Sony เป็นแบรนด์มือถือที่ต้องยอมรับเรื่องการออกแบบตัวเครื่อง เรียกได้ว่าตัวเครื่องโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และดูแปลกไปจากมือถือรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด ทำให้การออกแบบรวมถึงวัสดุเป็นจุดแข็งของทาง Sony ไปเลยก็ว่าได้ รองลงมาถ้าพูดถึงมือถือ Sony ก็คงเป็นเรื่องของการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม?และหมดโคตรของความประหยัดแบตเตอรี่อย่าง Stamina Mode รวมถึงจุดเด่นเรื่องกล้องถ่ายรูปที่อัดแน่นและจัดเต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย แน่นอนครับว่าทุกสิ่งที่ผมได้เกริ่นไปนั้นมีอยู่ในมือถือเครื่องนี้ Sony Xperia T3 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับขอบโลหะ กับความบางเฉียบเพียง 7 มิลลิเมตร และสเปคที่ใช้งาน ณ ตอนนี้ได้สบายๆ
สเปค Sony Xperia T3 (D5103)
- ชิปประมวลผล Snapdragon 400?(MSM8928) Quad-core ความเร็ว 1.4 GHz
- แรม?1 GB
- รอมในตัว 8?GB รองรับ MicroSD สูงสุด 32?GB
- หน้าจอ IPS?Triluminos display?ขนาด 5.3?นิ้ว ความละเอียดระดับ HD พร้อม Bravia Engine 2
- มาพร้อม Android 4.4 KitKat
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล?เซนเซอร์?Exmor RS พร้อม Auto Focus
- กล้องหน้าความละเอียด 1.1?ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน 3G ความถี่ 900/2100 MHz
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- แบตเตอรี่?Li-ion?ความจุ 2,500 mAh??
- น้ำหนัก 148 กรัม บางเพียง 7 มิลลิเมตร
- รองรับ NFC
- สเปค?Sony Xperia T3?เต็มๆ
- ราคา 13,990 บาท
Design
เรื่องของการออกแบบใน Sony Xperia T3 นั้นเป็นจุดเด่นที่ทาง Sony ให้ความสำคัญตั้งแต่ Sony Xperia T3 ยังไม่เปิดตัวซะด้วยซ้ำ จากภาพหลุดภาพแรกที่สื่อถึงขอบโลหะและความบางเป็นพิเศษ
ด้านหน้าของ Sony Xperia T3 ประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ด้านบนหน้าจอจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 1.1 ล้านพิกเซล, โลโก้ Sony เซนเซอร์วัดแสงสว่าง, ลำโพงสำหรับใช้สนทนาโทรศัพท์ และไฟแจ้งเตือน LED อยู่บริเวณลำโพงสำหรับสนทนา ส่วนด้านล่างของหน้าจอจะเป็นพื้นที่โล่ง เพราะปุ่มกดทั้ง 3 ปุ่มเรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App จะอยู่บนหน้าจอ (ปุ่มกดแบบ Soft Key) โดยพื้นที่ส่วนเหนือหน้าจอ กับส่วนล่างของหน้าจอจะมีขนาดเท่ากันเป๊ะ ตามสไตล์ของมือถือ Sony แต่ Sony Xperia T3 ไม่ได้ออกแบบโดยใช้ปรัชญา Omnibalance เหมือนอย่างรุ่นก่อนๆ นะครับ แสดงว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นดีไซน์ของมือถือ Sony ที่แปลกไปจากรุ่นเมื่อตอนต้นปีพอสมควร
ด้านข้างของ Sony Xperia T3 จะเป็นจุดเด่นที่สุดในเรื่องการดีไซน์ก็ว่าได้ครับ เพราะใช้วัสดุเป็นโลหะเงาวับ โดดเด่นมาแต่ไกลเลยทีเดียว และที่สำคัญคืออย่างที่ได้บอกไว้เรื่องของความบาง ขอบเครื่องของ Sony Xperia T3 นั้นบางเฉียบเพียง 7 มิลลิเมตร แต่ตัวเครื่องจริงๆ จะมีความหนากว่านั้นเล็กน้อย เนื่องจากบริเวณฝาหลังของ Sony Xperia T3 จะนูนเป็นหลังเต่า ช่วยให้จับตัวเครื่องได้ถนัดมือยิ่งขึ้น ส่วนรายละเอียดด้านข้างของ Sony Xperia T3 เริ่มจากทางด้านขวามือ (หันหน้าจอเข้าหาตัว) จะเป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Micro Sim, ช่องใส่ MicroSD Card รวมถึงปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มชัตเตอร์ ด้านขวาของ Sony Xperia T3 จะมีเพียงช่องเสียบสาย USB เท่านั้น ขอบเครื่องทางด้านบนจะเป็นช่องเสียบหูฟังที่รองรับแจ๊คหูฟังแบบมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างจะเป็นไมค์ตัวหลักที่ใช้ในการสนทนาโทรศัพท์ กับช่องไว้สำหรับร้อยสายคล้องคอ
ขอบโลหะเงาวับ เผลอๆ จะสวยว่า Sony Xperia Z2 อีกนะเนี่ย
มาถึงด้านหลังของ Sony Xperia T3 กันบ้าง สำหรับวัสดุฝาหลังของ Sony Xperia T3 จะใช้เป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสแบบ Soft Touch (เหมือนฝาหลังของ Sony Xperia Z2 Tablet) เวลาสัมผัสจะให้ความรู้สึกที่สบายมือกว่าพลาสติกปกติ หรือพวกพื้นผิวมัน แต่ก็ต้องแลกมากับการเก็บริ้วรอย รวมถึงรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี (เกินไป) และแถมด้วยการทำความสะอาดที่ยากพอสมควร ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดก็ไม่ค่อยออกอีกต่างหาก
รายละเอียดบริเวณด้านหลังของ Sony Xperia T3 จะประกอบไปด้วยโลโก้ Sony ตรงกลาง ด้านบนจะเป็นกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS พร้อมแฟลช LED 1 ดวง และไมค์สำหรับตัดเสียงรบกวนเวลาใช้งานโทรศัพท์ และใช้สำหรับตอนอัดวีดีโอ ส่วนลำโพงหลักของตัวเครื่องจะอยู่ทางมุมซ้ายล่างของบริเวณฝาหลัง โดยลำโพงหลักของ Sony Xperia T3 จะมาพร้อมเทคโนโลยี xLOUD จาก Sony ที่ช่วยเพิ่มพลังเสียงของลำโพงให้ดังขึ้นกว่าปกติ แต่ไม่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี S-Force Front Master เหมือนอย่าง Sony Xperia Z2 แต่แค่ xLOUD ก็ถือว่าเอาอยู่แล้วครับ
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของมือถือหลายๆ รุ่น และเป็นส่วนที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งก็คือหน้าจอนั่นเอง ว่ากันว่ามือถือต่อให้สเปคแรงแค่ไหน แต่ถ้าหน้าจอทำออกมาไม่สวยก็ดับสนิท และก็เช่นเดียวกัน มือถือบางรุ่นต่อให้มีสเปคธรรมดาๆ แต่ถ้าหน้าจอสวย คมชัด ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง สำหรับหน้าจอของ Sony Xperia T3 เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก หลังจากที่ Sony ได้เริ่มใช้หน้าจอแบบ IPS กับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง (ซักที) เพราะลำพังเทคโนโลยีหน้าจอในมือถือ Sony ก็ถือว่ามีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าแบรนด์อื่น อย่างเช่น Bravia Engine ไล่มาจนถึง X-Reality for Mobile แต่กลับมีปัญหาเดียวคือแต่ก่อน Sony จะใช้หน้าจอแบบ TFT เท่านั้น ต่อให้เป็นหน้าจอ TFT คุณภาพสูง แต่ถ้าพูดกันตรงๆ มันก็ยังสู้ความสด และมุมมองภาพของหน้าจอแบบ IPS ไม่ได้อยู่ดี
แน่นอนว่า Sony Xperia T3 ได้ใช้หน้าจอ Triluminos HD แบบ IPS ขนาด 5.3 นิ้ว ขนาดกำลังพอเหมาะสำหรับการใช้งานด้านมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะดูหนัง, เล่นอินเทอร์เน็ต, อ่านเว็บไซต์ หรือแม้แต่เล่นเกมก็ทำได้อย่างสบายๆ หน้าจอคมชัด ด้วยความละเอียดระดับ HD 277 ppi สีสันของหน้าจอจะออกแนวสีธรรมชาติ ให้ความสมจริง เพราะหน้าจอ Triluminos ของ Sony?ให้ช่วงสีที่กว้างกว่าหน้าจอทั่วไปมาก เปรียบเหมือนกับเวลาที่เราระบายสีด้วยสีไม้ 24 สี ย่อมแสดงความแตกต่างของเฉดสีได้มากกว่าในหน้าจอทั่วไปจะเป็นเหมือนสีไม้ 12 สีนั่นแหละครับ แต่สีสันที่ให้ก็ไม่ได้สดมากจนเกินไป ทำให้ใช้งานนานๆ ไม่เกิดอาการล้าเหมือนพวกมือถือหน้าจอสีสดๆ ถ้าใครชินกับหน้าจอสีสด หรือเคยใช้มือถือ Samsung บางรุ่นที่ใช้จอ AMOLED มาก่อนอาจจะรู้สึกว่าสีจอของ Sony Xperia T3 ออกแนวซีดไปเลย
ถึงแม้การใช้งานทั่วไป สีสันหน้าจอโทนสีธรรมชาติของ Sony Xperia T3 จะซีดกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องของความบันเทิงนั้น ขอบอกว่าหน้าจอ Sony Xperia T3 ไม่น้อยหน้าใครนะครับ ด้วยเทคโนโลยี Bravia Engine 2 ที่จะทำให้การแสดงผลมีคุณภาพเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มมิติ, ความคมชัด, และสีสันของภาพถ่ายกับไฟล์วีดีโอให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
หากพูดถึงความเป็นสมาร์ทโฟนของ Sony Xperia T3 อาจจะไม่ได้หมายความว่ามันเป็นมือถือที่มีลูกเล่นหวือหวา หรือสเปคแรงแบบสุดๆ แต่ความสมาร์ทของ Sony Xperia T3 น่าจะหมายถึงดีไซน์อันโดดเด่นกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นขอบโลหะเงาวับ, ความบางของตัวเครื่องเพียง 7 มิลลิเมตร งานประกอบก็ยังแน่นหนา และแข็งแรง ส่วนการจับถือตัวเครื่องก็ให้ความรู้สึกมั่นคง ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมารองรับกับอุ้งมือผู้ใช้ได้อย่างพอดี และท้ายที่สุดคือการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทาง Sony แบบชนิดที่ว่าเห็นปุ๊บ รู้เลยว่าเป็นมือถือค่ายอารยธรรม หยิบมาใช้ไม่อายใครแน่นอน
Software
Sony Xperia T3 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 Kitkat ที่มีการปรับปรุง UI ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น (อย่างน้อยที่สุด ตัวคีย์บอร์ดที่ติดมากับรอมก็พิมพ์ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับชาวบ้านเขา) ตัวอินเทอร์เฟสออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือผู้ใช้ระดับโปร หน้าตาของไอคอนออกแนวเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความหรูหราตามสไตล์ค่ายอารยธรรม (เอาจริงๆ Sony ยังไม่ได้เปลี่ยนหน้าตาไอคอนตั้งแต่ Sony Xperia Z เลย) แอพพลิเคชันติดรอมไม่ได้ยัดอะไรมาให้มากมาย พื้นที่หน่วยความจำในตัวเครื่องมีเหลือให้ใช้มากพอสมควร
ตามสไตล์ของมือถือ Sony ที่จะมีการใส่เทคโนโลยีของตัวเองแบบ for Mobile ลงไปในมือถือด้วย อย่างหน้าจอก็จะมี Bravia Engine 2 ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพในการแสดงผลภาพถ่ายและวีดีโอ และแน่นอนว่าแอพพลิเคชันเครื่องเล่นเพลงบน Sony Xperia T3 จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Walkman อันเลื่องชื่อของ Sony โดยแอพพลิเคชัน Walkman บน Sony Xperia T3 เป็นเวอร์ชันใหม่เรียบร้อยแล้ว (แต่หน้าตาก็ไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนๆ เท่าไหร่) สามารถปรับเเต่งเสียงได้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น?Equalizer, การปรับเบสด้วย Clear Bass ส่วนโหมด Clear Audio+ ใน Sony Xperia T3 ส่วนตัวผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่บนมือถือ Sony รุ่นอื่นมันมักจะทำออกมาได้ดี แต่ใน Sony Xperia T3 พอเปิด Clear Audio+ เสียงทุกย่านยกเว้นเสียงกลางจะถูกเพิ่มขึ้นมา 1 สเต็ป?ส่วนเสียงกลางจะถอยลงไป 1 สเต็ป และที่สำคัญคือมันทำให้การแยกชิ้นดนตรีดูแย่ลงพอสมควร การตั้งค่าที่แนะนำคือให้ลองปรับ EQ เอาจะดีกว่า
ในส่วนของการจัดการพลังงาน Sony Xperia T3 ให้แบตเตอรี่มาเยอะพอสมควรที่ 2500 mAh รวมถึงการจัดการพลังงานก็ทำได้ดีซะด้วย แถมยังมีโหมดประหยัดพลังงานอันเลื่องชื่ออย่าง Stamina Mode โดยหลักการทำงานของ Stamina Mode ค่อนข้างจะเบสิกเลยครับ คือเมื่อเราเปิด Stamina Mode เวลาที่ปิดหน้าจอ แอพทั้งหมดก็จะถูกปิดการทำงานในเบื้องหลังทันที ส่งผลให้การทำงานทุกอย่างถูกตัด จึงประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น แต่เราสามารถกำหนดได้นะครับว่าจะให้แอพอะไรรันได้บ้างตอนที่เปิด Stamina Mode อยู่ เอาจริงๆ ผมว่าช่วงหลังมานี่มือถือ Sony จะมีจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่อึดด้วยกันทั้งนั้น
จริงอยู่ที่ Sony Xperia T3 ไม่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชัน 2 แอพพร้อมกันได้เหมือนกับมือถือรุ่นอื่น ทั้งที่มันก็มีหน้าจอใหญ่พอที่จะเปิด 2 แอพพลิเคชันพร้อมกัน แต่ก็มีสิ่งที่มาทดแทนในส่วนตรงนี้อย่าง?Small App ที่จะเป็นการเรียกแอพพลิเคชันขนาดเล็กขึ้นมาในลักษณะที่ลอยอยู่บนหน้าจอ วิธีการเรียกใช้เพียงแค่กดปุ่ม Recent App ก็จะเห็นว่ามี Small App อยู่ทางด้านล่าง นอกจากจะมี Small App ติดมากับตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถเข้าไปดาวโหลดเพิ่มได้ใน Play Store อีกต่างหาก สำหรับ Small App น่าสนใจที่เรียกใช้บ่อยๆ ก็ได้แก่ Flashlight, Calculator และ Mirror เป็นต้น ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้ดีฟีเจอร์หนึ่ง ใช้แทนพวกแบ่งหน้าจอได้เลยครับ เผลอๆ จะใช้งานสะดวกกว่าด้วยซ้ำ
สำหรับภาพรวมในส่วน Software ของ Sony Xperia T3 ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของรอม Sony ครับ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นกว่าเดิมเท่าไหร่ ยังคงใช้งานง่าย มีความเสถียร และปรับแต่งรอมได้ดี ส่งผลให้การจัดการพลังงานก็ดีตามไปด้วย แต่ถ้าถามว่าพอใจหรือไม่กับซอฟแวร์ ส่วนตัวผมมองว่า Sony น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ กับมือถือราคา 13,990 บาท แต่เท่าที่ลองเล่นดูผมว่าความสามารถของรอมไม่ได้มีความแตกต่างจาก Sony Xperia M2 ที่ราคาไม่ถึงหมื่นเลยครับ
Camera
Sony Xperia T3 มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ภาพ Exmor RS?ที่เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีเซนเซอร์ภาพจาก Sony พร้อมเซนเซอร์แสง BSI รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยการรับเอาเทคโนโลยีแสง สีและการลดจุดสีรบกวนมาใช้ ช่วยให้การถ่ายรูปในสภาวะแสงไม่เพียงพอทำได้ดียิ่งขึ้น การถ่ายรูปด้วยกล้องหลังของ Sony Xperia T3 ทำได้ไม่ยากครับ เพราะโหมดอัตโนมัติอย่าง Superior Auto ค่อนข้างฉลาดพอสมควร โดยโหมดอัตโนมัติบน Sony Xperia T3 สามารถจดจำฉากต่างๆ ได้มากถึง 36 รูปแบบ และเลือกโหมดที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการถ่ายภาพนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโหมดแสงน้อย, Sports, Macro รวมถึงการเปิด HDR แบบอัตโนมัติในการถ่ายรูปย้อนแสงด้วยนะครับ ว่าแล้วก็ขอพูดถึง HDR ของ Sony Xperia T3 สักเล็กน้อย ข้อด้อยแบบชัดเจนของ HDR บน Sony Xperia T3 คือมันไม่ใช่แบบ Real-Time HDR ที่จะแสดงผลผ่านเลนส์กล้อง คาดว่าจะใช้ตัวซอฟท์แวร์ในการประมวลผลรูปภาพตอนกดชัตเตอร์ถ่ายไปแล้วมากกว่า
สำหรับโหมดถ่ายรูปอื่นๆ นอกจาก Superior Auto ก็จะมีโหมดที่น่าสนใจดังนี้
- Manual – โหมดนี้จะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ของตัวกล้องได้อย่างอิสระ
- Timeshift burst – เมื่อใช้งานโหมดดังกล่าว จะสามารถจับภาพได้ไวถึง 31 เฟรมภายใน 2 วินาที ช่วยให้ไม่พลาดช็อตสำคัญ?(แต่ต้องมานั่งเลือกรูปที่ดีที่สุดเอาเองนะ)
- AR effect – เป็นโหมดที่ต้องอาศัยจินตนาการพอสมควร เพราะจะเป็นการถ่ายรูปพร้อมเอฟเฟคแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์, ท้องทะเล, โจรสลัด เป็นต้น และยังสามารถดาวโหลดเอฟเฟคอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย
- Portrait retouch – อันที่จริงถ้าเทียบกับมือถือรุ่นอื่น โหมดนี้ก็คือโหมดหน้าสวยนั่นแหละครับ แต่ของ Sony จะพิเศษกว่าตรงที่เลือกได้ว่าอยากสวยแนวไหน เช่น สาวออฟฟิศ, สาวแบ๊ว, สวยแบบธรรมชาติ เป็นต้น
คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหลังของ Sony Xperia T3 ถือว่าโอเคเลยในสภาวะแสงเพียงพอ จะติดปัญหาเวลาที่เจอสีเขียวจัดๆ มันจะถ่ายออกมาได้ซีดกว่าความเป็นจริง ส่วนสีอื่นๆ ก็ถือว่าโอเคครับ ส่วนการถ่ายรูปในสภาวะแสงไม่เพียงพออย่างตอนกลางคืน คุณภาพของรูปถ่ายก็จะดรอปลง แต่ข้อเสียหลักๆ ตอนถ่ายรูปกลางคืนด้วย Sony Xperia T3 คือมันชดเชยแสงได้แย่มากครับ ทำให้มีข้อจำกัดในการถ่ายรูปตอนกลางคืนพอสมควร (ต้องเลี่ยงที่ๆ มืดเกินไป หรือมีแสงไฟจัดๆ)
กล้องหน้าของ Sony Xperia T3 เป็นอะไรที่ค่อนข้างผิดหวังพอสมควร เพราะมันจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อมีแสงเพียงพอ (คำว่าเพียงพอนี่คือกลางแจ้งนะครับ) ถ้าเป็นการถ่ายรูปในอาคารก็ถือว่าสอบตกแล้ว ภาพที่ถ่ายออกมาจะอุดมไปด้วย Noise ทำให้การถ่ายรูปโดยใช้กล้องหน้าตอนกลางคืนนั้นเลิกคิดไปได้เลย เสียดายก็ตรงที่ว่า Sony Xperia T3 มีโหมดที่รองรับการถ่ายเซลฟี่เจ๋งๆ อย่าง?Portrait retouch แต่ตัวฮาร์ดแวร์กล้องเองดันเป็นข้อจำกัดซะอย่างนั้น
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Sony Xperia T3 สามารถรับชมได้จาก Gallery เลยครับ
Performance
ประสิทธิภาพของ Sony Xperia T3 จัดอยู่ในมือถือระดับกลางๆ ใช้งานทั่วไปได้สบาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเป็นโทรศัพท์, เล่นอินเทอร์เน็ต 4G, เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไปจนถึงการเล่นเกม ด้วยขุมพลัง Quad-Core Snapdragon 400 ความเร็ว 1.4 GHz แต่มันติดอยู่นิดเดียวตรงที่ Sony Xperia T3 กลับให้แรมมาเพียง 1 GB เท่านั้น ทำให้เป็นข้อจำกัดที่ทำให้ Sony Xperia T3 รีดประสิทธิภาพของตัว CPU ออกมาได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร อย่างการไม่เปิดแอพพลิเคชันอะไรเลยจะเหลือแรมให้ใช้ประมาณ 250 MB เท่านั้น ทำให้ต้องคอยเคลียร์แรมบ้าง?ถ้าเปิดใช้งานหลายแอพพร้อมกัน ยังดีที่ Sony Xperia T3 มาพร้อมกับ Android 4.4 Kitkat ทำให้การจัดการทรัพยากรภายในเครื่องออกมาดีกว่ารุ่นก่อนๆ ต้องบอกว่า Sony สามารถรีดพลังของชิปเซ็ต Snapdragon 400 ความเร็ว 1.4 GHz กับ Ram 1 GB ออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับ ถ้าให้แรมมาซัก 2 GB จะเป็นอะไรที่เด็ดมากๆ เลย
ทีเด็ดของ Sony Xperia T3?จะอยู่ที่การจัดการพลังงาน สำหรับใครที่ชอบมือถือแบตอึด Sony Xperia T3 ตอบโจทย์ตรงนี้มากเลยทีเดียว ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 2500 mAh รวมถึงการจัดการพลังงานของรอมที่ทำได้ดีมาก แบตเตอรี่สามารถใช้งานข้ามวันได้สบายๆ ต่อให้เปิดการเชื่อมต่อ 4G LTE ก็ตาม และยังไม่นับโหมดสุดยอดของการประหยัดพลังงานอย่าง Stamina Mode ที่เมื่อเปิดใช้งานจะยืดอายุการใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้นไปอีกระดับ
Overall
Sony Xperia T3 เป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่ออกแบบมาได้ค่อนข้างสมดุล ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่สวย โดดเด่นด้วยขอบเครื่องโลหะบางเพียง 7 มิลลิเมตร สเปคก็อยู่ในระดับกลางๆ เพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี รอมติดเครื่องทำออกมาได้เสถียร ไม่ค่อยเจอปัญหาเครื่องค้าง การรองรับแอพพลิเคชันของแอนดรอยก็ค่อนข้างครอบคลุม ที่สำคัญคือทีเด็ดเรื่องแบตเตอรี่นี่แหละครับ ใช้ Sony Xperia T3 นี่แทบจะลืมไปเลยว่า Powerbank ใช้งานกันอย่างไร เอาเป็นว่าถ้าใครต้องการมือถือที่เน้นเรื่องดีไซน์สวยงาม ไม่เน้นสเปคแรงปรู๊ดปร๊าด แต่ก็ต้องการความเสถียร Sony Xperia T3 ตอบโจทย์ทั้งหมดที่ว่ามาครับ
ข้อดี
- หน้าจอ IPS 5.3 นิ้วคมชัด และให้สีที่ค่อนข้างสมจริง สีไม่ฉูดฉาดจนเกินไป
- ตัวเครื่องออกแบบมาได้สวยงาม การจับถือทำได้สะดวก
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- แบตเตอรี่อึด รวมถึง Stamina Mode ยังคงไว้ใจได้
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบามากสำหรับมือถือหน้าจอ 5.3 นิ้วและแบตเตอรี่ 2500 mAh
ข้อสังเกต
- แรมให้มาแค่ 1 GB
- กล้องหน้ายังทำได้ไม่ดีนัก ข้อจำกัดเยอะ
- ฝาหลังแบบ Soft Touch เก็บรอยนิ้วมือง่ายเกินไป และทำความสะอาดยาก
- ช่วงราคาแบบนี้ คู่แข่งที่ให้สเปคแรงกว่ามีเพียบ
Compare
มาถึงส่วนสุดท้ายในการรีวิว Sony Xperia T3 กันแล้วนะครับ ก็คือการเปรียบเทียบ Sony Xperia T3 กับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกับ Sony Xperia T3 จำนวน 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
สำหรับกลุ่มที่รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ได้แก่ Sony Xperia T3 กับ HTC Desire 816 โดย HTC Desire 816 จะได้เปรียบกว่า Sony Xperia T3 ตรงราคาที่ถูกกว่า สเปคโดยรวมแรงกว่า แต่ Sony Xperia T3 จะได้เปรียบเรื่องการพกพา มิติของตัวเครื่องที่เล็กกว่า ทำให้พกพาได้สะดวกกว่า ส่วนใครที่ไม่สนใจการเชื่อมต่อ 4G LTE ก็จะมีตัวเลือกเพิ่มมาเป็น Vivo X3S, Oppo N1 Mini และ Huawei Ascend P7 ซึ่งทั้ง 3 รุ่นก็จะมีสเปคดีกว่า Sony Xperia T3 อย่างชัดเจน และมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้
- Oppo N1 Mini โดดเด่นที่กล้องหมุนได้ 195 องศา แรมให้มาถึง 2 GB รวมถึงลูกเล่นแปลกๆ จะมีให้เลือกใช้เยอะมากกว่า เพราะรอม ColorOS โดดเด่นเรื่องฟีเจอร์อยู่แล้ว
- Vivo X3S ถ้าบอกว่า Sony Xperia T3 บางแล้ว Vivo X3S บางยิ่งกว่าที่ 5.95 มิลลิเมตร วัสดุตัวเครื่องโดยรวมก็ดูดีกว่าเพราะเป็นโลหะ ส่วนลูกเล่นก็มีให้ไม่แพ้ Oppo N1 Mini เลยครับ สำหรับรอม Funtouch OS ของ Vivo X3S
- Huawei Ascend P7 ถึงแม้จะมีราคาแพงที่สุดในบรรดา 5 รุ่น แต่ก็ถือว่าจัดเต็มที่สุดครับ ไม่ว่าจะเป็นสเปคในส่วนของ CPU, Ram รวมถึงกล้อง, น้ำหนักและมิติตัวเครื่องครับ