สรุปฟีเจอร์ iOS 18 รุ่นไหนรองรับ มีอะไรใหม่บ้างทั้ง Eye Tracking, แต่งหน้า Home Screen ได้มากขึ้นกับฟีเจอร์ AI ใหม่และอื่นๆ
สำหรับการเปิดตัว iPad ล่าสุดไปได้ไม่นาน สิ่งที่จะมีการเปิดตัวตามมาอีกอย่างก็คือระบบ iOS ใหม่นั่นก็คือ iOS18 ที่มีข่าวใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอดแทบจะทุกวัน คาดว่าจะเปิดตัวระบบและ AI ใหม่นี้ในงาน WWDC24 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 14 มิ.ย. 2024 หรือวันที่ 11 มิ.ย. 2024 เวลวเที่ยงคืนตามเวลาในประเทศไทย ส่วนการใช้งานจริงก็น่าจะเป็นช่วงปลายปีที่จะมีการเปิดตัว iPhone 16 นั่นเอง ส่วนฟีเจอร์และข่าวการอัพเดทใหม่ๆ ในตอนนี้ที่มีแน่ๆ เลยก็คือการนำ AI มาใช้งานมากขึ้น การปรับแต่งหน้าจอหลักได้ มี Eye Tracking ที่ติดตามดวงตา กับอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปข่าวฟีเจอร์ iOS 18 ให้ว่ามีอะไรใหม่ และรุ่นไหนรองรับ รุ่นไหนไม่ได้ไปต่อบ้างมาดูกันเลย
- iOS 18 รุ่นไหนรองรับและได้อัพเดทบ้างทั้ง iPhone และ iPad
- ฟีเจอร์ด้าน AI และ Siri ที่ฉลาดมากขึ้น
- การปรับแต่งหน้า Home Screen
- แอพต่างๆ ที่ได้อัพเดท
- RCS ที่ส่งข้อความไปมากับ Android ได้
- การเข้าถึง (Accessibility) ใหม่และการติดตามดวงตา (Eye Tracking)
- iOS 18 มาตอนไหน
iOS 18 รุ่นไหนรองรับและได้อัพเดทบ้างทั้ง iPhone และ iPad
สำหรับ iPhone ที่รองรับ iOS18 และ iPad ที่รองรับ iPadOS 18 รุ่นที่ได้ไปต่อก็คือรุ่นที่สามารถอัพเดท iOS 17 มาก่อนแล้วได้นั่นเอง มีรุ่นที่รองรับทั้งหมดดังนี้
- iPhone 16 ทุกรุ่น
- iPhone 15 ทุกรุ่น
- iPhone 14 ทุกรุ่น
- iPhone 13 ทุกรุ่น
- iPhone 12 ทุกรุ่น
- iPhone 11 ทุกรุ่น
- iPhone XS และ XS Max
- iPhone XR
- iPhone SE (รุ่นที่ 2nd และรุ่นที่ 3rd)
- iPad Pro รุ่นปี 2018 และรุ่นที่ใหม่กว่า
- iPad Air 2019 และรุ่นที่ใหม่กว่า
- iPad mini 2019 และรุ่นที่ใหม่กว่า
- iPad 2020 และรุ่นที่ใหม่กว่า
ฟีเจอร์ด้าน AI และ Siri ที่ฉลาดมากขึ้น
อย่างที่รู้กันดีว่าในช่วงปีหลังๆ มานี้วงการมือถือได้มีการใช้ AI เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งทาง Apple เองก็มีข่าวเรื่องดีลกับ OpenAI เพื่อนำฟีเจอร์ ChatGPT มาใช้กับตัว iOS18 ด้วยเช่นกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ส่วนการจะนำมาใช้กับอะไรและแอพไหนบ้าง ในตอนนี้ก็พอจะมีข่าวเปิดเผยออกมาบางส่วนให้ได้รับรู้บ้างแล้ว
ก่อนอื่นอย่างแรกที่ต้องรู้เลยก็คือบางฟีเจอร์ที่สามารถใช้งาน AI บน iOS18 นั้นอาจมีบางอย่างที่จำกัดเอาไว้เฉพาะ iPhone 16 เท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะกั๊กหรืออะไร แต่จำเป็นต้องใช้ชิปที่ทรงพลังและมี Neural Engine ที่รองรับการใช้งานได้ มีการประมวลได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากอย่างชิป A18 ตัวใหม่ ที่สามารถทำให้ฟีเจอร์เริ่มต้นทำงานได้บนอุปกรณ์และไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะยังต้องใช้ร่วมกับ Google หรือ OpenAI เพื่อเป็นตัวเลือกบนระบบคลาวด์เพิ่มเติมอยู่ดีในตอนนี้
อีกอย่างก็คือทาง Mark Gurmen ได้เผยออกมาแล้วว่าน่าจะยังไม่ได้นำแชทบอทอย่าง ChatGPT มาใช้งานบน iOS 18 นี้ แต่ก็อาจจะมีฟีเจอร์แชทบางอย่างที่ทำร่วมกับ OpenAI จาก Google ซึ่งตัว AI แบบเต็มรูปแบบของ Apple นั้นอาจจะใช้เวลาปรับปรุงไปอีกสักพัก และชุดจัดเต็มเวอร์ชั่น AI แบบสมบูรณ์ของ Apple จะยังไม่ได้มาถึงบน iOS18 นี้
ทางด้านการใช้งาน Siri อันนี้แน่นอนว่าจะมีการปรับปรุง AI ให้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน โดยมีข่าวว่าจะมีการนำโมเดล LLM ที่รวมข้อมูลได้อย่างมหาศาลและจะใช้อัลกอริธึมสร้างเนื้อหาตามข้อมูลเหล่านั้น เข้ามาทำให้ Siri เป็นเหมือนผู้ช่วยขั้นเทพ อย่างแรกที่มีข้อมูลมาเลยก็คือ Siri นั้นจะมีความเป็นธรรมชาติในสนทนามากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยเหลือเราในการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ที่เรียกว่า Proactive Intelligence ไม่ว่าจะเป็น สรุปการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ, สรุปเนื้อหาข่าวสารเบื้องต้น, การถอดข้อความจากเสียง, การแก้ไขรูปภาพด้วย Ai และการปรับปรุงฟีเจอร์จากแอพเดิมเช่นแนะนำแอพหรือเพิ่มกิจกรรมในปฏิทิน
ซึ่งทาง Mark Gurman จาก Bloomberg ก็ได้พูดถึงอีกว่าจะมีการปรับปรุง Siri และแอพ Messages ที่ทำให้ Siri ช่วยเติมประโนคให้เองโดยอัตโนมัติ ทำให้รูปประโยคมีประสิทธิภาพและยังช่วยตอบคำถามที่มีความซับซ้อนได้ด้วย ส่วนข้อมูลจาก The Information ก็มีเพิ่มเติมว่าจะมีการทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างเช่นการถ่ายภาพออกมาเป็นชุด และแปลงเป็นภาพ GIF และส่งต่อให้คนอื่นได้เลยในชุดคำสั่งเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติการค้นหาจาก Spotlight ที่ฉลาดขึ้นเช่นการรวมข้อมูลจากแอพรายชื่อหรือปฏิทินได้ดีขึ้น
การปรับแต่งหน้า Home Screen
สำหรับข่าวที่น่าสนอีกอย่างบน iOS 18 ก็คือการปรับแต่งหน้าจอหรือหน้า Home Screen ได้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่นการจัดเรียงไอคอนและแอพได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการล็อคให้อยู่ในตาราง (แบบเดิมจำกัดไว้) เหมือนเดิม แต่คาดว่าจะมีการเพิ่มตัวเลือกในการสร้างช่องว่าง แถว และคอลัมน์ระหว่างแอพต่างๆ ได้อย่างอิสระมากขึ้น ซึ่งการปรับแต่ง Lock Screen นั้นมีมาตั้งแต่ iOS 16 แล้ว และการปรับแต่งนี้ก็จะนำเข้ามาใช้ใน iOS 18 และอาจเป็นการปรับแต่งครั้งใหญ่เลยทีเดียว
แอพต่างๆ ที่ได้อัพเดท
แน่นอนว่าหลายๆ แอพที่ติดเครื่องมาบน iOS 18 นั้นก็ต้องมีการอัพเดทใหม่ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีอยู่หลายแอพที่มีข่าวเรื่องการอัพเดทใหม่ออกมาดังนี้
- Safari – มีการอัพเดทใหม่โดยการนำ AI เข้ามาใช้ด้วยอย่างเช่น การค้นหาอัจฉริยะ ที่ระบุหัวข้อและคำสำคัญบนหน้าเว็บ จากนั้นก็นำมาสรุปอีกที, มีเครื่องมือ Web Eraser ที่ช่วยให้เราลบส่วนที่ไม่ต้องการออกไปจากหน้าเว็บได้, มีเมนูเข้าถึงด่วนที่เพิ่มเข้ามา และคาดว่าจะใช้กับ iPadOS และ macOS ด้วย
- Apple Maps – มีการรองรับเส้นทางแบบกำหนดเอง โดยการใส่ข้อมูลเส้นทางที่ต้องการแทน จากเดิมที่ถูกจำกัดไว้เพียงตัวเลือกที่ถูกเลือกไว้โดย Apple ซึ่งการเลือกเส้นทางเองนี้จะทำให้เราเลือกใช้ถนนและเส้นทางได้อิสระมากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีแผนที่ภูมิประเทศบน watchOS 10 มาใช้บน iPhone ด้วยเช่นกัน ที่มีทั้งเส้นทาง ความสูง จุดที่น่าสนใจ และอื่นๆ ที่ใช้ในการเดินป่าและกิจกรรมกลางแจ้ง
- Photos – มีการนำ AI เข้ามาใช้ร่วมกับการแก้ไขรูปภาพในแอพ Photos
- Notes – สามารถบันทึกเสียงได้ในแอพโดยตรง และเก็บไว้ในโน้ตได้เลย ซึ่งตัว Notes และ Voice Memos นี้จะมีฟีเจอร์ถอดเสียง และมีข่าวว่าจะสามารถสรุปเนื้อหาจากการบันทึกเสียงด้วย AI ได้อีกด้วย รวมถึงข่าวที่ว่าจะเพิ่มสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ต่างๆ และสมการเข้ามาในแอพบันทึกด้วย
- Calendar และ Reminders – มีการรวมการแจ้งเตือนต่างๆ ใน Reminders สามารถดูและโต้ตอบการแจ้งเตือนได้ในแอพปฏิทิน
- Calculator – เครื่องคิดเลขที่คาดว่าจะใส่เข้ามาใน iPadOS 18 บน iPad ที่ใช้ได้เหมือนกันทั้ง iPhone, iPad และ Mac ซึ่งอาจมีการปรับปรุงการออกแบบบางอย่าง มีการตั้งค่าให้ใช้ร่วมกับ Notes เพื่อแปลงหน่วยและข้อมูลการคำนวณล่าสุด
- Freeform – สามารถตั้งค่าให้ใช้ฟีเจอร์ Scenes ที่ทำให้เราเลือกเฉพาะส่วนหรือฉากภายในบอร์ด เพื่อทำงานที่เร็วมากขึ้น โดยจะเข้าถึงได้ผ่าน Scenes ที่มี UI แบบใหม่ สามารถสลับฉากไปมาได้
- Apple Music – มีการปรับปรุงการเปลี่ยนเพลงใหม่ ทำให้สามารถปรับระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1-12 วินาทีในการเปลี่ยนเพลง โดยในช่วงที่เปลี่ยนจะมีการลดระดับเสียงเพลงที่จะจบ และเพิ่มตอนเพลงใหม่ที่เปิดเข้ามา ทำให้รู้สึกเหมือนฟังเพลงต่อเนื่องกัน และอาจมีฟีเจอร์เพลย์ลิสต์ที่สร้างให้อัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถใส่อารมณ์หรือมู้ดตอนนั้น เพื่อให้ระบบแนะนำเพลงมาให้เราได้
- Keynote, Numbers, Pages – ในแอพ iWork จะมีฟีเจอร์ใหม่กับ AI ส่วน Keynote จะมีตัวเลือกในการสร้างสไลด์ได้อัตโนมัติ และแอพ Pages จะมีฟีเจอร์สำหรับการสร้างข้อความ
- Shortcuts – มีการทำงานร่วมกับ Siri ได้ดีขึ้น ทำงานที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
- Health – มีการนำ AI เข้ามาใช้งานด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลมากนัก
- CarPlay – มีการอัพเดทเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นการควบคุมด้วยเสียง, เปลี่ยนรูปแบบบน CarPlay สำหรับคนตาบอดสี และการจดจำเสียงสำหรับคนที่มีปัญหาในการได้ยิน เพื่อแจ้งเตือนเสียงแตรหรือไซเรน
- อิโมจิ (Emoji) – มีอิโมจิใหม่บน iOS 18 เพิ่มขึ้นมา 7 ตัว
RCS ที่ส่งข้อความไปมากับ Android ได้ดีขึ้น
สำหรับ RCS หรือ Rich Communication Services ที่เป็นมาตรฐานในการส่งข้อความแทน SMS/MMS หรือ iMessage โดยจะมีการทำให้สามารถสนทนาได้ดีขึ้นระหว่าง iPhone กับ Android และลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างการส่งภาพและวิดีโอ รวมไปถึงการแชทต่างๆ ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีการส่งอีโมจิข้ามแพลตฟอร์มได้ด้วย
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น รองรับภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูง, รองรับไฟล์ขนาดใหญ่, ข้อความเสียง, ตัวบ่งชี้การพิมพ์แบบเรียลไทม์, อ่านใบเสร็จ, แชทกลุ่ม และส่งข้อความผ่าน Cellular หรือ WiFi ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ถึงแม้ว่า Apple จะไม่ได้บอกว่าจะนำมาใช้ตอนไหน แต่ก็น่าจะมีภายในปี 2024 นี้แหละ อาจเป็นหลังการเปิดตัว iOS 18 อีกที
การเข้าถึง (Accessibility) ใหม่และการติดตามดวงตา (Eye Tracking)
ทางด้านการเข้าถึงบน iOS 18 นี้ก็มีเพิ่มเข้ามาพอสมควร ที่น่าสนใจเลยก็คือ การติดตามดวงตา (Eye Tracking) ที่สามารถนำทางหรือใช้งานผ่านอินเทอร์เฟซของ iPhone หรือ iPad ด้วยสายตาเราเพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าทำงานร่วมกับ AI และกล้องหน้า เพื่อจับตำแหน่งว่ากำลังมองหาอะไร และยังใช้งานปุ่ม การปัด หรือทำท่าทางอื่นๆ ได้ด้วย
มีฟีเจอร์ Vehicle Motion Cues ใหม่สำหรับป้องกันการเมารถบนเมื่อเราต้องดูหน้าจอ iPhone หรือ iPad ตอนอยู่บนรถที่เคลื่อนที่อยู่ได้ด้วย/ มีตัว Music Haptics ให้ใช้งานบน iPhone ที่ปรับปรุงให้สอดคล้องกับเสียงเพลงบน Apple Music และยังนำไปใช้ร่วมกับแอพอื่นๆ ได้ด้วย/ มี Vocal Shortcuts หรือทางลัดเสียง ที่สามารถสร้างขึ้นเอง และให้ Siri สามารถเรียกคำสั่งที่ตั้งไว้เองมาใช้งานได้
ส่วนอื่นๆ ที่คาดว่าจะมีเข้ามาก็คือเสียงใหม่สำหรับ VoiceOver, Voice Rotor และสามารถควบคุมระดับเสียงเองได้, การสั่งด้วยเสียงที่กำหนดเอง, โหมดผู้อ่านปรับปรุงใหม่, อัพเดทการเข้าถึงหน้าจอที่เป็นอักษรเบรลล์, การพิมพ์ที่แสดงข้อความใหญ่ขึ้นได้, Live Speech ที่มีหมวดหมู่และคำบรรยายสดพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีโหมดเครื่องช่วยฟังสำหรับ AirPods Pro 2 โดยมีการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่มี Conversation Boost อยู่แล้ว เพื่อเพิ่มระดับเสียงและความชัดเจนตอนใส่หูฟังอยู่ (ต้องรออัพเดทอีกที)
iOS 18 มาตอนไหน
สำหรับการเปิดตัว iOS 18 นั้นจะมีการเปิดตัวพร้อมแสดงตัวอย่างการใช้งานในงาน Worldwide Developers Conference หรือ WWDC ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10 มิถุนายน 2024 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือว่าช่วงคืนวันที่ 11 มิถุนายน 2024 เวลาเที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทย และจะมีการปล่อยให้นักพัฒนาทดสอบ และอาจะมีเวอร์ชั่นเบต้ามาในช่วงเดือนกรกฎาคม 2024 นี้ ส่วนการใช้งานจริงคาดว่าจะเป็นช่วงกันยายน 2024 ที่เปิดตัวออกมาพร้อม iPhone 16
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลและข่าวสารการอัพเดท iOS 18 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ยังไม่ได้เป็นข้อมูลอย่างเป็นทางการ ต้องรอการเปิดตัวอีกครั้งในช่วงเดือนหน้าที่จะถึงนี้ ใครที่สนใจก็สามารถติดตามดูได้ที่ Apple ที่จะมีงานเปิดตัวออกมา ส่วนการใช้งานจริงก็ต้องรอเต็มๆ ถึงสิ้นปีเลยทีเดียว ซึ่งการอัพเดทในครั้งนี้เราจะได้เห็นการใช้งานร่วมกับ AI มากขึ้น และคาดว่าจะใช้งานได้สะดวกมากขึ้นในหลายๆ ด้านด้วย และก็แน่นอนว่ามีบางฟีเจอร์จำกัดไว้ให้เฉพาะ iPhone 16 ที่จะต้องแรงขึ้นกว่าเดิมด้วย ไว้เราจะมาอัพเดทให้อีกเรื่อยๆ ถ้ามีข้อมูลอะไรใหม่ๆ อีก
ขอบคุณข้อมูลจาก macrumors