รีวิว vivo X100 5G และ X100 Pro 5G เรือธงกล้อง ZEISS พร้อมขุมพลัง Dimensity 9300 ที่แรงที่สุดในโลก

vivo X100

หลังจากที่ vivo ได้ทำการเปิดตัว vivo X100 Series 5G ที่จีนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ vivo X100 Series 5G ก็ได้มาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยแล้ว ซึ่งจะประกอบไปด้วย vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G และตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะสั้นๆ เราไปดูกันดีกว่าว่าทั้งสองจะเป็นอย่างไรกันบ้าง


สเปคตัวเครื่อง

Review vivo X100 Series 5G 38

สเปคของ vivo X100 Pro 5G

  • หน้าจอ : LTPO POLED, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล (1.5K), Refresh Rate 120Hz, PWM Dimming 2160Hz, รองรับขอบเขตสี 100% DCI-P3, ความสว่างสูงสุด 3000 nits,
  • ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 9300
    • ชิปประมวลผลภาพ : vivo V3
  • แรม : 16GB ชนิด LPDDR5X
  • หน่อยความจำ : 512GB ชนิด UFS 4.0
  • กล้องหลัง : ZEISS Optics + ZEISS T* Coating
    • ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.75, OIS (main) | เซ็นเซอร์ Sony IMX 989 ขนาด 1 นิ้ว
    • ตัวที่ 2 : 50MP, f/2.0 (super wide-angle)
    • ตัวที่ 3 : 50MP, f/2.5, OIS, 4x Optical Zoom (telephoto)
  • กล้องหน้า : 32MP, f/2.0
  • แบตเตอรี่ : 5400mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 100W FlashCharge และ 50W Wireless FlashCharge
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
  • การเชื่อมต่อ :
    • 5G Dual-SIM Dual-Standby
    • Wi-Fi 7, WLAN 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz (2×2 MIMO)
    • Bluetooth 5.4
    • GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NavIC, A-GPS, cellular positioning, Wi-Fi positioning, geofencing
    • NFC
    • USB Type-C 3.2 Gen 1
  • เซ็นเซอร์ :
    • Accelerometer
    • Ambient Light Sensor
    • E-compass
    • Fingerprint Sensor (ใต้จอ, Optical)
    • Proximity Sensor
    • Color Temperature Sensor
    • Gyroscope
    • Laser Focusing Sensor
    • Infrared Blaster
    • Flicker Sensor
    • Multispectral Sensor
  • มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP68
  • ขนาด : 164.05 x 75.28 x 8.91 มม.
  • น้ำหนัก : 225 กรัม
  • สี : Asteroid Black

สเปคของ vivo X100 5G

  • หน้าจอ : LTPO POLED, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล (1.5K), Refresh Rate 120Hz, PWM Dimming 2160Hz, รองรับขอบเขตสี 100% DCI-P3, ความสว่างสูงสุด 3000 nits,
  • ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 9300
    • ชิปประมวลผลภาพ : vivo V2+
  • แรม : 12GB ชนิด LPDDR5X
  • หน่อยความจำ : 256GB ชนิด UFS 4.0
  • กล้องหลัง : ZEISS Optics + ZEISS T* Coating
    • ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.57, OIS (main) | เซ็นเซอร์ Sony IMX 920
    • ตัวที่ 2 : 50MP, f/2.0 (super wide-angle)
    • ตัวที่ 3 : 64MP, f/2.57, OIS, 2.88x Optical Zoom (telephoto)
  • กล้องหน้า : 32MP, f/2.0
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 120W FlashCharge
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
  • การเชื่อมต่อ :
    • 5G Dual-SIM Dual-Standby
    • Wi-Fi 7, WLAN 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz (2×2 MIMO)
    • Bluetooth 5.4
    • GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NavIC, A-GPS, cellular positioning, Wi-Fi positioning
    • NFC
    • USB Type-C 2.0
  • เซ็นเซอร์ :
    • Accelerometer
    • Ambient Light Sensor
    • E-compass
    • Fingerprint Sensor (ใต้จอ, Optical)
    • Proximity Sensor
    • Color Temperature Sensor
    • Gyroscope
    • Laser Focusing Sensor
    • Infrared Blaster
    • Flicker Sensor
  • มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP68
  • ขนาด : 164.05 x 75.19 x 8.49 มม.
  • น้ำหนัก : 206 กรัม
  • สี : Startrail Blue, Asteroid Black

ดีไซน์ตัวเครื่อง

Review vivo X100 Series 5G 39

สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องนั้นคงต้องขอพูดถึงดีไซน์ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของตัวเครื่องกันก่อนเลย นั่นก็คือโมดูลด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งทาง vivo ได้ระบุว่าได้รับแรงบัลดาลใจในการออกแบบมาจากท้องฟ้า โดยทางฝั่งของ vivo X100 Pro 5G นั้นจะมาด้วยดีไซน์แบบ Sun Halo หรือที่เรียกว่า “พระอาทิตย์ทรงกลด” ส่วนทางฝั่ง vivo X100 5G นั้นจะมาด้วยดีไซน์ Moon Halo หรือ “พระจันทร์ทรงกลด” เรียกได้ว่าแปลกใหม่มากสำหรับการออกแบบโมดูลกล้องบนสมาร์ทโฟน

ในเรื่องของสีสันตัวเครื่องนั้น vivo X100 Series 5G จะมาด้วยกัน 2 สีคือสีฟ้า Startrail Blue และ สีดำ Asteroid Black โดย vivo X100 5G จะมีให้เลือกทั้ง 2 สีเลย ส่วน vivo X100 Pro 5G นั้นจะมีให้เลือกเพียงสีเดียวนั่นก็คือ สีดำ Asteroid Black โดยทาง vivo ได้ระบุที่มาของสีไว้ดังนี้

  • สีฟ้า Startrail Blue : ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของแสงและเงาเมื่อเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา
  • สีดำ Asteroid Black : ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้า ที่มีดวงดาวยามคํ่าคืน มอบความ รู้สึกน่าค้นหาและสุขุมรวมด้วยกัน

โดยสีที่ทางทีมงาน Specphone ได้รับมานั้นจะมีเพียงสีเดียวคือสีดำ Asteroid Black นั่นเอง ซึ่งทางผู้เขียนเองก็ชอบสีดำเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เนื่องจากสีดำ Asteroid Black นี้ให้ความรู้สึกหรูหราในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งของตกแต่งใดๆ แต่ถ้าอยากได้แบบสดใสๆ หน่อยก็อาจจะต้องไปเลือกเป็นสีฟ้า Startrail Blue แทน

Review vivo X100 Series 5G 31

ในเมื่อโมดูลกล้องเด่นขนาดนั้นจะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ โดยตัววงแหวนที่อยู่รอบโมดูลนั้นจะผลิตจากสแตนเลสเกรดการแพทย์แบบเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่วยขับเน้นความหรูหราแบบเรียบง่ายให้เด่นชัดยิ่งขึ้น อีกทั้งส่วนกรอบมีการใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า Sunburst Texture ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขอบนาฬิกาจักรกลที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

ตัวเลนส์กระจกนั้นจะเป็นกระจกแบบ 2.5D ที่ถูกเลือกมาให้เข้าคู่กับดีไซน์ของวงแหวนทรงกลด โดยที่รุ่น X100 Pro ใช้การเคลือบ AR Coating แบบแข็งพิเศษ ในขณะที่ในรุ่น X100 ใช้การเคลือบ AR Coating แบบมาตรฐาน

Review vivo X100 Series 5G 03

ในส่วนของจอแสดงผลนั้นทั้งคู่จะมาพร้อมหน้าจอ Punch Hole ขอบโค้งแบบ 8T LTPO POLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ 1.5K รองรับอัตรารีเฟรชที่ 120Hz แต่ความเจ๋งของหน้าจอบน vivo X100 Series 5G ก็คือจะมาพร้อมหน้าจอที่มีความสว่างสูงสุดถึง 3000 nits อีกด้วย

สำหรับขอบรอบตัวเครื่องนั้น vivo X100 Series 5G นั้นจะมาด้วยดีไซน์ขอบโค้งทั้งหน้าและหลัง ทำให้ขอบเครื่องมีความบางมาก จนทำให้วางได้่แค่ปุ่มสำหรับกดเท่านั้น ซึ่งปุ่มที่ว่านี้จะวางอยู่ฝั่งขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่มปรับเสียงและปุ่มเปิด-ปิด ที่ด้านบนของตัวเครื่องนั้นจะมีไมโ๕รโฟนสำหรับตัดเสียงและ IR Blaster อยู่ นอกจากนี้ยังมีการสลักข้อความเอาไว้ที่ด้านบนด้วยว่า “Professional Photography” เพื่อบ่งบอกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือเทพด้านการถ่ายภาพ ที่ขอบด้านล่างนั้นจะประกอบไปด้วยลำโพงตัวเครื่อง (ลำโพงอักตัวอยู่ด้านบนเหนือกล้องหน้า), พอร์ต USB, ไมโครโฟน และช่องใส่ซิม โดยตัวถาดซิมจะเป็นแบบ Dual-slot สำหรับใส่ซิมได้ 2 ซิมเท่านั้น


ระบบปฏิบัติการ

Review vivo X100 Series 5G 14

สำหรับระบบปฏิบัติการที่ใส่มาใน vivo X100 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นนั้นจะเป็น Funtouch OS 14 ตั้งแต่แกะกล่องออกมาเลย โดยจะเป็นระบบปฏิบัติการบน Android 14 ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้นและยังเพิ่มความสามารถต่างๆ ที่น่าสนใจเข้ามาด้วยเช่น RAM Saver ที่จะช่วยลดการทำงานของแอปฯ ลงช่วยให้เครื่องลื่นขึ้น และ App Retainer ที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแอปที่ใช้งานจะถูกเปิดกลับมาหน้าล่าสุดเสมอ

  • Audiovisual Entertainment : มอบประสบการณ์ค้นหาดูและการดูอัลบั้มที่ได้รับการปรับปรุง ทําให้ผู้ใช้สามารถส่งออกวิดีโอในคุณภาพต้นฉบับได้ นอกจากนี้ยังแนะนําฟิลเตอร์ใหม่ทั้งหมด 25 แบบเพื่อการตัดต่อวิดีโอที่ง่ายดายขึ้น
  • Personalization : ตอนนี้ได้อัพเดตการปรับแต่งรูปแบบนาฬิกาบนหน้าจอล็อกได้แล้ว และยังมีคุณสมบัติ AOD Styles ที่หลากหลาย และการปรับระดับเสียงต่อแอป ทําให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและควบคุมอุปกรณ์ของตนได้ดียิ่งขึ้น
  • Voice Isolation : เพิ่มความชัดเจนในระหว่างการดูวิดีโอการประชุมและการโทร โดยการกรองเสียงรบกวนรอบข้าง
  • Smart Mirroring : ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องกังวลว่าแถบการแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้นและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ตั้งใจ

การถ่ายภาพ

Review vivo X100 Series 5G 09

มาถึงเรื่องการถ่ายภาพที่เรียกได้ว่าเป็นเรื่องหลักของซีรี่ส์นี่เลยก็ว่าได้จับมือร่วมกับ ZEISS Co-engineered Imaging System เช่นกัน โดย vivo X100 Series 5G นี้ก็ได้ตัวที่น่าสนใจที่สุดก็คงไม่พ้น vivo X100 Pro 5G ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว กับกล้องเทเลโฟโต้ ZEISS APO Floating Telephoto Camera ที่มาพร้อมกับมาตรฐานใหม่ของ Vario-Apo-Sonnar จาก ZEISS และชิปประมวลผลภาพรุ่นใหม่อย่าง vivo V3 ซึ่งก่อนจะไปพูดถึงการใช้งานจริง ขอมาพูดถึงตัวชิป V3 นี่กันก่อนดีกว่า

vivo V3

สำหรับตัวชิปประมวลผลภาพ V3 นี้เป็นชิปที่ทาง vivo ภูมิใจนำเสนอความล้ำสมัยเป็นอย่างมาก โดยชิป V3 นี้จะเป็นชิปขนาด 6nm ที่ตัว Multi-current AI cognitive-ISP ได้รับการออกแบบใหม่ และระบบ Frame Info Tunneling (FIT) ยังได้รับการปรับปรุงขึ้นมาใหม่จนเป็นรุ่นที่สอง ซึ่งจากการปรับปรุงนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอัลกอริทึมที่ใช้ในการประมวลผลภาพและยังช่วยลดพลังงานที่ใช้ลงถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่สิ่งที่เจ๋งและว้าวที่สุดสำหรับผู้ใช้งานเลยก็คือตัวชิป V3 นี้ทำให้ vivo X100 Pro 5G สามารถบันทึกวิดีโอพอร์ตเทรตแบบภาพยนตร์ได้ถึงระดับ 4K แล้วครับ แถมยังมีเทมเพลตและเอฟเฟกให้เลือกสรรมากมายอีกด้วย (ปรบมือ)

Review vivo X100 Series 5G 32

มาที่ความรู้สึกหลังจากที่ได้เอาไปลองถ่ายภาพจริงๆ กันดูบ้าง โดยหลังจากที่ได้เอาไปลองถ่ายภาพจริงๆ มาดูแล้ว ต้องบอกเลยว่าสมกับที่เป็นสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ด้านกล้องถ่ายภาพ ทั้งความคมชัด สีสัน และการละลายหลังทำออกมาได้อย่างดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็ทำออกมาได้ดีทั้งหมด

ซึ่งจุดเด่นที่เรียกได้ว่าน่าสนใจของ vivo X100 Pro 5G อย่างหนึ่งก็คือกล้องเทเลโฟโต้ตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี ZEISS APO Floating ทำให้สามารถถ่ายภาพระยะไกลได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยตอนที่เราลองถือถ่ายที่ระยะ 10x ซึ่งเป็นระยะที่เกินกว่าระยะ Optical ของเลนส์ไปแล้ว แต่ภาพที่ได้นั้นแทบไม่ได้แตกต่างไปจากการถ่ายปกติเลย ทั้งรายละเอียดและความคมชัดยังอยู่ครบ เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์อย่างมาก ส่วน vivo X100 5G นั้นก็มีความสามารถในการซูมไม่แพ้กัน แต่ด้วยความที่ใช้เทคโนโลยีตัวเดิมอยู่เลยส่งผลให้ความคมชัดนั้นดรอปลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นโปร

สำหรับกล้องอื่นๆ นั้นใน vivo X100 Pro 5G จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 50MP ทั้ง 3 ตัว โดยกล้องหลักจะมีเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วที่มาพร้อมกันสั่นแบบ OIS กล้องตัวที่สองจะเป็นกล้อง Super Wide-Angle และกล้องตัวที่สามจะเป็นกล้อง Telephoto เทคโนโลยีใหม่จาก ZEISS แถมยังมีกันสั่นแบบ OIS ให้ด้วย ส่วน vivo X100 5G นั้นจะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวเช่นกันคือกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่มาพร้อมกันสั่นแบบ OIS กล้อง Super Wide-Angle 50MP และกล้อง Telephoto 64MP ที่มีกันสั่นแบบ OIS สำหรับกล้องหน้านั้นทั้งสองจะใช้เป็นกล้องตัวเดียวกันมีความละเอียดอยู่ที่ 32MP

สำหรับคนที่อยากรู้ว่าภาพที่ได้จากกล้องของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไรสามารถดูได้ที่ข้างล่างนี้เลย

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก vivo X100 Pro 5G

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก vivo X100 5G


การเล่นเกม

Review vivo X100 Series 5G 222

มาถึงการเล่นเกมกันบ้าง โดยทั้ง vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G นั้นจะมาพร้อมชิปประมวลผล Dimensity 9300 ที่เป็นชิปขนาด 4nm แบบ ALL Big-Core เหมือนกัน ทำให้การประมวลผลกลางจะไม่ต่างกันมากนัก แต่จุดที่สร้างความแตกต่างก็คือการที่ทาง vivo นำเอาชิปประมวลผลภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการประมวลผล โดยที่ vivo V3 สามารถทำได้เหนือกว่าก็คือสามารถเพิ่มความคมชัดของภาพที่จะแสดงผลให้เราเห็นได้ เพื่อมอบประสบการณ์ในการเล่นที่ดียิ่งขึ้นให้

สำหรับเกมที่เราได้เอามาลองเล่นนั้นจะมี RoV, PUBG Mobile และ Genshin Impact ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความแรงของตัวชิปทำให้สามารถเปิดสุดได้ทุกเกมไม่เว้นแม้แต่ Genshin Imapct แต่สิ่งที่พบก็คือความร้อนขึ้นค่อนข้างเร็ว อย่างเช่น RoV และ PUBG Mobile นั้นหากเปิดสุดหมด แค่เล่นไป 1-2 เกมความร้อนก็เริ่มมาแบบอุ่นๆ แล้ว ส่วน Genshin Imapct นั้นแน่นอนว่าหากเปิดสุดทุกอย่างความร้อนย่อมต้องพุ่งเป็นธรรมดา แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 30 นาทีขึ้นไปกว่าความร้อนจะสูง แถมที่น่าตกใจก็คือพอความร้อนสูงแล้ว หากหยุดเล่นแล้ววางเครื่องไว้เฉยๆ ไม่เกิน 15 นาทีก็สามารถยกเครื่องขึ้นมาเล่นต่อได้แล้ว

ในเมื่อพูดถึงการเล่นเกมแล้วก็ขอพูดถึงการจับถือตอนเล่นเกมด้วยเลย โดยการจับถือนั้นบอกเลยว่า vivo X100 5G จับได้สบายมือกว่ามากๆ ด้วยการที่ตัวโมดูลกล้องนั้นนูนขึ้นมาจากหลังกล้องนิดเดียว ในขณะที่ vivo X100 Pro 5G นั้นตัวโมดูลจะมีความนูนขึ้นมาจากฝาหลังเครื่องค่อนข้างสูงทำให้ไม่ค่อยสบายมือเท่าไรเวลาจับถือ บอกเลยว่านี่คือหนึ่งในจุดอันน้อยนิดที่ vivo X100 5G จะเอาชนะ vivo X100 Pro 5G ได้


การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ

Review vivo X100 Series 5G 34

สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นคงต้องพะูดถึงเรื่องการจับถือด้วย โดยในเรื่องของการจับถือนั้น vivo X100 Pro 5G ทำการบาลานส์น้ำหนักออกมาได้ไม่ค่อยสมดุลเสียเท่าไร เพราะเมื่อถือไปนานๆ แล้วจะเกิดความเมื่อยล้าขึ้น ซึ่งสาเหตุก็มาจากโมดูลกล้องขนาดใหญ่นั่นเอง ในขณะที่ vivo X100 5G นั้นมีโมดูลเล็กกว่าเลนยทำให้จับถือได้สบายมือกว่า

ในด้านความบันเทิงนั้นทั้งสองเครื่องที่มีหน้าจอแสดงผลชุดเดียวกันหากมองเผินๆ ก็สามารถบอกได้ว่าดูดีไม่แตกต่างกัน แต่ทว่าเมื่อเปิดโหมดปรับปรุงภาพแล้วความแตกต่างจะบังเกิดทันทีด้วยชิปประมวลผลภาพ V3 ที่สามาถรประมวลผลภาพออกมาได้ดีกว่า V2 ทำให้สีสันที่แสดงอยู่บนจอมีความสวยสดยิ่งขึ้น และยังนุ่มนวลขึ้นด้วย

Review vivo X100 Series 5G 225

สำหรับในเรื่องการชาร์จนั้น vivo X100 Pro 5G จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5400mAh และรองรับการชาร์จเร็ว 100W FlashCharge และ 50W Wireless FlashCharge ซึ่งทาง vivo เคลมว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ภายในเวลา 14 นาที ส่วนจากที่ลองชาร์จด้วยตัวเองแล้วจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ภายในเวลา 18 นาที ซึ่งถึงจะช้ากว่าที่ทาง vivo เคลมเอาไว้ แต่ก็ยังถือว่าเร็วมากๆ อยู่ดี

ส่วน vivo X100 5G นั้นจะมาด้วยแบตเตอรี่ที่ขนาดเล็กกว่าที่ 5000mAh แต่จะรองรับการชาร์จเร็วที่สูงกว่าคือ 120W FlashCharge และไม่รองรับการชาร์จไร้สาย โดยทาง vivo เคลมว่าจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ภายในเวลา 11 นาที ส่วนจากที่ลองชาร์จเองนั้นใน 50% แรกจะใช้เวลาไปถึง 17 นาที

ทั้งนี้ระยะเวลาในการชาร์จก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ซึ่งความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นนั้นยังอยู่ในขอบเขตที่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร เนื่องจากส่วนต่างที่เกิดนั้นห่างกันไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง


Review vivo X100 Series 5G 44

สรุปการรีวิว vivo X100 5G และ X100 Pro 5G

สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นบอกเลยว่าถ้าถือ vivo X100 Series 5G แล้วสามารถลืมกล้องจริงๆ ไปได้เลย เพราะความสามารถและรูปต่างๆ ที่ได้นั้นสามารถเอามาใช้ทดแทนกันได้เลย ด้วยเทคโนโลยีที่ vivo กับ ZEISS ใส่มานั้นเป็นอะไรที่ครบครันอย่างมาก เหมาะสุดๆ เลยสำหรับคนที่อยากได้กล้องเทพๆ ละลายหลังสวยๆ ในราคาไม่แพงมาก เพราะถ้าเป็นกล้องดีๆ แค่ค่าเลนส์อย่างเดียวก็แพงกว่า vivo X100 Series 5G ไปมากแล้ว

vivo X100 Pro 5G

จุดเด่นข้อสังเกต
– ดีไซน์มีความหรูหราในตัวเอง
– หน้าจอมีความสว่างมากถึง 3000 nits
– ได้ชิปประมวลผล Dimensity 9300
– ได้ชิปประมวลผลภาพ vivo V3 ที่มีความสามารถมากยิ่งกว่าเดิม
– มาพร้อมความจุขนาด 512GB เลย ไม่ต้องกลัวความจุเต็ม
– กล้องหลักมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้ว
– กล้องเทเลโฟโต้ใช้เทคโนโลยีใหม่จาก ZEISS ทำให้การซูมไกลมีความคมชัดยิ่งกว่าเดิม
– มีฟีเจอร์กล้องมากมายให้เลือกสรร โดยไม่ต้องใช้ฝีมือแบบมืออาชีพก็ถ่ายสวยได้
– รองรับชาร์จเร็ว 100W และชาร์จไร้สาย 50W
– น้ำหนักตัวค่อนข้างมาก ถือนานๆ อาจเมื่อย
– โมดูลกล้องนูนมาก ทำให้เมื่องวางเรียบกับพื้นอาจมีความเสี่ยงที่ตัวกระจกจะเกิดรอยได้ง่าย

vivo X100 5G

จุดเด่นข้อสังเกต
– ดีไซน์มีความหรูหราในตัวเอง
– หน้าจอมีความสว่างมากถึง 3000 nits
– ได้ชิปประมวลผล Dimensity 9300
– มาพร้อมชิปประมวลผลภาพ vivo V2+
– กล้องมีครบทุกระยะ
– มีฟีเจอร์กล้องมากมายให้เลือกสรร โดยไม่ต้องใช้ฝีมือแบบมืออาชีพก็ถ่ายสวยได้
– รองรับชาร์จเร็ว 120W
– ได้ชิปประมวลผลภาพ V2+ ที่เป็นชิปรุ่นก่อน
– กล้องเทเลโฟโต้มีระยะ Optical สั้น ทำให้พอซูมระยะไกลๆ แล้วรายละเอียดจะลดลงมาก
– ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย

หากใครที่กำลังหาสมาร์ทโฟนกล้องดีๆ ถ่ายสวยๆ เอาไปใช้แทนกล้องใหญ่ โดยเฉพาะสายเที่ยวหรือสายทำงาน vivo X100 Series นับเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว หากสนใจก็สามารถเข้าปไดูรายละเอียดตัวเครื่องได้ที่ vivo.com/th โดย vivo X100 Series จะสนนราคาอยู่ที่ 26,999 บาท สำหรับ vivo X100 5G และ 37,999 บาท สำหรับ vivo X100 Pro 5G พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. ถึง 29 ก.พ. 67 รับฟรี!!

  • vivo tws 3e มูลค่า 1,799 บาท
  • E-VIP Card รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรกมูลค่า 8,999 บาท
  • เก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินสูงสุด 2,000 บาท

และสำหรับคนที่อยากได้ราคาพิเศษเมื่อซื้อกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายจะได้ค่าเครื่องเริ่มต้นที่ 19,599 บาทเท่านั้นครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก