Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] รีวิว Xiaomi Redmi Note 6 Pro อัพเกรดกล้องเป็น 4 ตัว ในราคาเท่าเดิม !!
    Android Platform

    [Review] รีวิว Xiaomi Redmi Note 6 Pro อัพเกรดกล้องเป็น 4 ตัว ในราคาเท่าเดิม !!

    SpecPhone HQBy SpecPhone HQ11 ตุลาคม 2018Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    เปิดตัวและวางขายกันแบบเงียบ ๆ ในงาน TME 2018 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถึงจะไม่มีงานเปิดตัวที่หวือหวา แต่ Xiaomi Redmi Note 6 Pro ก็ได้รับความสนใจอยู่ จากสเปคที่ให้มาคุ้มเกินราคาเหมือนเดิม ซึ่ง รีวิว Xiaomi Redmi Note 6 Pro มาพร้อมกับแรมและรอมเพียงตัวเลือกเดียวคือ แรม 4 GB รอม 64 GB โดยตั้งราคาเท่ากับรุ่นเดิมอย่าง Xiaomi Redmi Note 5 ซึ่งถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ไปดูรายละเอียดสเปคเต็ม ๆ กันเลยจ้า

    รีวิว Xiaomi Redmi Note 6 Pro

    รายละเอียดสเปค Xiaomi Redmi Note 6 Pro

    • หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2160 พิกเซล ขนาด 6.26 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 19:9
    • ขนาดตัวเครื่อง 158.6 x 76.4 x 8.2 มม. หนัก 182 กรัม
    • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 และชิปประมวลผลกราฟฟิก Adreno 509
    • หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64 GB และ Ram 4 GB
    • รองรับ Micro SD Card สูงสุด 256 GB
    • กล้องหลัง Dual Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมกับ Dual LED Flash
    • กล้องหน้า Dual Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0 พร้อมกับ LED Flash ที่กล้องหน้า
    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
    • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Hybrid Slot)
    • แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
    • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo พร้อมกับ MIUI 9
    • ราคา 6,990 บาท

    Design

    การออกแบบตัวเครื่องด้านหน้าดีไซน์มาด้วยจอแบบ Fullview อัตราส่วน 18:9 ขนาดใหญ่ 5.99 นิ้ว ด้านหน้าเป็นกระจกชิ้นเดียวไร้ปุ่ม ปุ่มต่าง ๆ ในอยู่ภายในจอ ซึ่งรุ่นนี้มีดีไซน์ที่เหมือนกับ Xiaomi Redmi Note 5 เลย แต่รุ่นนี้จะใช้หน้าจอ Fullview ที่มีติ่งหน้าจอขนาดใหญ่อยู่แถบด้านบน

    แถบเครื่องรอยบากด้านบน ก็จะมีลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ Proximity Sensor กล้องหน้า Dual Camera และมี LED Flash สำหรับถ่ายเซลฟี่มาให้ด้วย

    ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นมากับดีไซน์เหมือนกับรุ่นเก่า Redmi Note 5 เลยแต่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกสำหรับเสาอากาศ และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบงานประกอบของ Redmi Note 5 มากกว่า

    กล้องหลัง Dual Camera เรียงกันเป็นแนวตั้งชิดขอบตัวเครื่องบนซ้าย ซึ่งนูนออกมาพอสมควร ดังนั้นเวลาจะวางเครื่องต้องวางเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวกล้องเป็นรอยได้ วงกลมอยู่ตรงกลางเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้รวดเร็วแม่นยำ

    ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องเป็นพลาสติกให้สัมผัสเหมือนกับโลหะ หากมองด้วยตาเปล่าจะดูคล้ายกันมาก ลองสัมผัสดูก็ให้อารมณ์ที่คล้าย ๆ กัน

    ด้านซ้ายของตัวเครื่องไร้ปุ่มใด ๆ จะมีเพียงช่องเสียบซิมการ์ดเท่านั้น เป็นถาดซิมแบบ Hybrid Slot รองรับ Nano Sim ส่วนด้านขวาของตัวเครื่อง ก็จะมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง

    ด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นลำโพงขับเสียง  ไมค์รับเสียงสนทนา พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB ซึ่งลำโพงนั้นจะออกแค่ฝังเดียว อีกฝั่งทำไว้หลอก ๆ ส่วนด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นไมค์ตัดเสียง และเซ็นเซอร์อินฟาเรดใช้เป็นรีโมทได้ และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

    ขนาดตัวเครื่องโดยรวมถือว่าพอดีมือ มีหน้าจอใหญ่ในตัวเครื่องที่ไม่ใช่เกินไป เป็นข้อดีของหน้าจอ Fullview สามารถใช้มือเดียวได้สบาย ๆ แต่อาจจะง้างหน่อยบริเวณแจ้งเตือนเพราะหน้าจอขยายไปจนสุดด้านบนเลย

    Software

    ในส่วนของซอฟต์แวร์ตัวเครื่องนั้น ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 พร้อมกับ MIUI 9.6 ใช้ CPU Snapdragon 636 ที่มีประสิทธิภาพบวกกับแรมขนาด 4 GB ทำให้การใช้งานลื่นไหลสุด ๆ แม้กระทั่งการเล่นเกมที่กินกราฟฟิกสูง ๆ ในปัจจุบันก็หายห่วง เพราะชิป Snapdragon 636 มีชิปประมวลผลกราฟฟิก Adreno 509 ที่เล่นเกมได้ทุกเกมใน Playstore ในระดับกราฟิกที่ปรับเต็ม

    หน้าเมนู UI ใช้งานง่ายเหมือนกับ Android ทั่วไป ไม่มีหน้ารวมเมนู แต่จะเป็นการเรียงไอคอนไปเรื่อย ๆ เหมือนกับ iOS สามารถรวมโฟลเดอร์แอพเข้าไปเป็นหมวดหมู่ให้เรียกใช้งานง่าย เลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายก็จะเป็นหน้ารวมหน้าต่างที่เราได้ปรับแต่งเอาไว้ ให้ดูได้ง่ายขึ้น ส่วนNotification ก็เลื่อนขึ้นจากด้านบนลงมาเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป ก็จะแสดงการแจ้งเตือนต่าง ๆ พร้อมกับเมนูลัดการตั้งค่าต่าง ๆ

    สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB เหลือให้ใช้อยู่ที่ประมาณ 52 GB และสามารถเพิ่ม microSD ได้อีกสูงสุด 256 GB โดยหน้าเมนูเน้นสีขาว ดีไซน์หน้า UI เน้นสีขาว

    Feature

    Full Screen Display

    redmi58c

    ฟีเจอร์นี้ สำหรับใครที่ชื่นชอบการใช้งาน UI แบบ iPhone X ทาง Xiaomi เองก็จัดมาให้โดยเข้าไปเปิดฟีเจอร์นี้ในตั้งค่าได้เลย ชื่อโหมด Full Screen Display เหมือนกับ iPhone X เลยทีเดียว โดยเลื่อนหน้าจอขึ้นเพื่อกลับสู่หน้าจอหลัก เลื่อนทางซ้ายเพื่อเป็นการย้อนกลับ เลื่อนขึ้นค้างไว้เพื่อเปิดหน้า Multitasking ดูการทำงานได้จากรูปด้านล่างเลยครับ

    Dual Apps

    redmi59

    ฟีเจอร์ Dual Apps นั่นก็คือการโคลนแบบให้เล่นได้แบบ 2 Account นั่นเอง เพิ่มความสะดวกกรณีเพื่อนยืมเล่นแล้วเราต้องกด Log-Out เพื่อให้เพื่อนเล่น แล้วต้อง Log-in ใหม่ เมื่อมีฟีเจอร์นี้ก็แยกเล่นกันได้เลย อีกกรณีหากใครใส่สองซิม ก็สามารถเล่นไลน์ได้พร้อมกัน 2 Account

    Second Space

    redmi519

    ฟีเจอร์ Second Space เป็นฟีเจอร์ที่เอาไว้สลับผู้ใช้งานให้เสมือนมีโทรศัพท์สองเครื่องอยู่ในเครื่องเดียว แยกการใช้งานกันอย่างชัดเจน โดยสามารถ Switch ไปมาได้อย่างรวดเร็ว

    ส่วนใครที่ไม่ชอบติ่งหน้าจอก็สามารถปิดติ่งได้เช่นเดียวกัน โดยกดเลือกตรงที่โหมด ซ่อนรอยบอก หน้าจอก็จะปิดที่บริเวณรอยบากไปในทันที ทำให้ปิดรอยบากได้แบบเนียน ๆ (ภาพประกอบเป็น Xiaomi Mi 8 ที่มีฟีเจอร์เหมือนกัน)

    Camera

    สำหรับกล้องของ Xiaomi Redmi Note 6 Pro นั้น มากับกล้องหลัง Dual Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/1.9 พร้อมกับ Dual LED Flash มีเทคโนโลยี AI มาช่วยในการถ่ายภาพ

    โดยเทคโนโลยี AI จะทำการเรียนรู้ภาพว่าในขณะนี้กำลังถ่ายภาพอะไรอยู่ เพื่อปรับแสง ปรับค่าต่าง ๆ ให้เข้ากับภาพโดยอัตโนมัติ ทำให้ภาพที่ได้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ที่สำคัญยังถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งสังเกตจากภาพด้านล่างจะเห็นว่าไอคอนด้านบนตรงกลางจะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของภาพ

    ส่วนกล้องหน้า Dual Camera มีความละเอียดอยู่ที่ 20+2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0 ซึ่งหน้าสองตัวนี้ทำให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอจากกล้องหน้าได้ดีขึ้นตัวอย่างจากภาพด้านล่างเลย ที่สำคัญมีฟีเจอร์ AI Beautify ที่สามารถลบรอยต่าง ๆ บนใบหน้าให้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นรอบด่างดำ รอแผลเป็น ปรับโครงหน้า ปรับแสง ปรับสีตา สีลิป ให้ภาพถ่ายใบหน้าของเราออกมาสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญมี LED Flash เอาไว้ช่วยถ่ายในที่มืดได้อีกด้วย ไปชมภาพถ่ายกล้องหน้า และกล้องหลังได้ที่ภาพด้านล่างได้เลยครับ

    (ภาพถ่ายเปรียบเทียบโหมด Portrait ของกล้องหน้า)

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

    Performance

    ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานชิปประมวลผล Snapdragon 636 ประมวลผลแรงขึ้น 40 % เมื่อเทียบกับ Snapdragon 630 ใช่ CPU Octa-core 1.8 GHz Kryo 260 พร้อมกับ GPU Adreno 509 ซึ่งถือว่าให้ชิปที่ดีงามมากในราคาระดับนี้  เพราะฉะนั้นการใช้งานหนัก ๆ และการเล่นเกมไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ซึ่งลองเล่นเกม ROV  ก็เล่นได้แบบไหลลื่น ในส่วนของแบตเตอรี่ ให้แบตเตอรี่มาถึง 4,000 mAh ซึ่งถือว่าให้มาเยอะมาก จากการทดสอบชาร์จแบตเต็มในช่วงเช้าประมาณเก้าโมงครึ่ง ทดลองการใช้งานจริง อย่างดาวน์โหลดแอพต่าง ๆ มาลอง เล่นเกม ROV สัก 3 ตา PUBG อีกหนึ่งตา ลองกล้องถ่ายภาพถ่ายวิดีโอ และเล่นแอพ Social Media ทั่วไป ก็กลับถึงห้องประมาณทุ่มครึ่ง เช็คแบตเตอรี่ดูเหลืออยู่ที่ 68% ถือว่าประหยัดใช้ได้เลย หากใช้งานทั่วไปน่าจะใช้ได้ 2 วันสบาย ๆ

    Overall

    หากใครที่มีงบไม่เกิน 7,000 บาท Xiaomi Redmi Note 6 Pro จะต้องอยู่ในตัวเลือกระดับต้น ๆ อย่างแน่นอน จากสเปคที่คุ้มค่ามาก ในราคา 6,990 บาทได้ชิป Snapdragon 636 ซึ่งถือเป็นชิปที่แรงสุด ในช่วงราคาระดับนี้ ดล่นเกมได้สบายหายห่วง บวกกับแรม 4 GB และ แรม 64 GB หน้าจอถูกเพิ่มขนาดให้เป็น 6.26 นิ้วความละเอียด Full HD+ และใช้หน้าจอ Fullview ทำให้เข้ากับเทรนด์สมาร์ทโฟนในขณะนี้ กล้องหลัง Dual Camera พร้อมเทคโนโลยี AI นั้นถ่ายภาพได้สวยขึ้นมาก ลบจุดด้อย Xiaomi ในราคาระดับเริ่มต้นไปได้ในทันที ส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มให้ลงตัวมากขึ้นด้วยการใช้กล้องหน้า Dual Camera พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ เอาใจสาวกเซลฟี่ แถมมี LED Flash มาให้ด้วย เรียกได้ว่าไม่มีที่ติเลยสำหรับ Xiaomi Redmi Note 6 Pro

    ข้อดี

    • สเปคฮาร์ดแวร์ดีมากเมื่อเทียบราคาที่ถูกมากเช่นเดียวกัน !!
    • หน้าจอใหญ่ 6.26 นิ้ว ความละเอียด Full HD
    • แบตอึด 4,000 mAh พร้อม Quick Charge 2.0
    • กล้อง Dual Camera พร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่ถ่ายภาพได้ดีขึ้นมาก
    • กล้องหน้า Dual Camera ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ มี LED Flash ให้ด้วย
    • เปิดตัวรุ่นใหม่ ในราคาเท่ากับรุ่นเก่า

    จุดสังเกต

    • พอร์ตเชื่อมต่อยังเป็น microUSB
    • หน้าจอแอบนูนขึ้นมาเยอะไปนิด

    Gallery

    Xiaomi Xiaomi Redmi Note 6 Pro
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    SpecPhone HQ

    Related Posts

    OPPO Reno 15 Series เผยข้อมูลกล้อง 200MP หน้าจอเล็กลง กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2026

    29 มิถุนายน 2025

    เปิดตัว Samsung Galaxy Buds Core หูฟังไร้สายราคาประหยัดพร้อม ANC แบตใช้งานสูงสุด 35 ชั่วโมง

    28 มิถุนายน 2025

    ยืนยันแล้ว Samsung Galaxy Tab S11 Ultra จะใช้ชิป Dimensity 9400+ พร้อมผลทดสอบบน Geekbench ที่แรงกว่าเดิม

    28 มิถุนายน 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    OPPO Reno 15 Series เผยข้อมูลกล้อง 200MP หน้าจอเล็กลง กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2026

    29 มิถุนายน 2025

    เปิดสเปค AirTag 2 ก่อนเปิดตัวปลายปี 2025 เพิ่มชิป UWB ใหม่ล้ำกว่าเดิม เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

    29 มิถุนายน 2025

    หลุดข้อมูล iPhone จอพับเพิ่ม คาดมาพร้อมกล้องหลังคู่ 48MP ทั้งสองตัว และรายละเอียดขนาดหน้าจอ

    28 มิถุนายน 2025

    เปิดตัว Samsung Galaxy Buds Core หูฟังไร้สายราคาประหยัดพร้อม ANC แบตใช้งานสูงสุด 35 ชั่วโมง

    28 มิถุนายน 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X