ในบทความนี้ผมขอยกประเด็นที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้มาบอกต่อเพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่าในบางครั้งศูนย์บริการมือถือนั้นก็ไม่ใช่ที่ที่ดีที่สุดในการเข้าไปซ่อมมือถือเหมือนอย่างที่เรานั้นเคยคิดกันเสมอไป โดยประเด็นนี้เกิดขึ้นในเว็บไซต์ Pantip.com ที่ได้มีผู้ใช้งาน Samsung S6 EDGE ได้เข้าไปเปลี่ยนอะไหล่ที่ชำรุดกับทางศูนย์บริการแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา โดยเรื่องราวนั้นมีดังต่อไปนี้
เมื่อดูจากภาพที่เห็นก็คาดว่าตัวเครื่องของผู้ใช้งานคนนี้อาจจะหล่นหรือมีอะไรบางอย่างมากระแทกจนหน้าจอของตัวเครื่องนั้นแตกอย่างชัดเจน และทางเจ้าของกระทู้ได้เข้าติดต่อกับทางศูนย์บริการแห่งหนึ่งโดยสรุปว่ามีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ราว 6,600 บาท
แต่แล้วก็พบกับความผิดปกติเมื่อนำมือถือเชื่อมต่อกับโปรแกรม Smart Switch โปรแกรมกับเห็นว่าตัวเครื่องนั้นสีดำทั้งที่ความจริงแล้วเจ้าของกระทู้ซื้อเครื่องสีขาวมาใช้งาน และได้ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ซื้อเครื่องสีไหนมาโปรแกรมก็มองว่าเป็นสีนั้นตลอด
เจ้าของกระทู้พอใจกับความรวดเร็วในการให้บริการของทางศูนย์ โดยทางศูนย์ได้กำหนดเวลาให้มารับเครื่องคืนในเวลา 16.00 น. ซึ่งเท่ากับว่าใช้เวลาในการเปี่ยนอะไหล่ราว 4 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น ซึ่งก็ดูเหมือนทุกอย่างดำเนินไปได้ดีตามปกติอย่างที่ควรจะเป็น แต่ทางเจ้าของกระทู้ได้ขอมารับเครื่องคืนตอน 17.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน แต่เมื่อเริ่มซ่อมได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษก็มีโทรศัพท์เข้าปลายสายคือเจ้าหน้าที่จากทางศูนย์บริการที่ได้ไปส่งมือถือซ่อม และบทสนทนานั้นมีดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่จากทางศูนย์ได้ให้รายละเอียดว่าตัวเครื่องที่ทางเจ้าของกระทูจะได้รับไปนั้นจะมาพร้อมกับรอยถลอกที่บริเวณปุ่มเพิ่มเสียง ซึ่งน่าแปลกที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบคำถามกับลูกค้าได้ว่าตัวเครื่องเสียหายจากการซ่อมมากน้อยแค่ไหน โดยตามปกติแล้วในการถอดฝาหลังออกจะต้องใช้เครื่องมือในการยกกระจกด้านหลังออก แล้วสอดเครื่องมือเข้าไปเพื่อถอดกระจกดังกล่าวออก ซึ่งเจ้าของกระทู้คาดว่าคงจะเป็นรอยเล็กน้อยจึงไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก
เมื่อได้รับตัวเครื่องคืนมาเจ้าของกระทู้ก็น่าจะตกไปจนพูดไม่ออกเลย เพราะที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นอาจจะเรียกว่าเยินเละเทะเลยก็ว่าได้ และคาดว่าด้วยสาเหตุนี้ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของทางศูนย์ไม่กล้าแจ้งลูกค้าในตอนที่คุยกันทางโทรศัพท์ แต่ที่น่าแปลกใจนั่นคือทางศูนย์กล้าคืนเครื่องสภาพแบบนี้ให้กับลูกค้าได้ยังไง? ยิ่งเป็นลูกค้าที่เขาเสียเงินค่าซ่อมตัวเครื่องด้วย
เมื่อเห็นสภาพตัวเครื่องที่น่าหดหู่ เจ้าของกระทู้เลยเรียกช่างที่เป็นคนรับหน้าที่ซ่อมตัวเครื่องออกมาคุย และก็ได้พบว่านี่คือชายที่โทรมาคุยกับเจ้าของกระทู้เมื่อก่อนหน้านี้ และได้เกิดข้อถกเถียงกันขึ้น ซึ่งทางช่างยังจะกล้าบอกอีกว่าแจ้งแล้วว่าจะเกิดรอยถลอก ซึ่งเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็รับไม่ได้เหมือนกัน และเจ้าของกระทู้ก็ได้ยกตัวอย่างต่างๆ ที่ทำให้ทางช่างนั้นพูดไม่ออก และทีน่าเกลียดมากคือมีการให้เจ้าของกระทู้เสียเงินเปลี่ยนฝาหลังอีกราว 1,000 บาท ทั้งๆที่คุณเป็นคนทำของเขาพัง และเจ้าของกระทู้ได้ถามสาเหตุว่าทำไมในโปรแกรมจึงเห็นตัวเครื่องเป็นสีอื่น ทางช่างได้ตรวจและได้ให้คำตอบง่ายๆ ว่าโปรแกรมของทางศูนย์มองไม่เห็นสี ซึ่งน่าแปลกที่โปรแกรมของทางช่างจะไม่สามารถเช็คเรื่องง่ายๆ แค่นี้ได้
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทางเจ้าของกระทู้ และได้บอกว่าจะเปลี่ยนฝาหลังให้ใหม่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของกระทู้ออกมาบอกว่าไม่มีใครติดต่อมาเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งว่าผู้ใหญ่ที่ดูแลส่วนนี้ได้ทราบเรื่องแล้ว
สุดท้ายแล้วเจ้าของกระทู้ได้เรียกร้องให้ทางแบรนด์นั้นรับผิดชอบตามเงื่อนไขที่เจ้าของกระทู้กำหนด ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าออกมาแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้ผมขอสรุปง่ายๆว่า สาเหตุนั้นเกิดจากความไม่เอาใจใส่ของช่างซ่อมประจำศูนย์บริการ และแสดงพฤติกรรมที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ อีกทั้งยังไม่สามารถตอบคำถามโดยการให้เหตุผลที่ดีได้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วเราจะสามารถเชื่อถือในฝีมือของช่างประจำศูนย์บริการได้อย่างไร และนี่คือคำถามที่ยังคงรอคำตอบกันต่อไป
ที่มา Pantip