รีวิว Redmi Note 10S กล้องโหด 64MP ถ่าย 4K ชิปเกม Helio G95 ในราคา 7,499 บาท

Redmi Note 10S ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 + กล้องหลัง 64MP พร้อมหน้าจอ AMOLED แบบ DotDisplay

หลังจากวางจำหน่าย Redmi Note 10 กับ Redmi Note 10 Pro ไปก่อนหน้านี้ และทั้งสองรุ่นก็มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ เสียด้วย ก็ถึงคราวของ 2 รุ่นใหม่ในตระกูล Redmi Note 10 Series ได้แก่ Redmi Note 10S และ Redmi Note 10 5G ที่ผมมองว่ามาเพื่อเติมเต็มช่วงราคาระหว่าง Redmi Note 10 กับ Redmi Note 10 Pro และเพิ่มตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G ราคาไม่แพง

รีวิวนี้จะเป็นการรีวิว Redmi Note 10S สมาร์ตโฟนที่วางตำแหน่งไว้ตรงกลางระหว่าง Redmi Note 10 กับ Redmi Note 10 Pro ด้วยราคาค่าตัว 7,499 บาท จะมองว่าเป็น Redmi Note 10 ที่ครบเครื่องมากขึ้น หรือจะมองว่าเป็น Redmi Note 10 Pro ราคาประหยัดก็ได้ทั้งคู่ครับ

สเปค Redmi Note 10S

• หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว แบบ DotDisplay ความละเอียด FHD+
• ชิปประมวลผล MediaTek Helio G95 ความเร็วสูงสุด 2.05GHz
• ชิปประมวลผลกราฟฟิก GPU Mali-G76 MC4 ความเร็ว 900MHz
• RAM 8GB (LPDDR4X)
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB (UFS 2.2), รองรับการเพิ่ม microSD Card (Triple Slot)
• กล้องหลัง 4 ตัว
  • กล้องหลักเลนส์ Wide – 64MP (f/1.9)
  • กล้องมุมกว้างพิเศษ Ultra wide-angle – 8MP
  • กล้อง Macro – 2MP
  • Depth Sensor – 2MP
• กล้องหน้า 13MP (f/2.5)
• เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง) + ปลดล็อกด้วยสแกนใบหน้า
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh
• รองรับระบบชาร์จไว 33W
• พอร์ตชาร์จไฟแบบ USB Type-C และมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• ลำโพงคู่สเตอริโอ
• กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53
• ขนาดตัวเครื่อง 160.5 x 74.5 x 8.3 มม.
• น้ำหนัก 178 กรัม
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
• สี Onyx Gray, Pebble White และ Ocean Blue
• ราคาเริ่มต้น 7,499 บาท

*เครื่องทดสอบเป็นเวอร์ชั่น RAM 6GB/ ROM 128GB

Design – การออกแบบตัวเครื่อง

สรุปให้แบบกระชับที่สุด สำหรับดีไซน์ของ Redmi Note 10S ก็คือมาในทรงเดียวกับ Redmi Note 10 เป๊ะ ๆ ทั้งการดีไซน์ ตำแหน่งปุ่มกดต่าง ๆ ไปจนถึงขนาดตัวเครื่อง และน้ำหนักที่ 178 กรัม เรียกได้ว่าใส่เคสเดียวกัน ติดฟิล์มรุ่นเดียวกันได้เลย อย่างที่ผมบอกไปล่ะครับ ว่ารุ่นนี้มันคือ Redmi Note 10 เวอร์ชั่นอัพเกรดสเปค

ด้านหน้าของ Redmi Note 10S มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.43 นิ้ว AMOLED แบบ DotDisplay มีการฝังกล้องหน้าไว้บริเวณกึ่งกลางด้านบนหน้าจอ เป็นกล้องหน้าความละเอียด 13MP ส่วนตัวมองว่ากล้องหน้ามีขนาดใหญ่ และรบกวนสายตาขณะใช้งานประมาณหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีขอบหน้าจอที่หนาพอสมควร แต่ด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่มาก ก็ยังถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกเครื่องหนึ่ง

จุดเด่นในเรื่องการออกแบบของ Redmi Note 10S ก็คือเป็นสมาร์ตโฟนราคาไม่แพง ที่มาพร้อมกับลำโพงคู่ Stereo บริเวณด้านบน และด้านล่างตัวเครื่อง โดยการใช้งานให้แยกเสียงเป็นสเตอริโอ ควรเป็นการใช้งานในแนวนอน อย่างการรับชมภาพยนตร์ ส่วนเรื่องคุณภาพเสียง ก็ถือว่าตามราคาครับ เสียงลำโพงออกแห้ง ๆ แล้วก็เปิดดังสุดมีอาการเสียงแตกให้เห็นบ้าง เพราะฉะนั้นถ้าอยากฟังเพลงให้สนุก ๆ แนะนำว่าต่อลำโพง หรือหูฟังจะได้อรรถรสมากกว่า

นอกจากเรื่องขอบหน้าจอที่หนา, ขนาดกล้องหน้าที่รบกวนสายตา และเสียงลำโพงที่ไม่ค่อยน่าประทับใจ (แต่ก็ถือว่าโอเคแล้วสำหรับสมาร์ตโฟนราคานี้ เพราะได้ลำโพงคู่ Stereo) ส่วนอื่นในเรื่องการดีไซน์ของ Redmi Note 10S ก็ไม่มีอะไรให้ติแล้วล่ะครับ ได้ตัวเครื่องที่กะทัดรัด บางเพียง 8.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 178 กรัม ถือใช้งานสะดวก ตัวเครื่องดีไซน์ออกมาได้สวยงาม มีการทำโค้งเว้าให้เหมาะสมกับการจับถือตัวเครื่อง อีกทั้งงานประกอบก็ดีตามสไตล์ของ Redmi

ด้านหลังตัวเครื่องประกอบไปด้วยชุดกล้องหลัง 4 ตัว AI Quad Camera ตัวโมดูลกล้องนูนขึ้นมาจากฝาหลังเพียงเล็กน้อย แทบไม่มีผลต่อการใช้งาน และเมื่อใส่เคส TPU ที่ให้มาในกล่องเป็นอุปกรณ์เสริม ก็หมดกังวลเรื่องรอยขีดข่วนที่ตัวโมดูลกล้องไปได้เลย เพราะเคสยื่นขึ้นมาปิดโมดูลกล้องได้เรียบร้อยดี

ส่วนด้านหลังตัวเครื่อง นอกจากโมดูลกล้องก็มีเพียงโลโก้ Redmi เท่านั้น ออกแนวคลีน ๆ เพื่อที่จะได้โชว์ฝาหลังได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านข้างตัวเครื่อง โดยสีเครื่องรีวิว Redmi Note 10S ที่ได้รับมาเป็นสี Onyx Grey หรือสีเทาไล่เฉด เวลาโดนแสงตกกระทบก็จะให้เฉดสีเทาที่แตกต่างกันออกไป

ดีไซน์ภายนอก ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อ และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ของรุ่นนี้ก็มีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ 3 Card Slot (รองรับ 2 nano SIM + 1 microSD Card), IR Blaster สำหรับใช้แทนรีโมตคอนโทรลในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านแอปพลิเคชั่น Mi Remote และมาพร้อมกับคุณสมบัติในการกันละอองน้ำ IP53

Performance – ประสิทธิภาพ

ความแตกต่างที่สุดระหว่าง Redmi Note 10 กับ Redmi Note 10S จะอยู่ที่ชิปประมวลผล โดยในรุ่นนี้ เลือกใช้ชิปเซ็ตจากค่าย MediaTek ในรุ่น Helio G95 เป็นชิปเซ็ตแบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.05GHz ในด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ Snapdragon 678 ใน Redmi Note 10 ชิป Helio G95 จะให้ประสิทธิภาพโดยรวมที่เหนือกว่า โดยเฉพาะในเรื่องชิปประมวลผลกราฟฟิก Mali-G76 MC4 มีความเร็ว 900MHz มากกว่า Adreno 612 ใน Snapdragon 678 ส่งผลให้ในการเล่นเกม เมื่อเทียบกันแล้ว Redmi Note 10S จะทำได้ดีกว่า

นอกจากนี้ ISP ที่อยู่ในชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ยังออกแบบมาให้รองรับเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงสุดที่ 64MP แตกต่างจาก Snapdragon 678 ที่ ISP รองรับเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงสุด 48MP นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Redmi Note 10S เลือกใช้ชิปเซ็ตตัวนี้ก็เป็นได้ครับ

ในการใช้งานจริง เครื่องรีวิว Redmi Note 10S ที่ได้รับมาเป็นรุ่น RAM 6GB/ ROM 128GB ผมทดสอบเล่นเกมอย่าง ROV (ปรับตั้งค่าระดับสูง + 60fps) หรือ PUBG (กราฟฟิก HDR + เฟรมเรต Ultra) สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรตนิ่ง ๆ ตามที่เลือกในการปรับตั้งค่าเอาไว้ เนื่องจากชิปประมวลผลที่อยู่ในสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ มีความแรงพอที่จะเล่นเกมได้อยู่แล้ว จะติดปัญหาในเรื่องของการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ส่วนตัวมองว่ารุ่นนี้ยังจับสัญญาณได้ไม่เสถียรเท่าไหร่นัก แนะนำว่าในระหว่างเล่นเกม ควรอยู่ใกล้อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะดีให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด

ด้านการเชื่อมต่อ 4G ในเฟิร์มแวร์เครื่องรีวิว Redmi Note 10S ที่ส่งมาให้ทดสอบ (MIUI Global 12.5.7) ผมทดสอบทั้งซิม AIS และ TrueMove H ไม่ขึ้น 4G+ ทั้งสองเครือข่าย ตรงนี้ก็ถือว่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะตามสเปคของชิป Helio G95 โมเด็มมันรองรับ LTE Cat.12 รองรับการรวมคลื่น หรือ Carrier Aggregation สาเหตุอาจมาจากการที่เป็นเครื่องทดสอบ Prototype เฟิร์มแวร์อาจจะยังไม่ใช่ตัว Final กับรุ่นที่ขายจริงก็เป็นได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth รุ่นนี้มาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 ก็ตามมาตรฐานของสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในช่วงนี้ครับ

Camera – กล้องถ่ายรูป

นอกจากชิปประมวลผลที่เป็นคนละรุ่นกับ Redmi Note 10 กล้องของ Redmi Note 10S ก็ยังมาพร้อมกับชุดกล้องหลังที่สเปคสูงกว่า แม้จะเป็นกล้องหลัง 4 ตัวเหมือนกัน แต่เซ็นเซอร์หลักของ Redmi Note 10S มีความละเอียดสูงถึง 64MP เทคโนโลยีแบบ 4-in-1 Pixel-binning หากถ่ายภาพในโหมดปกติ จะได้ไฟล์ภาพความละเอียด 16MP และสามารถถ่ายความละเอียดเต็ม 64MP ได้ในโหมด 64MP Ultra HD เหมาะสำหรับการนำภาพไปครอปเพื่อใช้งานต่อ แต่ถ้าถ่ายปกติ อัพลงโซเชียล แค่ 16MP ในโหมด Auto ก็เพียงพอแล้วครับ

กล้องตัวอื่น ๆ ของ Redmi Note 10S ประกอบไปด้วยกล้อง Ultra wide-angle ความละเอียด 8MP กับกล้อง Macro 2MP และ Depth Camera 2MP โดยรวมก็ถือว่าให้ระยะถ่ายรูปที่เพียงพอต่อการใช้งาน ถ่ายระยะปกติ ถ่ายกว้าง และถ่ายใกล้ด้วยเลนส์มาโคร ส่วนการซูม รุ่นนี้เป็น Digital Zoom 100% แต่ด้วยความที่เซ็นเซอร์หลักมีความละเอียดสูง เลยทำให้ระยะการซูมที่ประมาณ 2x – 6x ส่วนตัวยังมองว่าเป็นระยะที่ซูมมาแล้วใช้งานได้จริง ความคมชัดอยู่ในระดับที่รับได้ (รุ่นนี้ซูมได้ไกลสุด 10x Digital Zoom)

กล้องหน้าของ Redmi Note 10S มีความละเอียดอยู่ที่ 13MP f/2.5 รองรับ HDR และ AI ช่วยในการถ่ายเซลฟี่ มีโหมด Portrait หรือภาพถ่ายบุคคลให้เลือกใช้งาน เพื่อละลายฉากหลัง และสร้างโบเก้ขณะเซลฟี่

ด้านการถ่ายวิดีโอ Redmi Note 10S รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30fps |1080p 60fps สำหรับกล้องหลัง แต่ถ้าต้องการใช้งานระบบกันสั่นวิดีโอ จะต้องถ่ายวิดีโอกล้องหลังที่ความละเอียด Full HD 30fps เท่านั้น ส่วนกล้องหน้ารองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 30fps

ภาพรวมของกล้อง Redmi Note 10S เมื่อเทียบกับ Redmi Note 10 แน่นอนว่าเซ็นเซอร์หลัก 64MP ให้คุณภาพรูปถ่ายที่ดีกว่าในระดับหนึ่ง การโฟกัสทำได้รวดเร็ว เก็บสีได้แม่นยำ (ในเซ็นเซอร์หลัก) ส่วนโหมดถ่ายรูป ผมมองว่ามีลูกเล่นต่าง ๆ น้อยไปสักหน่อย อย่างการถ่ายกลางคืน ก็ทำได้แค่เซ็นเซอร์หลัก และไม่มีฟิลเตอร์กลางคืนมาให้ใช้งาน

ส่วนการแก้ไขภาพถ่ายด้วยแอปพลิเคชั่น Gallery ที่ติดมากับตัวเครื่อง Redmi Note 10S ก็ให้ฟีเจอร์การแก้ไขท้องฟ้า ที่สามารถเปลี่ยนท้องฟ้าได้หลากหลายรูปแบบ จะเปลี่ยนจากท้องฟ้าตอนกลางวัน เป็นกลางคืน หรือตอนเย็นก็ทำได้ และทำได้เนียนเสียด้วย

Gallery ภาพถ่ายจาก Redmi Note 10S

Battery – แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน

Redmi Note 10S มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ถือเป็นสเปคแบตเตอรี่มาตรฐานในยุคนี้ และด้วยความจุแบตเตอรี่ที่สูงระดับ 5,000 mAh จึงทำให้รุ่นนี้ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน จากที่ได้ทดสอบกับเครื่องรีวิว Redmi Note 10S อายุการใช้งานแบตเตอรี่ หากไม่ได้ใช้งานหนัก ๆ คิดว่า 2 วันชาร์จทีก็พอไหว โดยรวมเป็นสมาร์ตโฟนที่มีระบบการจัดการพลังงานที่ดีเลยครับ

ระบบชาร์จไฟของ Redmi Note 10S รุ่นนี้ให้อะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ 33W Fast Charging ในเวลา 30 นาที สามารถชาร์จไฟได้ถึง 54% เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนหลายรุ่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน Redmi Note 10S ถือว่าให้อะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้มากกว่าพอสมควร เพราะในราคานี้ ส่วนมากจะรองรับการชาร์จไฟเพียง 18W

Software – ระบบปฏิบัติการ

แม้จะเป็น Android 11 เหมือนเดิม แต่ Redmi Note 10S มาพร้อมกับ MIUI เวอร์ชั่น 12.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เน้นเรื่องการจัดการทรัพยากรในเครื่องได้ดีขึ้น ลดการใช้ RAM ได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับ MIUI 12 อีกทั้งมี Bloatware น้อยลงมาก แถมยังลบทิ้งได้เกือบทั้งหมด แต่ในแง่ความแตกต่างที่มองเห็นได้ เมื่อเทียบกับ MIUI 12 เช่น หน้าตา UI และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับ MIUI 12.5 ใน Redmi Note 10S ผมมองว่ายังเปลี่ยนแปลงไม่มาก เมื่อเทียบกับ MIUI 12 ใน Redmi Note 10

เปรียบเทียบสเปค Redmi Note 10 Series

สรุปภาพรวม รีวิว Redmi Note 10S รุ่นนี้เหมาะกับใคร?

ภาพรวมสำหรับ Redmi Note 10S ก็ตามตำแหน่งที่ถูกวางไว้ล่ะครับ คือเน้นทำตลาดในช่วงราคาที่เป็นช่องว่างระหว่าง Redmi Note 10 กับ Redmi Note 10 Pro และก็ถือว่าทำดี สมกับราคา 7,499 บาท ได้สเปคกล้องที่ดีขึ้นจาก Redmi Note 10 ได้ชิปประมวลผลที่เล่นเกมได้ดีขึ้น ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของ Xiaomi อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED, แบตเตอรี่ความจุสูง 5,000 mAh แถมยังรองรับระบบชาร์จไว 33W Fast Charging ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ตโฟนราคาใกล้เคียงกัน

จุดเด่น

• ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา มาพร้อมคุณสมบัติ IP53
• ได้หน้าจอ AMOLED แสดงสีสันได้ดีเยี่ยม
• ระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
• ชิปประมวลผล MediaTek Helio G95 เล่นเกมได้ดี
• แบตเตอรี่และการจัดการพลังงานทำได้ดี มีระบบชาร์จไว 33W

ข้อสังเกต

• หน้าจอรีเฟรชเรต 60Hz
• โหมดกล้องมีฟีเจอร์ไม่มาก
• ใช้เวลาบันทึกไฟล์วิดีโอ 4K ในระดับหนึ่ง