Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Phone Review»รีวิว realme 9 Pro Series ครั้งแรกกับกล้องระดับเรือธง ในสมาร์ตโฟนระดับกลาง ราคาเริ่มต้น 8,999 บาท
    Phone Review

    รีวิว realme 9 Pro Series ครั้งแรกกับกล้องระดับเรือธง ในสมาร์ตโฟนระดับกลาง ราคาเริ่มต้น 8,999 บาท

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng3 มีนาคม 2022Updated:7 มีนาคม 2022
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    รีวิว realme 9 Pro Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง realme ที่เปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ กับค่าตัวเริ่มต้นเพียง 8,999 บาท ถือเป็นสองรุ่นที่น่าสนใจทั้งคู่ โดยเฉพาะใน realme 9 Pro+ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX766 ที่ถูกใช้ในสมาร์ตโฟนระดับท็อปหลาย ๆ รุ่น ว่าแต่การใช้งานจะเป็นอย่างไร ถ่ายรูปออกมาได้สวยขนาดไหน เลื่อนลงไปอ่านรีวิวได้เลยครับ

    รีวิว realme 9 Pro Series

    สเปค realme 9 Pro

    • หน้าจอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz
    • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G
    • RAM 6GB/ 8GB
    • ความจุ 128GB (UFS 2.2)
    • กล้องหลัง 3 ตัว
      • กล้องหลัก : 64MP (f/1.79)
      • กล้อง Ultrawide : 8MP (f/2.2) มุมกว้าง 119 องศา
      • กล้อง Macro : 2MP (f/2.4)
    • กล้องหน้า 16MP (f/2.05)
    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
    • รองรับ 5G, WiFi 5 และ Bluetooth 5.1
    • แบตเตอรี่ 5000 mAh
    • ชาร์จไว 33W Dart Charge
    • ระบบ Android 12 ครอบด้วย realme UI 3.0
    • ราคาเริ่มต้น 8,999 บาท
    • สเปคเต็ม ๆ realme 9 Pro

    สเปค realme 9 Pro+

    • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 90Hz
    • ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G
    • RAM 8GB
    • ความจุ 256GB (UFS 2.2)
    • กล้องหลัง 3 ตัว
      • กล้องหลัก : 50MP (f/1.8), กันสั่น OIS, เซ็นเซอร์ IMX766
      • กล้อง Ultrawide : 8MP (f/2.2) มุมกว้าง 119 องศา
      • กล้อง Macro : 2MP (f/2.4)
    • กล้องหน้า 16MP (f/2.4)
    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
    • รองรับ 5G, WiFi 6 และ Bluetooth 5.2
    • แบตเตอรี่ 4500 mAh
    • ชาร์จไว 60W SuperDART
    • ระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12
    • ราคา 12,999 บาท
    • สเปคเต็ม ๆ realme 9 Pro+

    ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ ดีไซน์แบบ Photochromism

    สำหรับดีไซน์ของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ทั้งสองรุ่นจะมาในดีไซน์ใกล้เคียงกัน แตกต่างกันในเรื่องของขนาดตัวเครื่อง โดย realme 9 Pro จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เนื่องจากหน้าจอมีขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ในขณะที่ realme 9 Pro+ แม้จะมีขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว แต่ก็ได้พาแนลแบบ Super AMOLED ที่โดดเด่นกว่าในเรื่องของสีสันหน้าจอ

    นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างในเรื่องของอัตรารีเฟรชหน้าจอ หากเป็นหน้าจอ Super AMOLED ของ realme 9 Pro+ จะมีอัตรารีเฟรชหน้าจออยู่ที่ 90Hz ส่วนหน้าจอ realme 9 Pro ที่เป็นพาแนลแบบ IPS-LCD จะมีอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz Ultra Smooth Display แม้จะมีตัวเลขที่ต่างกันเล็กน้อย แต่ในการใช้งานปกติทั่วไป ส่วนตัวผมว่าแทบไม่มีความแตกต่างครับ คือปัดหน้าจอลื่นไหลเหมือนกันทั้งสองรุ่น

    ความแตกต่างของทั้งสองรุ่น อีกอย่างก็คือขนาดของกล้องหน้า แม้จะฝังอยู่บริเวณมุมซ้ายบนหน้าจอเหมือนกัน กล้องหน้าความละเอียด 16MP เท่ากัน แต่กล้องหน้า realme 9 Pro+ มีขนาดเล็กกว่าใน realme 9 Pro เล็กน้อย รวมถึงตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ realme 9 Pro เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านข้างตัวเครื่อง ส่วน realme 9 Pro+ จะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ในการวัดอัตราการเต้นหัวใจ (เปิดใช้ใน realme Lab)

    ตำแหน่งของปุ่มกด และพอร์ตต่าง ๆ ของทั้งสองรุ่น ถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นลำโพง, พอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C รวมถึงตำแหน่งของไมโครโฟน และถาดใส่ซิมการ์ด แต่ก็มีข้อแตกต่างเล็กน้อยตรงที่ถาดซิมของ realme 9 Pro เป็นถาดซิมแบบ Hybrid-Slot (2 nano SIM หรือ microSD Card) ส่วน realme 9 Pro+ เป็นถาดซิมแบบ 2 Card Slot ไม่รองรับการเพิ่มความจุด้วย microSD Card

    ในด้านขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง realme 9 Pro+ ถือเป็นรุ่นที่บางที่สุดใน realme NUMBER Series โดยมาพร้อมกับความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่อง 182 กรัม ส่วน realme 9 Pro มีความบางอยู่ที่ 8.5 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 195 กรัม ตรงจุดนี้ถือว่า realme ออกแบบสมาร์ตโฟนในซีรี่ส์นี้ได้ดีครับ อยู่ในเกณฑ์บางเบา พกพาสะดวกทั้งสองรุ่น

    ส่วนเรื่องฝาหลังของซีรี่ส์นี้ ต้องยอมรับเลยว่ารอบนี้ realme ออกแบบมาได้น่าสนใจมาก เพราะไม่ใช่แค่เป็นฝาหลังที่มีหลายสีในตัวเดียว แต่มันสามารถเปลี่ยนสีฝาหลังได้เลย โดยเฉพาะสี Sunrise Blue ที่ในสภาพแสงปกติ จะเป็นสีน้ำเงิน แต่พอนำตัวเครื่องไปใช้งานกลางแดด จะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินกลายเป็นสีแดงได้ใน 3 วินาที และเปลี่ยนกลับเป็นสีน้ำเงินเมื่อไม่มีแสงแดด เนื่องจากใช้กระบวนการออกแบบ Photochromic Layer ที่มีการเคลือบฝาหลังถึง 3 ชั้น


    เซ็นเซอร์กล้องระดับเรือธง IMX766 ครั้งแรกในสมาร์ตโฟนระดับ Mid-Range

    เซ็นเซอร์ Sony IMX766 OIS เป็นเซ็นเซอร์ความละเอียด 50MP ที่มักถูกใช้ในกล้องหลังของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ด้วยจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยี Pixel-binning ให้ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ถึง 2 ไมครอน และมีขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ถึง 1/1.56 นิ้ว และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่สมาร์ตโฟนระดับ Mid-Range ได้ใช้งานเซ็นเซอร์กล้องตัวท็อปรุ่นนี้ครับ (เฉพาะ realme 9 Pro+)

    โดยกล้องหลังของ realme 9 Pro+ นอกจากเซ็นเซอร์หลัก 50MP ที่ใช้ IMX766 และมี OIS + EIS แล้ว ก็จะมีกล้องมุมกว้าง Ultra wide-angle ความละเอียด 8MP และกล้อง Macro ถ่ายใกล้ 4 เซนติเมตร ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหลังของ realme 9 Pro จะแตกต่างกันแค่เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP f/1.79 ที่เหลือก็เหมือนกับ realme 9 Pro+ คือมีกล้องมุมกว้าง 8MP และเลนส์มาโคร 2MP เช่นเดียวกัน

    ในการถ่ายภาพ ส่วนตัวผมประทับใจกับกล้องหลังของ realme 9 Pro+ เอามาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้เลนส์ wide ที่เป็นเซ็นเซอร์ IMX766 ถือเป็นกล้องที่โดดเด่นในเรื่องการเก็บรายละเอียด ไม่ว่าจะแสงปกติ หรือในที่แสงน้อย การจับโฟกัสแม่นยำและรวดเร็ว หากวัดแค่กล้องหลัก 50MP ผมว่ามันให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนเรือธงราคา 20,000 บาทขึ้นไปได้เลย และยังมีโหมดเจ๋ง ๆ อย่าง Street Photography 2.0 ที่มาพร้อมกับฟิลเตอร์สวย ๆ ให้เลือกใช้งาน

    แต่พอเป็นการใช้งานกล้องมุมกว้าง กับกล้องมาโคร กรณีของ realme 9 Pro+ ส่วนตัวผมว่ามันให้ความแตกต่างมากไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับกล้องหลัก ยิ่งเป็นการถ่ายภาพในที่แสงน้อย จะเห็นความแตกต่างชัดเจน คือไม่ใช่ว่าเลนส์มุมกว้างกับเลนส์มาโครคุณภาพไม่ดีนะครับ แต่ผมใช้คำว่าทำได้ในระดับดีตามราคาของสมาร์ตโฟน เพียงแต่เซ็นเซอร์หลัก IMX766 มันเก็บภาพได้ดีมากจนเห็นความแตกต่างชัดเจนเกินไปมากกว่า

    การถ่ายภาพด้วย realme 9 Pro ผมว่าก็ทำได้ตามมาตรฐานสมาร์ตโฟนระดับ Mid-Range ได้เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 64MP มีโหมดกลางคืนให้ใช้งาน มีโหมด Street Photography ให้ใช้งานแบบเดียวกับใน realme 9 Pro+ ส่วนการถ่ายวิดีโอ ทั้ง 2 รุ่น รองรับการบันทึกวิดีโอกล้องหลัง และกล้องหน้าที่ความละเอียด 1080p 30fps


    ชิปประมวลผล 5G พร้อมรองรับฟีเจอร์เพิ่ม RAM

    ด้านการประมวลผล realme 9 Pro+ มาพร้อมกับชิปเซ็ต 5G รุ่นใหม่จากทาง MediaTek ในรุ่น Dimensity 920 5G ชิปเซ็ต 6nm ความเร็วสูงสุด 2.5GHz ชิปกราฟฟิก Mali-G68 MC4 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่าชิปเซ็ต Dimensity รุ่นก่อนหน้าทั้ง CPU และ GPU จากการทดสอบเล่นเกม รุ่นนี้รองรับการเล่นเกมได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็น RoV ปรับตั้งค่าเฟรมเรตสูง, PUBG New Stage ปรับเฟรมเรต Ultra สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล

    นอกจากนี้ realme 9 Pro+ ยังมาพร้อมกับระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System ที่เป็นแผงระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษ ครอบคลุม 100% บริเวณที่เกิดความร้อนของตัวเครื่อง โดยเฉพาะ CPU จากการทดสอบเล่นเกมต่อเนื่องประมาณ 1 ชั่วโมง (RoV ปรับสูง / เฟรมเรตสูง) พบว่าตัวเครื่องแทบไม่มีความร้อนออกมา และเล่นได้ต่อเนื่องที่ 59 – 60fps

    การใช้งานทั่วไปของ realme 9 Pro+ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งานแอปต่าง ๆ ก็ลื่นไหลหายห่วง ด้วยแรมในตัวเครื่อง 8GB เพียงพอต่อการใช้งานหนัก เปิดหลายแอปไม่สะดุด แถมยังมีฟีเจอร์ Virtual RAM ที่เพิ่มแรมได้อีก 5GB เท่ากับว่ารุ่นนี้มี RAM ให้ใช้เต็มที่ 13GB ส่วนความจุในตัวเครื่องของ realme 9 Pro+ ก็ให้ความจุสูงถึง 256GB (UFS 2.2) แม้จะไม่รองรับ microSD Card แต่ด้วยความจุระดับนี้ก็ไม่น่าเป็นปัญหาในการใช้งานครับ

    ส่วน realme 9 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต 6nm เช่นเดียวกัน แต่เป็นชิปจากค่าย Qualcomm ในรุ่น Snapdragon 695 5G ในด้านความแรงก็เหนือกว่าชิปเซ็ตของสมาร์ตโฟนหลายรุ่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ระดับ Benchmark 400,000 คะแนนขึ้นไปนี่ก็รองรับการเล่นเกมได้หลากหลายมาก ๆ (RoV ปรับสูง เฟรมเรตสูง 60fps | PUBG New Stage ปรับเฟรมเรต Ultra) แต่ถ้าเป็นสายเล่นเกมหนัก ๆ ผมแนะนำเป็น RAM 8GB (Virtual RAM ได้อีก 3GB) จะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า ส่วนรุ่น RAM 6GB เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เน้นเล่นเกมบ้าง ไม่ได้เล่นเกมหนัก ๆ


    แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ อึด รองรับชาร์จเร็วทั้งสองรุ่น

    สำหรับแบตเตอรี่และการชาร์จไฟ realme 9 Pro+ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh การใช้งานโดยรวม จากที่ผมได้ทดสอบกับเครื่องรีวิว realme 9 Pro+ รุ่นนี้สามารถใช้งานได้หมดวันแบบไม่ต้องชาร์จไฟเพิ่ม เว้นแต่จะใช้งานหนักในระดับที่เล่นเกมต่อเนื่อง 2 – 3 ชั่วโมงติดต่อกัน ส่วนเรื่องระบบชาร์จไฟ จะได้ระบบชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge ใช้เวลาชาร์จไฟจนเต็ม 100% ได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

    ในขณะที่ realme 9 Pro จะได้แบตเตอรี่ความจุสูงกว่าเล็กน้อย เป็นแบตเตอรี่ 5000 mAh จากการใช้งานจริงก็อึดสมกับที่เป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ครับ หากไม่ได้เล่นโทรศัพท์เยอะ ๆ นี่ผมว่า 2 วันชาร์จทียังได้ แต่ก็จะได้ระบบชาร์จเร็วรุ่นรองลงมาอย่าง 33W Dart Charge แม้จะไม่ได้เร็วเท่ากับ realme 9 Pro+ แต่ก็ถือว่าเร็วกว่าสมาร์ตโฟนหลายรุ่นในช่วงราคาเดียวกันครับ


    สรุปภาพรวม รีวิว realme 9 Pro Series

    ภาพรวมในหลังจากที่ผมได้ใช้งานเครื่องรีวิว realme 9 Pro+ และ realme 9 Pro ก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่าทั้ง 2 รุ่น และยังคงเป็น realme NUMBER Series ที่ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง ด้วยจุดเด่นเรื่องสเปคต่อราคาที่มั่นใจว่าท้าชนได้ทุกแบรนด์ และก็มีอะไรมาเซอร์ไพรส์อยู่เรื่อย ๆ อย่างคราวนี้ก็เป็นการจับเซ็นเซอร์แฟลกชิป IMX766 มาใส่ในโทรศัพท์ระดับ Mid-Range เป็นครั้งแรก และก็ให้ผลลัพธ์การถ่ายภาพที่น่าประทับใจทีเดียว

    realme 9 Pro Series วางจำหน่ายด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sunrise Blue และ Aurora Green พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ตามรายละเอียดดังนี้

    • realme 9 Pro (6+128) วางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท (จำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ realme Official Global Store บน Lazada เท่านั้น)
      ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada เท่านั้น เหลือเพียง 8,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 – 5 มีนาคมนี้
    • realme 9 Pro (8+128) วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท
      ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada เท่านั้น เหลือเพียง 9,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 -11 มีนาคมนี้
    • realme 9 Pro+ (8+256) วางจำหน่ายในราคา 12,999 บาท
      ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง JD Central เท่านั้น เหลือเพียง 12,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 -11 มีนาคมนี้

    พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจอง realme 9 Pro Series ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 – 11 มีนาคมนี้ จะได้รับของสมนาคุณ รวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 6,000 บาท ประกอบไปด้วย

    1. เซ็ท realmeow Special Gift 
    2. realme smart scale
    3. ประกันหน้าจอแตกตลอด 1 ปี
    4. ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
    Android Realme realme 9 Pro+ Realme 9 Series Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์เกาหลีพากย์ไทย Netflix ล่าสุดปี 2025 สนุกๆ ครบทุกแนว มีเรื่องไหนน่าดูบ้าง

    9 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    ราคาไอโฟนล่าสุด 2025 ทุกรุ่นทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรที่วางขายในตอนนี้ มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง อัพเดท พฤษภาคม 2025

    9 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์เกาหลีพากย์ไทย Netflix ล่าสุดปี 2025 สนุกๆ ครบทุกแนว มีเรื่องไหนน่าดูบ้าง

    9 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X