Samsung ประเดิมเปิดตัว Samsung Galaxy A15 และ A15 5G ตั้งแต่ต้นปี สานต่อความสำเร็จจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Samsung Galaxy A14 ด้วยการอัปเกรดสเปคมาแบบขนานใหญ่ ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มไม่มีกั๊ก ทว่าคราวนี้จะมาแปลกกว่ารุ่นก่อนหน้าตรงนี้ครั้งนี้เรียกได้ว่ามาเป็นแฝดกันเลยทีเดียว เพราะรูปร่างหน้าตาและสเปคหลายๆ อย่างนั้นเป็นแบบเดียวกันเด๊ะทีนี้ก็จะมาขึ้นอยู่กับตัวชิปประมวลผลที่แตกต่างกันและประสบการณ์การในใช้งานกันแล้วว่ามีจุดแตกต่างกันที่ตรงไหน
สเปคของ Samsung Galaxy A15 และ A15 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED แบบ Infinity-U, ขนาด 6.5 นิ้ว, ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 90Hz, ความสว่าง 800nits
- ชิปประมวลผล :
- Galaxy A15 : MediaTek Helio G99
- Galaxy A15 5G : MediaTek Dimensity 6100+
- แรม : 8GB รองรับ RAM Plus อีก 8GB
- หน่อยความจำ : รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- Galaxy A15 : 128GB
- Galaxy A15 5G : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8, AF (wide)
- ตัวที่ 2 : 5MP, f/2.2 (ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 2MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 13MP, f/2.0 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 + One UI 6.0
- การเชื่อมต่อ :
- 4G / 5G
- Wi-Fi 5 dual-band
- Bluetooth 5.3
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- NFC
- หูฟัง 3.5 มม.
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Fingerprint Sensor (ด้านข้าง)
- Geomagnetic Sensor
- Light Sensor
- Virtual Proximity Sensing
- ขนาด : 160.1 x 76.8 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก : 200 กรัม
- สี : ดำ (Blue Black) และ ฟ้า (Blue)
- ราคา :
- Galaxy A15 : 6,999 บาท
- Galaxy A15 5G (128GB) : 7,999 บาท (ขายเฉพาะทางเครือข่ายเท่านั้น)
- Galaxy A15 5G (256GB) : 8,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G นั้นครั้งนี้ทาง Samsung ได้มาด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Key Island ซึ่งทาง Samsung เคลมว่าดีไซน์ใหม่นี้จะช่วยให้การจับถือง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ด้วยการที่ฝาหลังเป็นแบบมัมวาวก็ช่วยเสริมให้ตัวเครื่องดูมีความหรูหราขึ้นมาก สำหรับสีตัวเครื่องนั้นทั้งคู่จะมีด้วยกัน 2 สีคือ Blue Black และ Blue เหมือนกัน มีกล้อง 3 ตัวที่จัดวางเป็นแนวตั้งเหมือนกันด้วย เรียกได้ว่าดูไม่ออกกันเลยทีเดียวว่าเป็นรุ่นไหนกันแน่
สำหรับในส่วนของหน้าจอนั้นทั้งคู่จะมาด้วยหน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-U Display ที่มีขนาดหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ และรองรับอัตรารีเฟรชที่ 90Hz เหมือนกัน ซึ่งด้วยการที่ใช้เป็นหน้าจอ Infinity-U เลยทำให้ขอบหน้าจอจะหนาเล็กน้อย
สำหรับขอบตัวเครื่องนั้นด้วยดีไซน์ที่เรียกว่า Key Island จะมีการยกส่วนพื้นที่ทางฝั่งขวาที่เป็นปุ่มให้นูนขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการกด นอกเหนือจากนั้นจะเป็นดีไซน์แบบเหลี่ยมตามสมัยนิยม โดยปุ่มที่อยู่บน Key Island นั้นจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด-ปิด ซึ่งตัวปุ่มเปิด-ปิดนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดสแกนลายนิ้วมือด้วย สำหรับฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid-slot ที่ต้องเลือกระหว่างซิม 2 หรือ MicroSD Card ที่ด้านบนจะมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ที่ด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟนรับเสียง และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่
ระบบปฏิบัติการ
สำหรับตัวระบบปฏิบัติการนั้นทั้ง Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G นั้นจะมาพร้อม One UI 6.0 ซึ่งเป็น Android 14 ทันทีที่แกะออกจากกล่อง โดยในส่วนของ UI นั้นเรียกได้ว่าไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างไปจาก One UI รุ่นก่อนๆ แต่ทว่าด้วยการที่เป็น Android 14 ทำให้มีฟีเจอร์เพิ่มเข้ามาหลายอย่าง และยังมีการปรับปรุง UI ใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องของการใช้งานต่างๆ นั้นหากพูดถึงการเล่นโซเชียลและความบันเทิงต่างๆ ทั้งการดูหนังหรือฟังเพลง ตัวเครื่อง Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G ก็สามารถทำออกมาได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี เพียงแค่ในรุ่น 5G ก็จะได้เปรียบเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า และก็เป็นที่น่าเสียดายตรงที่ว่าทั้งคู่มาพร้อมกับลำโพงตัวเดียวเช่นเดิม ทำให้อรรถรสในการฟังลดลงไปพอสมควร
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นทั้งคู่จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh เหมือนกัน และรองรับการชาร์จเร็วที่ 25W เหมือนกันด้วย แต่ทว่าอัตราการบริโภคแบตเตอรี่นั้นจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นเพราะชิประมวลผลที่แตกต่างกันนั่นเอง ทว่าหากมองโดยรวมแล้วทั้งคู่ก็สามารถใช้จนจบวันได้แบบสบายๆ แค่ในรุ่น 5G แบตเตอรี่จะลดเร็งกว่านิดหน่อยเท่านั้น สำหรับการชาร์จนั้นเราเริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง (ชาร์จในสภาพปิดเครื่องไว้แบบนั้น) ด้วยอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 25W ของ Samsung โดยใน 10 นาทีแรก แบตเตอรี่ขึ้นมาเป็น 17% และขึ้นมาถึง 50% ภายในเวลา 28 นาที เมื่อรวมระยะเวลาชาร์จจาก 0% – 100% จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 18 นาที
การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกมนั้นน่าจะนับว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่จุดที่ค่อนข้างน่าแปลกใจของ Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G เลยก็ว่าได้ เพราะว่าถึงแม้ตัวชิปของรุ่น 4G จะเป็น Helio G99 ส่วนของรุ่น 5G จะเป็น Dimensity 6100+ ก็ตาม แต่ทว่าผลลับที่ได้ ทั้งความลื่นไหลระหว่างการเล่นเกม การปรับตั้งค่าต่างๆ รวมถึงความร้อนที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเหมือนกันเดะจนรู้สึกเหมือนกับว่า Dimensity 6100+ คือการเอา Helio G99 มาใส่โมเด็ม 5G เลย โดยเกมที่เราได้ลองเล่นนั้นจะมีเกมสามัญอย่าง RoV, PUBG Mobile และ Free Fire ซึ่งก็เล่นได้ลื่นแบบไม่มีปัญหา ถึงตัวเกม PUBG Mobile จะปรับกราฟิกได้ไม่สูงมาก แต่ถ้าปรับต่ำก็สามารถเล่นแบบ 60fps ได้ลื่นๆ เลย
นอกจากนี้เราจยังได้ลองเล่นเกมมือถือที่ไม่ควรเอามาเล่นบนมือถืออย่าง Genshin Imapct ด้วย ซึ่งทั้งคู่จะมาในสภาพเดียวกันคือต้องปรับต่ำสุด 30fps ถึงจะสามารถเล่นได้ลื่นและนาน โดยตอนที่ลองเล่นนั้นเล่นไปเครื่องละ 30 นาที ความร้อนที่ได้แค่อุ่นเบาๆ เท่านั้น แต่ถ้าปรับกราฟิกหรือเฟรมเรทให้สูงกว่านั้นก็จะทำให้ความร้อนเพิ่มขึ้นเร็วตามไปด้วย
ถ้าให้สรุปแบบสั้นๆ ในเรื่องการเล่นเกมของ Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G นั้นก็สามารถบอกได้เลยว่าเล่นได้ทุกเกมสบายหายห่วงได้เลย
การถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้น Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G นั้นจะมาพร้อมกล้องชุดเดียวกัน ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP, กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 5MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13MP ซึ่งจากที่ได้เอาไปลองถ่ายมานั้นในส่วนของภาพนิ่งเรียกได้ว่าหาความแตกต่างไม่ได้ ทั้งความคมชัด การตัดขอบละลายหลัง สีสัน และรายละเอียดต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดีเหมือนกัน
แต่จุดที่ดูจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเลยก็คือตอนที่เอาไปถ่ายวิดีโอนั้นทาง Galaxy A15 5G จะมีความเหนือว่าทั้งสีสันและความลื่นไหล แต่ก็น่าเสียดายอย่างมากที่ทั้งคู่รองรับการบันทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ FHD แบบ 30fps เท่านั้น ทั้งที่ในปัจจุบันนี้รองรับที่ FHD ที่ 60fps กันเป็นขั้นต่ำแล้ว
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy A15
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy A15 5G
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy A15 และ A15 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องยอมรับว่าครั้งนี้ทาง Samsung อัดสเปคมาให้ Samsung Galaxy A15 และ Galaxy A15 5G แบบไม่มีกั๊กจริงๆ ใส่มาให้มากเพียงพอที่จะให้ผู้ใช้งานทุกเพศ-ทุกวัยใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมก็ทำได้หมด จะบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนอเนกประสงค์ก็ยังได้ ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจอย่างมากสำหรับคนที่กำลังหาสมาร์ทโฟนดีๆ ใช้งานยาวๆ ราคาไม่ได้แรงจนเกินไปแต่รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ถ้างบไม่เยอะมากเลือกเป็น Galaxy A15 พอแล้ว แต่ถ้าสามารถกัดฟันเพิ่มอีก 2,000 บาทได้ ก็อาจจะขยับขึ้นเป็นตัว 5G เลยก็ได้ ใครที่สนใจก็ลองเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ samsung.com/th หรือไปซื้อและลองจับเครื่องได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้เลย
จุดเด่น
- ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ จับถือสบายมือมากขึ้น
- สเปคใส่มาให้แบบจัดเต็มยิ่งกว่ารุ่นก่อน
- ให้หน้าจอ Super AMOLED ที่มีสีสันสวยสดอย่างมาก
- Galaxy A15 5G มาพร้อมความจุ 256GB เลย (มีรุ่น 128GB ด้วยแต่ขายกับเครือข่ายเท่านั้น)
- กล้องถ่ายรูปสามารถเอาไปใช้ถ่ายได้ในทุกสภาพแสง
- รองรับการอัปเดตซอร์ฟแวร์ 4 รุ่นและรองรับการอัปเดตความปลอดภัยนาน 5 ปี
ข้อสังเกต
- บางเกมปรับกราฟิกสูงมากไม่ได้ (ก็เป็นไปตามประสิทธิภาพชิปประมวลผลแล้ว)
- รองรับการบันทึกวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังสูงสุดแค่ FHD ที่ 30fps เท่านั้น