เปรียบเทียบสเปค iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra รุ่นตัวท็อปทั้งสองค่ายต่างกันแค่ไหนบ้าง
หลังจากที่มีการเปิดตัวซีรีส์ใหม่ของ iPhone 15 และ iPhone 15 Pro ออกมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน ตามเวลาประเทศไทยและตอนนี้ก็เริ่มเปิดจองพร้อมให้วางจำหน่ายในวันที่ 22 กันยายนนี้แล้ว โดยมีตัวท็อปสุดของซีรีส์นี้ก็คือ iPhone 15 Pro Max ที่ทำสเปคออกมาใหม่หลายอย่างทั้งตัวเครื่อง ปุ่มใหม่ ชิป กล้องใหม่ซูมได้ดีขึ้น และเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว ซึ่งอีกฝั่งที่มีมือถือระดับเรือธงเทพๆ อย่าง Samsung ก็มีรุ่นตัวท็อปที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ต้นปี 2023 นั่นก็คือ Samsung Galaxy S23 Ultra ที่มีการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าทั้งชิป กล้องที่ซูมสุดพี๊ค เล่นเกมได้ดีขึ้น และรายละเอียดอื่นๆ อีกนิดหน่อย สำหรับคนที่ต้องการซื้อมือถือใหม่และมองหารุ่นตัวท็อปในช่วงนี้ก็ต้องมีคิดหนักกันบ้างล่ะ เพราะทั้งสองรุ่นนี้ก็มีดีต่างกัน และตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทั้งคู่ ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ถูกเดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปค iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra ให้ว่ารุ่นตัวท็อปทั้งสองค่ายต่างกันแค่ไหน และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง
- เปรียบเทียบด้านดีไซน์ตัวเครื่อง
- เปรียบเทียบหน้าจอ
- เปรียบเทียบชิปประมวลผลและการเชื่อมต่อ
- เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
- เปรียบเทียบแบตเตอรี่และราคา
- สรุป iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra รุ่นไหนเหมาะกับใคร
ดีไซน์สวย รักษ์โลกกันทั้งคู่
เปิดประเด็นการเปรียบเทียบ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra กันที่ตัวเครื่องและการดีไซน์ของทั้งสองรุ่นที่มีความรักษ์โลกเป็นหลักกันทั้งคู่ โดยตัว iPhone 15 Pro Max นั้นมีตัวเครื่องที่ใช้วัสดุเป็นไทเทเนียมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศผิวปัดละเอียด ทำให้มีสีที่สว่างขึ้น แข็งแรงขึ้นและน้ำหนักเบาลงเยอะมาก ส่วนข้างในใช้เฟรมอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% พร้อมกับทำขอบเครื่องให้โค้งมนตัดคมให้ถือได้สบายขึ้น ด้านหน้าเป็น Ceramic Shield และฝาหลังใช้กระจกผิวด้าน ส่วนโมดูลกล้องจะทำให้กลมกลืนไปกับฝาหลังและมีเลนส์วงแหวน 3 ตัว ดีไซน์ใหม่หมดและทำให้ดูสวยขึ้นจริงๆ สามารถน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP68 พร้อมกับเปลี่ยนปุ่มเปิด-ปิดเสียงใหม่เป็นปุ่ม Action ที่สามารถตั้งค่าเป็นปุ่มทางลัด ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติต่างๆ เพื่อใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
ส่วนทางด้านของ Samsung Galaxy S23 Ultra ก็มีความรักษ์โลกไม่แพ้กัน โดยตัวเครื่องนั้นดีไซน์ด้านบนเป็นขอบแบน และด้านข้างกับหน้าจอโค้ง ทั้งตัวเครื่องจะเน้นวัสดุรีไซเคิลเป็นหลัก โดยตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมที่ใช้เฟรม Armor Aluminum มีความแข็งแรงสูง มาพร้อมกระจกด้านหน้าและหลังกระจกรีไซเคิลเพิ่มความแข็งแรงด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 พร้อมสีสันแบบเอิร์ธโทน ดีไซน์ดูหรูพรีเมียมแต่ก็แลกมาด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะกว่า และด้วยหน้าจอที่ใหญ่กว่าจึงมีน้ำหนักมากกว่าด้วย ส่วนโมดูลกล้องหลังรุ่นนี้จะเป็นแบบฝังไปกับฝาหลัง และนูนขึ้นมาแค่เฉพาะตัวเลนส์เท่านั้น สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP68 เช่นกัน
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 15 Pro Max Galaxy S23 Ultra ขนาด 159.9×76.7×8.25 มม. 163.4×78.1×8.9 มม. น้ำหนัก 221 กรัม 233 กรัม สี ไทเทเนียม, น้ำเงิน, ขาว, ดำ เขียว, ดำ, ม่วง, ครีม, เหลือง, ฟ้า, กราไฟต์, แดง
เปรียบเทียบหน้าจอ
เปรียบเทียบ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra จุดต่อมาด้วยเรื่องของหน้าจอที่ทั้งสองรุ่นนี้ก็มีความต่างกันพอสมควร ทั้งความกว้างและสเปคการใช้งานที่ต่างกันชัดเจน โดยหน้าจอของ iPhone 15 Pro Max เป็นจอ Super Retina XDR แบบ OLED ความละเอียด FHD+ (2796×1290) กว้าง 6.7 นิ้วมาพร้อมขอบจอที่บางเฉียบกับ ProMotion 120Hz และจุดเด่นที่รูกล้องหน้าอย่าง Dynamic Island ที่ปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้ ที่สำคัญคือมีความสว่างหน้าจอสูงสุดที่มากกว่าถึง 2,000nits
ในขณะที่ Galaxy S23 Ultra ก็มีจอที่คมชัดจาก Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2K Quad HD+ (3088×1440) ที่คมชัดสูงกว่า และยังมีจอกว้างกว่าถึง 6.8 นิ้วกับ Refresh Rate 120Hz ปรับได้ลื่นเท่ากัน แต่รุ่นนี้ยังด้อยกว่าในเรื่องของความสว่างเพราะสว่างได้สูงสุดเพียง 1,750nits เท่านั้น จุดเด่นอีกอย่างของ S23 Ultra ก็คือการรองรับปากกา S-Pen ที่มีมาให้ในตัวเอาไว้ขีดเขียนจดบันทึก และทำอะไรได้อีกหลายอย่าง โดยทั้งสองรุ่นมี Always-On Display เหมือนกัน และด้วยสเปคต่างๆ จุดประสงค์การใช้งานในส่วนหน้าจอนี้จึงต่างกันตามการใช้งานของแต่ละคนด้วย
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 15 Pro Max Galaxy S23 Ultra หน้าจอ Super Retina XDR
OLED, ProMotion 120Hz
(2796×1290)Dynamic AMOLED 2X,
Refresh Rate 120Hz
(3088×1440)ขนาด 6.7 นิ้ว 6.8 นิ้ว ความสว่าง 2,000nits peak 1,750nits peak รูกล้องหน้า เจาะรู (Punch Hole)
Dynamic Islandเจาะรู (Punch Hole)
ชิปประมวลผล
สำหรับการเปรียบเทียบ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra ในเรื่องชิปประมวลผลนี้ มีการเทียบจาก GeekBench 5 และที่อื่นๆ น่าจะตามมาอีกไม่นานพบว่าชิปตัวใหม่ของ iPhone 15 Pro Max นั้นมีความเร็วแรงกว่าในหลายๆ ด้าน โดยใช้ชิปตัว A17 Pro ขนาด 3nm รุ่นใหม่ล่าสุดที่มี CPU และ GPU ที่แรงกว่ารุ่นก่อนหน้า 10-20% พร้อม Neural Engine ที่เร็วขึ้น 2 เท่าตอบโจทย์คอเกมทั้งหลายด้วยการเปิดตัวโชว์การเล่นเกมระดับสูง พร้อมกับมี Ray Tracing ด้วยฮาร์ดแวร์เป็นครั้งแรก ซึ่งตรงนี้อาจจะเหนือกว่าด้วยในเรื่องการเล่นเกม ส่วนแรมยังไม่เผยออกมาคาดว่าอาจเป็น 8GB
ส่วนของ Galaxy S23 Ultra นั้นใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ที่การเทียบสเปคชิปจะเทียบจากตัวปกติ แต่รุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงเพิ่มสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ทำให้การใช้งานและการเล่นเกมก็ยังดีเยี่ยม มีความเร็วแรงกว่าปกติ แถมยังระบายความร้อนได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอีกด้วย โดยรุ่นนี้มี RAM 8-12GB ซึ่งถ้าเทียบจากแรมรุ่นเริ่มต้นอาจจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าเป็นรุ่น 12GB ก็อาจจะเห็นได้ถึงความต่างในด้านการใช้งานหลายๆ แอพพร้อมกัน แต่ทั้งนี้ของ iPhone 15 Pro Max อาจมีการจัดการทรัพยากรระบบที่ดีขึ้น ก็จะทำให้เห็นความต่างได้ยาก ต้องรอผลการทดสอบอีกครั้งหลังจากนี้ โดยรวมแล้วทั้งสองรุ่นมีความเร็วแรงเล่นเกมได้ดีทั้งคู่ มีความจุให้เลือกเท่ากัน แต่ใครจะแรงกว่ากันก็ต้องรอผลทดสอบอีกที
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 15 Pro Max Galaxy S23 Ultra ชิป A17 Pro Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy RAM 8GB* 8-12GB ROM 256/512GB/1TB 256/512GB/1TB เชื่อมต่อ 5G/ Wi-Fi 6E/ BT 5.3/ NFC
UWB Gen 25G/ Wi-Fi 6E/ BT 5.3/ NFC
UWBระบบ iOS17 Android
เปรียบเทียบชิป iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra
เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
จุดที่หลายคนต้องตัดสินใจหนักๆ เลยก็คือการเปรียบเทียบ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra ที่ตัวกล้องซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีสเปคกล้องที่ดีกันคนละแบบ อย่างตัว iPhone 15 Pro Max นั้นมีกล้องหน้าเป็น TrueDepth 12MP ที่ถ่ายเซลฟี่ในโหมดกลางคืนและบุคคลได้ดีขึ้น ส่วนของ S23 Ultra มีกล้องหน้าเป็น 12MP ซึ่งจริงๆ แล้ว S22 Ultra นั้นเคยมีกล้องหน้า 48MP มาแล้วแต่ได้ลดความละเอียดลงมาเหลือ 12MP แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพแย่ลงเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงเพิ่มนิดหน่อยด้วย ในส่วนของกล้องหน้านี้จึงอาจจะพอๆ กันก็ยังได้อยู่
จุดหลักจริงๆ จะอยู่ที่กล้องหลังที่มีการปรับปรุงเยอะทีเดียวสำหรับ iPhone 15 Pro Max ที่มีกล้องหลัก 48MP อัลตร้าไวด์ และเทเลโฟโต้ 12MP พร้อมการซูมออปติคัล 0.5x, 1x, 2x และสูงสุด 5x ด้วยดีไซน์เตตระปริซึมพร้อมเลนส์ 120 มม. ซูมได้ดีกว่าเดิมจัดภาพได้ดีขึ้น และยังเลือกความยาวเลนส์ได้ทั้ง 24 มม., 28 มม. หรือ 35 มม. มีทั้งลดความหน่วง ถ่ายในที่แสงน้อย และภาพบุคคลได้ดีกว่าเดิม ที่น่าสนใจคือการถ่ายภาพแล้วเลือกโฟกัสทีหลังได้ด้วย
ส่วน S23 Ultra นั้นเอาจริงๆ แล้วก็ดูว่าจะเหนือกว่าในด้านของกล้องและการถ่ายภาพด้วยตัวหลัก 200MP อัลตร้าไวด์ 12MP เทเลโฟโต้ 10MP และเทเลอีกตัว 10MP (ƒ/4.9) สามารถซูมออปติคัลได้ 3x – 10x (ดิจิทัลซูม 100x) ในเรื่องของการซูมต้องยกให้เลยว่าดีงามที่สุด ถ่ายภาพกลางคืนหรือบุคคลไม่ต้องพูดถึงเพราะคมชัดแน่นอน นอกจากนี้ยังถ่ายแล้วครอบได้ชัด ถ่ายภาพดาวหรือHyperlapse ของหมู่ดาวได้สบายๆ และสุดท้ายในด้านการถ่ายวิดีโอของ S23 Ultra ทำได้สูงสุดถึง 8K@30fps ส่วน iPhone 15 Pro Max ถ่ายได้สูงสุดเพียง 4K@60fps กับไฟล์ RAW แต่ทั้งนี้ก็มีฟีเจอร์ใหม่อย่างกล้อง Spatial video ที่ถ่ายแล้วนำมาดูต่อใน Apple Vision Pro ได้ด้วย คาดว่าแล้วเสร็จในปีนี้แหละ
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 15 Pro Max Galaxy S23 Ultra กล้องหน้า TrueDepth 12MP (ƒ/1.9) 12MP (ƒ/2.2) กล้องหลัง หลัก: 48MP (ƒ/1.78)
อัลตร้าไวด์: 12MP (ƒ/2.2)
เทเลโฟโต้: 12MP (ƒ/2.8)หลัก: 200MP (ƒ/1.7)
อัลตร้าไวด์: 12MP (ƒ/2.2)
เทเลโฟโต้1: 10MP (ƒ/2.4)
เทเลโฟโต้2: 10MP (ƒ/4.9)การซูม 0.5x, 1x, 2x, 5x 3x-10x วิดีโอ 4K@60fps
ProRes (RAW)8K@30fps
เปรียบเทียบแบตและราคา
ปิดท้ายการเปรียบเทียบ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra กันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่และราคา ซึ่งตัวใหม่ของ iPhone 15 Pro Max นั้นยังไม่ได้เผยความจุออกมาแต่จากข่าวลือก็คาดว่าจะมีความจุมากขึ้น และด้วยชิปที่ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกจึงอาจทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชม. และฟังเพลงสูงสุด 95 ชม. พร้อมการเปลี่ยนมาใช้งานพอร์ต USB-C รองรับ USB 3 (สูงสุด 10Gb/s) รวมไปถึงการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe และ Qi 15W
ส่วนของ Galaxy S23 Ultra นั้นมีความจุแบตที่ 5,000mAh สามารถเล่นเน็ตต่อเนื่อง 25 ชม. ดูวิดีโอได้ 26 ชม. และฟังเพลงได้สูงสุด 99 ชม. ซึ่งก็มีความใกล้เคียงกันในการใช้งาน แต่หลักๆ จะไปอยู่ที่การชาร์จที่ S23 Ultra ชาร์จไวด้วย USB-C (USB 3.2 Gen 1) ได้ถึง 45W ตรงนี้ก็จะเหนือกว่าหน่อยในด้านการชาร์จไว แต่ชาร์จไร้สายได้เท่ากันที่ 15W และในเรื่องของราคานั้นก็มีความแตกต่างกันเยอะพอสมควร แน่นอนว่าของ iPhone 15 Pro Max นั้นมีราคาสูงกว่า สั่งซื้อได้ที่
ข้อมูล\ รุ่น | iPhone 15 Pro Max | Galaxy S23 Ultra |
ราคา | 256GB : 48,900 บาท 512GB : 57,900 บาท 1TB : 66,900 บาท | 256GB : 41,900 บาท 512GB : 47,900 บาท 1TB : 57,900 บาท |
สรุป iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra รุ่นไหนเหมาะกับใคร
สำหรับทั้งสองรุ่นของ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra อย่างที่บอกไปว่าทั้งสองรุ่นมีกีแตกต่างกัน และก็ใช้งานได้ดีทั้งคู่อยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความเหมาะสมในการใช้งาน iPhone 15 Pro Max นั้นมีดีที่ชิปแรงเล่นเกมได้ดีเยี่ยม มีหน้าจอที่สว่างได้มากกว่า และกล้องที่ถ่ายได้แบบระดับโปร โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอที่รองรับไฟล์ RAW และ ProRes ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้งานในรูปแบบการถ่ายแบบไหนอีก
เพราะถ้าชอบถ่ายซูมเป็นหลัก ไปคอนเสิร์ตบ่อย ชอบถ่ายดาวหรือต้องการความคมชัดสูง S23 Ultra จะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้มากกว่า อีกทั้งยังมีหน้าจอที่ใหญ่และที่สำคัญหลักๆ เลยก็คือปากกา S-Pen ที่ช่วยให้ชีวิตการทำงานง่ายขึ้นอีกเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการจด ขีดเขียน และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการชาร์จไวที่ทำได้ดีกว่า ซึ่งเอาจริงๆ แล้วก็แนะนำว่าให้ไปลองถือเล่นดูกันก่อนว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน เพราะจริงๆ แล้ว iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra สเปคอื่นๆ ก็พอจะไปใกล้เคียงเทียบกันได้เลย จะต่างสุดก็ตรงเรื่องกล้องและการซูมนี่แหละ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ iPhone 15 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra จาก Apple TH/ Samsung TH