เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม Samsung ได้ทำการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold3 ไป ซึ่งสเปคที่ให้มานั้นค่อนข้างน่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะเป็นเครื่องที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องใต้จอตัวแรกของแบรนด์ และยังเป็นมือถือพับได้ที่มีฟีเจอร์กันน้ำอีกด้วย ซึ่งสำหรับใครที่สนใจมือถือพับได้อย่าง Galaxy Z Fold แล้วสงสัยว่ามันแตกต่างกับรุ่นก่อนอย่างไร และสำหรับคนที่ใช้ Galaxy Z Fold2 5G อยู่ มันคุ้มไหมที่จะอัพเกรด วันนี้เราเลยได้จับ Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G เพื่อเทียบความแตกต่างแบบคร่าว ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้เห็นกัน ซึ่งจะต่างกันอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
- ตารางเทียบสเปค Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G
- เทียบดีไซน์
- เทียบหน้าจอ
- เทียบสเปคภายใน
- เทียบกล้อง
- เทียบส่วนอื่น ๆ
เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G
Galaxy Z Fold3 5G | Galaxy Z Fold2 5G | |
---|---|---|
ขนาด | พับจอ 158.2 x 67.1 x 14.4 มม. กางจอ 158.2 x 128.1 x 6.4 มม. | พับจอ 159.2 x 68 x 13.8 มม. กางจอ 159.2 x 128.2 x 6.9 มม. |
น้ำหนัก | 271 กรัม | 282 กรัม |
วัสดุ | Aluminum Frame Gorilla Glass Victus | Aluminum Frame Gorilla Glass Victus |
หน้าจอนอก | Dynamic AMOLED 2x ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2268 x 832 พิกเซล Refresh Rate 120Hz | Super AMOLED ขนาด 6.23 นิ้ว ความละเอียด 2268 x 816 พิกเซล |
หน้าจอใน | Dynamic AMOLED 2x ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ | Dynamic AMOLED 2x ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 888 | Qualcomm Snapdragon 865 |
แรม | 12GB | 12GB |
หน่วยความจำ | 256GB / 512GB | 256GB / 512GB |
กล้องหลัง | 12 MP, f/1.8 (wide) 12 MP, f/2.4 (telephoto 2x) 12 MP, f/2.2 (ultrawide) | 12 MP, f/1.8 (wide) 12 MP, f/2.4 (telephoto 2x) 12 MP, f/2.2 (ultrawide) |
กล้องหน้าด้านนอก | 10 MP, f/2.2 | 10 MP, f/2.2 |
กล้องหน้าด้านใน | 4 MP, f/1.8 (ใต้จอ) | 10 MP, f/2.2 |
แบตเตอรี่ | 4,400 mAh ชาร์จเร็ว 25W | 4,500 mAh ชาร์จเร็ว 25W |
Wi-Fi | Wi-Fi 6e | Wi-Fi 6 |
Bluetooth | Bluetooth 5.2 | Bluetooth 5.0 |
กันน้ำ-กันฝุ่น | IPX8 | – |
S Pen | Yes | – |
ราคา | 256GB : 57,900 บาท 512GB : 61,900 บาท | 256GB : 49,900 – 53,900 บาท* |
เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G : ดีไซน์
สำหรับในเรื่องของการดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นนั้นเรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่เล้กน้อยเท่านั้นจริง ๆ ที่ทาง Samsung ทำโดยรวมแล้วก็คือการเพิ่มความแข้งแกร่งให้กับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรอบ Aluminum Frame หน้าจอที่ใช้เป็น Gorilla Glass Victus ทั้งหมด (แต่เดิมใช้แค่จอนอกเท่านั้น แต่รุ่นใหม่นี้ใช้กับจอในด้วย) อีกทั้งยังมีการเพิ่มมาตราฐานกันน้ำระดับ IPX8 เข้ามาด้วย ทำให้ตัวเครื่องมีความทนทานมากยิ่งขึ้น
เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 vs Galaxy Z Fold2 5G : หน้าจอแสดงผล
ในเรื่องของจอแสดงผลนั้นหน้าจอด้านในมีความเหมือนกันส่วนไม่ว่าจะเป็นพาแนล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว พร้อมด้วยค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz แต่ที่ต่างกันแบบเห็นได้ชัดก็คือกล้องหน้าที่อยู่ด้านใน โดยใน Galaxy Z Fold3 นี้มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องใต้จอ (Under Display Camera) ส่วน Galaxy Z Fold2 5G นัน้ใช้กล้องหน้าแบบเจาะรูที่ใช้ชื่อว่า Infinity-O Display ซึ่งการที่เปลี่ยนไปใช้กล้องใต้จอทำให้พื้นที่แสดงผลมีมากขึ้น เวลาดูภาพ/หนังจะไม่มีรูดำ ๆ มากวนใจแล้ว นอกจากนี้อีกสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็คือฟีเจอร์ S Pen ซึ่งตัว S Pen นี้ก็เป็นของที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ Galaxy Z Fold3 นี้ ไม่สามารถเอา S Pen รุ่นเก่ามาใช้ได้ (ถ้าไม่อยากให้จอเป็นรอย)
สำหรับจอที่อยู่ด้านนอกนั้นมีความเปลี่ยนแปลงพอสมควร เนื่องจากใน Galaxy Z Fold2 5G นั้นใช้หน้าจอพาแนล Super AMOLED ที่มีขนาด 6.23 นิ้ว ส่วนใน Galaxy Z Fold3 นั้นใช้หน้าจอพาแนล Dynamix AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งด้วยการเปลี่ยนพาแนล ทำให้การแสดงผลมีความสวยสดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หน้าจอของ Galaxy Z Fold3 ยังได้รับการอัพเกรดค่า Refresh Rate ให้เป็น 120Hz อีกด้วย
เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G : สเปคภายใน
สำหรับสเปคภายในนั้นสิ่งที่เหมือนกันเลยก็คือขนาดของแรมและหน่วยความจำ โดยแรมจะมีขนาด 12GB และมีหน่วยความจำให้เลือก 2 ขนาดคือ 256GB และ 512GB นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จเร็วขนาด 25W มาให้เหมือน ๆ กันด้วย
ในส่วนที่แตกต่างกันนั้นอย่างแรกเลยก็คือชิปประมวลผล ซึ่งใน Galaxy Z Fold2 5G นั้นใช้เป็นชิป Snapdragon 865 ส่วนใน Galaxy Z Fold3 นั ้นใช้เป็นชิปเรือธงตัวล่าสุดอย่าง Snapdragon 888 ซึ่งการอัพเกรดชิปในครั้งนี้ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถจัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย
สำหรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็มีการอัพเกรดให้เป็นรุ่นใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi 6 อัพเกรดเป็น Wi-Fi 6e ทำให้มีช่องสัญญาณมากขึ้น (ไม่ต้องไปแย่งคลื่น 2.4GHz และ 5GHz กับคนอื่น) และอีกอย่างที่อัพเกรดก็คือ Bluetooth โดยทำการเปลี่ยนจาก Bluetooth 5.0 ไปเป็น Bluetooth 5.2 ซึ่งความต่างของ 2 เวอร์ชั่นนี้ก็คือ 5.2 นั้นพัฒนาขึ้นมาให้รองรับ IoT มากขึ้น, ดีเลย์น้อยลง และมีความเสถียรของสัญญาณที่นิ่งขึ้น ทำให้เข้ากับยุคสมัยที่ใช้อุปกรณ์ IoT ได้อย่างดี
อีกสิ่งที่แตกต่างกันก็คือแบตเตอรี่ โดย Galaxy Z Fold3 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,400 mAh ส่วน Galaxy Z Fold2 5G นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ซึ่งด้วยส่วนต่างแค่ 100 mAh นั้นถ้าดูแค่ตัวเลขก็ไม่ได้ส่งผลอะไร แต่ด้วยการจัดการพลังงานของชิปประมวลผลที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นมาเล้กน้อย (หมายถึง ต่อให้แบตเตอรี่จะน้อยนกว่า แต่ระยะเวลาใช้งานแทบจะเท่ากันเลย)
เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G : กล้อง
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพนั้นกล้องหลังนั้นเรียกได้ว่าเป็นชุดเดียวกันเลย ซึ่งประกอบไปด้วยกล้องหลัก, กล้อง ultrawide และกล้อง telephoto ที่มีความละเอียด 12 MP นอกจากนี้กล้องหน้าที่อยุ่กับจอนอกก็ยังเป็นชุดเดียวกันด้วยคือกล้อง 10 MP แต่ที่แตกต่างกันคือกล้องหน้าที่อยู่กับจอด้านใน โดย Galaxy Z Fold2 5G นั้นใช้กล้องแบบเดียวกับจอด้านนอก เป็นกล้องแบบ Infinity-O ความละเอียด 10 MP แต่ทว่าใน Galaxy Z Fold3 นั้นมีการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง Under Display Camera ความละเอียด 4 MP และด้วยการที่ซ่อนอยู่ใต้จอทำให้ไม่เห็นหลุมดำ ๆ อยู่บนหน้าจอเวลาใช้งาน แต่ถ้ามีการใช้งานกล้องแล้วกล้องก็จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นทันที
เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Fold3 5G vs Galaxy Z Fold2 5G : ราคา
ในเรื่องของราคานั้น Galaxy Z Fold3 วางจำหน่ายในราคา 57,900 บาท สำหรับรุ่น 256GB และ 61,900 บาท สำหรับรุ่น 512GB ส่วน Galaxy Z Fold2 5G นั้นในปัจจุบันได้หายไปจากเว็บ samsung เรียบร้อย แต่ทว่าสำหรับร้านค้าภายนอกยังพอมีขายอยู่ ซึ่งจากที่ลองหาดูจะมีขายแต่รุ่น 256GB ในราคาเริ่มต้นที่ 49,900 บาท และที่เจอแพงสุดคือ 53,900 บาท ซึ่งถ้าถามว่าตัวไหนน่าซื้อกว่ายังไงก็คงต้องบอกว่ารุ่นใหม่ย่อมน่าซื้อกว่าแน่นอน
แต่ทว่าหากถามว่าคุ้มค่าไหมที่จะเปลี่ยนสำหรับคนที่มี Galaxy Z Fold2 5G อยู่แล้ว หรือคนที่ต้องการจำกัดงบ โดยส่วนตัวขอบอกเลยว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไรหากคุณไม่ได้ใช้ S Pen ให้เกิดประโยชน์ (แต่ถ้าใช้หหาเงินได้ก็คุ้มค่าแล้วที่จะเปลี่ยน) เนื่องจาากส่วนต่างที่เห็นกันชัด ๆ ก็มีแค่ใช้ปากกา S Pen ได้กับมีความสามารถในการกันน้ำเพิ่มเข้ามาเท่านั้น สำหรับชิปประมวลผลถึงแม้ Snapdragon 865 จะเป็นรุ่นเก่าแต่ทว่าในเรื่องความแรงนั้นต้องบอกเลยว่ายังสามารถใช้งานแอพในปัจจุบันได้อย่างสบาย (ชิประดับเรือธงนั้นแรงกว่าที่ใช้จริงเยอะมากทำให้ใช้งานได้ยาวนาน)
สำหรับใครที่สนใจตอนนี้ Samsung เปิดให้มีการ Pre-Order แล้วสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ samsung.com