จากที่ซัมได้เปิดตัว Samsung Galaxy A9 ที่ต่างประเทศในช่วงต้นปีซึ่งผู้ใช้งานในประเทศไทยหลายคนหวังว่าซัมซุงประเทศไทยจะนำ Galaxy A9 เข้ามาขายที่ประเทศไทยด้วย เนื่องจากเป็นตัวท็อปในซีรีส์ Galaxy A ที่หลายคนให้ความสนใจแต่แล้วก็ผิดหวังซัมซุงประเทศไทยก็ไม่ได้นำเข้ามาขาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักซัมซุงเองก็ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้ง โดยการเปิดตัว Samsung Galaxy A9 Pro ที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมและนำเข้ามาขายที่ประเทศไทยด้วย โดยมีการอัพเกรดจากรุ่น Galaxy A9 เช่น เพิ่มแรมเป็น 4 GB เพิ่มความละเอียดของกล้องหลังเป็น 16 ล้านพิกเซล เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 5,000 mAh และใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 6.0 Marshmallow โดยสามารถดูรายละเอียดเปรียบเทียบกับรุ่น Galaxy A9 ได้ที่นี่ และในวันนี้เองเราก็ได้มีโอกาสรีวิวเจ้า Samsung Galaxy A9 Pro ซึ่งทางซัมซุงภูมิใจนำเสนอเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่อึดมาก ๆ ก็แหงล่ะ ให้แบตมาตั้ง 5,000 mAh นอกจากแบตที่อึดแล้วยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกติดตามชมได้ในรีวิว แต่ตอนนี้ไปดูสเปคของ Samsung Galaxy A9 Pro กันก่อนดีกว่า
สเปค Samsung Galaxy A9 Pro
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด 1920 × 1080 พิกเซล Full HD
- ซีพียู Snapdragon 652 MSM8976 แบบ Octa-core ความเร็ว 1.8 GHz
- แรม 4 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB (รองรับการใช้งาน Micro SD ได้สูงสุด 200 GB)
- กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ Dual Sim
- ระบบปฎิบัติการ Android 6.0.1
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
- ราคา 15,900 บาท
- สเปคแบบเต็มของ Samsung Galaxy A9 Pro
ถือว่าซัมซุงทำราคาได้ค่อนข้างดีมาก จายรายละเอียดของสเปคที่จัดเต็มไม่แพ้เรือธงเลยทีเดียว และโดยปกติแล้วสมาร์ทโฟนที่เน้นไปที่แบตเตอรี่นั้นส่วนมากจะกั๊กนู้นกั๊กนี้ แต่สำหรับ Samsung Galaxy A9 Pro ถือว่าจัดเต็มอยู่เหมือนกัน แต่ !! ก็ใช่ว่าจะไม่กั๊ก ซัมซุงยังคงไม่ให้บางฟังก์ชันมาซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สำคัญซะด้วย จะเป็นฟังก์ชันอะไรนั้นติดตามอ่านได้ที่รีวิวด้านล่างได้เลยครับ
จุดเด่น
ข้อสังเกต
บทสรุป
BEST PRICE
Design
จัดเต็มให้สมกับเป็นรุ่นพี่ของ
Galaxy A Series !!
สำหรับการออกแบบของ Samsung Galaxy A9 Pro มีการออกแบบที่คล้ายกับ Smartphone Galaxy A ทั่วไปหรือพูดง่ายๆก็เหมือนกับการขยายให้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6 นิ้วซึ่งเจ้า Galaxy A9 Pro นี้ดูจะแตกต่างจากรุ่นน้องอยู่หน่อยเนื่องจากหน้าจอที่อัพขึ้นเป็น 6 นิ้วโดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 161.7 x 80.9 x 7.9 มิลลิเมตร ซึ่งมีการออกแบบทั่วไปยังมีความคล้ายๆกันคือเน้นวัสดุตัวเครื่องที่เป็นกระจกและตัดขอบโลหะให้ที่สวยงามตามสไตล์ซัมซุงที่มีการออกแบบที่คล้ายกันไปหมดทุกรุ่น
สำหรับการออกแบบของ Samsung Galaxy A9 pro จะมีความคล้ายกันกับตระกูล Galaxy A อย่างที่เราได้กล่าวกันไว้ เริ่มจากที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วที่อยู่ภายใต้การออกแบบด้านหน้าด้วยวัสดุกระจกทั้งหมด ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ที่ดูเป็น Smartphone Samsung คือมีปุ่มโฮมวงรีขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่างที่ตัดขอบด้วยสีเงินซึ่งสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย โดยอยู่กึ่งกลางระหว่างมีปุ่มสลับหน้าจอและปุ่มย้อนกลับแบบสัมผัสที่มีไฟเรืองแสงออกมาเมื่อใช้งาน ส่วนด้านบนตัวเครื่องนั้นจะเป็นช่องสนทนาที่มีลักษณะเป็นวงรีแบน ๆ โดยมีสีที่กลมกลืนไปกับตัวเครื่อง ซึ่งอยู่ท่ามกลางระหว่างเซ็นเซอร์รับแสงและเซ็นเซอร์วัดระยะห่างจากใบหน้าส่วนที่อยู่ทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะเป็นกล้องหน้าที่มีความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างของลำโพงสนทนาก็จะเป็นโลโก้ของ Samsung ที่อยู่ในตัวแหน่งประจำที่เราคุ้นเคยกัน
ในส่วนด้านหลังของตัวเครื่องนั้นก็เป็นวัสดุกระจกเช่นเดียวกันและให้ความสวยงามในรูปแบบกระจกที่ให้ความเงางามที่แอบมีการสะท้อนแสงคล้ายโลหะเล็กน้อยหากมองเข้าไปในกระจก ที่ด้านหลังของตัวเครื่องนอกจากเลนส์กล้อง 16 ล้านพิกเซลที่อยู่ด้านบนที่เลนส์นูนออกมาเพียงเล็กน้อย และไฟ LED Flash อยู่ทางด้านขวาของกล้อง บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องก็เรียบเนียนไม่มีอะไรเลย นอกจากสัญลักษณ์ SAMSUNG สีเงินขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ด้านในกระจก
สำหรับด้านข้างของตัวเครื่องนั้นจะตัดขอบด้วยโลหะที่สวยงามซึ่งตัวเครื่องที่นำมารีวิววันนี้จะเป็นสีทองจึงมีการตัดขอบโลหะด้วยสีทองให้เข้ากับสีของตัวเครื่อง บริเวณด้านข้างทั้งสองด้านของตัวเครื่องจะมีการเว้าโลหะเข้าไปเล็กน้อยเพื่อสะดวกต่อการจับและเพิ่มความสวยงามสำหรับตัวเครื่องทางด้านซ้ายจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงในส่วนของด้านขวาจะเป็นปุ่ม power และช่องใส่ซิมการ์ด สำหรับด้านบนนั้นจะเป็นช่องใส่เมมโมรี่การ์ดและมีขีด 2 ขีดอยู่ด้านบนซึ่งเป็นที่อยู่ของเสาอากาศหากสังเกตดีๆด้านบนจะมีช่องไมโครโฟนอีกช่องซึ่งเป็นช่องสำหรับตัดเสียงสนทนาทุกวันมาดูที่ด้านล่างกันบ้างจะมีช่องเสาอากาศที่ขีดเป็นสองขีดเส้นเดียวกันและมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรที่ชาร์จพอร์ตเชื่อมต่อ micro usb และลำโพงของตัวเครื่องจะอยู่ที่ด้านล่างพร้อมกับช่องสำหรับใช้สนทนา
ในส่วนของหน้าจอของ Samsung Galaxy A9 Pro จะมากับขนาดหน้าจอ 6.0 นิ้ว มีความละเอียด Full HD โดยมีความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ 367 ppi ที่ถือว่าให้ความคมชัดกำลังพอดีกับการใช้งานทั่วไปที่สำคัญยังมากับหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสีสันที่สดใสระดับแนวหน้าของหน้าจอสมาร์ทโฟน และมีการแสดงผลสีดำที่มืดสนิทให้ภาพมีมิติสมบูรณ์ และมีกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 ที่ให้ความทนทานมากว่ารุ่นเดิมถึง 2.5 เท่า
การใช้งานจริงการจับถือตัวเครื่อง ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสมกับคนที่มือใหญ่เนื่องจากหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว อาจจะใช้งานกับผู้หญิงหรือคนที่มือเล็กได้ลำบากหน่อยซึ่งผู้เขียนรีวิวที่ถือว่ามีมือที่ใหญ่อยู่พอสมควร ก็ยังใช้งานมือเดียวอย่างลำบาก แต่สำหรับผู้ที่ชอบสมาร์ทโฟนจอใหญ่อยู่แล้วก็ถือว่ามันใช้งานได้ดีเลยแหละ ด้วยน้ำหนักถึง 210 กรัมซึ่งถือว่าหนักเอาการสำหรับสมาร์ทโฟน ซึ่งน้ำหนักเยอะขนาดนี้เนื่องจากมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จึงทำให้น้ำหนักเยอะไปด้วย แต่ก็อาจทดแทนด้วยการที่เราไม่ต้องแบตสำรอง ก็ถือว่าหายกันไป จากการถือใช้งานมือเดียวนั้นอาจจะต้องระวังสักหน่อย เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และหนักอาจจะทำให้หลุดมือได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะการเอื้อมไปแตะ Notification Bar ที่อยู่ด้านบนนี่เสียวทำหล่นอยู่หลายครั้งเหมือนกัน การใช้งานปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ทำได้ดี อยู่ตำแหน่งที่ง่ายต่อการใช้งาน
Software
ในส่วนของซอฟต์แวร์ Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow และมีหน้าตาของอินเตอร์เฟซของซัมซุงที่คุ้นเคยกันดีและใช้งานง่าย สามารถตกแต่งหน้าโฮมได้อย่างตามใจ ซึ่งจากการใช้งานยังไม่พบปัญหาใด ๆ นอกจากหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มีขนาดที่ขยายใหญ่ไปด้วย ทำให้การใช้งานมือเดียวค่อนข้างลำบาก แต่ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นซึ่งสามารถดูได้ในส่วนของฟีเจอร์ที่อยู่ด้านล่าง ส่วนระบบ Multitasking ถือว่าทำได้ดี เนื่องจากให้แรมมาถึง 4 GB ทำให้การสลับแอพพลิเคชั่นทำได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับ Notification Bar ที่อยู่ด้านบนยังเป็นศูนย์รวมการตั้งค่าตัวเครื่องขนาดย่อยซึ่งถือว่าสะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ในส่วนของ Smart Manager จะเป็นหน้าเมนูที่รวมสถานะของตัวเครื่องต่าง ๆ เช่น สถานะแบตเตอรี่ สถานะของพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง พื้นที่ของแรมที่เหลือ และระบบป้องกันอุปกรณ์
สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นถือว่าทำได้น่าประทับใจ มีการเปิดแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่รวดเร็ว และมีการสำรองข้อมูลไว้ได้หลายแอพ ฯ เนื่องจากแรมที่เยอะ ทำให้การใช้งานที่เปลี่ยนแอพ ฯ บ่อย ๆ ทำได้อย่างไหลลื่น
Feature
สำหรับฟีเจอร์ของ samsung galaxy a9 pro ที่ใส่มาให้ถือเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากเพราะดูเหมือนจะเน้นฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้เหมาะสมกับตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเข้าไปดูศูนย์รวมฟีเจอร์ได้ที่เมนูตั้งค่า และเข้าไปที่คุณสมบัติขั้นสูงก็สามารถเข้าไปตั้งค่าเปิดปิดการทำงานของฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ทันที แรกเป็นฟีเจอร์สำหรับการใช้งานมือเดียวโดยจะทำการลดขนาดหน้าจอลงมาเหมือนกับในภาพและสามารถสลับตามความถนัดของมือและยังเพิ่มโหมดใส่ข้อมูลด้วยมือเดียวได้โดยจะทำการย่อคีย์บอร์ดหรือปุ่มโทรออกไว้ให้มีขนาดกะทัดรัดที่กดใช้งานได้ง่าย
สำหรับฟีเจอร์แรกเป็นฟีเจอร์สำหรับการใช้งานมือเดียวโดยจะทำการลดขนาดหน้าจอลงมาเหมือนกับในภาพและสามารถสลับตามความถนัดของมือได้ และยังเพิ่มโหมดใส่ข้อมูลด้วยมือเดียวได้โดยจะทำการย่อคีย์บอร์ดหรือปุ่มโทรออกไว้ให้มีขนาดกะทัดรัดที่เหมาะกับสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้งานมือเดียว โดยวิธีเรียกใช้ฟีเจอร์นี้ง่ายนิดเดียว เพียงกดปุ่มโฮม 3 ครั้งติดกันเท่านั้น หน้าจอก็จะลดลงมาเหลือประมาณ 4 นิ้ว ทำให้กดใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม หากต้องปิดโหมดลดขนาดหน้าจอ ก็ทำการกดที่ปุ่ม กลับไปยังโหมดเต็มหน้าจอ ที่ด้านบนก็จะกลับสู่โหมดเต็มหน้าจอเหมือนเดิม
ฟีเจอร์ต่อไปเป็นฟีเจอร์สำหรับสร้างป็อปอัพของหน้าจอขึ้นมาในกรณีที่ใช้งานพร้อมกันสองแอพพลิเคชั่น ซึ่งมีวิธีการใช้งานเพียงแค่ลากที่มุมด้านบนของตัวเครื่องลงมาแล้วทำป็อปอัพให้มีขนาดที่เราต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องเปิดแอพพลิเคชั่นสลับไปมาพร้อมกัน
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีการทำงานคล้ายกันกับการป็อปอัพหน้าจอคือฟีเจอร์ Multi Windows ที่สามารถแยกหน้าจอออกเป็นสองส่วนและทำงานพร้อมกันได้ โดยเข้าสู่การทำงานได้เพียงกดที่ปุ่มสลับหน้าจอค้างไว้ก็จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เราเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการใช้งานพร้อมกันสองแอพพลิเคชั่น
ส่วนฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็จะมีฟีเจอร์ใช้ฝ่ามือปัดหน้าจอเพื่อทำการจับภาพหน้าจอ ฟีเจอร์เตือนอัจฉริยะที่จะสั่นเมื่อเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความ และฟีเจอร์ปิดเสียงเรียกเข้าทันทีเมื่อเอามือปิดหน้าจอหรือคว่ำหน้าจอ
สำหรับฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy A9 Pro ที่อยากนำเสนอนั่นก็คือฟีเจอร์ในส่วนของแบตเตอรี่ซึ่งซัมซุงได้ชูจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Samsung Galaxy A9 Pro มากับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดแบตเตอรี่มากที่สุดของซัมซุง
ซัมซุงได้ชูจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องการใช้งานที่ยาวนานมากต่อการชาร์จแบตเพียงครั้งเดียวเนื่องจากให้แบตเตอรี่มาถึง 5,000 mAh โดยซัมซุงได้กล่าวถึงระยะการใช้งานทั่วไปดังนี้
- เล่นอินเตอร์เน็ตด้วย 3G ได้สูงสุด 17 ชั่วโมง
- เล่นอินเตอร์เน็ตด้วย LTE ได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
- เล่นอินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi ได้สูงสุด 21 ชั่วโมง
- เล่นเพลงได้นานสุด 109 ชั่วโมง
- เล่นวิดีโอได้นานสุด 26 ชั่วโมง
- เวลาสนทนาด้วย 3G สูงสุด 33 ชั่วโมง
ให้แบตเตอรี่มาใหญ่ขนาดนี้เป็นสิ่งที่ดีที่ซัมซุงให้ฟีเจอร์ Fast Charging มาด้วยทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ให้เต็มโดยใช้เวลาประมาณ 160 นาที
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก samsung
Camera
ในส่วนของกล้องมีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash โดยมีเซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8 และมีรูรับแสงกว้าง f/1.9 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ OIS พร้อมกับรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p@30fps ในส่วนของกล้องหน้ามากับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.9 ด้วยเช่นกันทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในที่มืดได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมและรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียด 1080p
สำหรับซอฟต์แวร์ของกล้องนั้นมีการใช้งานที่ง่ายและสะดวกมาก ซึ่งมีคีย์ลัดในการเข้าแอพ ฯ ของกล้องได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนอยู่ก็ตาม แค่เพียงกดที่ปุ่มโฮมสองครั้งติดกัน ก็จะเข้าสู่แอพ ฯ กล้องทันที และเมื่อเปิดเข้ามาสามารถเลือกกดปุ่มชัตเตอร์ถ่ายภาพหรือว่าจะกดถ่ายวิดีโอได้เลยไปต้องเปลี่ยนโหมดการถ่ายให้ยุ่งยาก และมีการเรียงเครื่องมือการตั้งค่าต่าง ๆ ไว้ที่หน้าแอพ ฯ ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน สำหรับโหมดการถ่ายรูปนั้นมีมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นโหมดอัตโนมัติ HDR ถ่ายภาพต่อเนื่อง ถ่ายภาพกลางคืน ถ่ายพานอราม่า และถ่ายแบบโปรที่สามารถปรับค่าต่าง ๆ เองได้
จากการทดสอบการถ่ายภาพมีการเก็บรายละเอียดภาพได้ดีมากและให้สีสันที่สดใส ไม่ว่าจะถ่ายภาพวิว หรือว่าถ่ายภาระยะใกล้ เป็นผลดีจากตัวกล้องที่มีความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล และในส่วนที่ถูกใจที่สุดคงจะเป็นโหมด HDR ที่ถ่ายภาพสู้แสงที่ให้ภาพมีความสวยงามมากกว่าโหมดอัตโนมัติอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีระยะเวลาในการประมวลภาพประมาณ 4 -5 วินาที ในส่วนของการปรับโฟกัสก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกล้องหน้านั้นมีล็อกโฟกัสที่หน้าอัตโนมัติ และทำการปรับหน้าให้เนียนและขาวขึ้นจนตกใจตัวเอง มีโหมดกลางคืนไว้ให้สำหรับถ่ายในที่มืดและมีโหมดถ่ายตัวเองแบบกว้างเอาไว้ถ่ายในเวลาที่มีเพื่อนเยอะ ๆ ซึ่งมีวิธีการถ่ายแบบพานอราม่านั่นเอง ซึ่งสามารถดูความแตกต่างของการถ่ายภาพของโหมดต่าง ๆ ได้ที่ตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy A9 Pro
Performance
Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652 MSM8976 ซึ่งเป็นชิปแบบ Octa-core (4×1.8 GHz Cortex-A72 & 4×1.4 GHz Cortex-A53) และมีชิปกราฟฟิค Adreno 510 มาพร้อมกับแรมขนาด 4 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 32 GB และยังรองรับ microSD ถึง 200 GB สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น ไม่ว่าจะเล่นโซเชียลต่าง ๆ หรือดูเว็บไซต์สามารถใช้งานได้แบบลื่น ๆ อย่างแน่นอน และด้วยแรมถึง 4 GB ทำให้สลับแอพ ฯ ไปมาได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของการเล่นเกมนั้นได้ทำการทดสอบจากเกมของค่าย ubisoft ที่มีกราฟฟิกที่สวยงามอย่าง Rayman Adventure, Hungry Shark และ Trials Frontier พบว่าสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่น ๆ ส่วนหน้าจอ 6 นิ้วที่มีความละเอียด Full HD ทำให้การเล่นดูเต็มตา และหน้าจอแบบ Super AMOLED ทำให้สีสันของเกมดูสวยงามขึ้นไปอีก แต่ในส่วนของเกมที่กินสเปคมาก ๆ อย่างเกม OZ Kingdom ที่เพิ่งลง Play Store ไปหมาด ๆ พบว่าสามารถเล่นได้อยู่ แต่ก็มีกระตุกอยู่บ้าง เกมนี้คงต้องยกให้ชิประดับท็อปถึงจะสามารถเล่นได้แบบลื่น ๆ
มาถึงการทดสอบในเรื่องของแบตเตอรี่กันบ้างเครื่องสำหรับ Samsung Galaxy A9 Pro ทางซัมซุงได้ชูจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องการใช้งานที่ยาวนานมากต่อการชาร์จแบตเพียงครั้งเดียวเนื่องจากให้แบตมาถึง 5,000 mAh ซึ่งตัวเครื่องก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น แต่แค่มีแบตเตอรี่เยอะเท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบของเราจึงเน้นไปที่การใช้งานหนัก ๆ กันบ้าง นั่นก็คือทดสอบด้วยการเล่นเกมโปเกมอนที่กำลังฮิตกันอยู่ในตอนนี้ซึ่งเป็นเกมที่กินแบตมาก เนื่องจากกินพลังงานทั้งในส่วนประมวลผล และในส่วนของ GPS ทำให้เหมาะสมกับการทดสอบพลังงานแบตเตอรี่เป็นทึ่สุด เราได้ทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100 % ก่อนทดสอบ ซึ่งแอพฯ แบตเตอรี่ได้แสดงเวลาใช้งานที่เหลือโดยประมาณ 28 ชั่วโมง
หลังจากนั้นเราก็ทำการเปิดเกมโปเกมอนทั้งทีตั้งแต่เดินออกหน้าคอนโด โดยเลือกจุดมุ่งหมายไปที่สยามพารากอน เนื่องจากเป็นสถานที่จับโปเกมอนที่ฮิตที่สุดสถานที่หนึ่งเลย ซึ่งเลือกเดินทางด้วยรถเมล์เนื่องจากจะได้จับโปเกมอนไปเรื่อย ๆ จนถึงสยามพารากอนแบบชิว ๆ แต่เมื่อเปิดเกมโปเกมอนขึ้นมาครั้งแรกและเข้าสู่โหมด AR ที่จะทำให้เห็นโปเกมอนผ่านหน้าจอปรากฎว่าหน้าจอปรับองศาตามการหมุนและขึ้นข้อความเหมือนกับรูปภาพด้านล่าง นั่นเป็นเพราะ Samsung Galaxy A9 Pro ไม่มีเซ็นเซอร์ Gyroscope นั่นเองซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
กลับมาที่การรีวิวแบตเตอรี่กันต่อเวลาที่เราใช้เดินทางไปถึงสยามพากอนใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 22 นาที ซึ่งระว่างเดินทางได้ทำการเล่นเกมโปเกมอนไปตลาดทาง ผลปรากฎว่าแบตเตอรี่ลดไปเพียง 17 % เท่านั้น !! หลังจากนั้นก็เดินจับโปเกมอนต่อไปเรื่อย ๆ แถวสยาม นั่งพักทานข้าวเดินช็อปปิ้งและก็จับโปเกมอนไปด้วย เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงผลปรากฎว่าแบตเตอรี่เหลือที่ 66 % ซึ่งเปรียบเทียบกับ Motorola Moto X Style ที่มีแบต 3000 mAh ชาร์จแบตเต็ม ของเพื่อนที่เดินทางไปด้วยเหลืออยู่ประมาณ 35 %
สรุปได้ว่าแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่อยู่ใน Samsung Galaxy A9 Pro นั้นทำให้มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ในแต่ละวันนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหนักเพียงใด ไม่จำเป็นที่จะต้องพก Power Bank ไปด้วยเลย หากใช้งานทั่วไปเช่นเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เล่นโซเชียล เชื่อได้ว่าสามารถใช้งานได้ถึง 2-3 วัน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่
Gallery
จุดเด่น
ข้อสังเกต
บทสรุป
BEST PRICE
Design
จัดเต็มให้สมกับเป็นรุ่นพี่ของ
Galaxy A Series !!
สำหรับการออกแบบของ Samsung Galaxy A9 Pro มีการออกแบบที่คล้ายกับ Smartphone Galaxy A ทั่วไปหรือพูดง่ายๆก็เหมือนกับการขยายให้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6 นิ้วซึ่งเจ้า Galaxy A9 Pro นี้ดูจะแตกต่างจากรุ่นน้องอยู่หน่อยเนื่องจากหน้าจอที่อัพขึ้นเป็น 6 นิ้วโดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 161.7 x 80.9 x 7.9 มิลลิเมตร ซึ่งมีการออกแบบทั่วไปยังมีความคล้ายๆกันคือเน้นวัสดุตัวเครื่องที่เป็นกระจกและตัดขอบโลหะให้ที่สวยงามตามสไตล์ซัมซุงที่มีการออกแบบที่คล้ายกันไปหมดทุกรุ่น
สำหรับการออกแบบของ Samsung Galaxy A9 pro จะมีความคล้ายกันกับตระกูล Galaxy A อย่างที่เราได้กล่าวกันไว้ เริ่มจากที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วที่อยู่ภายใต้การออกแบบด้านหน้าด้วยวัสดุกระจกทั้งหมด ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ที่ดูเป็น Smartphone Samsung คือมีปุ่มโฮมวงรีขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่างที่ตัดขอบด้วยสีเงินซึ่งสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย โดยอยู่กึ่งกลางระหว่างมีปุ่มสลับหน้าจอและปุ่มย้อนกลับแบบสัมผัสที่มีไฟเรืองแสงออกมาเมื่อใช้งาน ส่วนด้านบนตัวเครื่องนั้นจะเป็นช่องสนทนาที่มีลักษณะเป็นวงรีแบน ๆ โดยมีสีที่กลมกลืนไปกับตัวเครื่อง ซึ่งอยู่ท่ามกลางระหว่างเซ็นเซอร์รับแสงและเซ็นเซอร์วัดระยะห่างจากใบหน้าส่วนที่อยู่ทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะเป็นกล้องหน้าที่มีความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างของลำโพงสนทนาก็จะเป็นโลโก้ของ Samsung ที่อยู่ในตัวแหน่งประจำที่เราคุ้นเคยกัน
ในส่วนด้านหลังของตัวเครื่องนั้นก็เป็นวัสดุกระจกเช่นเดียวกันและให้ความสวยงามในรูปแบบกระจกที่ให้ความเงางามที่แอบมีการสะท้อนแสงคล้ายโลหะเล็กน้อยหากมองเข้าไปในกระจก ที่ด้านหลังของตัวเครื่องนอกจากเลนส์กล้อง 16 ล้านพิกเซลที่อยู่ด้านบนที่เลนส์นูนออกมาเพียงเล็กน้อย และไฟ LED Flash อยู่ทางด้านขวาของกล้อง บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องก็เรียบเนียนไม่มีอะไรเลย นอกจากสัญลักษณ์ SAMSUNG สีเงินขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ด้านในกระจก
สำหรับด้านข้างของตัวเครื่องนั้นจะตัดขอบด้วยโลหะที่สวยงามซึ่งตัวเครื่องที่นำมารีวิววันนี้จะเป็นสีทองจึงมีการตัดขอบโลหะด้วยสีทองให้เข้ากับสีของตัวเครื่อง บริเวณด้านข้างทั้งสองด้านของตัวเครื่องจะมีการเว้าโลหะเข้าไปเล็กน้อยเพื่อสะดวกต่อการจับและเพิ่มความสวยงามสำหรับตัวเครื่องทางด้านซ้ายจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงในส่วนของด้านขวาจะเป็นปุ่ม power และช่องใส่ซิมการ์ด สำหรับด้านบนนั้นจะเป็นช่องใส่เมมโมรี่การ์ดและมีขีด 2 ขีดอยู่ด้านบนซึ่งเป็นที่อยู่ของเสาอากาศหากสังเกตดีๆด้านบนจะมีช่องไมโครโฟนอีกช่องซึ่งเป็นช่องสำหรับตัดเสียงสนทนาทุกวันมาดูที่ด้านล่างกันบ้างจะมีช่องเสาอากาศที่ขีดเป็นสองขีดเส้นเดียวกันและมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรที่ชาร์จพอร์ตเชื่อมต่อ micro usb และลำโพงของตัวเครื่องจะอยู่ที่ด้านล่างพร้อมกับช่องสำหรับใช้สนทนา
ในส่วนของหน้าจอของ Samsung Galaxy A9 Pro จะมากับขนาดหน้าจอ 6.0 นิ้ว มีความละเอียด Full HD โดยมีความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ 367 ppi ที่ถือว่าให้ความคมชัดกำลังพอดีกับการใช้งานทั่วไปที่สำคัญยังมากับหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสีสันที่สดใสระดับแนวหน้าของหน้าจอสมาร์ทโฟน และมีการแสดงผลสีดำที่มืดสนิทให้ภาพมีมิติสมบูรณ์ และมีกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 ที่ให้ความทนทานมากว่ารุ่นเดิมถึง 2.5 เท่า
การใช้งานจริงการจับถือตัวเครื่อง ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสมกับคนที่มือใหญ่เนื่องจากหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว อาจจะใช้งานกับผู้หญิงหรือคนที่มือเล็กได้ลำบากหน่อยซึ่งผู้เขียนรีวิวที่ถือว่ามีมือที่ใหญ่อยู่พอสมควร ก็ยังใช้งานมือเดียวอย่างลำบาก แต่สำหรับผู้ที่ชอบสมาร์ทโฟนจอใหญ่อยู่แล้วก็ถือว่ามันใช้งานได้ดีเลยแหละ ด้วยน้ำหนักถึง 210 กรัมซึ่งถือว่าหนักเอาการสำหรับสมาร์ทโฟน ซึ่งน้ำหนักเยอะขนาดนี้เนื่องจากมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จึงทำให้น้ำหนักเยอะไปด้วย แต่ก็อาจทดแทนด้วยการที่เราไม่ต้องแบตสำรอง ก็ถือว่าหายกันไป จากการถือใช้งานมือเดียวนั้นอาจจะต้องระวังสักหน่อย เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และหนักอาจจะทำให้หลุดมือได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะการเอื้อมไปแตะ Notification Bar ที่อยู่ด้านบนนี่เสียวทำหล่นอยู่หลายครั้งเหมือนกัน การใช้งานปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ทำได้ดี อยู่ตำแหน่งที่ง่ายต่อการใช้งาน
Software
ในส่วนของซอฟต์แวร์ Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow และมีหน้าตาของอินเตอร์เฟซของซัมซุงที่คุ้นเคยกันดีและใช้งานง่าย สามารถตกแต่งหน้าโฮมได้อย่างตามใจ ซึ่งจากการใช้งานยังไม่พบปัญหาใด ๆ นอกจากหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มีขนาดที่ขยายใหญ่ไปด้วย ทำให้การใช้งานมือเดียวค่อนข้างลำบาก แต่ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นซึ่งสามารถดูได้ในส่วนของฟีเจอร์ที่อยู่ด้านล่าง ส่วนระบบ Multitasking ถือว่าทำได้ดี เนื่องจากให้แรมมาถึง 4 GB ทำให้การสลับแอพพลิเคชั่นทำได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับ Notification Bar ที่อยู่ด้านบนยังเป็นศูนย์รวมการตั้งค่าตัวเครื่องขนาดย่อยซึ่งถือว่าสะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ในส่วนของ Smart Manager จะเป็นหน้าเมนูที่รวมสถานะของตัวเครื่องต่าง ๆ เช่น สถานะแบตเตอรี่ สถานะของพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง พื้นที่ของแรมที่เหลือ และระบบป้องกันอุปกรณ์
สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นถือว่าทำได้น่าประทับใจ มีการเปิดแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่รวดเร็ว และมีการสำรองข้อมูลไว้ได้หลายแอพ ฯ เนื่องจากแรมที่เยอะ ทำให้การใช้งานที่เปลี่ยนแอพ ฯ บ่อย ๆ ทำได้อย่างไหลลื่น
Feature
สำหรับฟีเจอร์ของ samsung galaxy a9 pro ที่ใส่มาให้ถือเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากเพราะดูเหมือนจะเน้นฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้เหมาะสมกับตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเข้าไปดูศูนย์รวมฟีเจอร์ได้ที่เมนูตั้งค่า และเข้าไปที่คุณสมบัติขั้นสูงก็สามารถเข้าไปตั้งค่าเปิดปิดการทำงานของฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ทันที แรกเป็นฟีเจอร์สำหรับการใช้งานมือเดียวโดยจะทำการลดขนาดหน้าจอลงมาเหมือนกับในภาพและสามารถสลับตามความถนัดของมือและยังเพิ่มโหมดใส่ข้อมูลด้วยมือเดียวได้โดยจะทำการย่อคีย์บอร์ดหรือปุ่มโทรออกไว้ให้มีขนาดกะทัดรัดที่กดใช้งานได้ง่าย
สำหรับฟีเจอร์แรกเป็นฟีเจอร์สำหรับการใช้งานมือเดียวโดยจะทำการลดขนาดหน้าจอลงมาเหมือนกับในภาพและสามารถสลับตามความถนัดของมือได้ และยังเพิ่มโหมดใส่ข้อมูลด้วยมือเดียวได้โดยจะทำการย่อคีย์บอร์ดหรือปุ่มโทรออกไว้ให้มีขนาดกะทัดรัดที่เหมาะกับสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้งานมือเดียว โดยวิธีเรียกใช้ฟีเจอร์นี้ง่ายนิดเดียว เพียงกดปุ่มโฮม 3 ครั้งติดกันเท่านั้น หน้าจอก็จะลดลงมาเหลือประมาณ 4 นิ้ว ทำให้กดใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม หากต้องปิดโหมดลดขนาดหน้าจอ ก็ทำการกดที่ปุ่ม กลับไปยังโหมดเต็มหน้าจอ ที่ด้านบนก็จะกลับสู่โหมดเต็มหน้าจอเหมือนเดิม
ฟีเจอร์ต่อไปเป็นฟีเจอร์สำหรับสร้างป็อปอัพของหน้าจอขึ้นมาในกรณีที่ใช้งานพร้อมกันสองแอพพลิเคชั่น ซึ่งมีวิธีการใช้งานเพียงแค่ลากที่มุมด้านบนของตัวเครื่องลงมาแล้วทำป็อปอัพให้มีขนาดที่เราต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องเปิดแอพพลิเคชั่นสลับไปมาพร้อมกัน
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีการทำงานคล้ายกันกับการป็อปอัพหน้าจอคือฟีเจอร์ Multi Windows ที่สามารถแยกหน้าจอออกเป็นสองส่วนและทำงานพร้อมกันได้ โดยเข้าสู่การทำงานได้เพียงกดที่ปุ่มสลับหน้าจอค้างไว้ก็จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เราเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการใช้งานพร้อมกันสองแอพพลิเคชั่น
ส่วนฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็จะมีฟีเจอร์ใช้ฝ่ามือปัดหน้าจอเพื่อทำการจับภาพหน้าจอ ฟีเจอร์เตือนอัจฉริยะที่จะสั่นเมื่อเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความ และฟีเจอร์ปิดเสียงเรียกเข้าทันทีเมื่อเอามือปิดหน้าจอหรือคว่ำหน้าจอ
สำหรับฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy A9 Pro ที่อยากนำเสนอนั่นก็คือฟีเจอร์ในส่วนของแบตเตอรี่ซึ่งซัมซุงได้ชูจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Samsung Galaxy A9 Pro มากับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดแบตเตอรี่มากที่สุดของซัมซุง
ซัมซุงได้ชูจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องการใช้งานที่ยาวนานมากต่อการชาร์จแบตเพียงครั้งเดียวเนื่องจากให้แบตเตอรี่มาถึง 5,000 mAh โดยซัมซุงได้กล่าวถึงระยะการใช้งานทั่วไปดังนี้
- เล่นอินเตอร์เน็ตด้วย 3G ได้สูงสุด 17 ชั่วโมง
- เล่นอินเตอร์เน็ตด้วย LTE ได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
- เล่นอินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi ได้สูงสุด 21 ชั่วโมง
- เล่นเพลงได้นานสุด 109 ชั่วโมง
- เล่นวิดีโอได้นานสุด 26 ชั่วโมง
- เวลาสนทนาด้วย 3G สูงสุด 33 ชั่วโมง
ให้แบตเตอรี่มาใหญ่ขนาดนี้เป็นสิ่งที่ดีที่ซัมซุงให้ฟีเจอร์ Fast Charging มาด้วยทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ให้เต็มโดยใช้เวลาประมาณ 160 นาที
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก samsung
Camera
ในส่วนของกล้องมีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash โดยมีเซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8 และมีรูรับแสงกว้าง f/1.9 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ OIS พร้อมกับรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p@30fps ในส่วนของกล้องหน้ามากับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.9 ด้วยเช่นกันทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในที่มืดได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมและรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียด 1080p
สำหรับซอฟต์แวร์ของกล้องนั้นมีการใช้งานที่ง่ายและสะดวกมาก ซึ่งมีคีย์ลัดในการเข้าแอพ ฯ ของกล้องได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนอยู่ก็ตาม แค่เพียงกดที่ปุ่มโฮมสองครั้งติดกัน ก็จะเข้าสู่แอพ ฯ กล้องทันที และเมื่อเปิดเข้ามาสามารถเลือกกดปุ่มชัตเตอร์ถ่ายภาพหรือว่าจะกดถ่ายวิดีโอได้เลยไปต้องเปลี่ยนโหมดการถ่ายให้ยุ่งยาก และมีการเรียงเครื่องมือการตั้งค่าต่าง ๆ ไว้ที่หน้าแอพ ฯ ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน สำหรับโหมดการถ่ายรูปนั้นมีมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นโหมดอัตโนมัติ HDR ถ่ายภาพต่อเนื่อง ถ่ายภาพกลางคืน ถ่ายพานอราม่า และถ่ายแบบโปรที่สามารถปรับค่าต่าง ๆ เองได้
จากการทดสอบการถ่ายภาพมีการเก็บรายละเอียดภาพได้ดีมากและให้สีสันที่สดใส ไม่ว่าจะถ่ายภาพวิว หรือว่าถ่ายภาระยะใกล้ เป็นผลดีจากตัวกล้องที่มีความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล และในส่วนที่ถูกใจที่สุดคงจะเป็นโหมด HDR ที่ถ่ายภาพสู้แสงที่ให้ภาพมีความสวยงามมากกว่าโหมดอัตโนมัติอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีระยะเวลาในการประมวลภาพประมาณ 4 -5 วินาที ในส่วนของการปรับโฟกัสก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกล้องหน้านั้นมีล็อกโฟกัสที่หน้าอัตโนมัติ และทำการปรับหน้าให้เนียนและขาวขึ้นจนตกใจตัวเอง มีโหมดกลางคืนไว้ให้สำหรับถ่ายในที่มืดและมีโหมดถ่ายตัวเองแบบกว้างเอาไว้ถ่ายในเวลาที่มีเพื่อนเยอะ ๆ ซึ่งมีวิธีการถ่ายแบบพานอราม่านั่นเอง ซึ่งสามารถดูความแตกต่างของการถ่ายภาพของโหมดต่าง ๆ ได้ที่ตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy A9 Pro
Performance
Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652 MSM8976 ซึ่งเป็นชิปแบบ Octa-core (4×1.8 GHz Cortex-A72 & 4×1.4 GHz Cortex-A53) และมีชิปกราฟฟิค Adreno 510 มาพร้อมกับแรมขนาด 4 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 32 GB และยังรองรับ microSD ถึง 200 GB สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น ไม่ว่าจะเล่นโซเชียลต่าง ๆ หรือดูเว็บไซต์สามารถใช้งานได้แบบลื่น ๆ อย่างแน่นอน และด้วยแรมถึง 4 GB ทำให้สลับแอพ ฯ ไปมาได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของการเล่นเกมนั้นได้ทำการทดสอบจากเกมของค่าย ubisoft ที่มีกราฟฟิกที่สวยงามอย่าง Rayman Adventure, Hungry Shark และ Trials Frontier พบว่าสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่น ๆ ส่วนหน้าจอ 6 นิ้วที่มีความละเอียด Full HD ทำให้การเล่นดูเต็มตา และหน้าจอแบบ Super AMOLED ทำให้สีสันของเกมดูสวยงามขึ้นไปอีก แต่ในส่วนของเกมที่กินสเปคมาก ๆ อย่างเกม OZ Kingdom ที่เพิ่งลง Play Store ไปหมาด ๆ พบว่าสามารถเล่นได้อยู่ แต่ก็มีกระตุกอยู่บ้าง เกมนี้คงต้องยกให้ชิประดับท็อปถึงจะสามารถเล่นได้แบบลื่น ๆ
มาถึงการทดสอบในเรื่องของแบตเตอรี่กันบ้างเครื่องสำหรับ Samsung Galaxy A9 Pro ทางซัมซุงได้ชูจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องการใช้งานที่ยาวนานมากต่อการชาร์จแบตเพียงครั้งเดียวเนื่องจากให้แบตมาถึง 5,000 mAh ซึ่งตัวเครื่องก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น แต่แค่มีแบตเตอรี่เยอะเท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบของเราจึงเน้นไปที่การใช้งานหนัก ๆ กันบ้าง นั่นก็คือทดสอบด้วยการเล่นเกมโปเกมอนที่กำลังฮิตกันอยู่ในตอนนี้ซึ่งเป็นเกมที่กินแบตมาก เนื่องจากกินพลังงานทั้งในส่วนประมวลผล และในส่วนของ GPS ทำให้เหมาะสมกับการทดสอบพลังงานแบตเตอรี่เป็นทึ่สุด เราได้ทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100 % ก่อนทดสอบ ซึ่งแอพฯ แบตเตอรี่ได้แสดงเวลาใช้งานที่เหลือโดยประมาณ 28 ชั่วโมง
หลังจากนั้นเราก็ทำการเปิดเกมโปเกมอนทั้งทีตั้งแต่เดินออกหน้าคอนโด โดยเลือกจุดมุ่งหมายไปที่สยามพารากอน เนื่องจากเป็นสถานที่จับโปเกมอนที่ฮิตที่สุดสถานที่หนึ่งเลย ซึ่งเลือกเดินทางด้วยรถเมล์เนื่องจากจะได้จับโปเกมอนไปเรื่อย ๆ จนถึงสยามพารากอนแบบชิว ๆ แต่เมื่อเปิดเกมโปเกมอนขึ้นมาครั้งแรกและเข้าสู่โหมด AR ที่จะทำให้เห็นโปเกมอนผ่านหน้าจอปรากฎว่าหน้าจอปรับองศาตามการหมุนและขึ้นข้อความเหมือนกับรูปภาพด้านล่าง นั่นเป็นเพราะ Samsung Galaxy A9 Pro ไม่มีเซ็นเซอร์ Gyroscope นั่นเองซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
กลับมาที่การรีวิวแบตเตอรี่กันต่อเวลาที่เราใช้เดินทางไปถึงสยามพากอนใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 22 นาที ซึ่งระว่างเดินทางได้ทำการเล่นเกมโปเกมอนไปตลาดทาง ผลปรากฎว่าแบตเตอรี่ลดไปเพียง 17 % เท่านั้น !! หลังจากนั้นก็เดินจับโปเกมอนต่อไปเรื่อย ๆ แถวสยาม นั่งพักทานข้าวเดินช็อปปิ้งและก็จับโปเกมอนไปด้วย เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงผลปรากฎว่าแบตเตอรี่เหลือที่ 66 % ซึ่งเปรียบเทียบกับ Motorola Moto X Style ที่มีแบต 3000 mAh ชาร์จแบตเต็ม ของเพื่อนที่เดินทางไปด้วยเหลืออยู่ประมาณ 35 %
สรุปได้ว่าแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่อยู่ใน Samsung Galaxy A9 Pro นั้นทำให้มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ในแต่ละวันนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหนักเพียงใด ไม่จำเป็นที่จะต้องพก Power Bank ไปด้วยเลย หากใช้งานทั่วไปเช่นเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เล่นโซเชียล เชื่อได้ว่าสามารถใช้งานได้ถึง 2-3 วัน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่