Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Vivo V11 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ต่อยอดความสำเร็จของซีรี่ส์ V ที่มากับกล้องอัจฉริยะที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกสถานการณ์ และยังอำนวยความสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย ซึ่งชิปประมวลผล Snapdragon 660 ก็มาพร้อมกับ AI เช่นเดียวกัน จุดเด่นอีกอย่างมากับดีไซน์ที่ล้ำสมัย ด้วยหน้าจอ Halo Fullview ที่มากับรอยบากหยดน้ำ และมาพร้อมกับเทคโนโลยี In-Display Fingerprint Scanning หรือสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอนั่นเอง ไปดูรายละเอียดสเปคพร้อมกับ รีวิว Vivo V11 กันที่ด้านล่างได้เลยครับ
รายละเอียดสเปค Vivo V11
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล
- ขนาดตัวเครื่อง 157.91 x 75.08 x 7.9 มม. หนัก 156 กรัม
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE CPU Octa-core (4×2.2 GHz Kryo 260 & 4×1.8 GHz Kryo 260)
- ชิปประมวลผลกราฟิก Adreno 512
- แรม 6 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128 GB
- รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง Dual Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Dual Pixel รูรับแสงกว้างสุด f/1.8 อีกตัวความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
- รองรับ Dual SIM
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- แบตเตอรี่ขนาด 3,400 mAh รองรับ Dual Engine Fast Charing
- ระบบปฏิบัติการ Android Oreo 8.1
- ราคา 13,990 บาท
Design
ตัวเครื่องมากับหน้าจอ Fullview Display Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อในความดำสนิทของสีดำ และมีสีสันที่สดใสกว่าจอทั่วไป โดยขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.41 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีรอยบากด้านบนเป็นทรงหยดน้ำเล็ก ๆ ทำให้มีพื้นที่ของหน้าจอมากขึ้น และสวยกว่ารอยบากแบบเป็นแถบยาว
ในรอยบากนั้นจะประกอบไปด้วยกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อมกับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ในรอยบากเล็ก ๆ ส่วนลำโพงสนทนาจะเป็นขีดเล็ก ๆ ด้านบนซึ่งให้เสียงดังได้ยินชัดเจนดี ซึ่งข้อดีของรอยบากที่เล็กลงนี้ ทำให้ตัวเครื่องแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ส่วนด้านล่างตัวเครื่องมีขอบเครื่องเล็กน้อย ส่วนปุ่ม Navigation ต่าง ๆ อยู่ด้านล่างของหน้าจอ
<span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span>
ด้านหลังตัวเครื่องมากับดีไซน์กระจกโค้งเว้ารับกับมือดีมาก พร้อมกับสีพิเศษ Nebula (ม่วง-น้ำเงิน) และ Starry Night (ดำ-น้ำเงิน) ซึ่งสีที่เห็นในรีวิวนี้คือสี Nebula ที่สะท้อนแสงสวยงาม
กล้องหลังจะอยู่ชิดมุมขวาบน ในแนวตั้ง ซึ่งเป็นกล้อง Dual Camera ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash ด้านล่าง พร้อมกับสัญลักษณ์ Vivo สีเงินโดดเด่น
ด้านล่างจัวเครื่องเรียบเรียบ จะมีเพียงช้อความสีเงิน เขียนว่า Designed by vivo ให้ดูเก๋ ๆ
ตัวเครื่องจะตัดขอบด้วยพลาสติกพิเศษเล่นสีมันวาวเป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่องให้ที่ดูสวยงามลงตัว ด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง และปุ่ม Power
ส่วนด้านซ้ายจะเป็นถาดใส่ซิมแบบ Hybrid Slot ที่สามารถใส่ microSD ได้สูงสุด 256 GB
ตัวเครื่องด้านล่างจะมีลำโพงขับเสียง พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB ไมค์รับเสียงสนทนา และพอร์ตเชื่อมต่อ 3.5 มม.
Software
ในส่วนของซอฟต์แวร์ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 พร้อมกับ Funtouch OS 4.5 พร้อมใช้ชิปประมวลผลระดับกลาง ๆ อย่าง Snapdragon 660 AIE ที่มีประสิทธิภาพบวกกับแรมขนาด 6 GB พร้อมกับ AI ที่อยู่ในชิปประมวลผล ทำให้การใช้งานลื่นไหลสุด ๆ แม้กระทั่งการเล่นเกมที่กินกราฟิกสูง ๆ ในปัจจุบันก็หายห่วง เพราะชิป CPU Snapdragon 660 AIE มีชิปประมวลผลกราฟฟิก Adreno 512 ที่เล่นเกมได้ทุกเกมในปัจจุบัน ส่วนหน้า UI จะทำออกมาได้สวยงาม ดูแจ้งเตือนเลื่อนขึ้นบนลงล่าง เข้าหน้าลัดการตั้งค่าเลื่อนจากล่างขึ้นบน
Feature
Vivo V11 เป็นรุ่นแรกในซีรี่ส์ V ที่มาพร้อมกับเทคโนโนโลยี In-Display Fingerprint Scanning ไม่ต้องอาศัยช่องสแกนนิ้วเพื่อให้ดีไซน์เรียบสนิท ไร้รอยต่อ ทำให้มีหน้าจอขนาดใหญ่โดยไม่ลดมาตรฐานความปลอดภัย และยังมีเทคโนโลยี Face Access สแกนหน้าที่ใช้อินฟราเรด ที่สามารถสแกนจุดต่าง ๆ บนหน้าได้ถึง 1,024 จุดเพื่อให้ปลดล็อคด้วยใบหน้าได้ แม้ในที่มืด
<span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span>
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เด็ด ๆ ก็คือระบบชาร์จ Dual-Engine Fast Charging ที่รองรับชาร์จไวกำลังขับ 18W ที่สามารถชาร์จจาก 0 % ถึง 45 % ภายในสามสิบนาที จากที่เราลองชาร์จดูแล้ว ถือว่าเร็วตามที่ Vivo ได้เคลมไว้
Camera
Vivo V11 มากลับกล้องหลัง Dual Camera ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสุด f/1.8 ซึ่งเลนส์ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลใช้เป็นเซ็นเซอร์ Dual Pixel ทำให้รองรับจุดรับภาพสูงสุดที่ 24 ล้านจุด และมีเทคโนโลยี Dual Pixel Autofocus ระดับกล้อง DSLR ที่สามารถปลดล็อคได้ภายในเวลา 0.03 วินาที
ในส่วนของ AI ในกล้องนั้น ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม โดยมาพร้อมกับ AI Scene Recognition ที่สามารถแยกชนิดของภาพได้ และปรับภาพให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ดูสวยงามโดดเด่น และยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพบุคคล AI Blacklight HDR และ AI Low Light Mode เอาไว้ถ่ายรูปกันสวย ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Vivo V11
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Vivo V11
Performance
Vivo V11 มากับชิปประมวลผล Snapdragon 660 AIE CPU Octa-core (4×2.2 GHz Kryo 260 & 4×1.8 GHz Kryo 260) พร้อมกับชิปประมวลผลกราฟิก Adreno 512 ที่ถือว่าให้ชิปมาอย่างเหมาะสม จากการทดสอบใช้งานทั่วไปนั้น ใช้งานได้แบบไหลลื่น รองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างเต็มที่ หรือจะนำไปเล่นเกมก็ไม่มีปัญหา จากที่ทดสอบกับเกม ROV วิ่งมากกว่า 55 fps อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น เรื่องชิปประมวลผลหายห่วง เพราะชิป Snapdragon 660 AIE เป็นแค่ตัวรองท็อปของซีรี่ส์ 800 เท่านั้น ทำให้ประสิทธิภาพไม่ต่างกันมาก จะเห็นผลต่างแค่เกมที่ประมวลผลกราฟิกหนัก ๆ เท่านั้น อย่างภาพวิดีโอด้านล่างที่ทดสอบเล่นเกมใหม่ ที่กินสเปคแบบสุด ๆ ในตอนนี้นั่นก็คือเกม Survival Hero ลองปรับสเปคเต็มเหนี่ยมเฟรมเรตวิ่งได้สบาย ๆ ประมาณสามสิบ ซึ่งถือว่าเล่นเกมหนัก ๆ ยังไหวอยู่
<span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span>