realme C25 สมาร์ตโฟนซีรี่ส์เล็ก ที่มาพร้อมกับสโลแกน “กล้อง 48MP แบต 6000 mAh”
รีวิว realme C25 สมาร์ตโฟนซีรี่ส์เล็ก รุ่นใหม่จากทาง realme ที่มาพร้อมกับสโลแกน “กล้อง 48MP แบต 6000 mAh” กับค่าตัว 5,499 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นเล็กราคาประหยัดที่น่าสนใจทีเดียว เพราะนอกจากกล้องกับแบตเตอรี่จะสเปคดีแล้ว รุ่นนี้ยังขับเคลื่อนด้วยชิป MediaTek Helio G70 ที่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมอีกด้วย
สเปค realme C25
- หน้าจอ IPS LCD 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G70
- RAM 4GB
- ความจุ ROM 64GB รองรับ microSD card แบบ Triple Slot
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP
- กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 48MP
- กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
- กล้อง Monochrome ความละเอียด 2MP
- ปลดล็อกด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง + สแกนใบหน้า
- แบตเตอรี่ 6,000 mAh
- รองรับชาร์จไว 18W
- พอร์ตชาร์จ USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 บน Android 11
- สี Water Grey และ Water Blue
- ราคา 5,499 บาท
อุปกรณ์ในกล่องของ realme C25 ให้อุปกรณ์เสริมจำนวน 3 อย่าง ได้แก่ เคส TPU แบบใส, สายชาร์จแบบ USB Type-A to USB Type-C และอะแดปเตอร์จ่ายไฟ 18W (9V: 2A) ส่วนเครื่องรีวิวที่ได้รับมานั้น เป็นตัวเครื่องสีเทา Water Grey และนอกจากสีนี้ realme C25 ยังวางจำหน่ายอีกสี มีชื่อสีว่า Water Blue ครับ
Design – การออกแบบตัวเครื่อง
สำหรับ realme C25 เรียกว่าเป็นรุ่นที่อัพสเปคขึ้นจาก realme C21 ไปอีกระดับ มีหน้าจอที่แสดงผลได้สวยงามมากขึ้น พอร์ตชาร์จเปลี่ยนเป็น USB Type-C แบตเตอรี่ความจุมากขึ้น รวมถึงสเปคภายในที่ใช้ MediaTek Helio G70 + RAM 4GB และความจุในตัวเครื่อง 64GB กับราคาเปิดตัว 5,499 บาท ก็ถือว่าเป็นสเปคที่น่าใช้ทีเดียว เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว
ตัวเครื่อง realme C25 บริเวณด้านหน้า มาพร้อมกับหน้าจอ Mini-drop Fullscreen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วนจอต่อตัวเครื่อง 88.7% แสดงเรื่องสีสันได้ดี มุมมองภาพด้านข้างก็ทำได้ดีเช่นกัน
ด้านหลังตัวเครื่อง ดีไซน์มาจาก Geometric Art Design วางจำหน่ายด้วยกัน 2 สี คือ Water Grey และ Water Blue พื้นผิวฝาหลังผ่านกระบวนการใช้เครื่องแกะสลักเรเดียมแม่นยำห้าแกนชั้นนำของเยอรมันและหลังจากขัด 300 นาที ได้มีการสลักเส้นโค้ง 450+ เส้นเพื่อสร้างเอฟเฟกต์แสงสะท้อนพิเศษ และยังทำให้พื้นผิวของรุ่นนี้ ไม่เก็บรอยนิ้วมือ และป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
ด้านหลังตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP วางบนโมดูลสี่เหลี่ยมจุตรัส มีแฟลช LED จำนวน 1 ดวง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง ส่วนการปลดล็อก นอกจากใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังสามารถใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้าได้อีกด้วย
พอร์ตเชื่อมต่อของ realme C25 อยู่บริเวณด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ/ ชาร์จไฟแบบ USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ส่วนถาดใส่ซิมการ์ดที่อยู่บริเวณด้านซ้ายมือ เป็นถาดซิมแบบ 3 Card Slot รองรับ 2 nanoSIM + 1 microSD Card
ส่วนเรื่องความทนทาน และมาตรฐานในด้านการผลิต สมาร์ตโฟน realme ทุกรุ่น ผ่านการรับรองมาตรฐานสำหรับสมาร์ตโฟน TUV Rheinland Smartphone High Reliability Certification ที่มีรูปแบบการทดสอบเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด เพราะฉะนั้นในเรื่องคุณภาพสินค้าของ realme C25 เห็นเป็นสมาร์ตโฟนซีรี่ส์เล็ก แต่ก็ไว้ใจได้ในเรื่องคุณภาพสินค้าเลยล่ะ
Performance – ประสิทธิภาพ
ด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้เลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G70 แบบ octa-core ความเร็วสูงสุด 2.0 GHz พร้อมกับ Cortex-A75 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตจากทาง MediaTek ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นชิปสำหรับเกมมิ่งสมาร์ตโฟนราคาไม่แพง และสามารถใช้เล่นเกมได้ แค่อาจจะต้องปรับตั้งค่ากราฟฟิกในเกมให้เหมาะสม ส่วนมากก็จะเป็นการปรับระดับ Medium เฟรมเรต 30 fps ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลแทบจะทุกเกม
ในการเล่นเกม ตอนที่รีวิว realme C25 ผมลองทดสอบกับเกม Free Fire ก็สามารถที่จะเล่นเกมได้ แต่ก็ต้องมีการปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับเกมนั้น ๆ ด้วย เช่นเดียวกับเกม RoV ผมเล่นแบบปรับกราฟฟิกระดับ High ในโหมด 30fps ก็สามารถเล่นได้เช่นกัน ส่วน Cookie Run Kingdom หากปรับ 30fps จะเล่นได้ลื่นไหลครับ
ส่วนการใช้งานทั่วไป เนื่องจากรุ่นนี้ให้ RAM 4GB เลยทำให้การใช้งานทั่วไปมีความลื่นไหลในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเปิดแอปหลาย ๆ แอปพร้อมกัน แล้วทำการสลับแอปไปมาบ่อย ๆ ก็มีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมก็ถือว่ารับได้ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว
ด้านการจัดการพลังงาน realme C25 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ยักษ์ ความจุสูงถึง 6000 mAh สามารถสแตนบายตัวเครื่องได้นานถึง 47 วัน ส่วนในการใช้งานนั้น หากไม่ได้เล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผมว่า 1 วันครึ่ง – 2 วันชาร์จไฟครั้งหนึ่งยังได้ คือมั่นใจได้เลยว่าแบตเตอรี่อึดมากเกินใช้งานใน 1 วันอย่างแน่นอน และไม่เพียงแค่แบตเตอรี่อึด แต่ยังทำ Reverse Charge เปลี่ยนตัวเองเป็น Powerbank เพื่อชาร์จไฟให้สมาร์ตโฟนเครื่องอื่นผ่านสาย USB OTG ได้อีกด้วย (ต้องซื้อแยก)
ผมทดสอบด้วยการชาร์จไฟจนเต็ม 100% ตั้งแต่เวลา 9.00 น. มาจนถึงเวลา 16.00 น. มีการเล่นเกม PUBG Mobile Lite ไปด้วยกัน 2 เกม พบว่าแบตเตอรี่เหลือราว ๆ 89% เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่มีการจัดการพลังงานที่ดีมากทีเดียวครับ จะว่าไปตอนรีวิว realme C25 นี่ผมก็แทบไม่ได้ชาร์จไฟบ่อยเลยด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องการชาร์จไฟ รุ่นนี้ให้อะแดปเตอร์ 18W (9V 2A) ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ 6,000 mAh ได้ดีเลย
นอกจากนี้ realme C25 ยังมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดอย่าง Super Power Saving Mode ที่กำหนดให้ผู้ใช้เลือกแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานหลัก ๆ 6 แอป ไว้ที่หน้าจอสแตนบายแบบพิเศษ เป็นหน้าจอที่เน้นสีดำเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานมากขึ้น โดยในโหมดดังกล่าว กรณีที่เหลือแบตเตอรี่ 5% จะสามารถใช้งาน WhatsApp ได้ต่อเนื่องเกือบ ๆ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
Software – ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ realme C25 รุ่นนี้มาพร้อมระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 11 ช่วยให้การใช้งานมีความรวดเร็ว ลื่นไหล และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่งไอคอนต่าง ๆ รวมถึงกำหนดรูปแบบของ Theme ไปจนถึงการกำหนดความเข้มของโหมดมืด (Dark mode)
โดย realme UI 2.0 มีจุดเด่นในเรื่องการปรับแต่ง UI ต่าง ๆ ได้ละเอียด ด้วยตัวเลือกการปรับแต่งมากกว่า 100 รายการ ประกอบไปด้วย Global Theme Color, Dark Mode 3 สไตล์ , Icon Customization และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญในเรื่องการป้องกันความเป็นส่วนตัว มาพร้อมกับคุณสมบัติในการซ่อนแอพและไฟล์ส่วนตัว นอกจากนี้ realme UI 2.0 มีระบบป้องกันการชำระเงิน ระบบตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชันอีกด้วย
Camera – กล้องถ่ายรูป
ด้านการถ่ายภาพ realme C25 มาพร้อมกับกล้องหลัง AI แบบ 3 กล้อง Triple Camera ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 48MP + 2MP B&W Portrait + 2MP Macro Lens ระบบโฟกัสเป็นแบบ PDAF ให้ความรวดเร็วและแม่นยำในระดับหนึ่ง และมีแฟลช LED ติดมาให้จำนวน 1 ดวง ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP รองรับฟังก์ชั่น AI Beautification , โหมด HDR , โหมด Portrait
ภาพรวมสำหรับกล้องหลังของ realme C25 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้สำหรับสมาร์ตโฟนระดับราคานี้ อย่างน้อยที่สุดก็คือได้กล้องที่ความละเอียดสูงกว่าหลายแบรนด์ และการมาพร้อมกับกล้องที่มีลูกเล่น มีหลายฟีเจอร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโหมดกลางคืน ที่สมาร์ตโฟนหลายรุ่นในราคาใกล้เคียงกับ realme C25 ไม่ได้ใส่มาให้
ส่วนการบันทึกวิดีโอ realme C25 รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 30fps ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง และรองรับการบันทึกวิดีโอ Slo-mo เฉพาะกล้องหลัง ที่ความละเอียดสูงสุด 720p 120fp
ส่วนการบันทึกวิดีโอ realme C25 รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 30fps ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง และรองรับการบันทึกวิดีโอ Slo-mo เฉพาะกล้องหลัง ที่ความละเอียดสูงสุด 720p 120fp
Gallery ภาพถ่ายจาก realme C25
สรุปภาพรวม รีวิว realme C25
ภาพรวมสำหรับ realme C25 กับราคา 5,499 บาท ก็ยังคงคอนเส็ปเดิมของ realme คือเน้นเรื่องความคุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน อย่างรุ่นนี้ก็จะโดดเด่นกว่าในเรื่องของหน้าจอขนาดใหญ่ ชิปประมวลผลระดับเกมมิ่ง MediaTek Helio G70 + RAM 4GB ที่สามารถเล่นเกมได้ รวมถึงกล้องหลัง 48MP AI Triple Camera อีกทั้งแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6,000 mAh + ชาร์จเร็ว 18W
ด้วยสเปคที่ให้มากับราคาเปิดตัวที่ไม่แพงจนเกินไป ทำให้ realme narzo 30A เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก ราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนชอบเล่นเกม แต่มีงบประมาณไม่มากในการเลือกซื้อมือถือเล่นเกม เพราะรุ่นนี้สามารถเล่นหลาย ๆ เกมที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ROV, Free Fire, PUBG Mobile รวมถึง Cookie Run Kingdom
จุดเด่นของ realme C25
- realme narzo 30A มาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek Helio G70 octa-core ขนาด 12nm เล่นเกมได้
- กล้องหลัง AI Triple Camera ความละเอียด 48MP พร้อม B&W Portrait Lens และ Macro Lens
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000 mAh
- ดีไซน์ตัวเครื่อง มีความแฟชั่น และงานประกอบที่ค่อนข้างดี ผ่านมาตรฐานจาก TUV Rheinland
- กล้องหลังมีโหมดกลางคืนมาให้
- หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว HD+
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB Type-C และรองรับชาร์จไว 18W
ข้อสังเกตของ realme C25
- การเชื่อมต่อ 4G เป็นแบบ Non-CA
- กล้องหลังไม่มีเลนส์มุมกว้าง