หลังจากที่ Samsung เปิดตัว Galaxy A32 ทั้งรุ่น 4G และ 5G ออกมา วันนี้เราจะมาเทียบสเปค Samsung Galaxy A32 5G vs A32 4G vs A42 5G กัน ซึ่งทั้ง 3 ตัวเป็นมือถือที่อยู่ในงบ 10,000 บาทด้วยกันทั้งสิ้น แถมยังมีสเปคบางอย่างที่เหมือนกันอีก เราก็เลยจะเอาทั้ง 3 เครื่องนี้มาเทียบให้ดูเพื่อให้เห็นถึงความแตกต่าง ไว้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของเพื่อน ๆ ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 3 เครื่องจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
เทียบสเปค Samsung Galaxy A32 5G vs A32 4G vs A42 5G
Samsung Galaxy A32 5G | Samsung Galaxy A32 4G | Samsung Galaxy A42 5G | |
---|---|---|---|
เครือข่าย | 5G | 4G | 5G |
หน้าจอ | TFT ขนาด 6.5 นิ้ว 1600 x 720 พิกเซล (HD+) | Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+) Refresh Rate 90 Hz | Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว 1600 x 720 พิกเซล (HD+) |
ชิปประมวลผล | MediaTek Dimensity 720 5G | Mediatek Helio G80 | Qualcomm Snapdragon 750G |
แรม | 8GB | 8GB | 8GB |
หน่วยความจำ | 128GB | 128GB | 128GB |
กล้องหลัง | 48MP, f/1.8 (wide) 8MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide) 5MP, f/2.4 (macro) 2MP, f/2.4 (depth) | 64MP, f/1.8 (wide) 8MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide) 5MP, f/2.4 (macro) 5MP, f/2.4 (depth) | 48MP, f/1.8 (wide) 8MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide) 5MP, f/2.4 (macro) 5MP, f/2.4 (depth) |
กล้องหน้า | 13MP, f/2.2 (wide) | 20MP, f/2.2 (wide) | 20MP, f/2.2 (wide) |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 15W | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 15W | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 15W |
ราคา | 9,999 บาท | 8,499 บาท | 11,990 บาท |
หน้าจอแสดงผล : Samsung Galaxy A32 5G vs A32 4G vs A42 5G
หน้าจอแสดงผลคือหนึ่งในจุดที่มีความแตกต่างกันมากที่สุดเมื่อเอา Galaxy A32 5G vs Galaxy A32 4G vs Galaxy A42 5G เพราะเมื่อเอามาเทียบกันแล้วไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ, ชนิดของหน้าจอ, ความละเอียด แม้กระทั่งค่า Refresh Rate ก็ไม่เท่ากันเลย โดยที่ขนาดหน้าจอจะแตกต่างกะนเล็กน้อย (6.4นิ้ว, 6.5นิ้ว และ 6.6 นิ้ว) ซึ่งถึงแม้ขนาดหน้าจอจะมีขนาดไม่เท่ากัน ทว่าเวลาใช้จริงนั้นแทบแยกไม่ออก ในข้อนี้เลยไม่ค่อยสำคัญมากนัก
ส่วนสำคัญคือชนิดของหน้าจอที่ Galaxy A32 5G ใช้เป็นหน้าจอ TFT ทั้ง ๆ ที่ Galaxy A32 4G และ Galaxy A42 5G ใช้เป็น Super AMOLED ที่ให้สีสันดีกว่า ทำให้ในเรื่องความสวยงามในการแสดงผล A32 5G จะแพ้ขาดลอยเลย ส่วนความละเอียดหน้าจอที่ Galaxy A32 5G และ Galaxy A42 5G ได้นั้นเป็ฯความละเอียดระดับ HD+ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เป็นความละเอียดระดับสูงนัก ทว่าหากอยู่บนหน้าจอ Super AMOLED แล้วก็ยังช่วยให้การแสดงผลดีได้ ทว่าถึงอย่านั้นทั้งคู่ก็ยังแพ้ Galaxy A32 4G ที่มีหน้าจอความละเอียด Full HD+ อยู่ดี อีกทั้งยังมีค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 90Hz ช่วยให้การใช้งานดูลื่นตากว่าเยอะ
ถ้าให้สรุปในเรื่องของหน้าจอแล้วจากข้อมูลทั้งหมดที่ว่ามานี้ต้องยกให้ Galaxy A32 4G ชนะขาดไปเลย ทั้งชนิดจอ, ความละเอียดและค่า Refresh Rate ทำได้ดีกว่าอีก 2 เครื่อง
ชิปประมวลผล : Samsung Galaxy A32 5G vs A32 4G vs A42 5G
ในด้านชิปประมวลผลนั้น Galaxy A32 ทั้ง 2 รุ่นใช้ชิปของ MediaTek ด้วยกันทั้งคู่ ทว่าจะมีความแตกต่างกันที่รุ่นของชิป ซึ่งใน Galaxy A32 5G นั้นจะใช้ชิปรุ่นใหม่ในตระกูล Dimensity ที่ MediaTek ตั้งใจทำขึ้นมาแข่งกับ Snapdragon ของ Qualcomm ส่วนใน Galaxy A32 4G นั้นใช้ชิปเกมมิ่งรุ่นเก่าอย่าง Helio G80 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ในเรื่องของเทคโนโลยีและความแรงนั้นไม่อาจจะสูงอีก 2 เครื่องได้เลย แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก ทำให้มันมักไปอยู่กับมือถือเกมมิ่งราคาประหยัดทุกครั้ง
สำหรับ Galaxy A42 5G นั้นใช้ชิป Snapdragon 750G ที่เป็นชิปรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในช่วงปลายปีที่แล้ว เป็นชิประดับกลางรุ่นแรก ๆ ของ Qualcomm ที่รองรับคลื่น 5G ซึ่งสิ่งที่ Snapdragon มีดีกว่าชิปของ MediaTek ที่ A32 ทั้ง 2 รุ่นใช้ก็คือชิปกราฟิก Adreno ที่แรงกว่าชิปกราฟิกในชิป MediaTek นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการจัดการพลังงานและความร้อนดีกว่าชิป MediaTek ด้วย
โดยรวมแล้วในด้านชิปประมวลผลทางผู้เขียนเชียร์ Snapdragon 750G มากกว่า Dimensity 720 อยู่พอควร เพราะจากที่ได้ลองสัมผัสดูแล้วเหมือนชิป Dimensity 720 จะยังไม่เข้าที่เท่าไร ทำให้ยังดึงประสิทธิภาพออกมาได้ไม่เต็มที่นัก (ถ้ามีอัพเดตแก้ก็อาจจะช่วยได้)
กล้องถ่ายภาพ : Samsung Galaxy A32 5G vs A32 4G vs A42 5G
ในด้านการถ่ายภาพนั้นทั้ง 3 เครื่องมาพร้อมกล้อง 4 ตัวที่เป็นเลนส์หลัก, เลนส์ Ultrawide, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth เหมือนกันหมด แต่จะมีความแตกต่างกันที่ความละเีอยดของเลนส์หลักและความละเอียดของเลนส์ Depth ซึ่งเอาเข้าจริงเวลาไปถ่ายแบบทั่ว ๆ ไปจากที่เคยสังเกตในหลาย ๆ รุ่นมานั้นความแตกต่างมันจะไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไร (เว้นแต่ไปถ่ายแบบความละเอียดสูงแล้วมาดูในคอม ตรงนี้จะให้ชัดเลย) สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นในที่แสงมีเพียงพอภาพที่ได้ก็จะคล้าย ๆ กัน แต่ทว่าในด้านการเก็บรายละเอียดนนั้น Galaxy A32 4G จะเหนือกว่าเล้กน้อย เพราะเวลาถ่ายภาพจะเป็นการถ่ายที่ความละเอียด 12MP / 16MP จำนวน 4 ภาพแล้วเอาภาพมาซ้อนกัน ซึ่งกล้อง 64MP จะทำให้ได้ภาพที่มี่ความละเอียดมากขึ้น ส่งผลให้การเก็บรายละเอียดทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายภาพในที่แสงน้อย การที่มีความละเีอยดสูงกว่าจะทำให้ลดนอยส์ได้มากกว่านั่นเอง
สำหรับการเซลฟี่นั้นใน Galaxy A32 5G จะให้กล้องเซลฟี่ที่มีความละเอียด 13MP มา ส่วนใน Galaxy A32 4G และ Galaxy A42 5G จะให้กล้องเซลฟี่ความละเอียด 20MP มา ซึ่งถ้าเป็นการเซลฟี่ขึ้นโซเชียลแล้วต้องบอกเลยว่ามันไม่ได้แตกต่างกันอย่างเห็๋นได้ชัดขนาดนั้น แต่ทว่าหากเป็นการเซลฟี่แล้วเอาไปแต่งภาพต่อ ภาพที่ถ่ายจากกล้องความละเอียด 20MP จะได้รายละเอียดที่ดีกว่า ช่วยให้การแต่งภาพทำได้ง่ายกว่า ทำให้เหมาะกับคนที่ไม่ว่ายังไงก่อนการเผยแพร่รูปก็ต้องผ่านแอพแต่งภาพก่อนเป็นที่สุด
หากว่ากันตามตัวเลขแล้วในเรื่องกล้องถ่ายภาพนั้นไม่ว่ายังไง Galaxy A32 4G ก็ชนะทั้งความละเอียดเลนส์หลักและกล้องเซลฟี่เลย
สรุป Samsung Galaxy A32 5G vs A32 4G vs A42 5G ตัวไหนน่าเล่นกว่ากัน
หากมองเทียบสเปคของทั้ง 3 เครื่องนี้แล้วจะเห็นได้ถึงความแตกต่างที่น่าสนใจในหลาย ๆ จุด ซึ่งในที่นี้ถ้ามองแค่ที่ตัวสเปคแล้ว Samsung Galaxy A32 4G จะมีความน่าสนใจกว่าด้วยหน้าจอที่มีความละเอียดระดับ Full HD+ ได้กล้องถึง 64MP แถมราคายังถูกสุดด้วย ทว่าก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ด้อยกว่าอีก 2 เครื่องที่เหลือ นั่นก็คือการที่รองรับคลื่น 4G ในขณะที่อีก 2 เครื่องนั้นรองรับคลื่น 5G แล้ว ทำให้ในเรื่องการใช้งาานระยะยาว Galaxy A32 4G จะเสียเปรียบกว่าเล็กน้อย (ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีปัญหานี้ก็ตาม) จะเรีกยได้ว่าเป็นเครื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับสายเล่นเกม รวมถึงผู้ที่ใช้งานระยะไม่นานประมาณ 1-2 ปี
ส่วนมือถือ 5G ทั้ง 2 เครื่องนั้นสเปคโดยส่วนใหญ่แล้วเรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันเลย ทว่า Galaxy A32 5G จะเป็นรุ่นที่ประหยัดลงมาอีกหน่อย เหมาะกับคนที่ไม่ว่ายังไงก็ซื้อเครื่องที่ราคาเกิน 10,000 บาทไม่ได้ แต่ยังอยากได้มือถือ 5G ของ Samsung ทว่าโดยส่วนตัวผู้เขียนแล้วอยากให้ขยับขึ้นไปเป็น Galaxy A42 5G มากกว่า ถึงแม้ส่วนต่างจะเพิ่มขึ้นมาอีก 3,000 บาท ทว่าคุณจะได้หน้าจอที่ใหญ่กว่าและได้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon ด้วย ซึ่งชิปตัวนี้จะมีการจัดการพลังงานที่ค่อนข้างดี รวมถึงยังได้ชิปกราฟิกดีกว่าด้วย
แต่ทว่าสุดท้ายยังไงก็อยากให้เพื่อน ๆ ไปลองจับของจริงกันก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะถึงแม้สเปคจะดี แต่ถ้าจับแล้วไม่เหมาะมือหรือรูปร่างไม่โดนใจ ก็จะยังสามารถเปลี่ยนใจทันได้