Samsung Galaxy S20 | S20+ | S20 Ultra 5G สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung ที่มาพร้อมฟีเจอร์มากมาย ซึ่งสำหรับคนที่ลังเลอยู่ว่าจะซื้อตัวไหนดี เพราะราคาเองก็ต่างกันไม่มากนัก เราเลยจะมีเทียบกันให้ดูชัด ๆ ว่ามีตรงไหนที่ต่างกันบ้าง เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สเปคหลักของ Samsung Galaxy S20 | S20+ | S20 Ultra 5G
Galaxy S20 | Galaxy S20+ | Galaxy S20 Ultra 5G | |
---|---|---|---|
หน้าจอ | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2K Refresh Rate 120 Hz | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2K Refresh Rate 120 Hz | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2K Refresh Rate 120 Hz |
CPU | Exynos 990 | Exynos 990 | Exynos 990 |
RAM | 12GB | 12GB | 12GB / 16GB |
ROM | 128GB | 128GB | 128GB |
กล้องหลัง | 12MP f/1.8 + 64MP f/2.0 (tele) + 12MP f/2.2 (ultrawide) | 12MP f/1.8 + 64MP f/2.0 (tele) + 12MP f/2.2 (ultrawide) + ToF | 108MP f/1.8 + 48MP f/3.5 (tele) + 12MP f/2.2 (ultrawide) + ToF |
กล้องหน้า | 10MP f/2.2 | 10MP f/2.2 | 40MP f/2.2 |
แบตเตอรี่ | 4,000 mAh + ชาร์จเร็ว 25W | 4,500 mAh + ชาร์จเร็ว 25W | 5,000 mAh + ชาร์จเร็ว 45W |
ราคา | 28,900 | 31,900 | 39,900 |
ก่อนอื่นเรามาดูที่สเปคหลัก ๆ กันก่อน ที่โดยรวมแล้วที่ทั้ง 3 รุ่นมีต่างกันคือ ขนาดหน้าจอ, กล้องหลัง, กล้องหน้า, ความจุแบตเตอรี่และระบบชาร์จเร็ว ซึ่งรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ จะเป็นดังนี้
หน้าจอ : S20 | S20+ | S20 Ultra 5G ใช้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่เป็นหน้าจอรุ่นใหม่ที่ให้สีสันที่สวยงามขึ้นและมีความคมชัดขึ้น นอกจากนี้ยังมีความละเอียดระดับ 2K และมีอัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz ทั้งหมด(จะใช้ 120Hz ได้ต้องตั้งหน้าจอความละเอียด FHD+ เท่านั้น) แต่ที่ต่างกันและเป็นจุดแตกต่างเพื่อแยกรุ่นก็คือการที่มีขนาดหน้าจอที่ต่างกัน ซึ่ง S20 จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.2 นิ้ว S20+ มีขนาด 6.7 นิ้ว และ S20 Ultra 5G มีขนาด 6.9 นิ้ว และถึงแม้หน้าจอของทั้ง 3 รุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่พอสมควร แต่ก็ถือว่ายังจับได้พอดีมืออยู่ เนื่องจากตัวเครื่องไม่ได้มีความหนา ทำให้สามารถถือได้แบบสบาย ๆ
กล้องหลัง : กล้องหลังนี้ S20 ทั้ง 3 รุ่นมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลย โดยที่ S20 และ S20+ นั้นจะมีกล้องหลัก, กล้อง Tele และกล้อง Ultrawide ชุดเดียวกัน คือ กล้องหลัก 12MP f/1.8, กล้อง Tele 64MP f/2.0 ที่ซูมได้สูงสุดถึง 30x, กล้อง Ultrawide 12MP f/2.2 แต่ที่ S20+ แตกต่างก็คือกล้อง ToF สำหรับวัดระยะชัด-ลึก
ส่วนใน S20 Ultra 5G นั้นมีกล้องที่ถือเป็นตัวชูโรงของซีรี่ส์นี้เลยก็คือกล้องหลัก 108MP f/1.8, กล้อง Tele 48MP f/3.5 ที่ซูมได้สูงสุดถึง 100x, กล้อง Ultrawide 12MP f/2.2 และกล้อง ToF
กล้องหน้า : S20 | S20+ นั้นใช้กล้องหน้าตัวเดิมแบบที่ใช้ใน Galaxy Note 10 ซีรี่ส์คือกล้องเซลฟี่ความละเอียด 10MP f/2.2 ที่เป็น Dual Pixel ส่วน S20 Ultra 5G นั้นมีกล้องหน้าเซลฟี่แบบ Quad Bayer ความละเอียด 40MP f/2.2 ที่สามารถเลือกถ่ายภาพได้ 2 แบบคือ 40MP และ 10MP ทำให้ถ่ายภาพได้หลกหลายแบบขึ้น
แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ของ S20 นั้นให้มา 4,000 mAh S20+ ให้มา 4,500 mAh และ S20 Ultra 5G ให้มา 5,000 mAh ตามขนาสดของเครื่องเลย และจะให้อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 25W มาพร้อมในกล่องเลย แต่ทว่าสำหรับในรุ่น S20 Ultra นั้นจะพิเศษกว่ารุ่นอื่นคือจะรองรับชาร์จเร็วสูงสุดถึง 45W (ต้องไปซื้อต่างหาก)
ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Samsung Galaxy S20 | S20+ | S20 Ultra 5G
Galaxy S20 | Galaxy S20+ | Galaxy S20 Ultra 5G | |
---|---|---|---|
ระยะซูม Optical | 3x | 3x | 10x |
Space Zoom | 30x | 30x | 100x |
เทคโนโลยี | Dual Pixel | Dual Pixel | NonaCell |
ถ่ายวีดีโอ 8K | Yes, 24 fps นาน 5 นาที | Yes, 24 fps นาน 5 นาที | Yes, 24 fps นาน 5 นาที |
รองรับ 5G | no | no | yes |
วัสดุ | Aluminum + Gorilla Glass 6 | Aluminum + Gorilla Glass 6 | Metal + Gorilla Glass 6 |
สี | ชมพู, ฟ้า, เทา | ดำ, เทา, ฟ้า | ดำ, เทา |
การซูม : การซูมใน S20 ซีรี่ส์นี้นับเป็นจุดเด่นที่ Samsung ต้องการโปรโมทเป็นอย่างมาก ด้วยระยะซูมที่สูงสุดที่ไม่เคยมีใครทำได้ โดยจะเรียกการซูมนี้ว่า Space Zoom ซึ่งฟีเจอร์นี้นั้นจะมีอยู่ใน Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น แต่จะต่างกันที่ระยะซูม
โดยใน S20 และ S20+ นั้นจะมีระยะซูมทั้ง Optical และ Space Zoom เท่ากันคือ 3x และ 30x ตามลำดับ ส่วนของ S20 Ultra 5G ที่เป็นตัวชูโรงของซีรี่ส์นี้มีการซูมแบบ Optical 10x และ Space Zoom 100x ทว่าหากเทียบกันที่ระยะซูม 30x เหมือนกัน ภานของ S20 Ultra 5G จะออกมาคมชัดกว่า S20 และ S20+ เนื่องจากโดยปกติระยะซูมแบบ Digital จะเป็นการครอปภาพจากระยะซูมสูงสุดแบบ Optical ดังนั้นเมื่อทำการซูมจนสุดระยะ Optical แล้ว S20 Ultra 5G จะมีความคมชัดของภาพที่สูงกว่า และเมื่อทำการครอปภาพจะทำให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดมากกว่านั่นเอง
เทคโนโลยีกล้อง : เทคโนโลยีของกล้องเองก็เป็นตัวชูโรงของ S20 Ultra 5G เช่นกัน เพราะมาด้วยเทคโนโลยี NonaCell ที่เป็นการรวมภาพจำนวน 9 ภาพเข้าด้วยกันทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น สว่างขึ้น แถมยังลด noise ลงได้อย่างมาก ในขณะที่ S20 และ S20+ นั้นยังใช้ Dual Pixel แบบเดิมอยู่ แต่ถึงจะยังใช้เทคโนโลยีเดิม แต่ภาพที่ถ่ายออกมาได้ก็ยังถือว่าดีสมกับเรือธงอยู่
การรองรับ 5G : แน่นอนว่าเรื่อง 5G เองก็เป็นสิ่งที่มาคู่กับ Samsung Galaxy S20 ซีรี่ส์ ซึ่งเมื่อตอนเปิดตัวในงาน MWC 2020 นั้นบอกว่า S20 ทั้ง 3 ตัวรองรับ 5G แต่ ๆๆๆๆๆ(ต้องย้ำ) Samsung ประเทศไทยนั้นไม่ได้เอารุ่น 5G เข้ามาทั้งหมด ทำให้ทุกคนอาจสับสนได้ เนื่องจากรุ่น 5G ที่ Samsung ประเทศไทยเอาเข้ามานั้นจะมีเพียงรุ่น S20 Ultra 5G เท่านั้น ส่วน S20 และ S20+ นั้นยังเป็นรุ่นสำหรับ 4G อยู่ และถึงแม้ในไทยจะมี 5G ให้ใช้แล้ว ทั้งคู่ก็จะไม่สามารถใช้ 5G ได้อยู่ดี ดังนั้นใครที่หวังจะใช้ 5G ได้ด้วยถ้าไม่ซื้อ S20 Ultra 5G ก็คงต้องรอสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นแทนอย่างเดียว