเปลี่ยนไปแล้วการควบคุมเสียงก็จะต้องใช้ที่ศูนย์ควบคุมแทนการเปิด/ปิดเสียงแทน

และในเรื่องแบตเตอรี่ของ iPhone 15 Pro Max นั้นก็มีข่าวการเปิดเผยถึงความจุออกมาตั้งแต่ช่วงต้นๆ แล้วว่ามีความจุ 4,422 mAh จากเดิม 4,323 mAh มีความจุเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าแน่นอน แต่ด้วยชิปประมวลผลอย่าง A17 Pro ก็ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นอยู่แล้ว ตามสเปคการใช้งานนั้นได้เผยว่าสามารถดูวิดีโอได้สูงสุด 29 ชั่วโมง ดูวิดีโอแบบสตรีมได้สูงสุด 25 ชั่วโมง และฟังเพลงได้ต่อเนื่องยาวนานสูงสุด 95 ชั่วโมง ที่สำคัญก็คือการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ที่ชาร์จได้สูงสุด 50% ในเวลาประมาณ 30 นาทีด้วย USB-C และอะแดปเตอร์ขนาด 20W มีการรองรับ MagSafe และ Qi เหมือนเดิม

ซึ่งตัวพอร์ต USB-C นี้สามารถใช้ร่วมกับ iPad/ Mac และใช้ตัว iPhone ชาร์จให้ Apple Watch หรือ AirPods ได้อีกด้วย สำหรับตัวพอร์ตนั้นเป็น USB-C ที่รองรับ USB 3 (สูงสุด 10Gb/s) โอนข้อมูลได้เร็วขึ้น 20 เท่า โดยมีความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูล ProRes และส่งออกไปที่ตัวเก็บข้อมูลภายนอกได้พร้อมๆ กับการถ่ายวิดีโอไปด้วยได้เลย ไม่ต้องคอยถอดหรือหยุดการถ่ายเพื่อโอนข้อมูลเหมือนแต่ก่อนแล้ว

กล้องหน้าและกล้องหลัง

ตัวเด็ดของ iPhone 15 Pro Max ก็อยู่ที่กล้องขั้นเทพที่มีเฉพาะในรุ่นนี้รุ่นเดียวนี่แหละ โดยตัวกล้องหลังนั้นมีความละเอียดหลัก 48MP ที่ได้เซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ทำให้ถ่ายออกมาได้รายละเอียดครบ ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี และยังมี Photonic Engine ใหม่ที่รวมพิกเซลได้เป็นแบบ 24MP และ 48MP ช่วยให้ถ่ายรายละเอียดออกมาได้ดีขึ้นไปอีก นอกจากนี้ก็ยังสามารถเลือกความยาวเลนส์ได้ทั้ง 24 มม., 28 มม. หรือ 35 มม. เพื่อช่วยจัดองค์ประกอบของภาพได้ดีขึ้น มีการอัพเกรดการถ่ายพอร์ตเทรตด้วยฟีเจอร์ ภาพถ่ายบุคคลเจเนอเรชั่นถัดไป สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นถึง 2 เท่าถ่ายโหมดกลางคืนในที่ฉากมืดได้ดีขึ้น และยังถ่ายพอร์ตเทรตแบบ Live Photo ได้ด้วย รวมไปถึงการซูมต่อเนื่องเนียนๆ และฟีเจอร์ใหม่ที่ถ่ายรูปไปแล้ว จากนั้นค่อยมาเลือกจุดโฟกัสทีหลังในแอพ Photo ไม่ต้องคอยกดโฟกัสตอนถ่ายแล้ว เพราะไปเลือกได้ทีหลังนั่นเอง

ที่เหลือก็คือกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และเทเลโฟโต้ 12MP ที่เป็นจุดเด่นของ iPhone 15 Pro Max รุ่นนี้เลย เพราะว่ามีการอัพเกรดมาใช้โครงสร้างเลนส์แบบเตตระปริซึม ทำให้มีการสะท้อนแสงได้ 4 ครั้ง ส่งผลให้แสงเดินทางได้ไกลขึ้นและจะซูมได้ไกลมากกว่าเดิม เสริมมาด้วยกันสั่นแบบออปติคัลพร้อม AF ปรับตำแหน่งแบบ 3D ที่สามารถขยับได้ 3 ทิศทางเพื่อรองรับกับตัวเตตระปริซึม ที่ถือว่าเป็นรูปแบบกันสั่นที่ดีกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมาแล้ว โดยการซูมสามารถทำได้ถึงระยะ 120 มม. สามารถซูมแบบออปติคัลได้ 0.5x, 1x, 2x และ 5x พร้อมทั้งอัพเกรดการถ่ายภาพ HDR อัจฉริยะ 5 ทั้งหน้าและหลังแล้วด้วย

สุดท้ายคือการถ่ายวิดีโอที่ทำได้ถึง 4K HDR และสามารถถ่ายแบบ ProRes สูงสุด 4K@60fps แล้ว ส่วนอื่นๆ ก็ยังมีการรองรับโหมดแอ็คชั่นและโหมดภาพยนตร์ 4K เหมือนเดิม เพิ่มเติมมาในส่วนของรูปแบบไฟล์ Log และ Academy Color Encoding System (ACES) ที่ให้สีสันระดับภาพยนตร์ โดยตอนเปิดตัวออกมานั้นได้บอกอีกว่าจะมีการอัพเกรดให้สามารถบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ เพื่อรองรับการดูผ่าน Apple Vision Pro ที่ทำออกมา และจะทำให้ภาพออกมาเป็น 3D โดยใช้กล้องอัลตร้าไวด์และกล้องหลักรวมกัน ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้อง TrueDepth 12MP ที่ยังคงคล้ายของเดิมอยู่แต่มีการอัพเกรดนิดหน่อยทำให้เซลฟี่กลางคืนหรือย้อนแสงได้ดีขึ้น

ราคาล่าสุดทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรจาก AIS, true – dtac

ปิดท้าด้วยเรื่องราคาของ iPhone 15 Pro Max ที่ตอนนี้มีวางขายได้ตามปกติแล้ว โดยราคาหลักของ Apple Store นั้นจะมีราคายืนพื้นมาให้แล้วได้แก่

ส่วนราคาของค่ายอื่นๆ อย่างค่ายโอเปอร์เรเตอร์อย่าง AIS, true – dtac นั้นก็มีราคาเครื่องเปล่า และราคาพร้อมแพ็กเกจหรือแบบติดโปรออกมาด้วยเหมือนกันดังนี้

ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone 15 Pro Max กับรุ่นก่อนหน้า

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรุปข้อมูลสเปค iPhone 15 Pro Max แบบละเอียดแบบจุดต่อจุดที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ หลังจากที่มีการเปิดตัวพร้อมวางขายอย่างเป็นทางการครบทุกที่แล้ว โดยจุดหลักที่เปลี่ยนไปก็แทบจะทั้งตัวเครื่องเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้เป็นไทเทเนียม ปรับรูปแบบเครื่องใหม่ให้ถือถนัดขึ้น มีหน้าจอเหมือนเดิมแต่ประหยัดพลังงานขึ้นด้วยชิปตัวแรง A17 Pro ที่อัพเกรดทั้ง CPU และ GPU ทำให้การเล่นเกมนั้นสวยขึ้นอย่างมาก เชื่อมต่อได้แม่นยำขึ้นและยังมีกล้องตัวเทพที่มีเตตระปริซึม ซูมได้มากขึ้นถึง 5x ในความยาวโฟกัส 120 มม. แบตที่มีความจุมากขึ้นและได้เปลี่ยนมาใช้ USB-C ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม พร้อมกับราคาที่เท่าเดิมเป๊ะเลย ใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้เป็นต้นไป แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราจะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลทั้งหมดจาก Apple