เดี๋ยวนี้การเชื่อมต่อความเร็วสูงอย่าง 4G LTE เริ่มแพร่หลายในประเทศไทยแล้วนะครับ จากที่ตอนแรกมีเพียง Truemove H เท่านั้นที่มี 4G ให้ได้ใช้ มาตอนนี้ DTAC ก็เริ่มให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 4G ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในกันไปบ้างแล้ว ถึงแม้จะไม่สามารถใช้งานได้ทั่วประเทศ แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่ายังไงชาตินี้เราก็ได้ใช้งานกันแน่นอนครับสำหรับ 4G LTE ในประเทศไทย ซึ่งการที่เราจะสัมผัสประสบการณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือ 4G เนี่ย มือถือของเราจำเป็นที่จะต้องรองรับการใช้งาน 4G ด้วยถูกต้องไหมครับ?
มาถึงตรงนี้หลายท่านคงจะส่ายหัว เพราะบรรดามือถือที่รองรับการใช้งาน 4G ในประเทศไทย (4G บ้านเราใช้คลื่น 2100 ครับ แต่ปกติทั่วไป 4G LTE จะเป็นคลื่น 1800) ปกติแล้วจะมีราคาแพงในขั้นหลักหมื่นขึ้นไปจนถึงรุ่นเรือธงที่มีราคาแตะสองหมื่นอัพ แต่ไม่ใช่สำหรับ Sony ครับ เพราะเจ้า Sony Xperia M2 ที่จะมารีวิวให้ชมกันนี้ เป็นมือถือที่รองรับการใช้งาน 4G LTE ความถี่ในประเทศไทย แต่มีราคาไม่ถึง 10,000 บาท ใช่แล้วครับ คุณไม่ได้ตาฝาด Sony Xperia M2 รุ่นรองรับการใช้งาน 4G มีราคาอยู่ที่ 9,490 บาทเท่านั้นเอง ก่อนที่จะทำการรีวิว Sony Xperia M2 เรามาทำความรู้จักกับสเปคของมือถือรุ่นนี้กันก่อนดีกว่าครับ
สเปค Sony Xperia M2
- ชิปประมวลผล Snapdragon 400?(MSM8226) Quad-core ความเร็ว 1.2 GHz
- แรม?1 GB
- รอมในตัว 8?GB รองรับ MicroSD สูงสุด 32?GB
- หน้าจอ TFT ขนาด 4.8 นิ้ว ความละเอียด 960 x 540 พิกเซล (qHD)
- Android 4.3?Jellybean (รองรับการอัพเดตเป็น Android 4.4 KitKat ในเดือนกรกฎาคม)
- กล้องหลังความละเอียด 8?ล้านพิกเซล?เซนเซอร์?Exmor RS พร้อม Auto Focus และแฟลช
- กล้องหน้าความละเอียด?VGA
- มีรุ่นรองรับ 4G LTE (Sony Xperia M2) และรุ่นรองรับการใช้งาน 2 ซิม (Sony Xperia M2?Dual),
- แบตเตอรี่?Li-ion?ความจุ 2,330 mAh??
- น้ำหนัก 148 กรัม
- รองรับ NFC
- สเปค?Sony Xperia M2 เต็มๆ
- ราคา 9,490?บาท
มีสิ่งหนึ่งที่ต้องบอกก่อนที่จะเริ่มรีวิว Sony Xperia M2 คือเครื่อง Sony Xperia M2 โมเดลที่เราได้รับมาใช้รีวิวจากโซนี่ประเทศไทยเป็น Sony Xperia M2 โมเดล D2305 ซึ่งไม่วางขายในประเทศไทยครับ ในประเทศไทยจะวางขาย Sony Xperia M2 เพียง 2 โมเดลคือ Sony Xperia M2 D2302 ?(Sony Xperia M2 Dual Sim หรีอรุ่น 2 ซิม ราคา 9,900 บาท) กับ Sony Xperia M2 D2303 (รุ่นที่รองรับการใช้งาน 4G คลื่น 2100) แต่สเปคข้างในเหมือนกันครับไม่ว่าจะเป็นโมเดลไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นรีวิว Sony Xperia M2 ของเราใช้อ้างอิงกับเครื่องขายจริงในประเทศไทยได้สบายๆ ต่างกันที่เครื่องรีวิว Sony Xperia M2 ของเราจะไม่รองรับการใช้งาน 4G LTE เท่านั้นเองครับ แต่ถ้าซื้อ Sony Xperia M2 เครื่องศูนย์ไทยมายังไงก็สามารถใช้งาน 4G LTE ได้แน่นอน
เริ่มที่การแกะกล่องกันก่อน สำหรับกล่องของ Sony Xperia M2 จะมีลักษณะเหมือนกับกล่องของ Sony Xperia T2 Ultra คือเป็นกล่องกระดาษที่เปิดจากด้านหลัง สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาก็ได้แก่ตัวเครื่อง Sony Xperia M2, สาย USB, อแดปเตอร์, หูฟัง และคู่มือการใช้งานครับ สำหรับสีของ Sony Xperia M2 จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สีได้แก่ ขาว, ดำ และม่วง เช่นเดียวกับเรือธงอย่าง Sony Xperia Z2 โดยเครื่อง Sony Xperia M2 ที่เราได้รับมารีวิวนั้นจะเป็นเครื่องสีขาว ข้อดีของมันก็คือสามารถปกปิดรอยที่เกิดบนหลังเครื่องได้ดีกว่าเครื่องสีเข้มอย่างสีดำและสีม่วงครับ
Design
สำหรับดีไซน์ของ Sony Xperia M2 ต้องบอกว่าได้รับอิทธิพลมาจาก Sony Xperia Z2 พอสมควรเลยครับ จะยกให้เป็น Sony Xperia Z2 Mini ก็ยังได้ เพราะเหมือนกันยังกะพ่อกับลูก เพราะการออกแบบของ Sony Xperia M2 ก็ยังคงคอนเส็ปเดิมของมือถือ Sony ในช่วงหลังๆ มานี้อย่าง Omnibalance Design เห็นได้จากตัวเครื่องของ Sony Xperia M2 จะเป็นตัวเครื่องที่ค่อนข้างสมมาตร ไม่ว่าจะเป็นซ้าย – ขวา หรือหน้า – หลัง ก็ล้วนมีพื้นที่เท่าๆ กันทั้งหมดครับ ขอบเครื่องจะเป็นเหมือนกับ Sony Xperia Z2 เลยคือเป็นขอบเครื่องแบบชิ้นเดียว แล้วประกบชิ้นส่วนหน้าหลังลงไป โดยขอบเครื่องของ Sony Xperia Z2 จะใช้โลหะ แต่ใน?Sony Xperia M2 จะแตกต่างไปคือจะใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีการลงสีให้เหมือนโลหะ ปัญหาของมันคือใช้ไปนานๆ อาจจะเจอปัญหาขอบเครื่องสีลอกได้ครับ (ถือว่าตามราคาก็แล้วกันเนอะ)
ด้านหน้าของ Sony Xperia M2 จะประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล รุ่นนี้ยังคงใช้จอภาพแบบ TFT อยู่นะครับ ไม่ได้ใช้เป็นจอ IPS เหมือนรุ่นหลักหมื่น, โลโก้ Sony, ลำโพงสนทนา, กล้องหน้าความละเอียด VGA สำหรับใช้งานวีดีโอคอล, ไฟแจ้งเตือน LED และเซ็นเซอร์ปรับแสงสว่างอัตโนมัติ ส่วนปุ่มกดทั้ง 3 จะใช้เป็นปุ่มแบบ Soft Touch ที่อยู่บนหน้าจอครับ ด้านล่างจะมีไฟ LED ซ่อนอยู่ โดยเจ้าไฟ ?LED ด้านล่างนี่จะเปลี่ยนสีตาม Theme ที่เราเลือกในเครื่อง,?เปลี่ยนตามสีรูปภาพและโทนสีของอัลบัมเพลงได้ครับ (เหมือนอย่าง Sony Xperia U, Sony Xperia SP แต่ไฟดวงเล็กกว่า) ก็เป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่ทำให้เครื่อง Sony Xperia M2 ดูหรูหราและแตกต่างได้พอสมควรเลยครับ
มาดูที่ขอบเครื่องกันบ้าง อย่างที่ได้บอกไปครับว่าขอบเครื่องพลาสติกลงสีให้เหมือนโลหะของ Sony Xperia M2 อาจจะมีการลอกได้ถ้าใช้งานไปนานๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูและรักษาของผู้ใช้แหละครับ โดยการวางตำแหน่งของขอบข้างไล่จากทางด้านซ้ายก็จะเป็นช่องเสียบสาย USB ทางด้านบนเป็นช่องเสียบแจ็คหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านขวาจะค่อนข้างแออัดซักหน่อย เพราะมีทั้งช่องใส่ซิมและ Micro SD Card แบบมีฝาปิด, ปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพ โดยปุ่มของ Sony Xperia M2 กดง่ายกว่าใน Sony Xperia Z2 เยอะครับ
“ดีไซน์แบบนี้ ให้ตายเถอะ นี่มัน Sony Xperia Z2 Mini ชัดๆ”
ทางด้านล่างของขอบเครื่องจะเป็นลำโพงหลักของตัวเครื่อง ให้เสียงดังพอสมควรเลย แต่รายละเอียดของเสียงคงสู้ระดับมือถือเรือธงอย่าง Sony Xperia Z2 ไม่ได้ แต่ความดังนี่เมื่อเปิดใช้ xLOUD ก็ดังไม่แพ้กันเลยหล่ะ แต่ข้อเสียของลำโพงบริเวณด้านล่างของตัวเครื่องคือเวลาที่เราเล่นเกมที่แสดงภาพแนวนอน ตอนจับเครื่องเนี่ยมือเราจะไปบังช่องลำโพงเข้าครับ ทำให้เสียงออกได้ไม่เต็มที่
ส่วนฝาหลังของ Sony Xperia M2 ตอนเห็นเครื่องรีวิวครั้งแรกผมนึกว่าใช้เป็นกระจกเหมือนอย่าง Sony Xperia Z2 เสียอีกครับ แอบตกใจเบาๆ แต่ความจริงคือฝาหลังของ Sony Xperia M2 ใช้เป็นพลาสติกผิวมัน มองแบบไม่สังเกตนี่นึกว่าเป็นกระจกได้เลย แน่นอนว่าใช้พลาสติกผิวมันแบบนี้ เก็บรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนได้เพียบ เพราะฉะนั้นเวลาใช้งานก็ต้องคอยดูแลกันหน่อย อาจจะหาเคสมาใส่เพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ สำหรับรายละเอียดตำแหน่งต่างๆ บนฝาหลังของ Sony Xperia M2 ไล่จากบนลงล่างได้แก่ กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS พร้อมแฟลช LED, ไมค์ตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนและใช้ในการอัดวีดีโอ, โลโก้ NFC, โลโก้ Sony และโลโก้ Xperia
ฝาหลังของ Sony Xperia M2 ไม่สามารถถอดออกได้ เพราะฉะนั้นมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แน่นอน ส่วนเรื่องงานประกอบนี่บอกตรงๆ ว่าผมประทับใจงานประกอบของ Sony Xperia M2 มากกว่ารุ่นที่แพงกว่ามันอย่าง Sony Xperia T2 Ultra เพราะงานประกอบแน่นหนาดีจริงๆ เทียบชั้นเรือธงอย่าง Sony Xperia Z2 ได้สบายๆ เลย จะเรียกว่า Sony Xperia Z2 Mini ก็คงจะไม่ผิดนัก แต่เจ้า Sony Xperia M2 ไม่กันน้ำกันฝุ่นนะครับ อย่าเผลอจับจุ่มน้ำเข้าหล่ะ?มือถือ Sony ไม่ได้กันน้ำทุกรุ่นนะครับ
พูดถึงฮาร์ดแวร์ในส่วนของหน้าจอกันบ้าง สำหรับหน้าจอของ Sony Xperia M2 จะเป็นหน้าจอขนาด 4.8 นิ้วแบบ TFT ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล สิ่งแรกที่สะดุดสายตาผมมากตอนรีวิว Sony Xperia M2 คือจอออกสีโทนเหลืองแบบชัดเจน หรือที่เขาเรียกกันว่า “จอเหลือง” นั่นแหละครับ บางคนก็ว่าเป็นจอถนอมสายตา?นานาจิตตังครับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล และด้วยความที่เป็นรุ่นกลางค่อนไปทางด้านล่าง ทำให้ Sony Xperia M2 โดนตัดสเปคไปเยอะพอสมควร อย่างหน้าจอนอกจากจะเป็นจอ TFT แล้วยังไม่มีเทคโนโลยี Bravia Engine 2 หรือ X-Reality for Mobile เหมือนอย่างรุ่นสูงๆ ด้วย ส่วนเรื่องของความคมชัดก็อยู่ในระดับธรรมดา ใช้งานทั่วไปหากไม่ได้เพ่งหน้าจอก็จะรู้สึกว่าจอภาพไม่ได้หยาบอะไรมากมายนัก ส่วนหนึ่งเพราะว่าหน้าจอของ Sony Xperia M2 ไม่ได้มีขนาดใหญ่ด้วยแหละครับ ทำให้ความละเอียดเพียง qHD ก็เพียงพอแล้ว
ใส่จอความละเอียด HD มาก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกนะครับโซนี่
การถือใช้งาน Sony Xperia M2 ก็ทำได้สะดวกและคล่องตัวในระดับหนึ่งครับ ทุกอย่างควบคุมได้ด้วยมือข้างเดียว เพราะขนาดตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่โตอะไร ผมคิดว่ากำลังพอเหมาะมือด้วยซ้ำไป เพราะสามารถใช้นิ้วหัวแม่มือไล่ทัชไปได้ทุกพื้นที่บนหน้าจอของ Sony Xperia M2 เวลาใช้งานบนรถประจำทางแน่นๆ หรือโดยสารรถไฟฟ้าในช่วงเวลาเร่งด่วนนี่สบายมากครับ มือข้างนึงถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็จับราว ไม่ต้องเอาตัวพิงเสาให้โดนถ่ายประจานลงเฟซบุ๊คแน่นอน จะมีข้อตินิดหน่อยตรงที่น้ำหนักของตัวเครื่องนี่แหละ ตัวเครื่อง Sony Xperia M2 ค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควรเลยหล่ะครับ แต่มองอีกแง่หนึ่งก็ดูแข็งแรง สมบุกสมบัน จับแล้วเต็มมือดี ส่วนตัวผมมองว่า Sony Xperia M2 เป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่แพง แต่ได้การออกแบบเกินราคาค่าตัวไปเยอะเลย เป็นมือถือราคาไม่ถึงหมื่น ที่ตัวเครื่องสวยไม่แพ้มือถือเรือธง แถมงานประกอบยังแน่นหนาอีกต่างหาก หยิบมาใช้ไม่อายใครแน่นอนครับ
Software
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Sony Xperia M2?จะใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.3 Jellybean ที่จะได้รับการอัพเดตเป็น Android 4.4 Kitkat ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ตามตารางการอัพเดตแอนดรอยเวอร์ชัน 4.4 จากหน้าเว็บของ Sony Mobile ครับ และตามสไตล์ของมือถือ Sony แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการของมันย่อมถูกครอบมาด้วย Xperia Home Launcher แต่ก็ถือว่า Sony ออกแบบ Launcher มาดีครับ เพราะเวลาที่ใช้งานจริงก็ค่อนข้างลื่นไหลดีทีเดียว อาจจะมีการหน่วงให้เห็นบ้างเล็กน้อย ตรงนี้น่าจะเป็นปัญหาจากสเปคของตัวเครื่องที่ไม่ได้แรงอะไรมากมายนัก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปอย่างการใช้งานเป็นโทรศัพท์, เล่นอินเทอร์เน็ต, โซเชียลเน็ตเวิร์ก และเล่นเกมเบาๆ มากกว่าที่จะใช้งานโหดๆ เล่นเกมที่กินสเปคเครื่องครับ
ส่วนข้อด้อยแบบชัดเจนสำหรับตัวซอฟแวร์ของ Sony ใน Android ที่ไม่ใช่ Android 4.4 Kitkat เลยก็คือคีย์บอร์ดครับ โดยเฉพาะในภาษาไทยที่บอกเลยว่าใช้งานยากมาก พิมพ์ไม่สะดวกแบบสุดๆ เพราะหาปุ่มไม่เจอ ก็เล่นเอาสระไปซ่อนไว้ในปุ่มสระ -ะ หรือแม้แต่ตัวอักษรเองก็ไม่ตรงกับชาวบ้านเขา เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้หาโหลดคีย์บอร์ดยี่ห้ออื่นมาใช้งานแทน Xperia Keyboard จะดีกว่า แต่ก็ยังดีที่บรรดาแอพติดเครื่องอย่าง Walkman, Album, Video ได้รับการอัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดครับ โดยเฉพาะในส่วนของ Walkman ที่จะมีให้เลือกปรับแต่งได้ไม่แพ้ในเวอร์ชั่น Android 4.4 Kitkat เลยหล่ะ และเมื่อ Sony Xperia M2 ได้รับการอัพเดตซอฟท์แวร์เป็น Android 4.4 Kitkat ก็น่าจะเป็นการดึงศักยภาพของมันออกมาได้เต็มที่กว่า ณ ตอนนี้แน่นอน และน่าจะลื่นไหลมากกว่าเดิมพอสมควร เพราะลำพังสเปคของ Sony Xperia M2 ก็จัดว่าเกินสเปคขั้นต่ำที่ Android 4.4 Kitkat ต้องการอยู่แล้ว Ram 1 GB บน Android 4.4 นี่ทำอะไรได้เยอะนะครับ
Camera
กล้องหลังของ Sony Xperia M2?จะเป็นกล้องความละเอียด 8?ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมเซนเซอร์ภาพ Exmor RS ที่เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีเซนเซอร์ภาพจาก Sony พร้อมเซนเซอร์แสง BSI การใช้งานกล้องในโหมด Auto ก็ถือว่าโอเคครับ การจับโฟกัสทำได้รวดเร็ว ถ่ายง่าย แถมยังมีปุ่มชัตเตอร์ช่วยให้การถ่ายรูปง่ายขึ้นไปอีก เพราะเราสามารถจับมือถือในลักษณะของการจับกล้องถ่ายรูปจริงๆ การถ่ายรูปเวลากลางคืนก็ไม่ได้ทำงานช้ากว่าเดิมมากมาย แต่ต้องมือนิ่งๆ หน่อยนะครับ เอาเป็นว่ากล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ Sony Xperia M2 นี่จัดว่าไม่ธรรมดา?ตัวเครื่องเข้าโหมดกล้องเร็วมาก ใช้เวลาไม่เกิน 3 วินาทีนี่พร้อมถ่ายรูปได้เลย ถือว่าผ่านครับ ส่วนโหมดที่มีให้เลือกใช้ก็ตามนี้เลย
- Superior Auto :?ก็คือโหมด Auto นั่นเองครับ ถ้าให้คะแนนโดยรวมก็เอาไป 70/100 คะแนนก็แล้วกัน เพราะโหมด Auto มีมึนๆ บ้างในบางเวลา
- Manual : โหมดแมนนวล?สามารถปรับแต่งอะไรได้เยอะแยะและละเอียดพอสมควร
- Social live : เป็นโหมดที่ใช้ share วีดีโอแบบสดๆ จากกล้องเข้า Facebook
- Timeshift burst : ถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบต่อเนื่อง
- AR effect :?โหมดนี้ต้องจินตนาการสูงหน่อยครับ จะมีเอฟเฟคโผล่มาในกล้องไม่ว่าจะเป็น ไดโนเสาร์, โลกใต้ทะเล, นางฟ้า ฯลฯ
- Picture effect : เลือก Filter รูปแบบต่างๆ ก่อนถ่ายภาพ
- Sweep Panorama : ถ่ายแบบพาโนรามา
- Portrait retouch : สำหรับแต่งภาพ Selfie
สำหรับกล้องหน้าของ Sony Xperia M2 ที่ให้ความละเอียดมาแค่ VGA (ไม่รู้จะกั๊กไว้ทำไม) ขอไม่พูดถึงก็แล้วกันนะครับ ใช้ถ่ายขำขำพอได้ แต่ไม่ใช้จะดีกว่า ฮ่าๆ ส่วนคุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหลังของ Sony Xperia M2 ก็ทำได้ดีทีเดียวสำหรับมือถือราคาไม่ถึงหมื่น ของแบบนี้ต้องดูด้วยตาตัวเองครับ สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Sony Xperia M2 สามารถรับชมได้จากทาง Gallery ครับ
กล้องหน้า VGA ให้มาพอใช้ แต่ไม่ใช่จะดีกว่าเยอะ
Performance
ประสิทธิภาพของ Sony Xperia M2?โดยรวมก็อยู่ในเกณฑ์ของมือถือราคาหมื่นต้นๆ ครับ ด้วยสเปคที่ให้มาพอดีกับการใช้งานทั่วไป จัดเป็นมือถือที่ใช้งานได้ครบเครื่องครับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเป็นโทรศัพท์, เล่นอินเทอร์เน็ต, โซเชียลเน็ตเวิร์ก, ดูหนังฟังเพลง ไปจนถึงการเล่นเกม Sony Xperia M2?ก็ถือว่าสอบผ่านครับ โดยเฉพาะการเล่นเกมนี่สามารถเล่นได้ทุกเกมในตอนนี้เลย แต่บางเกมที่กินสเปคมาก เช่น Asphalt 8 Airbond ถ้าจะให้ลื่นจริงๆ ก็คงจะต้องปรับตั้งค่าให้เป็นกราฟฟิคระดับกลาง ส่วนในเรื่องของ Ram ที่ให้มา 1 GB อาจจะมีปัญหานิดหน่อยถ้าเปิดใช้งานแอพพร้อมกันหลายแอพ ส่วนหนึ่งมาจากซอฟท์แวร์ที่เป็น Android 4.3 Jellybean ด้วย โดยจะเหลือ Ram อยู่ที่ประมาณ 200 MB นิดๆ เท่านั้น แต่เชื่อว่าเมื่อได้รับการอัพเดตเป็น Android 4.4 Kitkat น่าจะมีการจัดการแรมได้ดีกว่านี้ และน่าจะส่งผลต่อภาพรวมของเครื่องด้วยในเรื่องของความลื่นไหล รวมถึงประสิทธิภาพโดยรวมด้วยครับ?
ส่วนความอึดของแบตเตอรี่นั้น Sony Xperia M2 ทำได้ดีเลยทีเดียว ใช้งานข้ามวันกันได้สบายๆ ลืมไปเลยครับว่า Powerbank หน้าตาเป็นอย่างไร ตอนที่รีวิว Sony Xperia M2 นี่ผมใช้งานหนักพอสมควรนะครับ เปิด 3G ทั้งวัน, เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก, เล่นอินเทอร์เน็ต และที่สำคัญคือเล่นเกมบ่อยมาก (ตอนนี้ติดเกม Line Ranger แทน Cookie Run ละครับ) ถอดสายชาร์จตั้งแต่ตอน 6 โมงเช้า กลับเข้าบ้านตอน 3 ทุ่มนี่แบตเตอรี่เหลือประมาณ 10% ได้ครับ นี่ยังไม่ได้เปิดโหมดประหยัดพลังงานหรือ Stamina Mode นะครับ ถ้าเปิดใช้งาน Stamina Mode ด้วยก็ลากยาวได้ข้าม (หลาย) วันเลยหล่ะ ส่วนการใช้งานแบบไม่หนักมากนัก เน้นใช้เป็นเครื่องสำรองนี่ชาร์จไฟเต็มครั้งนึงอยู่ได้ประมาณ 2 – 3 วันสำหรับโหมดปกติไม่ได้เปิด Stamina Mode ครับ จัดเป็นมือถือที่แบตเตอรี่อึดเลยหล่ะ
Overall
Sony Xperia M2?ถือเป็นสมาร์ทโฟนตลาดกลางที่ดีตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่สวยงามถอดแบบมาจากเรือธงอย่าง Sony Xperia Z2 ฟีเจอร์ก็มีมาให้ใช้พอๆ กัน (เพราะว่า Sony Xperia Z2 ก็ไม่ได้โดดเด่นที่ฟีเจอร์นั่นเอง) ถึงแม้จะโดนลดสเปค รวมถึงวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติก และพลาสติก แต่งานประกอบก็ยังคงแน่นหนาและไว้ใจได้เสมอครับ ที่สำคัญยังรองรับการใช้งาน 4G LTE อีกต่างหาก เรียกว่าเป็นมือถือที่ราคาถูกที่สุด ณ ช่วงเวลานี้แต่สามารถใช้งาน 4G ได้ จัดเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจสำหรับมือถือ Android ราคาไม่เกินหมื่นเลยครับ โดย Sony จะนำเข้ามาขายด้วยกัน 2 โมเดลได้แก่ Sony Xperia M2 D2303 ที่รองรับการเชื่อมต่อ 4G ราคา 9,490 บาท Sony Xperia M2 D2302 รุ่นรองรับการใช้งาน 2 ซิมในราคา 9,990 บาทครับ
ข้อดี
- งานประกอบแน่นหนา แข็งแรง
- จัดเป็นมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาทที่โดดเด่นในด้านการออกแบบ
- กล้องถ่ายรูปใช้งานง่าย คุณภาพรูปถ่ายอยู่ในเกณฑ์ดี
- แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานข้ามวันได้สบายๆ
- รองรับการใช้งาน 4G LTE ในประเทศไทย
ข้อสังเกต
- ฝาหลังเป็นรอยง่ายมาก (ทั้งรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วน)
- สีของหน้าจอไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ (ออกโทนเหลือง)
- กล้องหน้าทำไมให้มาแค่ VGA
- ตัวเครื่องเวลาใช้งานกล้องถ่ายรูป หรือใช้งานนานๆ จะมีความร้อนสะสมสูงพอสมควร
เปรียบเทียบเบาๆ
สำหรับมือถือยี่ห้ออื่น ที่มีสเปคและช่วงราคาใกล้เคียงกับ Sony Xperia M2 จะมีดังนี้ครับ ช่วงราคาประมาณนี้ตัวเลือกเยอะแยะไปหมดเลยครับ ทางทีมงานขอคัดรุ่นที่น่าสนใจแบบเน้นๆ เลยก็แล้วกันครับ