Samsung Galaxy M series นับเป็นหนึ่งในกลุ่มของมือถือราคาเบา ๆ จาก Samsung ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ซีรีส์ A เลยก็ว่าได้ ด้วยจุดเด่นในด้านของราคาที่ย่อมเยา งานประกอบที่ยังคงคุณสมบัติของอินเตอร์แบรนด์เอาไว้อยู่ รวมถึงยังมีการนำลูกเล่นจากรุ่นใหญ่มาใส่ให้ในหลาย ๆ จุดด้วย ล่าสุดก็มีรุ่นใหม่ที่เป็นน้องเล็กสุดออกมา นั่นคือ Samsung Galaxy M11 โดยในบทความรีวิวนี้เราจะมาดูกันครับว่า Galaxy M11 มีจุดไหนที่น่าสนใจบ้าง
Samsung Galaxy M11 สเปคพื้นฐานเหมาะกับการใช้งานในปัจจุบัน
Samsung Galaxy M11 มาพร้อมกับสเปคที่เหมาะสำหรับการใช้งานสมาร์ตโฟนขั้นพื้นฐานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยสเปคของเครื่องทดสอบที่ทางเราได้รับมา มีดังนี้
- ชิปประมวลผล Snapdragon 450
- แรม 3 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 32 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 512 GB
- หน้าจอ PLS TFT แบบ Infinity-O ขนาด 6.4″ ความละเอียดระดับ HD+ (1560 x 720)
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 13MP f/1.8
- เลนส์อัลตร้าไวด์ 5MP f/2.2
- เลนส์ Depth 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- ใช้งานได้ 2 ซิม รองรับ VoLTE พร้อมกันทั้ง 2 ซิม
- ถาดซิมแบบแยก 2 ซิม + 1 MicroSD
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- พอร์ตชาร์จแบบ USB-C
- มีช่อง 3.5 มม.
- Android 10 OneUI 2.0
แม้ว่าชิปประมวลผลจะไม่ได้สดใหม่มากนัก แต่ก็มั่นใจได้เลยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับแบต 5000 mAh แล้ว ก็ยิ่งทำให้ Samsung Galaxy M11 เป็นมือถือที่เหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน ใช้สแตนด์บาย ใช้คุยโทรศัพท์เป็นหลัก เล่นโซเชียลได้สบาย ๆ ส่วนการเล่นเกมก็อาจจะต้องเลือกเกม หรือปรับกราฟิกในเกมให้ลดลงมาจากเครื่องอื่นซักนิดนึง เพื่อเกมที่ไหลลื่นที่สุด
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy M11
รูปทรงของ Samsung Galaxy M11 ก็จะคล้ายคลึงกับรุ่นอื่น ๆ ครับ แต่มีจุดที่ค่อนข้างแปลกนิดนึงคือกล้องหน้าถูกวางไว้ตรงมุมซ้ายบน ต่างจากมือถือ Samsung รุ่นใหม่หลาย ๆ รุ่นที่มักเลือกวางกล้องหน้าไว้ตรงกลางมากกว่า
ซึ่งการวางกล้องไว้ตรงมุมซ้ายบนก็พอจะช่วยลดการรบกวนสายตาในระหว่างการใช้งานได้พอสมควรครับ ส่วนขอบจอเองก็จะมีขนาดเท่ากัน 3 ด้าน
หน้าจอของ Samsung Galaxy M11 แม้จะไม่ใช่จอ Super AMOLED แต่สีสันก็ยังจัดว่าทำได้สดใส ภาพยังคงมีความคมชัดอยู่ มุมมองของภาพก็ทำออกมาได้กว้าง ทำให้สามารถใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ดี
แต่จะมีติดนิดนึงก็คือเรื่องแสงสะท้อนจากกระจกหน้าจอที่อาจทำให้ใช้งานกลางแดดจัด ๆ ไม่ค่อยสะดวกนัก และก็การปรับระดับความสว่างอัตโนมัติที่ยังไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่ แต่สำหรับข้อหลังนี่อาจจะต้องรอดูจากเครื่องวางขายจริงอีกทีครับ เพราะเครื่องที่ผมได้รับมาทดสอบนี้เป็นเครื่องที่ใช้เฟิร์มแวร์จากเวียตนาม ซึ่งมีหลาย ๆ จุดที่น่าจะยังไม่สมบูรณ์มากนัก
ฝาหลังของ Samsung Galaxy M11 ใช้เป็นพลาสติกที่เนื้อดีพอตัว งานประกอบโดยรวมแน่นหนาในทุกจุด น่าจะมีความทนทานพอสมควร มุมซ้ายบนมีกล้องหลังทั้ง 3 ตัวเรียงลงมาตามแนวยาว พร้อมแฟลช LED ส่วนตรงกลางของครึ่งบนก็จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสามารถช่วยในการปลดล็อกได้รวดเร็วและแม่นยำ ยิ่งในช่วงนี้ก็ยิ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นไปอีกครับ เพราะทำให้สามารถปลดล็อกหน้าจอแม้ใส่หน้ากากได้สบาย ๆ
ความรู้สึกในการใช้งาน Samsung Galaxy M11 โดยรวม ก็ต้องบอกว่าตัวเครื่องทำออกมาได้ดี จับแล้วแน่น ในขณะเดียวกัน ความโค้งมนตรงมุมต่าง ๆ ก็ทำให้รู้สึกกระชับมือเป็นอย่างดี
ด้านบนของตัวเครื่องก็จะมีช่อง 3.5 มม. กับช่องรับเสียงของไมค์ตัวบน ส่วนด้านล่างมีช่องลำโพง ช่อง USB-C และก็ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา
ส่วนฝั่งขวาก็จะมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงและก็ปุ่ม Power ในขณะที่ฝั่งซ้ายจะมีเพียงถาดใส่ซิมการ์ดและ MicroSD เท่านั้น ซึ่งข้อดีคือตัวถาดเป็นแบบแยกมา 3 ช่องชัดเจนเลย คือสามารถใส่นาโนซิม 2 ใบ พร้อมกับใส่การ์ด MicroSD พร้อมกันได้ด้วย ไม่ได้เป็นถาดแบบไฮบริดที่มีหลายรุ่นเลือกใช้กันในปัจจุบัน ดังนั้นใครต้องการใส่ 2 เบอร์ก็จัดไปได้เลย
ซอฟต์แวร์ของ Samsung Galaxy M11
Samsung Galaxy M11 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 พร้อม One UI 2.0 พร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่อง ส่วนแพทช์ความปลอดภัยจะเป็นของเดือนมกราคมที่ผ่านมา (เฟิร์มแวร์ในเครื่องทดสอบเป็นของประเทศเวียตนาม) ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลตามสเปค 32 GB จะเหลือให้ใช้งานราว ๆ 21 GB ส่วนแรมก็ให้มา 3 GB ด้วยกัน
เมื่อลองตรวจสอบข้อมูลด้วย DRM Info ก็พบว่า Galaxy M11 ได้ระดับ L1 ครับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความบันเทิงเลย เอาอยู่แน่นอน
กล้องของ Samsung Galaxy M11
เรียกว่าเป็นมาตรฐานหลักกันไปแล้วครับ สำหรับการใส่กล้องหลังมาอย่างต่ำ 3 เลนส์ โดยเฉพาะเลนส์อัลตร้าไวด์ที่แทบจะต้องให้มาทุกเครื่อง เพราะประโยชน์ของการใช้งานนั้นค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงต้นทุนโมดูลเองก็น่าจะไม่สูงเท่าพวกเลนส์เทเลด้วย เราเลยได้เห็นมือถือราคาต่ำกว่าหมื่นหลาย ๆ รุ่นให้เลนส์อัลตร้าไวด์มาด้วยเสมอ
ส่วนอีกเลนส์ที่ให้มาก็เป็นเลนส์ Depth ที่ใช้เก็บข้อมูลระยะห่างครับ ทำให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยโหมด Live Focus ได้ด้วย
UI ของแอปกล้องก็จะเป็นแนวเดียวกับมือถือ Samsung รุ่นอื่นครับ มีตัวปรับการตั้งค่าพื้นฐานเช่นการเปิด/ปิดแฟลช การตั้งเวลานับถอยหลัง การปรับอัตราส่วนภาพมาให้ รองรับการถ่าย HDR อัตโนมัติ ส่วนโหมดการใช้งานก็จะมีเพียง 4 โหมดคือ โหมดออโต้ (Photo) โหมดถ่ายวิดีโอ โหมด Live Focus และก็โหมด Pro ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับค่ากล้องได้ เช่น ค่า ISO ค่า White balance และก็ค่าการชดเชยแสง
ส่วนการสลับระหว่างเลนส์ปกติกับเลนส์อัลตร้าไวด์ก็สามารถทำได้โดยกดปุ่มรูปต้นไม้ครับ โดยภาพด้านล่างนี้เป็นภาพจากเลนส์ไวด์ปกติของเครื่อง
ส่วนภาพด้านล่างนี้ก็ได้มาจากเลนส์อัลตร้าไวด์ ซึ่งความคมชัด ความสว่างอาจจะลดลงมาจากเลนส์ไวด์ปกติซักนิดนึง
ด้านล่างนี้ก็เป็นตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง นะครับ
การเล่นเกม และประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy M11
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า Samsung Galaxy M11 อาจจะมาพร้อมกับสเปคที่ไม่ได้ล่าสุดมากนัก แต่เท่าที่ผมลองทดสอบด้วยการเล่นเกมอย่างพวก RoV กับ PUBG Mobile ก็พบว่าอยู่ในระดับที่สามารถเล่นได้อยู่ครับ โดยอาศัยการปรับกราฟิกที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งส่วนใหญ่แต่ละเกมก็จะมีการแนะนำระดับกราฟิกที่เหมาะสมให้อยู่แล้ว
สำหรับ RoV อันนี้ตัวเกมจะปิดโหมดเฟรมเรตสูงเอาไว้นะครับ ทำให้เฟรมเรตในระหว่างการเล่นเกมจะอยู่ในระดับ 25-30 fps เท่านั้น ส่วนในเกม PUBG Mobile ก็สามารถปรับกราฟิกระดับแรกสุดเพื่อเน้นความไหลลื่น พร้อมกับเปิดระดับเฟรมเรตสูงได้อยู่
หนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้การเล่นเกมบน Samsung Galaxy M11 เป็นไปได้ดียิ่งขึ้นก็คือ Game Launcher ครับ ซึ่งเท่าที่ลองใช้งานใน M11 ดู พบว่าจะมีมาเพียงตัวช่วยเก็บข้อมูลระยะเวลาการเล่น ศูนย์รวบรวมข้อความแจ้งเตือนของตัวเกม พร้อมกับแนะนำคลิปต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเกมนั้นมาให้ แต่คงต้องรอดูเครื่องขายจริงอีกทีครับว่าจะมีฟังก์ชันอะไรเพิ่มมาให้บ้าง
คะแนนการทดสอบก็เป็นไปตามสเปคครับ แม้จะดูไม่ค่อยสูงนัก แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานพื้นฐานได้แล้ว ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ก็หายห่วงสุด ๆ ผมใช้งานพื้นฐาน แล้วยิ่งช่วงนี้เป็นช่วง Work From Home เป็นหลักด้วย ก็ยิ่งสบาย ใช้งานเกินวันได้แบบไม่มีปัญหาเลย
สรุปรีวิว Samsung Galaxy M11
Samsung Galaxy M11 จัดเป็นสมาร์ตโฟนอีกเครื่องที่ทำออกมาตอบโจทย์กลุ่มผู้ต้องการมือถือซักเครื่องมาเพื่อใช้งานพื้นฐาน จะใช้สแตนด์บายรอรับสาย ใช้คุยงาน ใช้เล่นโซเชียลแบบเบา ๆ หรืออาจจะใช้เป็นเครื่องสำหรับรับงาน delivery ก็ยังไหว ด้วยแบตที่ให้มาถึง 5000 mAh ตัวสเปคเองก็ไม่ได้เป็นระดับที่กินพลังงานมากนัก แต่ยังรองรับการใช้งานทั่วไปได้อยู่
ส่วนในด้านการเล่นเกม ก็คงต้องบอกว่าพอไหวในช่วงเวลานี้ครับ แต่ถ้าหวังจะไว้ใช้เล่นเกมนาน ๆ อีกซัก 2 ปี อันนี้คงต้องบอกว่าอาจจะลำบากซักนิดนึง ปิดท้ายด้วยเรื่องกล้องถ่ายรูป หากเป็นการใช้งานกลางแจ้ง หรือในบริเวณที่สภาพแสงก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนักทั้งส่วนของเลนส์ไวด์และเลนส์อัลตร้าไวด์ แต่ถ้าหากเป็นการถ่ายรูปในที่มีแสงน้อย กรณีนี้อาจจะทำให้ได้ภาพที่ไม่ค่อยคมชัดนัก เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีโหมดถ่ายกลางคืนมาช่วยครับ
รวม ๆ แล้ว หากคุณต้องการมือถือมาใช้งานทั่วไป มาใช้วิ่งรับงานส่งของ เน้นแบตอยู่ได้นาน ตัวเครื่องทน ๆ ไม่เน้นการเล่นเกมมากนัก Samsung Galaxy M11 คือคำตอบที่ลงตัวกับคุณจริง ๆ ครับ