เปิดตัวและวางขายเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Vivo X21 เรือธงรุ่นล่าสุดของ Vivo ซึ่งทาง Vivo ประเทศไทยใจป้ำ นำรุ่นท็อปของรุ่น X21 เข้ามาขายในไทยโดยมากับฟีเจอร์เด่นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ใต้หน้าจอ ถือเป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มแรกต่อจาก Vivo Xplay 6 ที่ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ทำให้การสแกนนิ้วรวดเร็วและแมนยำมากขึ้น เปรียบเสมือนกับเซ็นเซอร์แบบปกติ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต ไปดูรายละเอียดสเปคตัวเครื่องด้านล่างได้เลยครับ
รายละเอียดสเปค Vivo X21
- หน้าจอ SuperAMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 19:9 ความละเอียด Full HD+ 2280 x 1080 พิกเซล
- ขนาดตัวเครื่อง 154.5 x 74.8 x 7.4 มม. หนัก 156.2 กรัม
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE CPU Octa-core (4×2.2 GHz Kryo 260 & 4×1.8 GHz Kryo 260) พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 512
- RAM 6 GB
- ความจุ 128 GB และรองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- กล้องหลังคู่แบบ Dual Pixel พร้อมกับเทคโนโลยี AI ความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องหน้า AI ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
- รองรับ Dual SIM แบบ Hybrid Slot
- พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh พร้อมกับฟีเจอร์ Flash Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo พร้อมกับ Fun OS 4.0
- 19,990 บาท
Design/ การออกแบบ
Vivo X21 มากับการออกแบบตัวเครื่องที่ใช้หน้าจอ Fullview ที่มีติ่งเหมือนกับสมาร์ทโฟน Android หลาย ๆ รุ่น โดยใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.28 นิ้วที่มีอัตราส่วน 19:9 มีความละเอียดระดับ Full HD+ หรือ 1080 x 2280 พิกเซล ซึ่งหน้าจอเป็นกระจกชิ้นเดียวและมีอัตราพื้นที่ของหน้าจออยู่ที่ 90.30 % ของตัวเครื่องด้านหน้า โดยหน้าจอใช้เทคโนโลยี Screen P3 Color Gamut ทำให้ค่าความถูกต้องของสีที่แสดงมากกว่า 99% ทำให้สีที่แสดงออกมาจากหน้าจอมีสีที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ
สำหรับ Notch ที่อยู่ด้านบนหน้าจอมีขนาดไม่ใหญ่มาก ช่วยให้ตัวเครื่องสวยงามและทำให้มีการแจ้งเตือนสถานะตัวเครื่องต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ด้านล่างไร้ปุ่มใด ๆ เนื่องจากปุ่มแถบ Navigation Bar สามปุ่ม ย้ายไปอยู่ในหน้าจอ
อีกฟีเจอร์หลักอย่างเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ถูกย้ายไปไว้ในหน้าจอเช่นเดียวกัน
ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องนั้นเป็นกระจก 3D ทั้งตัวเครื่อง มีความโค้งมนรับกับมือดี ให้สัมผัสที่ดีแน่นหนา
ด้านหลังเครื่องมีเพียง ชสัญลักษณ์ Vivo สีเงินอยู่ตรงกลางของเครื่อง และกล้องหลังคู่นั้นก็นูนออกมาสมควร ต้องระวังตอนวางเครื่องเล็กน้อย ด้านล่างกล้องจะเป็น LED Flash แค่ดวงเดียว
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB ซึ่งเป็นที่เรื่องน่าเสียดาย น่าจะใช้ USB Type-C ได้แล้ว ด้านข้างพอร์ตจะเป็นลำโพงขับเสียงและถาดใส่ซิมซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างไปจากรุ่นอื่น ๆ
ด้านบนตัวเครื่องจะเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และไมค์ตัดเสียงรบกวน อย่าหลงเอาเข็มจิ้มซิมไปจิ้มนะครับ
ปุ่มพาวเวอร์ และปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียงอยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใด ๆ
Software
ในส่วนของซอฟต์แวร์ตัวเครื่องนั้น ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 พร้อมกับ ใช้ Snapdragon 660 ที่มีประสิทธิภาพบวกกับแรมขนาด 6 GB พร้อมกับ AI ที่อยู่ในชิปประมวลผล ทำให้การใช้งานลื่นไหลสุด ๆ แม้กระทั่งการเล่นเกมที่กินกราฟฟิกสูง ๆ ในปัจจุบันก็หายห่วง เพราะชิป CPU Snapdragon 660 มีชิปประมวลผลกราฟฟิก Adreno 512 ที่เล่นเกมได้ทุกเกมระดับกราฟฟิกที่สูง
หน้าเมนู UI ใช้งานง่ายเหมือนกับ Android ทั่วไป ไม่มีหน้ารวมเมนู แต่จะเป็นการเรียงไอคอนไปเรื่อย ๆ เหมือนกับ iOS สามารถรวมโฟลเดอร์แอพเข้าไปเป็นหมวดหมู่ให้เรียกใช้งานง่าย การแจ้งเตือนก็สามารถเลื่อนขึ้นจากด้านบนได้เลย ส่วน Control Center ก็เลื่อนขึ้นจากด้านล่างจะเป็นหน้ารวบเมนูลัดการตั้งค่าเอาไว้
Feature
Finger Print (Under Display)
ฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของ Vivo X21 นั่นก็คืิอ ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปใต้หน้าจอ และใช้หน้าจอชนิดพิเศษที่รองรับเทคโนโลยีนี้โดยเฉพาะ ซึ่งการสแกนลายนิ้วมือก็เอานิ้วไปแตะบริเวณที่เป็นลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ทันที ซึ่งรูปรอยนิ้วมือจะติดตลอดเวลาแม้ว่าจะปิดหน้าจอ เหมือนโหมด Always On ของ Samsung และเมื่อเอานิ้วไปแตะเบา ๆ ก็จะเป็นกราฟฟิกที่สวยงามพร้อมกับปลดล็อคตัวเครื่องทันที สำหรับวิธีการตั้งค่าและการใช้งานดูตามวิดีโอด้านล่างได้เลยครับ
การาแยกหน้าจอ เหมือนกับฟีเจอร์แบ่งการทำงานเป็นสองหน้าจอเหมือนกับ Android รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้หน้าจอยาว โดยขั้นตอนการเปิดใช้งานก็คือเข้าแอปพลิเคชั่นหลัก แล้วใช้สามนิ้วรูดลงมา ก็จะขึ้นหน้าเมนูให้เปิดหน้าต่างอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นด้านล่างทันทีเหมือนกับวิดีโอด้านล่าง
ท่าทางการนำทาง
Vivo X21 สามารถปรับเปลี่ยน Navigation Bar ด้านล่างได้ อย่างสลับตำแหน่งปุ่ม หรือปรับเปลี่ยนให้เป็นการใช้งานได้แบบ iPhone X เหมือนกับวิดีโอด้านล่างครับ
การโคลนแอปพลิเคชั่น
การโคลนแอปพลิเคชั่น เหมือนการคัดลอกแอปพลิเคชั่นให้สามารถใช้งานแอปได้สองแอปในตัวเครื่องเดียว เพิ่มความสะดวกหากใครจำเป็นมีบัญชีโซเชียลสองบัญชี แล้วเราต้องกด Log-Out สลับไปมา แล้วต้อง Log-in ใหม่ เมื่อมีฟีเจอร์นี้ก็แยกเล่นกันได้เลย อีกกรณีหากใครใส่สองซิม ก็สามารถเล่นไลน์ได้พร้อมกัน 2 Account
Vivo X21 มากับกล้องหลัง Dual Camera เลนส์ตัวแรกเป็นแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลรูรับแสงกว้าง f/1.8 ส่วนตัวที่สองความละเอียด 5 ล้านพิกเซลรูรับแสงกว้าง f/2.4 พร้อมกับ LED Flash ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.0 โดยฟีเจอร์ของกล้องนั้นอัดแน่นมาเพียบ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI HDR ที่จะช่วยให้ HDR ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่ง AI จะนำภาพถ่ายมาย้อนแสงทั้งภาพที่มืดและสว่างมาซ้อนกันเพื่อหาค่าที่ชัดเจนที่สุด ทำให้ถ่ายภาพในที่ย้อนแสงได้สวยงาม
โหมด AI ยังแยกประเภทของถ่ายที่ถ่ายให้อัตโนมัติ อย่างถ่ายภาพวิว ระบบปรับแสง สีของภาพให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ อย่างในการถ่ายเซลฟี่ก็จะช่วยให้ภาพถ่ายกล้องหน้าสวยงามตามสภาพแวดล้อมที่ AI จะทำการปรับให้อัตโนมัติ ทั้งแสง ริ้วรอย เพศ เป็นต้น ชนิดที่แบบไม่ต้องแต่งหน้าก็สวยได้ เหมือนในรูปด้านล่างเลยครับ
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหลัง Vivo X21
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหน้า Vivo X21
ในส่วนของประสิทธิภาพ Vivo X21 ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 660 ซึ่งเป็นตัวท็อปของซีรี่ส์ Snapdragon 600 มากับชิปประมวลผล Adreno 512 โดยชิป Snapdragon 660 มีระบบ AI ที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการจดจำการใช้งานและนำไปวิเคราะห์ประมวลผลเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และ AI ยังทำงานรวมกับแรมขนาด 6 GB ทำให้ตอบสนองการทำงานกับแอปพลิเคชั่นใหญ่ ๆ ในปัจจุบันได้อย่างไม่มีปัญหา ยกตัวอย่างถ้าเราเล่นเกม AI จะก็เน้นให้ CPU ไปประมวลผลที่ตัวเกมเป็นหลัก เพื่อจะให้เราได้เล่นกันแบบลื่น ๆ ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกม ROV และ PUBG พบว่าเฟรมเรตนั้นวิ่งเกิน 55 fps ตลอด ถือว่าการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันไม่มีปัญหาเลยครับ
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่นั้นให้มาที่ 3200 mAh จากการทดลองการใช้งานก็อึดใช้ได้ ออกจากห้องด้วยแบตที่อยู่ประมาณ 95 % ดาวน์โหลดแอปต่าง ๆ เพื่อทดสอบ เล่นเกม ROV 3 ตา ทดสอบกล้อง เล่นโซเชียลเรื่อย ๆ เหมือนกับการใช้งานประจำวันกลับห้องแบตเตอรี่เหลือที่ 66 % ซึ่งถือว่าเพียงพอกับการใช้งาน
Overall
หลายคนอาจจะคิดว่าราคา 19,990 บาท อาจจะเป็นราคาที่สูงไปเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งบางค่ายที่ใช้ชิป Snapdragon 845 ซึ่งจากเทคโนโลยีของ Vivo ที่ให้มานั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างเหมาะสม ทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเป็นครั้งแรกบนสมาร์ทโฟน ชิปเสียง Hi-Fi Audio แรมที่ให้มาถึง 6 GB รอมมากถึง 128 GB ใช้หน้าจอ SuperAMOLED ขนาด 6.28 นิ้วความละเอียด Full HD ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่ให้ตั้งไว้แล้ว ส่วนชิปประมวล Snapdragon ที่หลายคนวิตกกังวลกับประสิทธิภาพว่าจะเหมาะสมกับเรือธงหรือไม่ ขอบอกเลยว่ามันคือตัวท็อปของซี่รี่ส์ Snapdragon 600 ในตอนนี้ การประมวลผลนั้นแรงกว่า Snapdragon 821 เสียอีก จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแค่ชิปกราฟฟิกเท่านั้นที่เห็นผลชัดเจน แต่ก็สามารถเล่นเกมกินกราฟฟิกหนัก ๆ อย่าง ROV หรือ PUBG ได้แบบลื่น ๆ ต้องไปลองเล่นตัวจริงดูสักครั้งแล้วจะทราบว่ามันมีอะไรดีที่เหมาะสมกับราคาที่ตั้งไว้
ข้อดี
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่ใช้งานได้รวดเร็ว แม่นยำ
- ชิปเสียง Hi-Fi Audio
- แรม 6 GB รอม 128 GB
- หน้าจอ SuperAMOLED 6.28 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
- กล้องหลัง Dual Camera และกล้องหน้า แบบ Dual Pixel พร้อมกับ AI ที่ถ่ายรูปได้สวย
จุดสังเกต
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็น microUSB
- ราคาแอบสูงไปนิด