รีวิว vivo Y22s และ vivo Y16 น้องใหม่ดีไซน์หรู ราคาประหยัด

vivo Y22s และ vivo Y16 มือถือระดับกลาง 2 รุ่นใหม่จาก vivo ที่พึ่งเปิดตัวไปหมาดๆ มาพร้อมดีไซน์ที่สวยเกินราคา พร้อมด้วยแบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานยาวๆ ได้สบาย ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้นั้นจะมีจุดเด่นกันไปคนละแบบ โดยตัว vivo Y22s นั้นจะเป็นมือถือระดับกลางที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ส่วน vivo Y16 จะเป็นมือถือระดับกลางตัวเริ่มต้นที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปด้วยสเปคแบบกลางๆ ซึ่งทั้ง 2 เครื่องก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone แล้วและจากที่ได้ลองเอาไปใช้งานมาระยะสั้นๆ เราจะมาพูดถึงการใช้งานต่างๆ ของทั้งคู่เป็นอย่างไร

vivo Y22s
- สเปค
vivo Y16
สรุปการรีวิว

vivo Y22s

สเปคของ vivo Y22s

หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.55 นิ้ว, ความละเอียด 1612 × 720 พิกเซล (HD+)
ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 4G
แรม : 6GB
ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50 MP, f/1.8, (wide)
- ตัวที่ 2 : 2 MP, f/2.4, (macro)
กล้องหน้า : 8 MP, f/2.0
แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W
ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
การเชื่อมต่อ :
- 4G LTE
- Wi-Fi 5 Dual-band
- Bluetooth 5.0
- GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO,QZSS
- ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
- USB Type-C 2.0
เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint (ด้านข้าง)
- Face Detection
- Acceleromete
- Ambient light
- Proximity
- Gyroscope
- Orientation
ขนาด : 164.30 × 76.10 × 8.38 มม.
น้ำหนัก : 192 กรัม
สี : Starlit Blue, Summer Cyan
ราคา : 7,699 บาท

หน้าสเปค

ดีไซน์ตัวเครื่อง

ตัว vivo Y22s มาพร้อมหน้าจอแบบหยกน้ำขนาด 6.55 นิ้ว พาแนล IPS ที่มีความละเอียดระดับ HD+ ซึ่งภายในติ่งรูปหยดน้ำนั้นจะมีกล้องหน้าใส่อยู่ ถัดขึ้นไปเป็นลำโพงที่เอาไว้ใช้สนทนา เพียงแต่ด้วยการที่เป็นหน้าจอแบบหยดน้ำ ทำให้ขอบหน้าจอด้านล่างค่อนข้างหนาพอสมควรเลยทีเดียว

ที่ด้านหลังตัวเครื่องจะมีผิวสัมผัสเรียบลื่น พื้นผิวแบบด้านผสมผสานความมันเงาช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเครื่องได้อย่างมาก ที่มุมบนมีโมดูลกล้องรูปสี่เหลี่ยมอยู่โดยภานในจะมีเลนส์กล้องขนาดใหญ่ 2 เลนส์ และมีไฟแฟลช LED อยู่ด้านข้าง

ในส่วนของด้านยข้างตัวเครื่องจะเป็นดีไซน์แบบขอบเหลี่ยม ที่ด้านบนจะมีถาดใส่ซิมอยู่ ด้าล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนาและช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ปุ่มทั้งหมดรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวาไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงหรือปุ่มเปิด-ปิด ซึ่งตัวปุ่มเปิด-ปิดนี้จะทำหน้าที่เป็นที่สแกนลายนิ้วมือด้วย

การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ

ในด้านการใช้งานนั้น Funtouch OS นั้นจะมี UI แบบเรียบง่าย มีความ minimal ในตัว โดยแอปฯ ทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่หน้า Home เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย แต่ก็ยังไม่ทิ้ง AppDrawer ไป นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ RAM Extended ที่สามารถขยายแรมเพิ่มได้อีก 6GB ช่วยให้คนที่ชอบเปิดแอปฯ ซ้อนๆ กันสามารถเปิดแอปฯ ได้เยอะขึ้น ในเรื่องของความลื่นไหลนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีทั้งความเร็วในการเรียกแอปฯ หรือความเร็วในการตอบสนองเวลาเล่นโซเชียลก็ทำได้ดี ในการดูหนังเองก็ไม่เลวเพราะได้ Widevine ระดับ L1 มาด้วยถึงแม้หน้าจอที่ใช้แสดงผลจะมีความละเอียดแค่ HD+ ก็ตาม แต่ก็ถือว่าดีกว่าได้ L3 มา เพียงแต่ในเรื่องของลำโพงนั้นจากที่ได้ลองระดับความดังถือว่าไม่ได้ดังอะไรมากนัก ถึงแม้จะอยู่ในห้องเงียบๆ ก็ต้องเปิดเสียงอย่างน้อย 80% ขึ้นไปถึงจะได้ยินทั่วห้อง ยิ่งถ้าที่อยู่ในที่เสียงดังขึ้นมาก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้ยินถ้าไม่เอาลำโพงมาชิดหู

ในส่วนของแบตเตอรี่และการชาร์จนั้นตัวแบตเตอรี่มีขนาด 5,000 mAh ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นมานั้นตัวแบตเตอรี่สามารถอยู่ทั้งวันได้สบายๆ เลย โดยจากที่ได้เอามาเปิดดู Live ไปราวๆ 4 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดไปเพียง 30% เท่านั้นนับว่าถึกใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนเรื่องการชาร์จนั้นด้วยระบบชาร์จเร็ว 18W ทำให้ใช้เวลาชาร์จเร็วขึ้นมาเล็กน้อย โดยจากที่ได้ลองนั้นเราได้ลองชาร์จหลังจากที่แบตเตอรี่หมดไปแล้ว ในเวลา 10 นาทีแรก จะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึค้นมาเป็น 12% และจะได้ 50% ในเวลาราวๆ 56 นาที ซึ่งเอาจริงๆ ก็ถือว่านานพอดู และถ้าชาร์จจาก 0% – 100% นั้นต้องใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว ดังนั้นจึงอยากแนะนำว่าถ้าไม่ชาร์จตอนนอนก้ขอให้ชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือสักราวๆ 50% จะกำลังดี

การเล่นเกม

ในด้านการเล่นเกมนั้นด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 680 4G ต้องบอกเลยว่าสามารถเล่นได้ทุกเกม แต่จะสามารถปรับสุดได้ไหมนี่อีกเรื่อง เพราะตัวชิปเป็นชิประดับกลาง อีกทั้งบางเกมก็ยังไม่ได้ Optimized ให้เข้ากับตัวชิปอีกด้วย โดยที่ได้ลองเล่นนั้นมีเกม RoV, PUBG Mobile และ Genshin Impact ซึ่งเกม RoV นั้นสามารถเล่นได้ลื่นๆ เฟรมเรทเกาะอยู่ที่ 59-60fps ส่วน PUBG นั้นเป็นเกมที่ยังไม่ได้อัพเดตให้สามารถรีดประสิทธิภาพของชิปออกมาได้อย่างเต็มที่ทำให้ไม่สามารถเปิดกราฟิกสูงๆ หรือเฟรมเรทสูงๆ ได้ แต่ถ้าแค่เล่นเอาสนุกก็ถือว่าได้ มีความลื่นไหลพอควรอยู่ ส่วน Genshin นั้นตัวเกมตั้งค่าเริ่มต้นมาให้ที่ต่ำ ซึ่งจากที่ลองนั้นก็พอเล่นได้ แต่ความร้อนจะขึ้นเร็วมาก จึงควรเล่นที่ระดับต่ำสุดแทน แล้วตอนจะถ่ายรูปค่อยปรับเป็นสูงก็ได้

การถ่ายภาพ

ในด้านการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 2 ตัวคือกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่จะมีความละเอียดอยู่ที่ 8MP ซึ่งจากที่ได้ลองไปถ่ายรูปมานั้นตัวกล้องหลักถือว่าทำออกมาได้ดีทั้งการเก็บแสงและรายละเอียด แถมยังมีลูกเล่นให้เล่นเยอะด้วย เพียงแต่จะมีจุดที่เรียกได้ว่าลำบากก็คือกล้องหน้า เนื่องจากมีความละเอียดน้อย ทำให้เวลาถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะสูยเสียความคมชัดไป จะว่าแค่พอใช้ได้ก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องที่เน้นหนักไปที่กล้องหลังเลยก็ว่าได้

ตัวอย่างภาพถ่าย

vivo Y16