ตลาดมือถือราคาไม่เกินหมื่น นับเป็นอีกช่วงราคาที่ Samsung กลับมาทำได้ดี ด้วยการวางจำหน่ายเครื่องในซีรีส์ A ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่วนในปีนี้นอกเหนือจาก A แล้ว ยังจะมีอีกซีรีส์ที่เข้ามาทำตลาดมากยิ่งขึ้นก็คือซีรีส์ M โดยในรีวิวนี้จะเป็นคิวของ Samsung Galaxy M31 กันบ้างครับ กับค่าตัวที่เปิดมา 8,590 บาท
Samsung Galaxy M31 สเปคเครื่องที่น่าสนใจก็มีดังนี้
- ชิปประมวลผล Exynos 9611 (8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.3 GHz)
- แรม 6 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB รองรับ MicroSD เพิ่มสูงสุด 512 GB (เครื่องทดสอบเป็นรุ่นความจุ 64 GB)
- หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-O ขนาด 6.4″ ความละเอียดระดับ FHD+ (2340 x 1080)
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 64 MP f/1.8
- เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2
- เลนส์มาโคร 5MP f/2.4
- เลนส์ Depth 5MP f/2.2
- กล้องหน้า 32MP f/2.0
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
- ถาดใส่ซิมแบบแยก 2 ช่องซิม + 1 ช่อง MicroSD
- แบตเตอรี่ 6000 mAh
- ชาร์จแบตผ่านช่อง USB-C รองรับการชาร์จเร็ว 15W
- Android 10
- มีช่อง 3.5 มม.
- รองรับ WiFi ทั้ง 2.4 และ 5 GHz
- ราคา 8,590 บาท
*** เครื่องรีวิว เป็นเครื่องทดสอบที่ใช้เฟิร์มแวร์ของประเทศเวียตนาม ซึ่งการใช้งานบางจุดอาจแตกต่างจากเครื่องขายจริงในไทย ***
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy M31
รูปร่างหน้าตาของ Samsung Galaxy M31 ก็มาในรูปแบบเดียวกับมือถือ Samsung ในยุคหลัง ๆ คือใช้หน้าจอแบบเกือบเต็มเครื่อง เว้นขอบทั้ง 4 ด้าน กล้องหน้าวางในแบบหยดน้ำ Infinity-O อยู่ตรงกลางของแถบด้านบน
หน้าจอที่ใช้แบบ Super AMOLED ทำให้การแสดงสีสันทำออกมาได้ดี สดใสในทุกเฉดสี ภาพคมชัดในระดับ FHD+ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อม Dark mode ที่ช่วยปรับธีมของเมนูต่าง ๆ ให้เป็นโทนสีดำ ก็ยิ่งทำให้คุณสมบัติของจอประเภท OLED โดดเด่นขึ้นไปอีก เพราะจะช่วยประหยัดพลังงานในส่วนการแสดงสีดำลงไปได้ ซึ่งสีดำที่ได้จากจอของ M31 ก็ดำสนิทจริง ๆ
ซึ่งกล้องหน้านี้นอกจากจะไว้ใช้ถ่ายเซลฟี่แล้ว ยังใช้เป็นกล้องสำหรับสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกหน้าจอด้วย
พลิกมาด้านหลัง เครื่องที่ทางเราได้รับมารีวิวจะเป็นสีแดงที่ออกไปทางโทนม่วง ซึ่งให้ความหรูหราในระดับหนึ่งเลย ฝาหลังทำมาจากวัสดุประเภทพลาสติกมีความมันวาวพอสมควร กล้องหลังวางอยู่เป็นชุดตรงมุมด้านซ้ายบน ถัดมาก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งอยู่
ตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจัดว่าอยู่ในระดับที่พอดีครับ ใช้ปลายนิ้วชี้แตะได้ง่ายมาก ส่วนขอบเครื่องเองก็มีความโค้งมน ทำให้สามารถจับได้กระชับมือดีมาก
ความรู้สึกในการใช้งาน Samsung Galaxy M31 ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับ ตัวเครื่องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป ความไหลลื่นก็ดี ทัชติดมือ มุมมองภาพกว้าง ใช้งานกลางแจ้งได้แบบไม่มีปัญหา
ด้านบนของเครื่องมีเพียงช่องรับเสียงของไมค์ตัวที่สอง ส่วนด้านล่างจะมีทั้งช่อง 3.5 มม. ช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟ ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา และก็ช่องลำโพง
ฝั่งซ้ายจะมีเพียงถาดใส่ซิมการ์ด+MicroSD ส่วนฝั่งขวาจะมีปุ่ม Power และก็ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงตามปกติ
อย่างที่ระบุไปข้างต้นว่าถาดใส่ซิมของ Samsung Galaxy M31 เป็นแบบแยกช่องใส่ซิมและช่องใส่ MicroSD ออกจากกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถใส่ซิม 2 เบอร์ พร้อมกับยังใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มได้ด้วย
ซอฟต์แวร์ของ Samsung Galaxy M31
Samsung Galaxy M31 ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 10 และ OneUI 2.0 ซึ่งขอย้ำอีกครั้งว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องที่ใช้เฟิร์มแวร์เวียตนาม ซึ่งอาจจะมีจุดที่แตกต่างจากเครื่องขายจริงในไทยนะครับ
พื้นที่เก็บข้อมูลตามสเปค 128 GB เมื่อเปิดเครื่องมาใช้งานครั้งแรก เว็บไซต์ Samsung ระบุไว้ว่าจะเหลือให้ใช้งาน 108 GB ส่วนแรมที่ให้มา 6 GB นั้นก็จะเหลือว่างประมาณ 3 GB เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย ๆ เลย
สำหรับแอป Game Launcher ก็จะเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมที่ติดตั้งในเครื่อง เช่น ระยะเวลาที่ใช้ในการเล่น วิดีโอที่เกี่ยวข้อง ข่าวสารเกี่ยวกับตัวเกม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีตัวตั้งค่าต่าง ๆ มาให้ เช่น การจัดการประสิทธิภาพของระบบว่าจะให้ความสำคัญกับตัวเกม หรือต้องการประหยัดพลังงงาน รวมถึงยังสามารถปรับความละเอียดของภาพแคปหน้าจอในเกม ความละเอียดของวิดีโอที่อัดจากในเกม เป็นต้น
กล้องของ Samsung Galaxy M31
กล้องหลังของ Samsung Galaxy M31 ทั้ง 4 ตัว ได้แก่
- ซ้ายบน – เลนส์ Depth
- ขวาบน – เลนส์มาโคร
- ซ้ายกลาง – เลนส์ไวด์หลัก
- ซ้ายล่าง – เลนส์อัลตร้าไวด์
ซึ่งในการใช้งานก็จะสามารถสลับระหว่างเลนส์ไวด์กับอัลตร้าไวด์ได้โดยการกดปุ่มเปลี่ยนเลนส์ หรือจะใช้การถ่างนิ้ว/จีบนิ้วเพื่อปรับระดับการซูมแทนก็ได้เช่นกันครับ ส่วนการจะใช้เลนส์มาโครนั้น ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้โหมด Macro ของแอปกล้อง จึงจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งตัวเลนส์มาโครจะสามารถจับโฟกัสวัตถุได้ในระยะ 3-5 เซนติเมตร
แอปกล้องเองก็ใช้หน้าตาโทนเดียวกับแอปกล้องในมือถือ Samsung รุ่นอื่น ๆ ครับ มีตัวช่วยปรับค่าต่าง ๆ มาให้ค่อนข้างครบ มีระบบ Scene Optimizer มาช่วยปรับจูนสีสันในภาพให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถ่าย ส่วนการเข้าถึงโหมดต่าง ๆ ก็ทำได้ด้วยการปัดหน้าจอซ้าย/ขวา โดยโหมดหลักที่ให้มาในหน้าแรกก็คือโหมดออโต้ (Photo) โหมดถ่ายวิดีโอ และก็โหมด Live Focus ส่วนพวกโหมดโปร โหมดพาโนรามา โหมดมาโคร โหมดถ่ายกลางคืน โหมดถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow-mo จะต้องเข้าไปที่ More แล้วค่อยเลือกอีกที รวมถึงยังมี AR Emoji ให้เล่นด้วย
สำหรับภาพที่ได้ออกมาจากกล้องหลัง Samsung Galaxy M31 นั้น จะให้ความละเอียดที่ 16MP เท่านั้นนะครับ ซึ่งก็เกินพอสำหรับการอัพโหลดลงโซเชียลแล้ว แต่ถ้าต้องการภาพ 64MP เต็ม ๆ ก็สามารถปรับได้จากตรงตัวเลือกอัตราส่วนภาพที่เป็นไอคอนวงเล็บ มี 4:3 ข้างใน แล้วเลือกเป็น 4:3 H แทน ซึ่งก็แน่นอนว่าจะมาพร้อมขนาดไฟล์ภาพที่ใหญ่กว่ากันเป็นเท่าตัวเลย
ภาพด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างภาพจากเลนส์ไวด์ปกติ กับเลนส์อัลตร้าไวด์ตามลำดับครับ โดยภาพจากเลนส์อัลตร้าไวด์จะมืดกว่าเล็กน้อย และก็เน้นโฟกัสให้ชัดตรงกลางภาพเป็นหลัก (ไม่สามารถจิ้มเลือกจุดโฟกัสได้)
ภาพต่อมาก็เป็นภาพตัวอย่างจากโหมดถ่ายมาโครครับ
และก็ปิดท้ายด้วยภาพจากโหมดออโต้ เทียบกับโหมดถ่ายกลางคืนตามลำดับ จะเห็นว่าภาพจากโหมดถ่ายกลางคืนจะถูก crop ระยะเข้ามาเล็กน้อย และความละเอียดลดลงเหลือ 12MP เท่านั้น แต่จะได้การเก็บแสงสว่างที่ดีขึ้นกว่าเดิม รายละเอียดในส่วนมืดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความคมชัดบริเวณขอบวัตถุที่เพิ่มขึ้นกว่าในโหมดออโต้
คลิกชมภาพตัวอย่างจากกล้องหลังของ Samsung Galaxy M31 ที่ด้านล่างนี้ได้เลย
การเล่นเกมและประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy M31
Samsung Galaxy M31 มาพร้อมกับสเปคในระดับกลาง ๆ ด้วยชิป Exynos 9611 ซึ่งมาพร้อมชิปกราฟิก Mali-G72 MP3 ซึ่งอยู่ในระดับเล่นเกมทั่วไปได้อยู่
จากเท่าที่ผมลองกับเกมต่าง ๆ ก็พบว่ากราฟิกส่วนใหญ่จะปรับได้ในระดับกลางจนถึงเกือบสุด ขึ้นอยู่กับตัวเกม ซึ่งถ้าสามารถหาจุดที่กราฟิกลงตัวแล้ว การเล่นเกมโดยรวมก็ลื่นไหลดีครับ ตัวเครื่องก็ไม่ได้ถึงขั้นร้อนมากนัก
เมื่อทดสอบกับแอปทดสอบประสิทธิภาพต่าง ๆ ก็ได้คะแนนออกมาอยู่ในกลุ่มเครื่องระดับกลางซึ่งเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ส่วนในแง่การเล่นเกมก็ต้องบอกว่ายังรองรับเกมยอดฮิตในปัจจุบันได้อยู่ครับ แต่ถ้าไปเจอเกมกราฟิกหนัก ๆ หรือถ้าต้องการเล่นเกมต่อไปอีกซัก 2-3 ปี อันนี้อาจจะหนักเกินกำลังเครื่องไปซักนิดนึง
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ก็เป็นจุดที่แทบไม่ต้องกังวลเลย เนื่องจาก Samsung Galaxy M31 ให้แบตเตอรี่มาถึง 6000 mAh ในตัวเครื่องที่ค่อนข้างบาง ทำให้ไม่ว่าจะใช้งานในแต่ละวันหนักขนาดไหน ก็พอจะมั่นใจได้ว่าใช้จนหมดวันได้สบาย
สรุปรีวิว Samsung Galaxy M31
Samsung Galaxy M31 นับเป็นหนึ่งในมือถือที่ออกมาสู้กับคู่แข่งในช่วงราคาเกือบหมื่น ซึ่งในปัจจุบันเป็นช่วงราคาที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ทั้งจากรุ่นใหม่ที่ลงมาในราคานี้ และเหล่ารุ่นเก่าที่มาพร้อมโปรโมชัน ส่วนลดแบบจัดเต็ม ซึ่ง Galaxy M31 เองก็มีจุดที่ทำได้ดีในหลายข้อ เช่น หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-O ที่มีคุณภาพสูง กล้องหลัง 4 ตัวที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการใช้งาน รวมถึงแบตเตอรี่ความจุถึง 6000 mAh ที่ใส่มาได้โดยยังคงความบางของตัวเครื่องได้ดีอยู่
ทั้งหมดนี้ทำให้ Samsung Galaxy M31 เป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่มองหามือถือราคาไม่เกินหมื่นซักเครื่องมาเพื่อใช้งานแบบสบาย ๆ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาจุกจิก อาจจะนำมาใช้เป็นเครื่องหลัก หรือใช้เป็นเครื่องรองก็ได้ทั้งคู่เลย