Samsung Galaxy A13 5G มือถือตัวเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่รองรับ 5G เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ สเปคอัปเกรดให้น่าสนใจขึ้นไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ 90Hz ชิป Dimensity 700 5G กล้องหลังความละเอียดสูง 50MP และสีสันแบบพาสเทล ในราคาเพียง 6,999 บาท นับว่าเป็นหนึ่งตัวที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับมือถือในแบรนด์ Samsung เลยทีเดียว โดยหลังจากที่ได้เอาไปลองเล่นมาระยะหนึ่ง เราจะมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ทราบว่า Samsung Galaxy A13 5G เครื่องนี้มันเป็นอย่างไรกันบ้าง
สเปคของ Samsung Galaxy A13 5G
- หน้าจอ : PLS-LCD แบบ Infinity-V Display, ขนาด 6.5 นิ้ว, ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล (HD+), Refresh Rate 90Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 700 5G
- แรม : 4GB แบบ LPDDR4X
- ความจุ : 64GB แบบ eMMC 5.1 รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (macro)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 5 MP, f/2.0 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 15W
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย OneUI 4.1
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Sub-6GHz
- Wi-Fi 5 Dual-band
- Bluetooth 5.0
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- NFC
- USB Type-C 2.0
- ช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Fingerprint Sensor (ด้านข้างตัวเครื่อง)
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Virtual Light Sensing
- Virtual Proximity Sensing
- ขนาด : 164.5 x 76.5 x 8.8 มม.
- น้ำหนัก : 195 กรัม
- สี : ฟ้า Light Blue และ ดำ Awesome Black
- ราคา : 6,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องนั้น Galaxy A13 5G มาพร้อมหน้าจอ Infinity-V Display ที่เป็นพาแนล PLS-LCD (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ IPS นั่นเอง) มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ HD+ ถัดขึ้นไปที่ขอบจอจะมีลำโพงสำหรับเอาไว้ใช้สนทนา เพียงแต่ด้วยการที่เป็นหน้าจอ Infinity-V Display ทำให้มีขอบรอบหน้าจอที่ค่อนข้างจะกว้างหน่อยส่งผลให้ตัวเครื่องใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยด้วย
ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมดีไซน์แบบเรียบๆ ตกแต่งด้วยสีแนวพาสเทล ทำให้ดูมีความอ่อนโยนกว่ารุ่นก่อนๆ นอกจากนี้ด้วยการทำขอบตัวเครื่องให้เป็นแบบโค้งมนยังช่วยให้การจับถือมีความสบายมือ ในส่วนของเลนส์กล้องนั้นจะมีการนูนขึ้นมาเล็กน้อย จัดเรียงเป็นแนวตรง ซึ่งจะประกอบไปด้วยกล้องหลัก, กล้องมาโครและกล้องชัด-ลึก
สำหรับปุ่มและช่องต่างๆ รอบตัวเครื่องนั้น ปุ่มทั้งหมดจะรวมอยู่ฝั่งขวาไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับเสียงและปุ่มเปิด-ปิด ซึ่งปุ่มเปิด-ปิดนี้จะมีการรวมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ภายในด้วย ส่วนฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมแบบ Triple-Slot ที่ด้านบนจะมีรูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟนสำหรับใช้สนทนา, พอร์ต USB Type-C และลำโพง 1 ตัว
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy A13 5G นั้นเป็น OneUI 4.1 ซึ่งเป็น Android 12 โดยจะได้ออกมาตั้งแต่แกะกล่องทันที ซึ่ง OneUI 4.1 นั้นมีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาหลายอย่าง ด้าน UI นั้นก็ยังคงเอกลักษณ์ที่ดูเรียบง่าย ติดตั้งแอปฯ พื้นฐานที่จำเป็นมาให้ครบ ระบบต่างๆ ใช้งานง่าย ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้มากนัก
การใช้งานต่างๆ
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในด้านการใช้งานทั่วไปทั้งการเล่นโซเชียลหรือการดูหนังนั้นก็นัว่าทำออกมาได้ดี ด้วยหน้าจอ IPS แบบ 90Hz ช่วยให้การเล่นโวเชียลมีความลื่นไหลและสบายตาพอสมควร ส่วนในเรื่องการใช้ดูหนังหรือดูคลิปต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่น่าตกใจว่าชิป Dimensity 700 5G ใน Samsung Galaxy A13 5G เครื่องนี้ได้รับ Widevine ระดับ L1 มา ทำให้สามารถดูหนังแบบสตรีมมิ่งเต็มความละเอียดได้ เพียงแต่ด้วยข้อจำกัดของสเปคที่ให้หน้าจอที่มีความละเอียดระดับ HD+ มาก็ทำให้อาจจะเสียอรรถรสไปบ้าง แต่ก็แลกมาด้วยความเร็วในการโหลดหนังที่รวดเร็วแทน
สำหรับในเรื่องของแบตเตอรี่และการชาร์จนั้น Samsung Galaxy A13 5G ให้แบตเตอรี่มา 5,000 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 15W ซึ่งจากที่ได้เอาไปลองใช้งานมานั้นถ้าเป็นการใช้งานเบาๆ เน้นโวเชียลและรับสายเป็นหลัก ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องจนขึ้นวันที่ 2 ได้สบาย แและถึงแม้จะมีการใช้งานหนักๆ ผสมด้วย ตัวแบตเตอรี่ก็สามารถอยู่ได้ทั้งวันแบบสบายๆ เลย เพียงแต่จะไม่แนะนำให้ใช้จนแบตเตอรี่เหลือน้อยแล้วค่อยชาร์จ เนื่องจากเวลาชาร์จนั้นค่อนข้างนานแถมเกิดความร้อนขึ้นมาพอสมควรด้วย ซึ่งความร้อนนี่เองจะเป็นสิ่งที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแยตเตอรี่ได้
โดยจากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่นั้นเริ่มตอนแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% เมื่อผ่านไป 10 นาที จะได้แบตเตอรี่ขึ้นมาเป็น 15% โดยถ้าเพื่อนๆ กำลังรีบ แบตเตอรี่เท่านี้สามารถใช้ต่อไปได้อีกเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แและเมื่อรอจนครบ 30 นาทีจะได้แบตเตอรีเพิ่มขึ้นมาเป็น 34% เมื่อผ่านไป 60 นาทีจะได้แบตเตอรี่เพิ่มเป็น 62% แและถ้าต้องการชาร์จจนเต็มก็ใช้เวลาร่วม 128 นาที หรือราวๆ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แถมในระหว่างชาร์จก็จะเกิดความร้อนขึ้นมาพอสมควรด้วย ถ้าปล่อยจนเต็มก็จะทำให้ตัวเครื่องมีความร้อนสะสมจนอาจส่งผลต่อตัวเครื่องได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยหรือหมดแล้วค่อยชาร์จ
การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกมนั้นด้วยชิปประมวลผล Dimensity 700 5G ที่เป็นชิป 5G ระดับเริ่มต้นของ MediaTek และได้ซอร์ฟแวร์ปรับแต่งจากทาง Samsung ทำให้ในเรื่องการเล่นเกมนั้นมีความลื่นไหลพอสมควร เรียกได้ว่าสามารถเอาไปใช้เล่นเกมยอดฮิตในปัจจุบันได้เกือบทุกเกม (ยกเว้นเกมกินสเปคหนักๆ อย่าง Genshin Impact เป็นต้น) โดยเกมที่ได้ลองเล่นนั้นมี RoV และ PUBG Mobile โดยได้ทดลองเล่นแบบต่อเนื่องเป็นเวลานาน 30 นาทีต่อเกม ผลที่ได้นั้นนับว่าน่าสนใจใช้ได้ เพราะ RoV นั้นไม่ว่าจะเป็นจัวหวะไหนก็จะได้ 60fps นิ่งๆ ตลอดการเล่นเลย ส่วน PUBG Mobile นั้นด้วยการตั้งค่าให้ได้กราฟิกแค่ดี เพื่อให้ได้เฟรมเรทระดับ Ultra นั้นก็เรียกไ้ดว่าลื่นไม่มีกระตุกเลย (PUBG Mobile ปรับสูงสุดได้แค่กราฟิก HD เฟรมเรทสูงเท่านั้น)
การถ่ายภาพ
ในด้านการถ่ายภาพนั้น Samsung Galaxy A13 5G มาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าที่เอาไว้ใช้เซลฟี่นั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 5MP พร้อมด้วยฟีเจอร์ในการถ่ายภาพแบบ Portrait และโหมดกลางคืนอีกด้วย ซึ่งจากที่ได้ลองเอาไปถ่ายภาพมาหลายๆ แบบนั้น ต้องยอมรับเลยว่ากล้องความละเอียด 50MP ที่ใส่มาให้นั้นค่อนข้างใช้ได้หลายสถานการณ์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นจังหวะแสงเยอะ, ย้อนแสง หรือแม้กระทั่งแสงน้อยก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ส่วนกล้องหน้านั้นเวลาเซลฟี่จะทำออกมาได้ดีตอนมีแสงเพียงพอ แต่พอเป็นช่วงแสงน้อยแล้วจะเกิด Noise เยอะเอาเรื่อง ในส่วนของการละลายหลังนั้นเรียกได้ว่าทาง Samsung ทำออกมาได้ค่อนข้างเนียนทีเดียว ไม่ได้มีการละลายกินพื้นที่เข้ามาในตัวแบบอีกด้วย นับว่าใช้ได้เลยสำหรับมือถืองบ 7,000 บาท
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy A13 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้ลองเอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องยอมรับเลยว่า Samsung Galaxy A13 5G เป็นมือถือราคาไม่แพงมากที่สามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, เล่นโซเชียล, เล่นเกม หรือแม้แต่การถ่ายรูปก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่ก็ตามราคาค่าตัวที่ไม่แพงมากนักทำให้มีข้อจำกัดหลายๆ อย่างเพิ่มขึ้นมาแทน ทว่าก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากนัก แถมดีไซน์ยังนับว่าสวยงามใช้ได้อีกด้วย ทำให้ราคาค่าตัวที่ 6,999 บาทดูคุ้มค่าขึ้นมากทีเดียว สำหรับคนที่สนใจสามารถลองเข้าไปดูรายละเอียดหรือสั่งซื้อได้ที่ samsung.com/th นะ
จุดเด่น
- ดีไซน์ตัวเครื่องมีความเรียบง่ายแต่สวยงาม
- มีการออกแบบขอบเครื่องให้มีความโค้งมนช่วยให้จับถือได้สบายมือ
- ได้หน้าจอที่มีอัตรารีเฟรช 90Hz
- ได้ชิปประมวลผล Dimensity 700 มา ทำให้รองรับ 5G ด้วย
- ได้ Widevine ระดับ L1 ทำให้สามารถดูสตรีมมิ่งได้เต็มความละเอียด
- มาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50MP
- การละลายหลังทำออกมาได้เนียนตา
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มีความอึดจนสามารถอยู่ได้ครบวันแบบสบายๆ
- ยังให้ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. มาอยู่
ข้อสังเกต
- ใช้หน้าจอแบบ Infinity-V ทำให้มีขอบจอที่ค่อนข้างหนา
- ได้หน้าจอความละเอียดแค่ HD+
- ให้ความจุมาแค่ 64GB ซึ่งในปัจจุบันนี้แทบไม่พอใช้แล้ว
- ให้กล้องหน้าความละเอียดเพียง 5MP เท่านั้น
- รองรับการบันทึกวิดีโอได้แค่ 1080p 30fps เท่านั้น
- ให้ระบบชาร์จเร็วมาเพียง 15W เท่านั้น ทำให้ใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน แถมยังเกิดความร้อนอีกด้วย